ตอนที่แล้วตอนที่4 ดูงูNC
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่6 ขี้เมา/ขี้อ้อนNC+

ตอนที่5 ลังเล


ตอนที่5 ลังเล

[ยูกิ]

รู้สึกมึนๆ แล้วก็คลื่นไส้แบบสุดๆ ตอนนี้ยังรู้สึกมึนๆ ไม่หายแต่ก็กะพริบตาได้นิดหน่อย พลางขยับแขนไปมาบนเตียงนอนจนไปสะดุดเข้ากับมัดหมี่ที่นอนขดตัวงออยู่ข้างๆ ไม่ห่างมาก

“อ๊ะ..อื้อ”

“..คร่อก..ฟี้..ฟี้”

“อื๋อ..ฟึบ..ฮ่า..หาววววว”

แม้จะยังตื่นไม่เต็มที่มากนักก็ยังพอที่จะอ้าปากหาวได้นิดหน่อย พลางกระพริบตาปรับเข้ากับแสงแดดที่แยงเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างที่ตอนนี้ผ้าม่านถูกลมพัดปลิวออกไปเป็นช่องเล็กๆ

“อือออ..แจ๊บๆ..กี่โมงแล้วเนี่ย”

พยายามควานหามือถือที่น่าจะวางข้างๆ โต๊ะมุมเตียงแต่ก็ไม่มีจนสายตาไปสะดุดเข้ากับเศษกองผ้าเน่าที่วางเกลื่อนพื้นไปหมด

“อ่า..ให้ตายเถอะ...เมื่อคืนเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีกวะเนี่ย..อือ”

กุมหัวนวดขมับไปพลางระหว่างรำลึกความหลัง

“ฟี้..อือออ..คุณยู..หาวววว”

“มัด??..ฟึบ”

รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวทันทีเมื่อเห็นว่ามัดหมี่เริ่มขยับตัวไปมา

“หาวววว..กี่โมงแล้วคะ...อื้อเจ็บขาจัง”

“อย่าขยับเยอะสิ...กึดดด”

บ่นมัดหมี่ไปก็พลางดึงผ้าห่มให้มั่น กลัวว่ามันจะหลุดซะอีก

“อื้อ..หาววว..คุณยูไม่ไปทำงานหรอคะ..หาววว”

“อืม...”

“แจ๊บๆ..ฟี้..ฟี้”

“ฟู่..ให้ตายเถอะที่แท้ก็ละเมอนี่”

จ้องมองดูมัดหมี่ไปก็ส่ายหัวกับตัวเองไป ก่อนจะค่อยๆตวัดขาลงจากเตียงเพื่อไปหยิบเสื้อผ้ากองเน่าๆ ที่วางอยู่กลางห้องหยิบใส่มือ แต่ไม่ทันที่จะได้ยินมัดหมี่ก็ทะลึ่งลุกนั่งซะงั้น

“คุณยู!!”

“อ...อะไร”พยายามปรับโทนเสียงให้นิ่งระหว่างที่งอตัวก้มเก็บเสื้อผ้าพาดใส่แขนไว้

“ม..มะ..เมื่อคืน...”

“??”

“มัด...มัด...ทำอะไรลงไป..อื้อออออออ..ตุ๊บๆ ๆ ๆ”

“??”

หันหน้าไปยังบนเตียงก็เห็นมัดหมี่กระหน่ำรัวกำปั้นทุบลงกับเตียงไม่ยั้งจนหมอนเด้งตามแรงสั่นกระจัดกระจายไปทาง

“เฮ้อออ..ให้ตายเถอะ”

ฉันเลือกที่จะปล่อยมือจากเสื้อผ้าแล้ววางลงกับพื้นก่อนจะเดินตัวเปลือยไปหามัดหมี่ที่สติแตกไปแล้ว

“ฟุ่บ..หมับ”

“อื๋อ??”

ได้ที่เผลอก็รวบตัวมัดหมี่เข้ามากอดก่อนพาตัวเองและมัดหมี่ล้มนอนลงไปบนเตียงโดยที่ฉันทำได้แค่กอดจากด้านหลังมัดหมี่เท่านั้น

“อ๊ะ..ท..ทำบ้าอะไรของคุณน่ะคุณยู..ปล่อยนะ..อือออ”

“อยู่นิ่งๆ..ฉันขอเวลาสักพัก”

“อื๋อ??เวลา..สักพัก?..อื๋อ..0///0)..ค..คุณยู!!!!”

“อะไร? ..”

“มัน..ดัน..หลังมัด...ปล่อยน้า..อืออออ”

“อ่า...อันนี้น่ะหรอ...อื้ม..”

“กริ๊ดดดดดด...ปล่อยมัดน้า...อย่าถูมันกับหว่างขาของมัด..อือออ”

“..”

ฉันเลือกที่จะไม่สนใจคำต่อว่าของมัดหมี่แล้วเร่งการถูไถเจ้านี่กับหว่างขาของมัดหมี่ต่อไปเรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงความเปียกแฉะที่ชุ่มโชกบริเวณนั้นจากการเสียดสี

“อ๊ะๆ ..อือออ..หยุดนะ..อ่า..”

“...”

ฉันกับยิ่งเหลิงเข้าไปใหญ่จนถึงจุดจบที่น่าจะเรียกว่าเส้นยาแดงผ่าแปดล่ะมั้ง เขาเรียกกันแบบนี้ใช่ไหม ฉันเผลอยกต้นขาของมัดหมี่ขึ้นก่อนจะดันเจ้านั้นผ่านชั้นในของมัดหมี่เข้าไปได้นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ จนมัดหมี่สะดุ้งเฮือกใหญ่เกร็งสะโพกแน่น

“อื๋อ!”

“อ๊ะ!! ..คุณ..ย....ยู...เอา..มั..น..ออก..ไปนะ..อือออ”

“...”

ฉันกว่าจะตั้งสติได้ก็รู้สึกเจ็บที่ต้นแขนด้านซ้ายที่กอดตัวมัดหมี่ไว้มันเริ่มแสบๆและชาไปหมด

“...”เมื่อฉันเริ่มรู้สึกตัวได้สักทีก็ยอมคลายอ้อมแขนออกจากมัดหมี่ก่อนจะดันตัวให้ห่างๆ ไปนั่งตั้งสติที่ขอบเตียงนอนในสภาพเหงื่อโชกท่วมตัว

‘อย่าบอกนะว่ายาบ้านั่นยังมีฤทธิ์อยู่อีกน่ะ’

“แฮ่ก..แฮ่ก..มัด..ฉัน...ขอ-”

“คุณมัน...เลวที่สุด...พลัวะ..ตึกๆๆปัง!”

“...ฉัน...ขอโทษ”

ทำได้แค่พึมพัมเสียงแผ่วกับอากาศหลังจากเหม่อมองแผ่นหลังของมัดหมี่ที่วิ่งหนีหายเข้าไปในห้องน้ำ เหลือไว้แค่ฉันที่นั่งจ้องมองหยดสีแดงเล็กๆ ที่หยดบนเตียง

“อย่าบอกนะว่า..”

“มัด...!!”

พอรู้แบบนั้นฉันไม่รอช้าที่จะลงจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำในทันที

“ปังๆ ๆ..เปิดประตูนะมัด..เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

“ฮืออออ..ไม่!! ...คุณมันเลวที่สุด”

“มัดฉันขอโทษ...เปิดประตูเถอะนะ...”

“...เพล้ง!!”

“เฮือก...มัดอย่าทำอะไรบ้าๆนะ...โธ่เว้ย..แกร๊กๆๆ..ปัง..ปึง!!โครม”

“ฮืออออ...”

“มัด!!”

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของฉันตอนนี้คือสภาพของมัดหมี่ที่ลื่นล้มกับพื้นห้องน้ำโดยมีแผ่นกระจกแถวๆ นั้นร่วงตกลงมาใส่พื้นห้องน้ำจนกระจายเป็นชิ้นเล็กๆ ระยิบระยับ

“อยู่นิ่งๆห้ามขยับ”

“..ฮือออ..อือ...”

มัดหมี่ร้องไห้จนตาปูดแต่ก็ยังผยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ส่วนฉันทำได้แค่ค่อยๆ ย่อตัวลงไปเก็บเศษกระจกใส่มือตัวเองจนถูกบาดเลือดออกก็เถอะ

“ฟึบ..อื้อ..”

“ฮึกๆ..ฮือออ..คุณ..ยู!”

“ไม่เป็นไร...แค่แผลนิดเดียว”

ถึงปากจะบอกแบบนั้นแต่ว่าแผลที่มือนี่มันยาวเกือบๆ ครึ่งนึงของมือเห็นจะได้จนเลือดไหลหยดลงพื้นนองเลยแหะ

“ติ๋ง..ติ๋ง..แปะ..แปะ..”

“คุณ..ยู..ฮึกๆ ๆ”

มัวแต่ทำเท่จนลืมไปเลยว่าตัวเองแก้ผ้าอยู่ในห้องน้ำ กว่าจะเก็บเศษแก้วไปใส่ถังขยะในห้องได้ก็เล่นเอามือซีดเลยแหะ ปกติมันก็ซีดอยู่แล้วนี่หว่า

“แผล...แผล”

“อ่า..อืม..”

ได้แค่อืออ่าก่อนจะหมุนตัวเข้าห้องน้ำไป แต่ก็ลืมไปว่าตัวเองงัดประตูจนพังเล่นเอาซะไม่มีอะไรปิดเลยนอกจากยืนโท่งๆ อาบน้ำจนเสร็จก่อนจะห่อผ้าขนหนูออกมาเจอเข้ากับมัดหมี่ที่นั่งตาปูดพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ในมือ

“ฟึบๆๆ..อื๋อ??”

ยืนขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเช็ดผมตัวเองโดยมีสายตาแปลกๆ ที่ส่งมาจากมัดหมี่กำลังดุใส่จากบนเตียง

“ฮึกๆๆ..มานี่”

“ฟึบๆๆๆ...แผล..หายแล้ว”

“ย..อย่าดื้อนะ..”

‘ฉันเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ชอบคนต่อล้อต่อเถียงน่ะ..’

ฉันไม่รอช้าที่จะสาวเท้าไปหยุดที่ปลายเตียงโดยมีร่างมัดหมี่ที่นั่งแกะกล่องยาหยุกหยิกไปมา ฉันทำได้แค่สูดหายใจเข้าเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือจากผ้าขนหนูที่เช็ดผมแล้วก้มลงไปยังแก้มนุ่มๆ นั่นพร้อมกับการทำโทษ

“จุ๊บ..”

“อื๋อ?? 0///0)..ค..คุณยู!!”

“ฉันเคยบอกแล้วนี่เรื่องพูดเถียง..ฟู่”บรรจงกระซิบเบาๆ ที่กกหูสีเข้มก่อนจะเป่าลมใส่เล็กน้อยเพื่อเป็นบทเรียน

“อ๊าย..ยะ..อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะไม่งั้น..ไม่งั้น”มัดหมี่สะดุ้งเฮือกใหญ่ก่อนจะใช้มือปิดหูตัวเองไว้ข้างหนึ่งพร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าฉันอีกข้าง

“เธอ..จะทำอะไรฉันเหรอคุณวิมลลล”

“...ฉันจะเอา..กาวไปหยอดใส่ปากคุณ!!”

“แหม่..พี่ดุนะหนูกล้าเหรอ”

“อึก...”

ฉันหรี่สายตาลงอย่างเอาจริงก่อนจะอมยิ้มนิดๆ ที่มุมปากจนมัดหมี่ถึงกับผวาตัวสั่นได้ไม่ยาก

“...”มัดหมี่ก้มหน้างุดลงกับตัวเองก่อนจะปล่อยมือจากกล่องปฐมพยาบาล

“...”ฉันทำได้แค่ยืนจ้องมองไม่ห่างดูว่ามัดหมี่จะทำอะไรต่อไป สรุปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากมัดหมี่นั่งขยุ้มผ้าปูเตียงแน่นหนึบ

“ฟุ่บ..เป็นไร”ฉันอดไม่ไหวที่จะทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง โดยที่พูดจาเบาๆ ถามไถ่ว่าเป็นอะไรรึเปล่า

“..คุณ...มันบ้า..เพี๊ยะ”

“อื๋อ??”

ถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกตบจากน้ำมือของมัดหมี่จนหน้าหันไปอีกฝั่ง

“เพี๊ยะๆๆๆ”

“...”

เสียงกระหน่ำที่ฟาดใส่มีไม่ขาดสายก่อนจะจบลงที่มัดหมี่เลิกตีแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นการยกมือข้างที่เจ็บของฉันขึ้นมาหงายดู

“...คุณ...มัน..บ้าที่สุด”

“...”ฉันไม่ปริปากออกความเห็นนอกจากนั่งมองเงียบๆ ระหว่างดูมัดหมี่ทำแผลให้จนเสร็จดี

“ทั้งๆที่เจ็บ...แต่บอกว่าไม่เป็นไร..คุณมันเป็นบ้าหรือไง”

“อ่า...”

“..คุณมัน....”

“บ้าที่สุด...”มัดหมี่ยังคงกระแทกแต่คำว่าบ้าใส่จนฉันแทบไม่รู้สึกอะไรนอกจากจ้องมองดูคนผอมแห้งผิวแทนที่กำลังนั่งบ่นอุบอิบไปตลอดเวลาที่เก็บของลงกล่องก่อนจะเดินไปอาบน้ำทิ้งไว้ก็เพียงแค่ไออุ่นที่ยังกรุ่นๆ บนฝ่ามือ

“ถ้าฉันบ้า...เธอก็คงจะเพี้ยนแหงๆ”

ส่ายหัวเบาๆกับตัวเองก่อนจะยันตัวลุกจากเตียงไปใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไปเพื่อพบปะกับยูมิที่นั่งเงียบๆ พิมพ์งานในห้องนั่งเล่นโดยมีบอดี้การ์ดคนโปรดนั่งขนาบกายไม่ห่าง

“ตื่นแล้วหรอพี่..เป็นไงบ้างเมื่อคืนสะใจดีไหม?”

“อ่า..ไม่รู้สิ..ไม่ได้ทำ”

“อะไรนะ...พี่บอกว่าไม่ได้ทำ..เป็นไปได้ไงปกติใครเข้าห้องพี่ไปตอนพี่เมาไม่เคยรอดเลยนี่..แสดงว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล”

“หยุดเพ้อเจ้อ”

“อืม...”

ฉันทำได้แค่เม้มปากเป็นเส้นตรงตอนเดินลงมาข้างล่างก่อนจะนั่งตรงข้ามกับยูมิ

“วันนี้ไม่ไปทำงานหรอ..อ่อใช่สิเมื่อวานพี่เมานี่เนอะ..”

“อืม”

“แล้วพี่มัดเป็นไงบ้าง...”

“ก็..สบายดี..ยังไม่ตาย”

ยักไหล่อย่างไม่คิดพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ นี่ก็นานแล้วแต่เจ้าตัวยังไม่ลงมาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน

“ตึก..ตึก..”ไม่ช้าเจ้าตัวก็เดินลงมาในสภาพขากระเพลกเหมือนเคยเพียงแต่ว่าวันนี้เจ้าตัวจะหลบหน้าไม่ยอมมองด้วย เหมือนกันมีอะไรในใจหรือว่าอายกันแน่ที่ทำเรื่องเมื่อคืน อย่างจะพูดดังๆ ว่าฉันจำได้ทุกอย่างไม่ใช่จะเมาแล้วสติเลอะเลือนจนความจำสั้นหรอกนะใครจะเป็นแบบนั้นกันล่ะเออ

“อะแฮ่ม..”

“เฮือก!..”มัดหมี่สะดุ้งเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินลงมายังข้างล่างก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาพลางซ่อนหน้าซ่อนตาตัวเองเหมือนเด็กๆ

‘เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย’

“พี่ยู..พี่ยู”

“อ๊ะ..มีอะไร??”

“มือพี่..เลือดออกแน่ะ”

“หืม??..”ยกมือตัวเองขึ้นมามองด้วยความมึนงงก่อนจะผยักหน้าเข้าใจ

“ไปทำอะไรมาทำไมเลือดออกเยอะแบบนี้น่ะ..ไปหาหมอเลยนะด่วนๆเลยพี่”

“ไม่ไป..”ฉันเปรยเบาๆ ก่อนจะเบนหน้าไปหามัดหมี่ที่กำลังทำหน้าตาเลิ่กลั่กด้วยความกังวล

“ทำไมล่ะพี่ยู..”

“ก็พอดีว่ามีคนร้ายคนนึงที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดน่ะ”

“ใครเหรอพี่??เดี๋ยวยูจัดการให้เอง”

“ไม่ต้องๆ...เจ้าตัวเค้ารู้ดีอยู่แก่ใจล่ะนะ..เฮ้อ..ปวดแผลจังเลยใครกันน้าจะพาไปหาหมอได้เนี่ย”

แกล้งสำออยอย่างอวดครวญพลางมองดูคนร้ายที่ไม่ยอมรับผิดเอาแต่นั่งพะอืดพะอมคนเดียวซะได้

“เดี๋ยวยูไปส่ง...”

“ฉันไปเองค่ะ!!”มัดหมี่ตะโกนลั่นเล่นเอายูมิสะดุ้งโหยงก่อนจะทำหน้าตาเหวอหวาด้วยความมึนงง

“อืม...เดินนำไปสิ”

“อ..อึก..ค่า”

สุดท้ายมัดหมี่ก็ยอมทำตามด้วยความง่ายดายก่อนจะเดินนำลิ่วไปที่โรงจอดรถทิ้งไว้แต่ยูมิที่กำลังทำหน้าแบบไม่เข้าใจ

“ไม่ต้องถามมาก..ทำงานเถอะ”

“ค่าพี่ยู..”

เดินตามมัดหมี่ที่เดินนำลิ่วไปหยุดรอที่หน้าโรงจอดรถด้วยท่าทีกระวนกระวาย ยิ่งทำให้ฉันอดขำในใจไม่ได้ว่าเวลาพวกหมาแมวมันจนตอกมันน่าแกล้งแค่ไหน

“แค่กๆ..เจ็บมือ..ชะมัด”

“ค..คุณยู..”

“คันไหน..1..2..”

“คันสี..สี..ดำค่ะ”มัดหมี่พูดสีตะกุกตะกักก่อนจะยอมโพล่งออกมา

“ดี..”อมยิ้มนิดๆที่มุมปากก่อนจะล้วงกุญแจออกจากกระเป๋า

“ตึก..ตึก..แกร๊ก..ปิ๊บๆ..ปึง..”

นั่งมองดูมัดหมี่ที่เอาแต่ยื่นเอ๋ออยู่ข้างนอกจนฉันเริ่มมีน้ำโหหน่อยๆ

“ปิ๊นๆ..จะขึ้นไหม??”

“ว..ว้าย..ข..ขึ้นค่ะ...”

หลังจากที่มัดหมี่เข้ามาในรถได้ก็ได้เวลามุ่งสู่ตัวเมืองอีกครั้ง ขับรถในสภาพมือโชกเลือดแบบนี้กลิ่นหึ่งแหงๆ

“อ..อึก”

“??....เป็นไร”

“ป..เปล่าค่ะ..มัดแค่เป็นห่วงว่าคุณจะเจ็บแผล..”

คำว่าเป็นห่วงนี่ชวนให้ฉันอยากหัวเราะดังๆ ชะมัด เอาตามตรงนะว่าฉันยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัดหมี่มากนักหรอกนะ รู้แค่เพียงเจ้าตัวขี้บ่นก็เท่านั้น

“งั้น..ก็รับผิดซะสิ”

“รับผิด??..เรื่องอะไรคะ”

“ทุกเรื่องๆ..ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเมื่อคืน”

พยายามกดเสียงต่ำเน้นคำว่าเมื่อคืนให้มัดหมี่ขนลุกเกลียวเล่นๆ เหมือนว่าเจ้าตัวจะนึกออกจนหน้าแดงแปร๊ดลามยันใบหู จนแยกไม่ออกว่าตอนนี้มัดหมี่หน้าดำหรือหน้าแดงกันแน่ ผลพวงจากการตากแดดมากก็งี้มิน่าตัวดำเชียวไม่ได้เหยียดนะ แต่ว่ามัดหมี่ตัวดำจริงๆ ตอนแรกก็ว่าสีผิวน้ำผึ้งเหมือนว่าเจ้าตัวจะอาบแดดเยอะเกินไปจนเริ่มแทนไหม้ๆ ซะแล้วสิเนี่ย

ราวๆ ชม.กว่าก็ถึงที่หมายพร้อมกับดับเครื่องยนต์ก่อนเดินมุ่งหน้าเข้าสู่ห้องทำแผล เอาตรงๆ ก็ไม่ได้แย่นะที่เย็บแผลไป20เข็ม เจ็บใช่เล่นแถมยังได้ยามากินด้วย งดโดนน้ำและห้ามออกแรงเดี๋ยวแผลฉีกกว่าเดิมนี่สิ เล่นเอาไม่รู้จะไปไหนต่อนอกจากต้องรับปากกับหมอด้วยอาการเซ็งออกมาข้างนอกก็เริ่มเย็นแล้วแหะทำไมเวลาไปไวจังก็เพราะว่าคิวนานน่ะสิ เกือบๆ 2ชม.ได้ทำแผลเล่นเอาสาหัสใช่ย่อยไม่รู้วันนี้มีปาร์ตี้หมู่อะไรกันคนแน่นเต็มโรงพยาบาล

“ตึกๆๆ..หาววว..ง่วงชะมัด”

ยืนบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองซึ่งมีคนขี้เซ้านอนหลับปุ๋ยเปิดกระจกรับลมไม่เกรงใจเจ้าของรถตัวจริงที่ยืนหัวโด่อยู่ ไหนๆก็ไหนๆไปกินอาหารดีกว่าวันนี้ก็ทักไปบอกยูมิล่ะกันว่าจะกลับค่ำเดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลังเอา

หลังจากขับรถออกจากโรงพยาบาลได้สักพักมัดหมี่ก็สะดุ้งตื่นเอากลางคัน

“เฮือก..คุณยู”

“อืม..”ทำได้เพียงตอบรับในลำคอเบาๆโดยไม่ได้มองมัดหมี่ที่ทำหน้าตาแบบไหนอยู่ก็ตาม

“ร..เราจะไปไหนกันคะ...คุณยู”

“กินข้าว..”

“แล้ว...แล้ว”

“พูดมาก..”

“อ..อึก”

“อาหารฝรั่ง...กินได้ไหม?”

“?? ..พอได้นิดหน่อยค่ะ...แต่”

“อาหารจีน?ญี่ปุ่น?อินเดีย..??”

“ญ..ญี่ปุ่นค่ะ”

“อืม..เอี๊ยดดดดดดด..บรืนนนนนนนนนน”หักพวงมาลัยเต็มแรงจนเซก่อนจะยูเทิร์นกลับไปอีกฝั่งของทางที่จะไปจนเวลาล่วงมาเกือบทุ่มหน่อยๆ ก็ถึงร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่มาก คล้ายๆกับร้านนั่งดื่มทั่วๆไปเพียงแต่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นก็เท่านั้น

“กรุ๊งกริ๊ง...”

“ยินดีต้อนรับครับ..ไม่ทราบว่ามากี่ท่านกันครับ”

“2ค่ะ..”

“เชิญทางนี้เลยครับผม”

เดินตามพนักงานร้านไปเรื่อยๆจนถึงโต๊ะมุมในสุดที่ไม่ค่อยมีคนนั่ง ตอนนี้มีแค่มัดและฉันเท่านั้นที่นั่งอยู่

“เลือกสิ..”

“ค..คะ..ค่ะ”

มัดหมี่เหมือนใจลอยจนฉันอดสงสัยไม่ได้เลยถามไปตรงๆ

“กังวลไร??”

“อ..อึก..มัดแค่กลัวว่าน้องจะไม่มีกินค่ะ..เรื่องหนี้ก็หนักหนาพอควรแถมมัดยังไม่ได้ทำงานเลยด้วยซ้ำเลยไม่รู้จะเอาเงินไหนไปให้น้องค่ะ..”

เหมือนมัดจะไม่ได้กังวลเรื่องเมื่อคืนด้วยซ้ำ

“เลขบัญชี..”

“คะ?? ..”

“บอกเลขมา..”

“ค..คุณยู!!”

รู้สึกฉันจะได้ใจไปหน่อยเห็นทีต้องคิดบัญชีหนักๆ ให้สาสมกับค่าตัวที่จะจ่ายให้ หวังว่ามัดหมี่จะยังไม่รู้เรื่องข้อตกลงที่ตัวเองโดนหลอกมาหรอกนะ

“063......”

“อืม..ปิ๊บๆๆๆ..เรียบร้อยเข้ารึยัง?”

“คะ??..ติ๊ด..”

“??”

“สั่งอาหารเถอะ..ดึกแล้ว”

“ค่า..”มัดทำเป็นหน้าขรึมแต่ว่าเจ้าตัวน่ะฉีกยิ้มจนหน้าบานไปหมดแล้ว อีกข้อที่รู้ตอนนี้คือมัดหมี่เป็นพวกซ่อนความรู้สึกทางสีหน้าไม่เก่ง

“ฉันเอา..สาเก2 ซาชิมิ2 ทูน่า1 แซลม่อน1 เอาซูชิไข่เม่นแล้วก็กุ้ง”

“..ฉันเอา..ซูชิชุดใหญ่1 เอ่อ...สาเกลูกพีช ซาชิมิชุดกลาง1แล้วก็เอาราเม็งดำ1ค่ะ”

“ครับผม..ผมขอทวนอีกรอบนะครับ..”

หลังจากรออาหารสักสิบนาทีก็ได้เวลากิน โดยที่ฉันมองดูมือข้างที่เจ็บของตัวเองอย่างขำๆ ก่อนจะรีบคีบอาหารเข้าปากทันที

“งั่ม..ผล็อย...”

“???”เสียงของซาชิมิที่ร่วงลงกับจาน โดยที่ฉันยังถือตะเกียบเปล่าๆคาไว้ที่ปาก

“คุณยู???”

“อะไร??..ก็แค่ของร่วง”

“เฮ้อ...อยากกินอันไหนเดี๋ยวมัดป้อนเอง”

“อืม..ขยับมานั่งนี่สิ”

ตบตักตัวเองเบาๆเป็นนัยๆว่าให้มัดมานั่งข้างๆ ไม่ช้ามัดหมี่ก็มานั่งลงแต่ฉันไหวตัวทันดึงเจ้าตัวลงกับตักตัวเอง

“ฟุ่บ..ว้ายคุณยู..คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย!! ..”

“ป้อน...”

“อึย..ค่ะจะกินอันไหน”

“อันเมื่อกี้..จิ้มโชยุให้หน่อย..”

“ฟึบ..แปะๆ..วาซาบิล่ะคะ?”

“เอามาเลย...”

“ค่ะ..แปะ..อ้ามค่ะ”

“อ้าม...”

ทันทีที่ซาชิมิพอดีคำแตะลงที่ปลายลิ้นได้ อาการชาดิกก็แล่นวิ่งเข้าจมูกทะลุปริ๊ดยันหัวสมอง

“อ๊ากกกก..”

“ฮ่าๆๆๆ...”

“อัดอี่!!..(มัดหมี่)”

“รีบๆกลืนค่ะนี่สาเก..อึกๆๆเลยค่ะ”

“อึกกกกก..อ่า..จิ๊ดขึ้นหัวเลยให้ตายเถอะมัด”

“555..เอาอีกไหมคะ??ฉันพร้อมป้อนแล้วนะ”

“...ไข่เม่นๆๆ..”ชี้นิ้วไปที่จานในสภาพน้ำตาคลอ

“ค่าๆ..นี่ค่ะโชยุแล้วก็วาซา..”

“อิ๊..อื้ออออ”

ใช้จังหวะเผลอกดหัวมัดลงก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบแบบขยี้แรงๆ ก่อนจะยอมถอยออกมา

“รสชาติเป็นไงล่ะวาซา..อิ๊??”

“พลัวะๆๆตุ๊บๆๆๆคนบ้า...”มัดหมี่ระรัวกำปั้นลงกับไหล่ของฉันจนสะเทือนไปทั้งตัว

“ฮ่าๆๆๆ...ไข่เม่นๆๆเร็วๆสองทุ่มแล้ว”

“><)..คน...บ้า..”

ใช้เวลาส่วนมากไปกับการแกล้งคนขี้บ่นก่อนจะจบลงที่ตอนนี้นั่งเมาแอ๋ในรถสภาพดูไม่จืด ส่วนฉันน่ะเหรอก็นั่งชิลๆ สูบบุหรี่เล่นแก้เครียด มันก็นานแล้วล่ะที่ฉันหัดสูบแต่ก็ไม่ได้ถี่ๆ เหมือนช่วงก่อนตอนนี้ก็นานๆ ครั้งสูบและเคี้ยวหมากฝรั่งแทน แต่วันนี้มีหลายๆ เรื่องให้คิดมากก็เลยต้องมานั่งสูบคลายเครียดนี่แหละ

“ฟู่...กลับบ้านดีกว่า..กึดดดด”

ตอนนี้ก็ขับรถกลับบ้านสบายๆโดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้างตอนถึงห้อง

“หวังว่าจะได้นอนสงบๆน่ะนะ..หาววว”

“คร่อกฟี้..คร่อกฟี้...”มัดหมี่หลับเป็นตายหลังจากกินอิ่มจนพุงกลาง ไม่คิดเลยแหะว่าจะกินจุขนาดนี้

“คิดไม่ออกว่าต้องเลี้ยงเท่าไหร่ถึงจะมีเนื้อหนังเหมือนคนอื่นๆนะ..เฮ้อ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด