บทที่ 71
แรงกดดันของปราณสีส้มขั้นต้นถูกปล่อยออกมา ปะทะกับแรงกดดันของปราณสีส้มขั้นกลาง เกิดแรงลมพัดอย่างรุนแรงเสื้อผ้าจองทั้งสองปลิวไปตามลม ทั้งสองคนจดจ้องกันอย่างไม่วางตา ผู้หนึ่งต้องการสังหารเพื่อแก้แค้น ผู้หนึ่งต้องการสังหารเพื่อความถูกต้อง ดาบในมือกำชับแน่น ใบไม้ใบหนึ่งหลุดร่วงลงพื้น เป็นสัญญาณเริ่มการปะทะ เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงดาบปะทะกันดังลั่น หยางเวยตอนนี้กินยานั่งโคจรลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บ โดยมีอสรพิษดำเลื้อยอยู่ด้านหลัง หลันเช่อจ้องมองผู้เป็นนายอยู่ใกล้ๆหยางเวย
ถึงแม้จะมีระดับที่สูงกว่าแต่ทว่าไม่สามารถกดดันเด็กหนุ่มด้านหน้าได้แม้แต่น้อย ทุกครั้งที่ปะทะจะปวดชาไปที่มือขวาที่จับดาบ ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากดาบหลังการปะทะ ไม่ช้าดาบในมือก็หลุดร่วงลงพื้น เนี่ยฟงไม่รอช้าซัดฝ่ามือซ้ายไปที่หน้าอกอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง ฝ่ามือถูกซัดปะทะบางอย่างก่อนถึงตัวชายผู้นั้น ฝ่ามือซ้ายถูกดึงกลับ พร้อมกับกระโดดเตะเท้าขวาออกไป เปรี้ยง ถูกสกัดกั้นด้วยแขนซ้าย ทันทีที่เหยียบพื้นก็ต้องโยกตัวหลบไปด้านหลัง ชายผู้นั้นเตะกวาดเท้าขวาออกมา
ดาบในมือถูกเก็บไว้ในแหวน หมัดและฝ่ามือปะทะกันต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ไม่ถึงหนึ่งเค่อชายผู้นั้นก็มีอาการแปลกๆ เริ่มซัดฝ่ามือออกไปด้านข้าง ลงมือช้าลง เนี่ยฟงสังเกตที่ฝ่ามือขวาของชายผู้นั้นเริ่มเป็นสีม่วงแล้ว จึงยกยิ้มคงเป็นเพราะพิษของหยางเวยเป็นแน่ ไม่นานการต่อสู้ก็จบลงอยู่ๆชายผู้นั้นก็ลงไปนอนกับพื้นในสภาพอ่อนแรง ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้แขนขวาถูกพิษจนเป็นสีม่วงไปแล้ว เนี่ยฟงกวักมือเรียกหลันเช่อเดินตามสำรวจในค่าย โดยปล่อยให้หยางเวยนั่งโคจรลมปราณอยู่กับอสรพิษดำ
ในระหว่างที่กำลังสำรวจด้านในค่าย หยางเวยเมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่กระทำคือรูดทรัพย์จากเหล่าพวกโจร อสรพิษดำกลายเป็นแสงพุ่งเข้าสู่ร่างของหยางเวย เนี่ยฟงเดินออกมาพร้อมกับถือบางอย่างออกมายื่นให้แก่หยางเวย
“เจ้าดูเองเถอะ เมื่อจัดการทุกอย่างเราจะกลับสำนักโดยด่วน”
สิ่งที่รับมาจากเนี่ยฟงมันคือสมุดบันทึก ด้านในเขียนถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกโจรในค่ายและสำนักกิเลนไฟ หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้งสองก็เผาทำลายค่ายมุ่งหน้ากลับสำนัก ในระหว่างทางเนี่ยฟงไม่ลืมที่จะเก็บสมุนไพรสำหรับส่งภารกิจ ทันทีที่กลับมาถึงเนี่ยฟงขอพบเจ้าสำนักอย่างเร่งด่วน สมุดบันทึกถูกส่งถึงมือเจ้าสำนักจางหลิง จดหมายด่วนถูกส่งไปยังราชสำนักถึงพฤติกรรมของสำนักกิเลนไฟ แน่นอนว่าเจ้าสำนักฉีหวังลู่ไม่ยอมรับอ้างว่าถูกใส่ร้าย ข่าวถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้สำนักกิเลนไฟตกต่ำลงไม่น้อย สร้างความโกรธแค้นให้แก่เจ้าสำนักฉีหวังลู่เป็นอย่างมาก
เจ้าสำนักฉีหวังลู่ส่งคนไปสืบข่าวถึงผู้ทำภารกิจจัดการค่ายโจรจนทราบว่าเป็นเนี่ยฟงและหยางเวย จึงมีคำสั่งให้ส่งนักฆ่ามาจัดการ หลังจากกลับมาเนี่ยฟงก็เข้าห้องฝึก สิบกว่าวันที่อยู่ด้านใน เนี่ยฟงฝึกฝนดาบผ่าธรณีจนถึงระดับแตกหน่อขั้นต้น ส่วนระดับพลังปราณยังไม่ขยับไปไหนเพราะเมื่อไหร่ที่ดูดซับแก่นพลังปราณหรือเม็ดยาพลังปราณ ดาบในจุดตันเถียนจะดูดซับไปจนหมด เรื่องนี้สร้างความปวดหัวให้แก่เนี่ยฟงไม่น้อย ส่วนหลันเช่อนั้น ทันทีที่เข้ามาด้านในห้องฝึกก็เอาแต่นอนหลับอย่างเดียว
เมื่อออกจากห้องฝึกมุ่งหน้ากลับบ้านพัก หยางเวยก็รีบเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“เนี่ยฟงเจ้าสนใจไปล่าอสูรระดับสีส้มกับข้าหรือไม่”
เนี่ยฟงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“เกิดสิ่งใดขึ้นกันหยางเวย”
“เอ่อ พอดีข้าไปเจอหยางเฟยที่หอภารกิจ มีการท้าทายนิดหน่อย ข้าจึงรับภารกิจมา”
“แล้วภารกิจที่เจ้าว่ามันคือสิ่งใด”
“สังหารสัตว์อสูรจระเข้คลั่งระดับสีส้มขั้นกลาง ส่งมอบแก่นพลังปราณให้แก่ตึกปรุงยา”
“เจ้าจะเดินทางเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้”
หลังจากพูดคุยกันเสร็จเนี่ยฟงก็เข้ามายังบ้านพักนั่งโคจรลมปราณที่เตียงจนถึงเช้า ทั้งสองมุ่งออกจากเมืองตอนรุ่งสาง เดินทางไปทางทิศตะวันออก การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น พบเจอสัตว์อสูรบางเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่แล้วทั้งสองจะหลบหลีกการปะทะ ย่างเข้าวันที่ห้า ทั้งสองก็พบเจอแม่น้ำขนาดใหญ่ รอบด้านโล่งเตียน ทั้งสองเดินลันเลาะไปตามแม่น้ำใหญ่ สองวันผ่านไปก็เจอทางแยก หยางเวยเดินนำเนี่ยฟงลัดเลาะไปตามทางแยกของแม่น้ำในที่สุดก็พบเจอกับแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รอบด้านมีแต่กอไม้น้ำขึ้นอยู่เต็ม
ทันทีที่เหยียบเข้ามาในพื้นที่ แรงกดดันของสัตว์อสูรระดับสีส้มขั้นกลางก็กดทับทั้งสาม เนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวา วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏด้านบนศีรษะของทั้งสามแรงกดดันของสัตว์อสูรก็หายไป หยางเวยรีบนำมีดอันแปลกประหลาดออกมา ส่วนเนี่ยฟงถือมีดสั้นอยู่ในมือ ไม่ถึงสามลมหายใจน้ำในแอ่งน้ำก็กระเพื่อมไปมา สัตว์อสูรจระเข้คลั่งตัวใหญ่ ผิวหนังของมันเป็นสีเทา ตรงปลายหางมีลูกตุ้มหนาม หยางเวยทักทายโดยการฟาดฟันมีดออกไป ปราณมีดสีม่วงพุ่งเข้าหาจระเข้คลั่ง เปรี้ยง หาได้เป็นสิ่งใดมันยังคงเดินเข้าหาทั้งสามอย่างช้าๆหยางเวยถึงตื่นตกใจ
“ข้าใส่พลังไปถึงห้าส่วน มันยังไม่เป็นอะไรเลย เนี่ยฟงข้าเรามีปัญหาเสียแล้ว”
“เจ้าคอยดูข้าก็แล้วกัน”
เนี่ยฟงพุ่งออกไปด้านข้างรีบโคจรลมปราณไปที่มีดสั้น ไม่นานก็กลายเป็นดาบ ไม่ถึงห้าลมหายใจเนี่ยฟงก็ฟันดาบออกไป ปราณดาบสีฟ้าที่มีประกายสายฟ้า พุ่งเข้าปะทะกับลำตัวจระเข้คลั่ง เปรี้ยง มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากบาดแผลที่ลำตัว มันหันมาจ้องมองศัตรูที่เรียกแผลจากมันได้ด้วยความโกรธแค้น เนี่ยฟงรีบโบกสะบัดมือขวา ไม่ถึงสองลมหายใจเกราะสายฟ้าก็ปรากฏออกมาหมุนรอบตัว
“หยางเวยเจ้ารีบจัดการใช้พิษของเจ้าเถอะข้าจะล่อมันไว้เอง”
หยางเวยยังไม่ทันจะตอบรับ เนี่ยฟงก็ต้องกระโดดหลบหนามแหลมจากหางที่ฟาดเข้าหา ตูม มันกระหน่ำฟาดหางของมันไปมา เพื่อสังหารศัตรูของมัน หยางเวยรีบพุ่งอ้อมมาอีกทางฟาดฟันมีดไปที่แผลข้างลำตัว ปราณมีดสีม่วงพุ่งเข้าหารอยแผล เปรี้ยง ปราณพิษแทรกซึมไปตามบาดแผลอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามโดยความโกรธ มันกระหน่ำฟาดหางไปมา พื้นดินรอบด้านถูกทำลายจนสิ้น ทั้งสองต้องคอยกระโดดหลบไปมา เมื่อได้จังหวะทั้งสองก็ฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบและมีดพุ่งเข้าหาจระเข้คลั่ง หยางเวยหาจังหวะฟันปราณมีดไปที่บาดแผลที่ลำตัว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ในขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กับจระเข้คลั่ง หลันเช่อก็สัมผัสบางอย่าง มันรีบคำรามออกมา พร้อมกับพุ่งทะยานออก