ตอนที่8 ลับลมคมใน
ตอนที่8ลับลมคมใน
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนี่คงเป็นสุภาษติไทยสินะ ใครจะไปคิดล่ะว่าบ้าบอขนาดนี้ไม่รู้สิว่ามัดหมี่จะติ๊งต๊องขนาดนี้ โวยวายไปตลอดทางจนเข้านอน สุดท้ายก็โดนลงโทษไปนิดหน่อยๆ กว่าจะยอมนอน ตอนนี้ฉันต้องมานั่งโฟกัสเรื่องอื่นๆ ต่อ อย่างเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจเหมือนว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลจนรู้สึกแปลกๆ หรือว่าอลิสที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ จนอดสงสัยไม่ได้ บางทีอาจจะเกี่ยวโยงกันล่ะมั้ง
“เฮ้อ...ถ้าเธอไม่สอดรู้สอดเห็นฉันคงทำงานได้ดีกว่านี้แท้ๆ นะมัด..หึ” ชำเลืองหางตามองดูคนขี้เซ้าที่นอนหลับหายใจพริ้มเข้าออกอย่างมีความสุขทิ้งหลายๆ อย่างให้ฉันปวดหัว เห็นที่คงใช้แผนอื่นรับมือซะหรอก
“ไหนจะเรื่องของไอ้ปอมที่พาตัวเองไปพัวพันกับคดีที่ญี่ปุ่นคราวนั้นอีก ให้ตายเถอะไอ้ห่านี่..”
ก็อย่างที่รู้ว่าไอ้ปอมมันบ้าแต่ไม่คิดจะบ้าถึงขนาดไปลุยเดี่ยวที่ญี่ปุ่นคนเดียว แถมเสือกพัวพันกับตระกูลใหญ่อย่างโทระอีกไม่ว่ายังไงมันก็จะรอจับยัยหมูต้มหมูตุ๋นอะไรทำเมียอยู่แล้วแค่ดูจากน้ำเสียงกับสายตาก็รู้ เวลาหมามันคิดถึงเจ้าของมันก็กระดิกหางใช่ไหมแต่ไอ้ปอมมันคงจะกระดิกคว..ไม่สิกระดิกปืนเข้าใส่ ไม่วายยังจะพาเรื่องเดือดเนื้อร้อนตัวมาสู่คนอื่นๆ ระวังสักวันเถอะมันจะตายเพราะตัวเองที่เลือดร้อนเดือดปุดๆ
“คงจะดีหน่อยที่ฉันไม่ได้พิศวาสหาเมียแบบมัน..ถึงแบบนั้นมัดก็ดันมาทำตัวรุ่มร่ามใส่จนเผลอหลวมตัวมีอะไรด้วยกัน..แต่ว่าทำไมถึงไม่มีเลือดเลยแหะ..ฟุ่บ” ยันแขนลงกับเตียงพลางกวาดตามองไปรอบๆ หาร่องรอยจากเมื่อวานก่อนที่น่าจะหลงเหลือ แต่ก็ไม่มีอะไร
“อย่างที่คิดว่าเยื่อคงจะขาดแล้วแหงๆ ..สงสัยไปเต้นแหกแข้งแหกขายั่วผู้ชายละมั้ง..หึ”
แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกโมโหที่ตัวเองไม่เห็นเลือดของมัดด้วยล่ะ ให้ตายเถอะไอ้ประสาทยู
“ไปอาบน้ำก็ได้..เฮ้อยังไม่ซ่อมประตูเลยแหะ..เฮ้ออออ”
ตื่นมาด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย
“แค่กๆ ...คันคอจัง..อือ”
ไอแค่กๆ แต่เช้าแถมตอนนี้ก็ไม่เจอร่างที่มีชีวิตของคุณยูเลยด้วยซ้ำ มองดูนาฬิกาข้างหัวเตียงก็พึ่ง7โมงนิดๆ ไปไหนแต่เช้านะ
“หาวววว..แค่กๆ ..ไม่ไหวแล้วหิวน้ำชะมัด...”
ตวัดขาลงจากเตียงเดินลงบันไดตรงดิ่งไปหาน้ำดื่มก่อนที่สายตานับหลายคู่จะเบนมาจ้องด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ ทำไมเหมือนหน้าเรามันมันๆ เหมือนมีใครทาอะไรไว้แหะ
“หาววว..ดีค่ะพี่มัดหายเจ็บแล้วเหรอคะ? ..อุ๊บ..ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ”
“??”
“ม..มีอะไรเหรอติดหน้าพี่เหรอคะ?? น้องยูมิ?”
“ค..คิก..ฮ่าๆ ๆ ๆ ..พี่มัดดูหน้าตัวเองในกระจกก่อนสิคะ..” พูดจบยูมิก็นั่งเท้าคางที่เคาท์เตอร์หน้าห้องครัวด้วยท่าทีสบายๆ แถมหัวเราะร่า
“กริ๊ดดดด..อะไร..อะไรนี่คะน้องยู”
“ยูไม่รู้สิคะ..ลองถามเจ้าตัวที่นั่งจิบกาแฟหลบมุมตรงโซฟาตรงนู้นสิคะ..หาวววงั้นยูขอหาอะไรรองท้องก่อนไปนอนนะคะ..บัยบายและฝันดีค่ะพี่มัด..หาววว” ยูมิผละจากเคาท์เตอร์เพื่อเดินมาหยิบอาหารกินเล่นใส่หนีบไว้ในแขนตัวก่อนจะเดินปิดปากหาวหวอดๆ เดินกลับขึ้นชั้นบนไป
ทิ้งไว้แค่ฉันที่ตัวสั่นระริกๆ เหมือนคนบ้ากำลังอาละวาดเมื่อเห็นใบหน้าตัวเองว่ามีคนใจร้ายแอบมาแต่งเติมสีสรรให้จนกระเซอะกระเซิงเหมือนหมาแบบนี้
“คุณยูกิ!!!” ตวาดลั่นกลางบ้านอย่างไม่เกรงใจเจ้าของตัวจริงที่นั่งเงียบๆ ก่อนจะยอมลดหนังสือพิมพ์ออกจากหน้าตัวเองพร้อมกับหรี่ตาจ้องอย่างเยาะเย้ย เล่นเอาฉันตัวสั่นริกๆ อยากจะวิ่งเข้าไปตบสักหลายๆ ฉาดให้หายโกรธซะนี่
“สกปรก..”
“อึก...”
คำเดียวสั้นๆ ที่พ่นออกมาจากเจ้าของบ้านที่นั่งวางท่ามาดนิ่งไม่เหมือนเดิม เพียงแค่สายตาที่ชวนตีนั่นกำลังไล่สำรวจร่างกายฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า จนฉันต้องรีบเอามือปิดตัวไว้อย่างพัลวันเหมือนกับว่ากำลังแก้ผ้าให้คนใจร้ายดูทั้งๆ ที่ฉันก็ใส่เสื้อผ้านะเนี่ย หัวใจเต้นตึกตักไปมาจนร้อนวูบวาบทั่วตัวไปหมด
“ฉ..ฉันไม่ได้สกปรกซะหน่อย”
“น้ำไม่อาบ..นอนน้ำลายยืด..เป็นคราบๆ ..”
“เฮือก..ค..คุณเอาอะไรมาพูดฉัน..อาบน้ำนะ” เมื่อวานก็เถอะที่ห้องทำงานคุณยูน่ะนะ
“เหรอ...อืม..รู้ไหมว่าแขนฉันมันชาไปทั้งคืนเพราะใคร” น้ำเสียงกดต่ำลงอย่างมีน้ำโห
“ฉ..ฉันจะไปรู้กับคุณรึไง”
“อืม..วันนี้เธอต้องหยุดพักงาน1วัน..พรึ่บ..” ยูกิวางหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะก่อนจะยันตัวลุกขึ้นตรงก่อนสาวเท้าไปทำงาน จนหายไปลับตาของมัดหมี่ไป ทิ้งไว้เพียงความงุนงงที่กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในหัวของมัดก็เท่านั้น
“อ..เอ๊ะ??”
ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างที่มัดนอนหลับและยูกิที่ทำตัวแปลกๆ เหมือนมีบางอย่างที่ไม่อยากให้เลขาหน้ามึนของตัวเองเข้ามาเอี่ยวด้วยซะอย่างงั้น
[ยูกิ]
กว่าจะสลัดพ้นก็นานเอาเรื่องแถมยังต้องมาปะทะสงครามน้ำลายยืดกันต่ออีก นี่วันๆ กะจะชวนแต่ฉันทะเลาะรึไง
“เฮ้อ...ตอนไหนข่าวคราวเรื่องหนี้สินและตัวปัญหาของเธอจะโผล่หางออกมานะมัด..”
“ติ๊ง..”
“อื๋อ??”
*คุณอยู่ไหนคะเนี่ยคุณยูอลิสคิดถึงคุณจะแย่เลย*
“อลิส?? ทักมาหาเนี่ยนะผีเข้ารึไงยัยประสาทนี่..”
*ยูกำลังจะไปทำงานค่ะคงอีกสักราวๆ เกือบชม.ถึง*
*หวา..อลิสเสียใจแย่เลยที่คุณมาช้า..อลิสอุส่าห์มีของจะให้คุณ*
“ของ?? ของอะไรอีก?? ยานอนหลับรึไง?”
*ค่ะงั้นยูจะเร่งเวลาเร็วขึ้น ว่าแต่คุณอยู่ไหนล่ะคะ?? *
*อยู่..ไหนน้า..อ่อ..หน้าห้องทำงานคุณน่ะค่ะ*
*ตกลงค่ะยูจะรีบไป..*
*คิดถึงนะคะ..*
“ปิ๊บ..ให้ตายเถอะนอกจากคนประสาทแบบมัดฉันก็ต้องมาเจอคนที่ประสาทหนักกว่ารึไง...อลิส”
อย่างที่ๆ รู้ว่าอลิสจ้องจะงาบฉันอยู่เรื่อย แต่ฉันไม่เล่นด้วยเพราะว่าอลิสน่ะอยู่คนละฝั่งกับฉันแถมยังเป็นคนสนิทกับพ่อแม่ขืนทำรุ่มร่ามใส่มีหวังขาดสะบั่นแน่
เร่งเครื่องยนต์เร็วขึ้นจนเกินกว่าที่กำหนดแต่ก็ถึงที่หมายในเวลาที่ค่อนข้างน่าใจหายเพราะใช้ทางเลี่ยงจากถนนใหญ่ก็เถอะ
“เฮ้อ..หวังว่าคงไม่ใช่ของแปลกๆ หรอกนะ”
ยืนจัดทรงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยระหว่างขึ้นลิฟต์ไปที่ห้อง ในใจก็อดหวั่นๆ ไม่ได้ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลจนน่าใจหายได้เพราะขนลุกแบบนี้
“ติ๊ง...ครืนนนน..ตึก..ตึกๆ ๆ ๆ ..”
“คุณยู!!”
“อลิส?? ..ท..ทำไมคุณมานั่งรอแบบนี้ล่ะคะ..”
“ฉันรอคุณนานก็เลยเมื่อยขอนั่งรอหน้าห้องน่ะค่ะ..คิดถึงคุณจังเรื่องวันนั้นอลิสขอโทษนะคะพอดีอลิสน่ะพนันกับเพื่อนไว้ว่าคุณคอแข็ง..” อลิสเดินมากอดฉันหลวมๆ พลางแนบหน้าอกทรงโตของตัวเองเบียดใส่ลำตัวของฉันอย่างจงใจจนฉันต้องผลักออกห่างๆ มีหวังอะไรต่อมิอะไรคงตื่น
“ค่ะ..หวังว่าคุณคงจะไม่ทำแบบนั้นอีกใช่ไหมคะ?”
“ค่ะ..อลิสสัญญา..จุ๊บ”
“??”
อลิสฉวยโอกาสช่วงที่ฉันเผลอแอบเขย่งเท้าหอมแก้มฉันซะงั้น เล่นเอาทำตัวไม่ถูกที่โดนบุกแบบนี้
“อลิส!”
“คิก..แก้มคุณนุ่มจังเลยค่ะแต่ว่าเย็นไปหน่อยนะ..”
“...”
“นี่ค่ะอลิสซื้อขนมหวานมาฝากหวังว่าคุณจะชอบนะคะ..” อลิสยื่นถุงที่เต็มไปด้วยขนมหวานต่างๆ ให้ฉันที่ต้องรับมาด้วยความเต็มใจกึ่งๆ ไม่อยากก็ตาม
“ขอบคุณค่ะคงลำบากแย่เลยนะคะเนี่ย..”
“อ๋อ..ก็นิดหน่อยค่ะ..แล้วเลขาคุณใหม่ของคุณล่ะคะพอดีอลิสได้ข่าวมาจากพนักงานว่าคุณได้เลขาใหม่แทนคนเก่า..”
“..ค่ะพอดีเจ้าตัวไม่ค่อยสบายก็เลยพักอยู่น่ะค่ะช่วงนี้ก็เรียนรู้งานไปเรื่อยๆ”
“เหรอค่ะ..นึกว่าจะมาด้วยซะอีก..ชิ”
“??” เลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยตอนที่ได้ยินเสียงชิจากปากของอลิส รึว่าวางแผนจะทำอะไรมัดอีกล่ะเนี่ย
“งั้นอลิสขอตัว..”
“หมับ..”
“คุณยู??”
“พอดีเอ่อ..ยูคงจะกินขนมไม่หมดก็เลยจะชวนอลิสมากินด้วยกันในห้อง..พอจะมีเวลาสักสองสามชั่วโมงไหมคะ?”
“..ว..ว่างสิค่ะ..คุณยูเอ่ยปากชวนขนาดนี้..”
“งั้นก็เข้าห้องเลยสิคะ”
“แอ๊ดดด..ขอบคุณค่ะ..”
‘อย่างน้อยๆ มัดก็ยังไม่เจอยัยปีศาจบ้าเลือดแบบอลิส...ก็ดีแล้วล่ะ’
ยูกิค่อยๆ เดินตามหลังอลิสเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูลงเบาๆ พร้อมเสียงสนทนาที่ดังขึ้น
ตอนนี้ก็ทำได้แค่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้องระหว่างนั้นก็ตอบแชทคุยกับผัดไปเรื่อย ไม่รู้ข่าวคราวทางนั้นเป็นยังไงบ้าง
*ผัด*
*ว่าไงพี่? *
*ทำไรอยู่พี่กวนเปล่าหึ*
*ไม่ๆ ผัดกำลังนั่งทำงานกับเพื่อนที่มอน่ะ แล้วพี่ล่ะทำงานถึงไหนหายเงียบไปเลยนะบู่ว*
*ก็เรื่อยๆ *ใครจะกล้าบอกล่ะว่ายังไม่ทันได้เริ่มทำงานเลยน่ะ
*หรอ งั้นผัดทำงานก่อนนะเดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันส่งรักนะคะจุ๊บๆ *ผัดกดส่งสติ๊กเกอร์รูปจูบมาให้ ฉันทำได้แค่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะกดปิดแชท
“ฮ่า..ปวดหัวชะมัด..ยาก็ไม่ได้กินเฮ้อ”
บ่นนะแต่ก็ไม่ขยับตัวใดๆ นอกจากนอนนิ่งๆ บนเตียง พร้อมกับกลิ่นของคุณยูที่กรุ่นๆ
“เฮ้อ..กลิ่นตัวคนบ้าอะไรเนี่ยหอมชะมัด..อิจฉา”
ไม่รู้สิแต่มันหอมแบบเย็นๆ เหมือนมิ้นท์อ่า รู้สึกดีหน่อยๆ แล้วฉันเป็นบ้าอะไรมานอนดมกลิ่นตัวคนเนี่ยโว้ยไอ้มัดไอ้บ้า
“ไปกินยาก็ได้..ชิ” ยันตัวลงจากเตียงแล้วเดินไปคลี่ถุงยาเมื่อวานดู ถึงได้เห็นอะไรทะแม่งๆ เดี๋ยวนะปรอทวัดตั้งครรภ์?? อะไรวะเนี้ย
“ดะ..เดี๋ยวนะเอาจริงดิ???” ฉันคงจะไม่ค่อยตกใจเท่ากับโดนบังคับกินยาคุมเมื่อวานก่อนแล้วล่ะ ความจริงมันคืออะไรกันนะ
“อย่าบอกนะว่าโดนขืนใจจริงๆ ..บ้าไปแล้วมันมีแต่ในละครกับในข่าวนี่..ใครจะกล้าเอาฉันลงเว้นแต่...”
ไวเท่าความคิดเมื่อฉันพึ่งระลึกถึงบางอย่างที่แวบๆ ในหัวได้ เมื่อเรื่องที่เมาในวันนั้นเริ่มเข้าหัวทีละนิดๆ จนนึกออกได้เกือบทุกส่วนก็เล่นเอาหน้าร้อนผ่าวเอาซะดื้อๆ เมื่อเริ่มจำเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลได้ว่าตัวเองไปทำอะไรตอนที่เมามายไม่ได้สติหรือเสียสติล่ะ
“อิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ยกมือตัวเองอุกปากตัวเองก่อนจะแหกปากร้องกริ๊ดอย่างสุดเสียงเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งว่าเรื่องที่ฉันต้องกินยาคุมมันหมายความว่ายังไง
“ให้ตายเถอะไอ้คนลามกกกกกกกกกกก”
ฉากต่างๆ หลั่งไหลเข้าสู่โสตประสาทเรื่อยๆ จนตอนนี้ทั้งตัวของฉันเริ่มร้อนผ่าวๆ ไม่ต่างกับหน้าตัวเอง หัวใจเต้นถี่ระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนฉันสัมผัสได้ถึงอากาศรอบๆ ตัวที่เริ่มร้อนระอุไม่ต่างกับฉันที่เหมือนตัวจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
“งืออออออ..ไอ้คนบ้าไอ้คนผีทะเล...ตุ๊บๆ ๆ ๆ ๆ”
กระหน่ำทุบกำปั้นลงกับเตียงอย่างรัวจนตอนนี้เริ่มเจ็บข้อมือไปหมด ก็ยังไม่สาสมกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป มันน่าเกลียดเกินกว่าฉันจะรับได้แต่ก็ไม่ถึงขยะแขยงแต่ฉันก็เกลียดตัวเองที่ไปถวายตัวให้คุณยูถึงขนาดนั้น แล้วฉันจะมองหน้าคุณยูยังไง
“อย่างแรก..อึก..ฉันจะต้องย้ายของหนี..ก่อนเจ้าตัวกลับมา..” เหลือบสายตาไปที่มือถือตัวเองที่นอนแอ้งแม้งบนที่นอน
“หวังว่าจะพอมีคนช่วยได้นะ...”
“ตรู๊ดดดด..ปิ๊บ..ฮัลโหล”
*หลิน..ใช่หลินไหม?? *
*มัด?? ..เอาจริงดิไม่รู้มาก่อนนะว่าแกยังอยู่ว่าไงไอ้คนแคระทำอะไรอยู่..*
*ช่วยหน่อยสิฉันมีเรื่องจะรบกวนแก..แกอยู่ไหน? *
*อืมมม..มาเที่ยวน่ะที่..ทำไมเหรอ? *
*อึก..แกว่างไหม*
*ก็นิดหน่อย..ว่ามาสิ*
*คือมีญาติหรืออะไรที่รู้จักอยู่แถวสเปนไหม*
*สเปน?? แกไปทำบ้าอะไรที่นั่นวะมัดฉันนึกว่าแกอยู่ไทยซะอีก*
*เรื่องมันยาวน่ะไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังแล้วมีใครบ้างไหม? ที่อยู่นี่น่ะ*
*อืมมม..ลองถามไอ้คริสดู..พอดีได้ข่าวว่ามันได้ทุนมาเรียนต่อที่นี่..แกรู้จักมันไหมล่ะ?? *
*คริส..ฝรั่งหน้าหล่อคนนั้นใช่ไหม*
*อ่าใช่ๆ ความจำดีนี่แคระ..งั้นจะรีบติดต่อให้นะเอาเฟสมันไหม?? *
*อื้อ..เอาสิ*
*มันชื่อ....แค่นี้ก่อนนะพอดีต้องไปรับน้อง*
*ขอบคุณนะที่ช่วย..บายหลิน*
*บายแคระว่างๆ ก็แวะมาหาด้วยล่ะ*
“เฮ้อ...สบายใจไปเปราะนึงเรื่องที่ติดต่อเพื่อนสนิทได้แม้จะไม่สนิทติดหนึบก็เถอะ”
‘ว่าแต่คริสได้ทุนเรียนต่อไกลถึงนี่เชียว..ไม่เคยรู้มาก่อนนะเนี่ย’
“เป็นฝรั่งได้ทุนเรียนต่อที่เมืองนอกนี่ก็ปกติใช่ไหมหรือฉันคิดว่ามันแปลกคนเดียว...”
“ติ๊ง..”
“อื๋อ?? อะไรน่ะ” ชะเง้อคอไปส่องมือถือตัวเองที่ขึ้นแจ้งเตือนว่าคริสรับแอดแล้ว
“คริส..”
แอบตกใจนิดๆ ที่เจ้าตัวรับแอดไวขนาดนี้นึกว่าจะนิ่งๆ หยิ่งๆ ซะอีกก็เล่นไม่เข้าหาใครเลยซะแบบนั้น ยังดีนะที่รู้จักกันนิดหน่อยก่อนจบ
*Hello*
ทักไปแล้วก็เหลือแต่รอเจ้าตัวตอบรับแค่นั้นแหละนะ มองดูจุดสามจุดที่กำลังถูกพิมพ์ขึ้นก่อนจะหายไปและกลับมาใหม่
*Hi*
“อย่างน้อยๆ ก็พอคุยรู้เรื่องนะงั้นพิมพ์ไทยล่ะกัน”
*คริส? ใช่ไหม*
*?? *
*นี่เราเอง..เอ่อมัดน่ะเราอยู่ห้องเดียวกันที่ไทยไง*
*Hum?? *
เอาล่ะสิเหมือนคริสจะจำไม่ได้แฮะ
*เราที่นั่งข้างๆ นายไง..จำไม่ได้เหรอ?? เราคนที่แคระๆ นั่น*
*He? Oh god*
“อะไรเนี่ย..ฉันก็บอกถูกนี่ก็เขาเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ??”หรือฉันพูดผิดหรือยังไงจะใด
สักพักใหญ่ๆ คริสก็ตอบกลับมาเป็นภาษาวิบัติ เพราะว่าเจ้าตัวน่าจะมาอยู่นี่นานจนพิมพ์ไทยไม่ถูก หรือใช้กูเกิ้ลแปลล่ะเนี่ย
*มัดใช่ไหม่เร่าจำชื้อเทอไม่ได่*
“5555ให้ตายเถอะฝรั่งบ้าอะไรเนี่ย”
*พิมพ์ในแปลภาษาสิ*
สักพักก็ได้คำที่อ่านง่ายตอบกลับมา
*มัดใช่ไหมเราจำเธอไม่ได้ ถึงแม้เราจะนั่งข้างกันก็เถอะ*
*555ก็จริงนะที่จะจำไม่ได้ว่าแต่มาอยู่นี่นานยัง*
*2ปีกว่าแล้ว*
*อ่อ..แล้วตอนนี้อยู่ไหน?? *
*อยู่ไหน?? ก็สเปนไง*
*ไม่ใช่ๆ หมายถึงอาศัยอยู่ไหน*
*ในตัวเมืองน่ะถามทำไมเหรอ*
*พอดีอยากจะให้ช่วยอะไรสักหน่อยนึง เดี๋ยวติดต่อกลับไปใหม่นะ*
*ok guys*
“ทำไมเรียกฉันซะแบบแมนๆ เลยล่ะนี่เฮ้อ คุณยูกลับมาแหงๆ มิน่าได้ยินเสียงรถไหงบอกทำงานทำไมกลับมาไวจังเนี่ย”
อดใจไม่ไหววิ่งไปชะเง้อคอส่องที่หน้าต่างถึงได้รู้ว่ามันมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ว่าคนที่กลับมาไม่ใช่คุณยูกิแต่เป็นใครบางคนในชุดหรูหราโชว์อกอึ๋มให้ฉันอิจฉาตาร้อนผาว
ไม่นานนักยูมิก็มาเคาะประตูเรียก
“ก๊อกๆ พี่มัด...หาววว” รู้สึกจะได้สินเสียงอ้าปากหาวมาตั้งแต่หน้าประตูเลยแหะ สงสัยนอนไม่อิ่มแหง
“ค่าๆ พี่มาแล้ว..แอ๊ดด..มีอะไรคะน้องยู”
“หาววว...แจ๊บๆ ๆ ..คือว่าพี่ห้ามออกจากห้องนะต่อให้จะได้ยินอะไรก็ตามห้ามออกมา..งั้นยูไปรับแขกก่อนนะคะ..ห้ามออกจากห้องนะ”
“คะ??”
ไม่ทันไรยูมิก็ปิดประตูอัดหน้าทิ้งไว้เพียงตัวฉันที่ยืนเหวอหวาเหมือนคนเมา
‘ที่ยูมิพูดมาหมายความว่าอะไรนะ..’
[ยูมิ]
หลังจากสั่งเสียเอ๊ยไม่ใช่สั่งบอกว่าห้ามออกจากห้องเสร็จก็เดินลงมาข้างล่าง เพื่อเจอกับแขกอันแสนจะไม่ค่อยอยากทักทายเท่าไหร่ อแมนด้านางแบบและเป็นดาราชื่อดังของรายการที่นี่น่ะ รู้สึกว่าจะมีซัมติงกับพี่ยูไม่กี่ทีก็เริ่มติดใจรสรักหรืออะไรล่ะก็เลยแวะเวียนมาหายังกับปั๊มน้ำมันแน่ะ
“ดีค่ะคุณอแมนด้า..มาไกลถึงนี่เชียวมีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ”
“อ่อ..ยูมินี่เองเห็นยูกิบ้างไหมคะ? รู้สึกว่าจะไม่ค่อยตอบแชทพี่เลย”
“ไม่รู้สิคะ..”
“แล้วพอจะทราบไหมคะว่ายูกิอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ..”
“ทำไมทำตัวห่างเหินกับพี่จังเลยค่ะ...” อแมนด้าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยก่อนจะตวัดขาไปมาชวนให้ใจหล่นไปยังตามตุ่มได้ไม่ยากเพราะขาขาวๆ นั่นกำลังวับๆ แวมๆ ล่อตา
ส่วนฉันก็ไม่ได้พิสวาทอะไรผู้หญิงหรอกนะก็ทำหน้าเอือมระอาเบาๆ ก่อนจะทนไม่ไหวจนต้องนั่งทรุดลงที่โซฟาระหว่างนั่งจ้องเขม็งคนดื้อด้านไล่ยากแบบอแมนด้า
จะอธิบายให้ฟังว่าอแมนด้าเป็นคนแบบไหนนะ ก็สวยดูดีมีระดับ หน้าคมเข้มเผ็ชๆ แบบที่ฝรั่งชอบทั่วๆ ไป ผิวขาวตามปกติผมสีทองอร่ามอ๊ะสีบอร์นสิไม่ใช่ทองคนนะไม่ใช่อิ๊..
“แล้วมีอะไรนอกจากพี่ยูรึเปล่าคะเนี่ย..”
“อ่อ..ไม่ค่ะพี่มีของจะให้น่ะ...”
“??” ตะกร้าบางอย่างยื่นมาให้ฉันที่ต้องทำหน้ารับแบบไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็ทำใจรับมาดู
“อะไรน่ะคะเนี่ย?? ..”
“พอดีพี่ไปเดินแบบที่ปารีสมาน่ะค่ะ..ก็เลยแวะซื้อขนมหวานชื่อดังมาฝากหวังว่าคงจะชอบนะคะ..”
“อ่อ..ขอบคุณค่ะ..แล้วก็คงจะรบกวนมากเลยสินะคะที่ไปซื้อมาฝากแบบนี้”
“อ่อ..เปล่าหรอกค่ะ..แค่ของฝากเล็กๆ น้อยๆ ก่อนกลับน่ะค่ะ..”
“อ๋อ..แบบนี้นี่เอง..”
“ถ้างั้นพี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ..”
“ค่ะ..ระวังๆ ด้วยนะคะ”
“ค่ะ...”
แปลกใจหน่อยๆ แหะนึกว่าจะมาแบบมาดร้ายๆ เหมือนตอนนั้นซะอีกไหงวันนี้อารมณ์ดีล่ะเนี่ย
มองดูนางแบบหุ่นยั่วน้ำลายจากไปด้วยท่าทีสงบๆ ก่อนฉันจะนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อออ..เหลืออีกกี่คนที่จะมาล่ะเนี่ย..” มองดูรถคันงามวิ่งฉิ่วออกจากบ้านไปจากนั้นราวๆ สัก5นาทีต่อมาก็มีรถคันงามอีกคันแล่นฉิ่วมาจอดพร้อมกับคนที่ไม่อยากเจอนัมเบอร์วันเดินตรงลิ่วมาหาฉันซะได้
“ยูกิล่ะ..”
“ไม่อยู่และไม่ทราบค่ะคุณมาเรีย”
“เหรอ..วันนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ก็เรื่อยๆ ค่ะ..แล้วคุณล่ะคะ”
“อ่อ..ดีค่ะ..ดีไปหมด”
คนที่อยู่ตรงหน้านี้คือมาเรียนางแบบในสังกัดค่ายดังอีกค่ายหนึ่งรู้สึกจะดังกว่าอแมนด้าซะอีก เคยได้ยินข่าวลือแปลกๆ ว่าเจ้าคุณเธอชอบควงคนเล่นไม่ซ้ำหน้าโดยเฉพาะนักธุรกิจชื่อดังหลายๆ คน สุดท้ายไม่รู้ไปทำอีท่าไหนติดพี่ยูแจไม่ไปไหนเลย
“แล้ว..เลขาคนใหม่ล่ะ”
“..” เชี่ยเวรแล้วไงมาเรียไปรู้ข่าวเรื่องพี่มัดได้ยังไงกันล่ะเนี่ย บ้าแล้วทำไงดีๆ ๆ
“ไม่รู้สิ..คุณพูดเรื่องอะไร”
“อย่ามาทำไขสือ..เธออยู่ที่ไหนยูมิ!”
เอาล่ะสิมาเรียเริ่มขึ้นเสียงซะแล้วเวรเอ๊ยนังบ้านี่
“คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดขึ้นเสียงแบบนี้นะ..”
“อ่อเหรอ..แต่ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้เกี่ยวกับยูกิ”
“มันจะมากไปแล้วนะ..ปึง!”
“...”
เผลอโมโหจนตบโต๊ะดังลั่นเล่นเอาคนแถวๆ นี้สะดุ้งเฮือก
“ฉันไม่รู้ว่าคุณจะไปรู้ข่าวมาจากไหน เว้นเสียแต่จะให้พี่ของฉันเป็นคนบอกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดถึงคนของๆ พี่ฉันแบบนี้”
“อึก...”
“ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าใค---”
“น้องยู...”
“??”
ทั้งคู่เอียงคอหันควับไปยังต้นเสียงเป็นร่างของมัดหมี่ที่ยืนเกาะขอบบันไดจ้องตาแป๋ว ในขณะที่มาเรียเริ่มจ้องเขม็งไปที่มัดหมี่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อซะให้ได้
“พี่มัด!!!”
“..หึ..นี่น่ะเหรอเลขาใหม่หน้าตาก็บ้านๆ ล่ะนะ..”
“..”
คำพูดที่น่าตบนั่นกำลังพ่นออกมาเรื่อยๆ ใส่พี่มัดที่ยืนกำมัดแน่น เพราะว่าเจ้าตัวฟังภาษาอังกฤษออกล่ะนะ เฮ้อกรรมใดใครก่อกรรมนั้นจะเดินมาตบ
“รสนิยมของยูนี่แย่ขนาดเอาพวกต่างด้าวมาทำงานถึงขนาดนี้เชียว ไม่น่าเชื่อนะคะว่าคนหน้าตาหน้าเกลียดแบบนี้จะได้ทำงานราคาแพงแบบนี้น่ะ”
“...”