ตอนที่แล้วตอนที่ 94 ทุกคนมีคุณค่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 96 เควสลับที่คิดขึ้นเอง

ตอนที่ 95 การแก้แค้นของไอเดน


ตอนที่ 95 การแก้แค้นของไอเดน

เจสเปอร์กลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังจากที่ได้พักผ่อนร่างกายของตนเองเป็นที่เรียบร้อย โดยเขารีบมุ่งหน้าไปยังจุดที่ตั้งของร้านค้าและร้านอาหารเพื่อตรวจเช็คความพร้อมเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

เจสเปอร์เข้าไปดูร้านค้าที่เพิ่งปรับปรุงใหม่เป็นอย่างแรก พลางกำกับจุดวางสินค้าให้กับช่างตีเหล็กฝึกหัดโดยละเอียด สภาพร้านค้าแตกต่างไปจากเดิมอยู่มากพอสมควร ด้วยขนาดของร้านที่กว้างขึ้น พื้นที่ภายในร้านเลยดูไม่ค่อยแออัดเหมือนเช่นตอนแรกที่ค่อนข้างจะเบียดเสียดคับแคบอยู่บ้างเวลามีผู้เล่นจำนวนมากเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและอีกหนึ่งปัญหาที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำให้การขายติดขัดคือการมีประตูเข้าออกเพียงด้านเดียว การจะเข้าออกหรือนำสินค้ามาเติมจากโกดังจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากมากพอสมควร

แต่ปัญหาที่ว่านี้ถูกแก้ไขเรียบร้อยทั้งหมดแล้วด้วยการปรับปรุงออกแบบใหม่ทั้งหมดของเจ้ซันนี่ ที่หยิบยืมต้นแบบอาคารร้านค้าจากชีวิตจริงแล้วนำมาผสมผสานปรับใช้นั่นเอง ซึ่งภายในร้านค้าของเขาจะถูกแบ่งบริเวณออกเป็นโซนๆ

การซื้อขายในเกม The Era Online จะแตกต่างจากเกม MMORPG ทั่วไปอยู่เล็กน้อยตรงที่ ผู้เล่นสามารถดูไอเท็มจริงได้ก่อนที่จะทำการซื้อ ยกตัวอย่างเช่นบางเกมแค่ผู้เล่นเดินไปที่ร้านค้า หน้าจอซื้อสินค้าก็จะแสดงตารางเมนูไอเท็มที่ร้านนั่นมีให้กับผู้เล่นได้เลือกซื้อกลับกันการซื้อไอเท็มใน The Era Online หากไม่ใช่การซื้อขายผ่านตลาดกลาง ผู้เล่นจะต้องทำการไปเลือกดูสินค้าด้วยตัวเองที่หน้าร้านเท่านั้นและไอเ

โดยชั้นแรกจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน

ส่วนแรกอยู่บริเวณหน้าร้าน ที่ถูกเว้นว่างเอาไว้ให้ผู้เล่นได้มีพื้นที่เดินชมสินค้าได้อย่างสะดวกและที่สำคัญพื้นที่นี้เว้นว่างไว้ให้กับไอเท็มพิเศษที่เปรียบเสมือนเรือธงของร้านที่มีแท่นยกสูงขึ้นมาให้ผู้เล่นที่เดินผ่านไม่มาบริเวณหน้าร้านได้อ่านค่าสถานะของอุปกรณ์ได้อย่างถนัดตา

ส่วนที่สองอยู่ทางริมร้านฝั่งซ้ายที่จะขายเฉพาะอาวุธและอุปกรณ์ที่จำแนกไว้ตามคลาสอาชีพซึ่งไอเท็มทั้งหมดที่ร้านค้าแห่งนี้นำมาขายล้วนถูกหลอมขึ้นจากไฟมรกต Green Gemstone ระดับ B,A ตามลำดับ

ส่วนที่สามอยู่ทางด้านขวามือที่ขายไอเท็มจิปาถะหรือไอเท็มฟุ่มเฟือยที่ใช้แล้วหมดไป ยกตัวอย่างเช่น น้ำยาฟื้นพลังชีวิต น้ำยาฟื้นพลังเวทมนต์และคัมภีร์เพิ่มพลังเป็นต้น

ส่วนที่สี่อยู่ทางด้านไหนสุดของร้านที่เชื่อมต่อกับคลังสินค้า จุดนี้จะเป็นจุดรับซื้ออุปกรณ์และขายแร่ในเวลาเดียวกันและเป็นหัวหน้าสมิธที่ประจำอยู่ตรงจุดนี้

