เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 931 เข้าสู่โลกใต้บาดาล (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 931 เข้าสู่โลกใต้บาดาล (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

หอยทากปฐพีอาศัยอยู่ในโลกใต้บาดาล

ตามคำกล่าวของฟางหยวน เขาต้องลงไปในโลกใต้บาดาลและเก็บเมือกหอยทากปฐพีราตรีดาวด้วยตนเอง

หอยทากปฐพีมีนิสัยที่อ่อนโยน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะยืนบนแผ่นหลังของพวกมัน กระทั่งโจมตีพวกมันเบาๆ พวกมันก็ยังไม่โกรธ

อันตรายที่แท้จริงไม่ใช่พวกมันแต่เป็นสัตว์อสูรดุร้ายที่ซ่อนตัวอยู่

“ข้าจะเข้าสู่โลกใต้บาดาลอย่างแน่นอน เนื่องจากท่านผู้นำมอบหมายให้พวกเจ้าคุ้มกันข้า ข้าก็จะพึ่งพาพวกเจ้า แม้พวกเจ้าจะตาย ข้าก็ต้องมีชีวิตอยู่ เข้าใจหรือไม่?” ฟางหยวนออกคำสั่งเสียงเข้ม

เล่ยหยูและหมอหยินซวนกัดฟันด้วยความโกรธแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใด

ฟางหยวนเอ่ยนามนางมารผลาญสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือก

ทั้งสองปรึกษากันชั่วครู่ก่อนที่หมอหยินซวนจะเปิดปากกล่าว “นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ข้าต้องรายงานท่านผู้นำก่อน เราไม่สามารถตัดสินใจด้วยตนเอง”

ท้ายที่สุดนางมารผลาญสวรรค์ก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ

แต่นี่ไม่เกินความคาดหมายของฟางหยวน

ดังนั้นเขาจึงโบกมือ “รีบไป!”

เขาไม่กลัวการสอบสวนของนางมารผลาญสวรรค์

หอยทากปฐพีราตรีดาวมีอยู่จริงและเป็นวัสดุในการหลอมรวมชั้นยอด

ฟางหยวนค้นพบเรื่องนี้หลังจากพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดารา

‘หากข้าพบรังของหอยทากพิภพ ข้าจะผลิตเมือกหอยทากพิภพราตรีดาวและนำไปขายในสวรรค์สีเหลือง ในระยะสั้นผลประโยชน์ของมันจะไม่ต่างจากธุรกรรมวิญญาณความเด็ดเดี่ยว’ ฟางหยวนประเมิน

แต่ในระยะยาว วิธีผลิตเมือกหอยทากปฐพีราตรีดาวจะถูกถอดรหัสและทำซ้ำ

หลังจากทั้งหมดการแปรรูปทรัพยากรอมตะไม่เหมือนกับวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ด้วยทักษะบนเส้นทางแห่งปัญญา พวกเขาสามารถถอดรหัสได้อย่างง่ายดาย

หมอหยินซวนอยู่กับฟางหยวนขณะที่เล่ยหยูจากไปเพื่อรายงานนางมารผลาญสวรรค์ผ่านวิญญาณสื่อสาร

ฟางหยวนไม่กลัวนางมารผลาญสวรรค์จะหยุดเขา ในความเป็นจริงเขาค่อนข้างมั่นใจว่านางจะเห็นด้วย

เหตุผลก็คือวิญญาณอมตะความคิดดาราจะช่วยเหลือนางเช่นกัน นอกจากนั้นฟางหยวนยังติดหนี้ก้อนโตกับนาง หากนางไม่ต้องการให้ฟางหยวนตาย นางจะส่งผีดิบอมตะมาคุ้มกันฟางหยวนมากขึ้น

แน่นอนว่าไม่ใช่ผีดิบจำนวนมาก เนื่องจากทุกคนกำลังให้ความสนใจกับการต่อต้านกองกำลังพันธมิตรภูเขาหิมะ

‘แม้นางจะส่งคนมา มันก็ไม่ใช่ปัญหา ยิ่งคนมากเท่าใด ข้าก็จะปลอดภัยมากเท่านั้น หากข้าได้รับมรดกเรียบร้อยแล้ว ข้ายังสามารถหลบหนี ในทางตรงข้าม ยิ่งคนน้อย มันก็ยิ่งง่ายที่จะหลบหนี’

ดังคาด นางมารผลาญสวรรค์เห็นด้วยกับความคิดของฟางหยวนและยังส่งผีดิบอมตะมาคุ้มครองเขาถึงห้าคน

ในบรรดาผีดิบอมตะเหล่านี้ มีผีดิบอมตะระดับเจ็ดจำนวนสองคนและผีดิบอมตะระดับหกอีกสามคน เรื่องนี้เกินความคาดหมายของฟางหยวนเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้เขาเห็นถึงความจริงใจของนางมารผลาญสวรรค์

สามวันต่อมา ผีดิบอมตะห้าคนมารวมตัวกัน

พวกเขาต้องรออีกสองวันเพื่อยืมวิญญาณอมตะมาใช้ในภารกิจนี้

ในฐานะคนท้องถิ่น พวกเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับโลกใต้บาดาล

หลังจากเตรียมตัวมาหลายวัน พวกเขาก็ออกเดินทางในที่สุด

โลกใต้บาดาลเต็มไปด้วยทรัพยากรและสัตว์อสูรเดียวดาย ในอดีตเมืองคลื่นทมิฬถูกสร้างขึ้นที่นี่เพื่อยึดครองและปกป้องสถานที่แห่งนี้

ทุกคนรู้ดีว่าภาคเหนือมีทรัพยากรน้อยที่สุดในห้าภูมิภาค อย่างไรก็ตามในโลกใต้บาดาลกลับเต็มไปด้วยทรัพยากร สิ่งบกพร่องประการเดียวคือมันเป็นรังของสัตว์อสูรเดียวดายและพืชอสูรเดียวดาย

โดยปกติมีเพียงกองกำลังขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถครอบครองแหล่งทรัพยากรเช่นนี้

สถานที่แห่งหนึ่งที่มีลักษณะเดียวกับโลกใต้บาดาลในภาคกลางเรียกว่ารอยแยกอันซู มันถูกปกครองโดยนิกายปราบมารและมีผู้อมตะสามคนยืนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา

กลางดึก ฟางหยวนและคนอื่นๆเข้าสู่โลกใต้บาดาลในที่สุด

ฟางหยวนวางแผนมานานแล้ว เขาจะไม่ลอบเข้าไปอย่างลับๆ แต่จะเข้าไปอย่างเปิดเผยภายใต้การคุ้มครองที่หนาแน่น

ยิ่งลึกลงไป โลกใต้บาดาลก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น

หลังจากไม่กี่นาที มันก็กว้างพอที่จะวางเมืองคลื่นทมิฬลงไปได้ถึงเจ็ดหรือแปดเมือง

ไม่มีผู้ใดรู้ว่าที่นี่ลึกเพียงใด

กระทั่งผีดิบอมตะที่ดูแลอยู่ก็ไม่เคยสำรวจถึงส่วนที่ลึกที่สุด

ในยุคปัจจุบัน แม้มนุษย์จะปกครองโลกมานานแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถปกครองพื้นที่ทั้งหมด

หากเปรียบเทียบกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ มนุษย์ก็เป็นเพียงมดปลวกตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีนัยสำคัญ

ความลึกลับของสวรรค์พิภพลึกเกินหยั่งถึง กระทั่งเทพอมตะหรือเทพปีศาจก็อยู่บนจุดสูงสุดของบนเส้นทางบางสายเท่านั้น

มนุษย์ยังห่างไกลจากความยิ่งใหญ่ของสวรรค์พิภพ เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกล

ฟางหยวนเคลื่อนที่ลึกลงไปประมาณหนึ่งร้อยกิโลเมตร มันทั้งมืดและเงียบ

เขาลอบสังเกตการเคลื่อนไหวของผีดิบอมตะทั้งห้าที่กำลังใช้วิธีการบางอย่างตรวจสอบพื้นที่อย่างลับๆ

ผีดิบอมตะระดับเจ็ดสองคน หนึ่งคือนักรบมังกรเย่ชาและอีกหนึ่งคือยายหยวน

ผีดิบอมตะระดับหกประกอบด้วยหมอหยินซวน เล่ยหยู และผีดิบอมตะที่ชื่อว่าหลินต้าเหนียว

นักรบมังกรเย่ชาเป็นหนึ่งในสามผู้ดูแลเมืองคลื่นทมิฬ เขาแข็งแกร่งที่สุดในคณะเดินทางนี้ สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือเขาใช้มิติช่องว่างของตนเลี้ยงฝูงปลาหมึกยักษ์ เรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างมาก

มิติช่องว่างของผีดิบอมตะตายไปแล้วแต่นักรบมังกรเย่ชากลับสามารถเลี้ยงปลาหมึกยักษ์จำนวนมาก นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกมึนงงและอยากเห็นมิติช่องว่างของเขา

ผีดิบอมตะระดับเจ็ดอีกคนคือยายหยวน นางเชี่ยวชาญด้านการป้องกัน

หมอหยินซวนเป็นผู้อมตะสายรักษาตามชื่อของเขา เขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับไท่เป่ยหยุนเฉิง แต่เขายังเชี่ยวชาญในการรักษาผีดิบอมตะ

เล่ยหยูมีพลังการโจมตีสูง เขาเป็นตัวตนที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่และทรงพลัง

ผีดิบอมตะคนสุดท้ายหลินต้าเหนียว เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งทาส

พิจารณาจากความสามารถของพวกเขา มันแสดงให้เห็นว่านางมารผลาญสววรค์ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี

ยายหยวนสามารถป้องกันขณะที่หมอหยินซวนสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฟางหยวนในเวลาสำคัญ หากพวกเขาถูกโจมตีโดยสัตวอสูรที่แข็งแกร่ง หลินต้าเหนียวยังสามารถเสียสละทาสเพื่อซื้อเวลาให้พวกเขาหลบหนี

ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ทาสของหลินต้าเหลียวมีประโยชน์มาก พวกเขาสามารถใช้ทาสเหล่านั้นในการสำรวจและตรวจสอบพื้นที่

‘ข้าไม่สามารถไปยังตำแหน่งที่ตั้งของมรดกได้โดยตรงมิฉะนั้นข้าอาจถูกสงสัย’ ฟางหยวนจะไม่ทำเรื่องโง่เขลา เขาสามารถอดทนรอเวลาที่เหมาะสม

หลังจากเดินทางมาระยะหนึ่ง หลินต้าเหนียวจึงเปิดปากกล่าว “มีปลาหมึกยักษ์อยู่ข้างหน้า ดูเหมือนมันจะได้รับบาดเจ็บ”

การแสดงออกของนักรบมังกรเย่ชาเปลี่ยนแปลงไป “พวกเราจะอ้อมมันไป”

กลุ่มของฟางหยวนแข็งแกร่งมาก ปลาหมึกยักษ์ระดับหกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา แต่ก่อนจะถึงจุดหมาย พวกเขาต้องเก็บพลังงานอมตะไว้ให้มากที่สุด

หอยทากปฐพีอยู่ในส่วนลึกของโลกใต้บาดาลแต่พวกมันเคลื่อนที่ได้ช้ามาก อย่างไรก็ตามพวกมันกลับไม่ดึงดูดความโกรธของสัตว์อสูรที่ดุร้าย บางทีอาจเป็นเพราะธรรมชาติที่อ่อนโยของพวกมัน ดังนั้นสัตว์อสูรเจ้าถิ่นจึงไม่รู้สึกถึงภัยคุกคาม

แต่ฟางหยวนกับคนอื่นๆ ไม่เหมือนหอยทากปฐพี ดังนั้นการต่อสู้จะต้องปะทุขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 ------------------

พรุ่งนี้หยุด