ส่วนที่ห้าจะเป็นบันไดที่ขึ้นไปยังชั้นบนของทางร้านที่ยังอยู่ขั้นตอนการต่อเติมและยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ดีนัก

แม้ว่าร้านค้าของสมาคมในตอนนี้ยังไม่อาจเทียบได้กับร้านค้าชั้นนำของเมืองอีรูไดซ์เมืองหลวงของอาณาจักรกรีนเวต้า แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร้านค้าของพวกเขาในตอนนี้ใหญ่โตที่สุดในเมืองอัลคาเดียเท่าที่จะสามารถทำได้แล้ว

เจสเปอร์ยื่นมองร้านค้าที่กำลังปรับปรุงด้วยสีหน้าพึ่งพอใจ แม้ว่าพื้นที่ในส่วนของชั้นสองจะยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีก็ตาม เพราะยังไงในชั้นสองนี้เจสเปอร์ก็ไม่ได้คิดที่จะเอาไว้ให้เป็นร้านขายของตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนมันจะถูกทำเป็นอะไรนั่น มีเพียงเจสเปอร์สมาชิกในกิลด์เท่านั้นที่รับรู้.เขาเดินตรวจสอบร้านค้าต่ออีกสักพักจนแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผน เขาก็ปล่อยให้เจ้ซันนี่ที่มีหน้าที่ดูแลร้านเป็นคนจัดการในส่วนที่ขาดต่อไป

วันเวลาค่อยๆเคลื่อนผ่านไปหมู่ดวงดาวและพระจันทร์ขึ้นปกคลุมท้องฟ้าแทนที่ดวงอาทิตย์ที่ลับตา โชคชะตาของทั้งคู่นั้นช่างอาภัพยิ่งนักแม้ทั้งสองจะจะรักกันมากเพียงใด แต่ก็มิอาจอยู่ร่วมกันเปรียบดั่งเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ

“มีใครเห็นเจสบางไหม ไอรีนเห็นเจสบางหรือเปล่าพอดีฉันจะมาบอกว่าร้านอาหารของพี่สาวบับเบิ้ลเสร็จแล้วจะให้หมอนั่นไปตรวจเช็คสักหน่อยนะ?” อามมี่เข้ามาถามไอรีนที่อยู่ด้านในโรงตีเหล็กเพื่อเรียกหาเจสเปอร์

“เจ้ซันนี่และฉันก็ตามหาเขาอยู่เหมือนกัน!! ฉันก็นึกว่าอยู่กับพวกนายเสียอีก ทำไมไม่ลองส่งข้อความไปดูละ?” ไอรีนตอบอามมี่กลับไป

“หมอนี้หายไปตั้งแต่บ่ายแล้ว ฉันส่งข้อความไปเป็นสิบแล้ว แต่หมอนั่นก็ไม่ตอบกลับมาเลย...เอางี้ถ้าเป็นเธอ หมอนั่นอาจจะตอบก็ได้” แต่ยังไม่ทันที่ไอรีนจะได้ส่งข้อความไปหาชายหนุ่ม ประตูด้านหน้าของโรงตีเหล็กก็เปิดออก ซึ่งคนที่เดินเข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจสเปอร์

เจสเปอร์มองหน้าไอรีนและอามมี่ด้วยความงุนงง ก่อนที่จะถูกทั้งสองคนต่อว่าทันทีที่ไปไหนโดยไม่บอกคนอื่น เขาทำเพียงแค่หัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนความผิดก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วด้วยการเดินหนีออกไปหาคลาซ่าที่ง่วนอยู่กับการตีอาวุธมาตลอด 2 วัน

“อาวุธและอุปกรณ์ของพวกเราพร้อมแล้วใช่ไหม?” เจสเปอร์ได้หันไปถามไอรีนที่เดินตามหลังมา ถึงอาวุธและอุปกรณ์ที่จะถูกนำมาวางขายในวันพรุ่งนี้

“เรียบร้อยตามที่นายต้องการตั้งแต่บ่ายแล้ว ส่วนที่คลาซ่ากำลังทำอยู่นั่นน่าจะเป็นเครื่องครัวสำหรับร้านอาหารของพี่บับเบิ้ล เออ..ว่าแต่นายหายไปไหนมา เห็นคนอื่นเรียกหานายไปทั่วเลย?”

ในเมื่อเลขาทั้งสองของเจสเปอร์ต่างยุ่งกับการดูแลร้านค้าและร้านอาหารที่กำลังสร้าง ไอรีนที่ว่างอยู่จึงขออาสาเข้ามาดูแลการจัดการทั่วไปในช่วง 2-3 วันนี้ให้เป็นการชั่วคราว

“ไปจัดการธุระบางอย่างมาน่ะ พรุ่งนี้พวกเธอก็คงได้เห็น”

แม้คำตอบของเจสเปอร์อาจจะฟังดูแล้วไม่ค่อยกระจ่างเท่าใดนัก แต่ในเมื่อชายหนุ่มเลือกที่จะตอบเพียงแค่นี้ เธอก็ไม่ดื้อดึงที่จะคาดคั้นเขาให้มากความอีกต่อไป บางที่การเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ก็ดูจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น

.............

เช้าวันใหม่ในเมืองอัลคาเดียเริ่มต้นเหมือนเช่นทุกวัน มันเป็นเพียงแค่วันธรรมดาวันหนึ่งในโลก The Era แต่ผู้เล่นในเมืองอัลคาเดียวันนี้ต่างดูคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณร้านค้าสมาคมที่มีผู้เล่นจำนวนต่างมาเฝ้ารอต่อแถวกันเป็นจำนวนมากตั้งแต่เช้ามืด สาเหตุที่ทำให้พื้นที่ที่เคยเงียบเหงามาหลายวันกลับมาอีกครั้งก็เป็นเพราะว่า วันนี้จะเป็นวันที่ร้านค้าจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากที่ได้ปิดปรับปรุงไปหลายวัน โดยสิ่งที่ทำให้มันสามารถดึงดูดกลุ่มผู้เล่นจำนวนมากเอาไว้ได้ขนาดนี้คงนี้ไม่พ้น การแจกแร่ iron Steel คนละ 3 ก้อนให้กับผู้ที่มาร่วมงาน 100 คนแรก

“เจส มีคนมาเต็มเลย แร่ของเราจะแจกพอคนพวกนั้นหรอ?”

“เรื่องร้านค้าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ NPC ไปเถอะ ส่วนพวกเราไปช่วยพี่สาวบับเบิ้ลจัดการเรื่องร้านเถอะ” เจสเปอร์ตอบกลับไปด้วยความเยือกเย็นเหมือนเช่นเคยโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดด้านนอกเลยแม้แต่น้อย

ผิดกลับอามมี่และคนอื่นๆที่แอบมองดูกลุ่มผู้เล่นจากด้านในสมาคมด้วยความตื่นเต้นกังวล ที่มีผู้คนจำนวนมากรออยู่ภายนอกร้าน

“เรียนท่านผู้กล้าทุกท่าน ร้านของเราจะทำการเปิดในอีก 20 นาทีหลังจากนี้ ขอให้ผู้เล่นช่วยกันมาต่อแถวตามนี้ด้วย”

สิ้นเสียงของช่างตีเหล็กประจำหน้าร้าน กลุ่มผู้เล่นจำนวนมากก็เฮโลเบียดเสียดแย่งชิงพื้นที่ตรงหน้ากันอย่างไร้สติ พวกเขาไม่มีคำว่าต่อแถวอีกต่อไปแต่ละคนต่างคิดเป็นอย่างเดียวกันคือการทำยังไงก็ได้ให้ตัวพวกเขาอยู่ใน 100 อันดับแรกเพื่อที่จะได้ของฟรี

‘หลบไปนี้ที่ของฉัน’ ‘อย่าแซงคิวสิวะ!!’ ‘พวกแกทำแบบนี้ได้ยังไงพวกฉันมารอตั้งแต่เช้ามืดน่ะ’

‘มาก่อนแล้วยังไง คนชนะเท่านั้นที่จะอยู่รอด’ ‘ถ้าพวกแกไม่พอใจก็เอาเลย โจมตีฉันได้เลย แล้วพวกแกก็จะโดนโทษจากเมืองนี้ยังไงละ ฮ่าฮ่า’

ผู้เล่นที่จำนวนน้อยกว่าต้องถอยหลังออกไปอย่างจนใจ แม้พวกเขาจะมาก่อนกลุ่มพวกนี้ก็ตามที่ แต่จะให้พวกเขาทำอย่างไรหากพวกตนเปิดฉากโจมตีตอบโต้ ก็มีแต่พวกตนเท่านั้นที่จะเจ็บตัว ผู้เล่นอิสระหลายคนเริ่มถอดใจ บางคนยังคงเฝ้ารอและอีกกลุ่มล้วนเดินจากไปด้วยความผิดหวัง

“เจส!! มาดูนี้เร็วเข้า เกิดเรื่องแล้วใหญ่แล้ว” อามมี่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง พลางชี้ไปยังจุดที่เหล่าผู้เล่นจำนวนมากกำลังก่อเหตุความวุ่นวาย

“อืม มาไม้นี้สินะ” เจสเปอร์ยังคงตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่มีท่าทีตื่นตระหนกไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ‘ฉันจะสอนอีกหนึ่งบทเรียนให้นายได้รู้ก็แล้วกัน’ นี้คือคำพูดที่อยู่ในหัวของเขา

“นายจะเอายังไงบอกพวกเรามาได้เลย ฉันพร้อมที่จะไปสั่งสอนคนพวกนั้นที่กล้ามาหาเรื่องสมาคมของเราเต็มที่แล้ว”

“ฉันก็บอกพวกนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าให้ไปช่วยพี่สาวบับเบิ้ลเปิดร้าน!!”

“แต่....”

“ไม่มีแต่อามมี่ ฉันรู้ว่านายโกรธที่เห็นคนพวกนั้นมาก่อเรื่องที่ร้านของเรา แต่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฉันก็พอ ความสามารถของพวกนายมีค่าเกินกว่าจะเอาไปใช้โดยเปล่าประโยชน์แบบนี้”

เขารู้ว่าเพียงแค่เขาเอ่ยปาก อามมี่และสมาชิกคนอื่นๆก็พร้อมที่จะไปจัดการกลุ่มผู้เล่นที่มาก่อความวุ่นวายให้ราบคาบกลับไป แต่นั้นยังไม่ใช่วันนี้...

ณ ตลาดการค้าประจำเมืองอัลคาเดีย

“ฮ่าฮ่า พวกแกทำได้ดีมาก บอกพวกมันให้ปั่นป่วนมากกว่านี้อีก หากเกิดเรื่องอะไร ฉันยินดีที่จะจ่ายให้พวกมันเป็น 2 เท่า” ไอเดนหัวเราะออกมาด้วยความสะใจที่วันนี้ตนเองได้มีโอกาสแก้แค้นร้านค้าสมาคมกลับคืน หลังจากที่เคยถูกหัวหน้าสมิธลงโทษให้เป็นพนักงานต้อนรับประจำร้าน โทษฐานใช้ยศศักดิ์ในทางที่ผิด

ซึ่งนั้นทำให้ไอเดนต้องถูก ผู้อาวุโสและบรรดาบอร์ดผู้บริหารประจำกิลด์ เรียกไปพบเพื่อติเตียนกับความเสื่อมเสียที่เกิดขึ้น มันคือความอัปยศและความน่าผิดหวังที่เกิดขึ้นกับกิลด์ Blood Commander กิลด์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นกิลด์ที่ยิ่งใหญ่และเรืองอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก

แม้ไอเดนจะโกรธแค้นสมาคมช่างตีเหล็กและหัวหน้าสมิธมากแค่ไหน การเอาตัวเองไปออกโรงเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เพราะหากแผนนี้ผิดพลาดขึ้นมาอาจส่งผลเสียต่อกิลด์ของพวกเขาได้ ไอเดนจึงเลือกใช้วิธีการจ้างมือปืนรับจ้างให้เข้ามาทำงานแทนตน และแผนการปั่นป่วนร้านค้าของกลุ่มผู้เล่นที่ไอเดนส่งไปนั่นก็เป็นเพียงแค่ ออเดิร์ฟ เรียกน้ำย่อยเท่านั้น ส่วนแผนการหลักที่ไอเดนหวังไว้ก็คือการตีชิงลูกค้าจากร้านสมาคมให้มาเป็นของตนนั่นเอง

“ร้านของเราเตรียมพร้อมแล้วครับท่านไอเดน”

“ดีมาก งั้นก็เริ่มกันเลย เปิดร้านค้ากิลด์ ผู้ Blood Commander ได้!!”

ทันทีที่ไอเดนหัวหน้ากิลด์ Blood Commander สั่งการ เหล่าสมาชิกที่เหลือก็ปฏิบัติงานตามคำสั่งกันอย่างรวดเร็วและด้วยจำนวนสมาชิกที่มีอยู่เยอะมากของกิลด์ การแพร่จากปากต่อปากก็เริ่มดำเนินขึ้น

“ร้านค้าของกิลด์ Blood Commander เปิดขายแล้วมีไอเท็มและแร่มากมายจำนวนมากขายในราคาถูก คุณภาพดีกว่าของร้านค้าสมาคมอยู่มาก หากใครสนใจรีบมาได้เลย วันนี้จะได้พบกับท่านไอเดนหัวหน้ากิลด์ตัวเป็นด้วยล่ะ!!”

กลุ่มผู้เล่นของกิลด์ Blood Commander ต่างพูดส่งต่อกันเป็นทอดๆตามจุดต่างๆภายในเมือง ไม่นานข่าวสารเรื่องร้านค้าของไอเดนก็แพร่กระจายไปทั่วทั่งมุมเมืองรวมถึงบริเวณหน้าร้านค้าของสมาคมอีกด้วย

‘เฮ้พวกเรา!!ฉันมีข่าวจะมาบอกหัวหน้ากิลด์ Blood Commander เปิดร้านขายของล่ะ ไปดูกันไหม ฉันเห็นคนในกิลด์ฉันบอกว่า อาวุธและอุปกรณ์ของร้านนั่นสุดยอดแถมยังราคาถูกกว่าร้านบ้าๆนี้อีกหละ’

‘จริงหรือเปล่า ถ้าจริงฉันจะไปทันทีเลย ฉันทนกับไอ้พวกกุ๋ยที่มาแซงคิวไม่ไหวแล้ว แร่ฟรีอะไรฉันไม่สนใจหรอก ฉันมีเหรียญเงินเป็นร้อยไม่มาแคร์อะไรกับร้านห่วยๆของ NPC พวกนี้หรอก’

‘พวกเราไปกันเถอะ ลองดูสิว่าไอ้พวกกุ๋ยนั้นรู้ข่าวจะตามมาไหม อีกฝั่งเป็นร้านของกิลด์ Blood Commander ดูสิพวกมันยังจะกล้าตามมาหาเรื่องอีกไหม’

‘พวกนายไปเถอะ!! ฉันจะรออยู่นี้แหละ เผอิญฉันเคยมีประวัติถูกพวกกิลด์ใหญ่กลั่นแกล้งตอนเริ่มเล่นเกมนี้มา เลยไม่ค่อยอยากที่จะเอาเงินให้กับกลุ่มคนพวกนั้นสักเท่าไหร่’

‘ฮ่าฮ่า หนีไปเลยไอ้พวกอ่อนแอ วิ่งไปร้าน Blood Commander เลยไป๊ ฮ่าฮ่า’

เมื่อข่าวสารร้านค้าของไอเดนแผ่กระจายมาถึง กลุ่มผู้เล่นที่เคยผิดหวังจากการถูกกลุ่มผู้เล่นที่เข้ามาก่อความวุ่นวาย ก็ได้รวมกลุ่มกันจากไป เหลือเพียงกลุ่มผู้เล่นจำนวนบางตาที่มีไม่ถึง 50 คน หากไม่นับรวมกับผู้เล่น 100-120 คนที่เป็นผู้ก่อกวน ที่ได้รับการจ้างจากไอเดน

“เจส เราจะปล่อยให้พวกนั้นจากไปจริงหรือ?” อามมี่พยายามระงับความโกรธของตัวเองด้วยการเอาแรงทั้งหมดไปกับการยกเครื่องครัวหนักๆ

“เราไปห้ามให้ใครจะไปใครจะมาไม่ได้อยู่แล้วจริงไหม ‘กลุ่มคนพวกนั้นก็เป็นเพียงแค่ผู้หลงเชื่อคำลวงจากคนก่อกวนที่ตั้งใจเข้ามาบ่อนทำลาย’ แต่นายก็รู้จักฉันดีอามมี่ มีหรือที่ฉันจะปล่อยให้พวกมันได้ใจ”

‘พรึ่บ’

ร่างของชายผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเจสเปอร์และอามมี่ ซึ่งคนผู้นั้นก็คือ ‘ทวิสเต็ด’ นักฆ่าประจำกลุ่มผู้ที่มีทักษะพรางตัวนั่นเอง

“จดมาครบทุกคนแล้วใช่ไหม” เจสเปอร์เอื้อมมือไปหยิบกระดาษแผ่นเล็กที่ทวิสเต็ดส่งให้ก่อนที่จะถามออกไปเพื่อความแน่ใจ

“ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่คนเดียว” ทวิสเต็ดพยักหน้าเป็นคำยืนยันก่อนที่จะใช้สองมือของเขาช่วยพยุงเครื่องครัวที่หนักอึ้งไปวางไว้ที่ร้านอาหาร

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

หากใครอยากที่จะช่วยสมทบทุนค่าหน้าปกนิยายสามารถติดต่อได้ที่แฟนเพจน่ะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด