ตอนที่แล้วตอนที่ 25
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 27

ตอนที่ 26


ตอนที่ 26

แต่แทนที่ซูฮยอนจะตอบคำถามของลีจุนโฮ

เขากลับนิ่งเงียบ แล้วจ้องมองไปที่ลีจุนโฮอย่างไม่วางตา

บรรยากาศโดยรอบเริ่มตึงเครียดขึ้น

ด้วยพลังที่ซูฮยอนปล่อยออกมา มันทำให้ลีจุนโฮหายใจไม่ทั่วท้อง

ซูฮยอนรู้ว่าออร่าของเขาดูแตกต่างจากตอนก่อนหน้า

ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมลีจุนโฮถึงเริ่มกลัวซูฮยอนนิดๆ

ไม่ใช่แค่ออร่าเท่านั่น แม้แต่ระดับเวทย์ และ ลักษณะของเขายังเปลี่ยนไป

<<เขาคงไม่ฆ่าฉัน เพื่อปิดปากหรอกนะ>> ลีจุนโฮคิด

ซูฮยอนมองดูลีจุนโฮที่มีความกลัวเขียนขึ้นบนใบหน้าแล้วตอบกลับไปเบาๆ

“ใช้ฉันเอง”ซูฮยอนยอมรับกลับไปตรงๆ

ให้เมื่อลีจุนโฮเห็นความสามารถของเขาแล้ว

เขาจึงไม่จำเป็นต้องโกหกหรือซ่อนมันไว้อีกต่อไป

ถึงซ่อนมันไว้ มันก็เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์

ลีจุนโฮเบิกตากว้างหลังจากได้ยินคำตอบจากปากของซูฮยอน

ถึงแม้เขาจะรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่เขาก็ทำใจยอมรับไม่ได้สักที

ซูฮยอนยกมือขึ้นมาแล้วกดลงไปบริเวณหน้าผาก

<<ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ น่าปวดหัวจริงๆ>>

“ผมขอถามหน่อย ทำไมนายถึงกลับมา?”

“คือว่า..”ลีจุนโฮแสดงสีหน้าอึดอัดออกมาก่อนจะตอบกลับไป

“เพราะฉันรู้สึกสำนึกผิด”

“สำนึกผิด?”

“ใช่”

“สำนึกผิดเรื่องอะไรล่ะ”

“ก็เรื่องที่ฉันหนีไป แล้วทิ้งนายไว้คนเดียวไง”

“เหตุผลมีแค่นี้จริงๆ?”

“ใช่แล้ว มีแค่นี้จริงๆ”

<<อืม..หมายความว่าที่ลีจุนโฮกลับมา เขาไม่ได้มีเจตนาอื่นแฝงเลยสินะ>> ตอนแรกซูฮยอนคิดว่าลีจุนโฮอยากรู้ว่าเขามีความลับอะไรซ่อนอยู่

เขาจึงตัดสินใจกลับมาตรวจสอบดู

ซูฮยอนมองดูลีจุนโฮที่กำลังยีนเกาหัวอยู่

“ช่างมันแล้วกัน”

“หืม”

“ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็คงไม่ต้องปิดบังอะไรอีก ส่วนเรื่องที่ผมเคยโกหก ผมขอโทษด้วย”

“อ่า..ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษหรอก นายไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย อีกอย่างถ้าไม่ได้นาย ป่านนี้พวกเราคงตายกันไปนานแล้ว”

ตั้งแต่ที่พวกเขาย่างก้าวเขามาในดันเจี้ยนแห่งนี้

มันก็มีเรื่องแปลกๆมากมายเต็มไปหมด

ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ หรือ กับดัก

ถึงแม้ภายนอก มันจะดูเป็นดันเจี้ยนธรรมดาทั่วไป

แต่ถ้าคุณลองเข้ามาสัมผัสกับมันด้วยตัวเอง

คุณจะรู้ได้ทันทีเลยว่า ความยากที่แสดงอยู่หน้าทางเข้าดันเจี้ยน มันเป็นเรื่องโกหก

หากไม่ได้ซูฮยอน พวกเขาคงไม่สามารถมาไกลได้ขนาดนี้แน่ๆ

ที่สำคัญพวกเขาอาจต้องตายไปก่อนแล้วก็ได้ เนื่องจากฝีมือของ คิมเยอึน

ถ้าจะบอกว่าซูฮอนคือผู้มีพระคุณของพวกเขาก็ไม่ผิดนัก

“ซูฮยอนนายเป็นผู้มีพระคุณต่อพวกเราจริงๆ”

ซูฮยอนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากที่ได้ยินคำพูดของลีจุนโฮ

เมื่อลองดูนิสัยของลีจุนโฮแล้ว

ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่พวกปากสว่าง

<< นึกไม่ถึงเลยว่า ความลับจะมาแตกเอาตอนนี้ แต่ช่างเถอะ เรื่องมันเกิดแล้ว ปิดไปก็ไรประโยชน์>>

“จริงๆนายไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้ นายไม่ได้เป็นภาระอะไรเลย อีกอย่างพวกเราอยู่ทีมเดียวกัน พวกเราก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว จริงไหม”ซูฮยอนพูดแล้วนั่งลงกับพื้น

สภาพร่างกายของซูฮยอนตอนนี้ เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เพราะเขาพึ่งผ่านศึกที่ทรหดมา

มอนสเตอร์เป็นร้อยตัว แถมยังต่อสู้อยู่คนเดียวอีก ไม่เหนื่อยก็บ้าแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น สกิล ‘เพลิงพิโรธ’ของซูฮยอนยังใช้พลังเวทย์ที่มหาศาลมากๆ

มันเลยทำให้ร่างกายของซูฮยอนแบกรับภาระหนักเกินไป

เมื่อซูฮยอนดึงพลังเวทย์กลับ เปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่รอบตัว ก็เริ่มมอดดับลง

ลีจุนโฮเฝ้ามองการกระทำของซูฮยอนอย่างตรึงใจ

“อืม...มันเป็นสกิลที่น่าสนใจมาก มันคือสกิลอะไรเหรอ”

“มันก็เป็นสกิลที่หาได้ทั่วไปแหละ”

“แล้วมันต้องใช้ ระดับเวทย์ เท่าไหร่เหรอถึงจะใช้ได้”

“ประมาณระดับที่ 4 .....”ซูฮยอนพูด

“ห๊า อะไรนะ”

ลีจุนโฮ ระดับเวทย์ 4 ‘ผู้ตื่นขึ้น’ แรงค์ B

สกิลที่ลีจุนโฮใช้บ่อยที่สุดคงหนีไม่พ้น สกิล สวิ๊ฟ

เพราะมันเป็นสกิลระดับที่ 4 ที่มีประโยชน์มากๆสำหรับเขา

เมื่อคุณใช้ สกิล สวิ๊ฟ ออกมา

จะทำให้ร่างกายของคุณเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพในช่วงเวลาสั่นๆ

แต่ถ้ามาลองเทียบกันระหว่าง ‘เพลิงพิโรธ’ ของซูฮยอน กับ ‘สกิลสวิ๊ฟ” ของเขา มันต่างกันราวฟ้ากับเหว

“สุดยอด ถึงแม้ว่าฉันจะได้ยินเรื่องของนายมาก่อนก็ตาม แต่ใครจะคิดล่ะ ว่ามันคือเรื่องจริง”

คิมซูฮยอน เป็นชื่อที่เขาได้ยินมันมาตลอดจนนับไม่ไหว

‘ผู้ตื่นขึ้น’ หน้าใหม่ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วหอคอยแห่งการทดสอบ

เพราะทุกครั้งที่เขาขึ้นชั้นถัดไป เขาจะเลือกระดับที่ 10 อยู่เสมอ

จนเขาได้ฉายา 'บุตรแห่งสวรรค์ ผู้เหยียบย่ำสถิติ'

ใน อเวจีออนไลน์ มีการพูดคุยเกี่ยวกับซูฮยอนอยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา

พวกเขาส่วนใหญ่อย่างรู้จริงๆว่าซูฮยอนฝีมือพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว

ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายอย่างรู้เรื่องของซูฮยอน

แต่ก็ไม่ใครเลย ที่รู้ข่าวคราวของซูฮยอนเลยมักคน

เพราะซูฮยอนไม่เคยปรากฏภาพบนอินเทอร์เน็ตเลยสักครั้ง ทำให้ไม่มีคนรู้จักใบ้หน้าทีแท้จริงของซูฮยอน

<<ใครจะไปคิดว่าเขาจะเก่งขนาดนี้..>>

เขาเป็นผู้ตื่นขึ้นแค่ 1 ปีเองนะ

ไม่ว่าซูฮยอนจะเก่งสักแค่ไหน แต่ลีจุนโฮเคยเชื่อว่าซูฮยอนน่าจะอยู่ระดับเดียวกันกับเขา

แต่มาตอนนี้ลีจุนโฮรู้แจ้งแล้วว่า ซูฮยอนจะเก่งกว่าเขาซะอีก

ไม่แน่ความสามารถของซูฮยอนทั้งหมด อาจจะเก่งกว่าแรงค์ A บางคนก็ได้

“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น นายจะให้ฉันเก็บเป็นความลับไหม”

“หืม..”

“ก็เรื่องคว่ามแข็งแกร่งของนายไง นายคงยังไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงความแข็งแกร่งของนายสินะ”

ดูเหมือนลีจุนโฮจะมีไหวพริบพอสมควร

ลีจุนโฮรู้ว่าซูฮนอนไม่ต้องการเป็นจุดสนใจของผู้คนในตอนนี้

“ใช่แล้ว เก็บเป็นความลับให้ด้วยแล้วกัน”

“ไว้ใจฉันได้เลย ฉันจะปิดปากเงียบๆไว้ ถ้าความลับหลุดออกไปนายมากระทืบฉันได้เลย”ลีจุนโฮพูดติดตลก

ความจริงลีจุนโฮก็ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของซูฮยอนมากนักหรอก

เพราะถ้าเขาเปิดปากพูดออกไป เขามั่นใจได้เลยว่าจะมีเรื่องยุ่งยากมากมายวิ่งมาหาเขาแน่ๆ

“ไว้คุยทีหลัง ตอนนี้ของพักก่อน”

“นายเหนื่อยมากไหม”

“อืม...เหนื่อยโคตรๆ”ซูฮยอนพูดพร้อมกลับหันหลังกลับไปมองมอนสเตอร์ที่โผล่มาจากไหนอีกไม่ทราบ

“มันยังไม่หมดอีกเหรอ”

* * *

ซูฮยอนใช้ ‘สกิลเพลิงพิโรธ’ มาตลอดจน มานาในร่างกายของเขาเริ่มหมดลง

ถึงแม้จะฟื้นฟูมันได้ด้วยการใช้สมาธิ แต่มันก็ใช้เวลาเกินไป

หลังจากที่ซูฮยอนและลีจุนโฮ พักผ่อนมานานเกือบ 1 ชั่วโมง เขาก็ขยับตัวแล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง

เมื่อพวกเขาผ่านเขาไปในประตูเปิดไว้ พวกเขาก็เจอกับทางเดินถ้ำที่ยาวสุดลูกหูลูกตา

“ตามที่คิดไว้ ดูเหมือนคนอื่นๆจะออกไปแล้ว”ลีจุนโฮกล่าว

ลีจุนโฮพูดออกมาอย่างผิดหวัง เขาเคยคิดว่าเพื่อนรักของเขา คิมบารึมจะกลับมาช่วย

แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

ถึงแม้จะทำใจรอไว้แล้ว แต่เขาก็อดเสียใจเล็กๆไม่ได้

“คิดมากไปทำไม ใครบางไม่กลัวตาย”

“อืม นั้นสินะ ความตายใครก็ๆก็กลัวกันทั้งนั้น”

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของซูฮยอน ลีจุนโฮก็เกิดความอายขึ้นมานิดๆ

ในสมัยก่อน ตอนที่เขาปีนหอคอยแห่งการทดสอบใหม่

ทุกๆวัน ลีจุนโฮจะกังวลอยู่เสมอว่าจะตายเมื่อไหร่

ซูฮยอนมองดูลีจุนโฮและคิดในใจ

<<ลีจุนโฮ เขาเป็นคนดีจริงๆ เพราะฉะนั้นเขาไม่ควรมาตายในที่แห่งนี้>>

ซูฮยอนได้พูดคุยกับลีจุนโฮหลายเรื่อง

ซึ่งในบรรดาหัวข้อทั้งหมดจะเป็นประวัติของตัว ลีจุนโฮซะมากกว่า ยกตัวอย่าง ลีจุนโฮเคยบอก ตัวเองได้เลิกปีนหอคอยมาได้สักพักแล้ว

ซึ่มมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เพราะ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ บางคนก็เลิกปีนหอคอยกลางคันเหมือนกัน

เหตุผลส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขากับความตาย

มันยังไม่หมด บางคนก็ตั้งเป้าหมายสูงจนเกินไป จนลืมดูความพร้อมของร่างกายตนเอง ไม่ช้าพวกเขาก็บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็ตายลง

สาเหตุการตายส่วนใหญ่มันไม่ได้เกิดจากดันเจี้ยน

แต่มันเกิดขึ้นจากในหอคอยต่างหาก

เพราะฉะนั้น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ บางคนจึงติดนิสัยเห็นแกตัว นึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง จนลืมเพื่อนรวมทีม

แต่ลีจุนโฮนั้นต่างออกไป เขาให้ความสำคัญกลับเพื่อนร่วมทีมมากกว่าคนอื่นๆซะอีก

ในโลกที่ใกล้ล่มสลาย มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะเจอคนแบบลีจุนโฮสักคน

เพราะผู้คนส่วนใหญ่ห่วงแต่เรื่องของตัวเองกันทั้งนั้น

ถ้าในโลกนี้ มีคนแบบลีจุนโฮสัก หนึ่งล้านคน โลกคงน่าอยู่ขึ้นเป็นกอง

“จริงสิ..ทำไมนายถึงคิดว่า คิมเยอึน จะทรยศเราล่ะ ฉันว่าดูเหมือนเธอพร้อมที่จะลงโลงไปกลับพวกเราเลยนะ”

“ใครบอกนายว่าเธอพร้อมจะลงโลงไปกับพวกเรา?”

“หืม..แล้วเธอต้องการอะไรหล่ะ”

“เธอจะลากพวกเราไปตายมากกว่า”

ลีจุนโฮแสดงสีหน้าตกใจหลังได้ยินคำตอบจากซูฮยอน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลีจุนโฮคิดว่าคิมเยอึนเปรียบเสมือนพี่น้องที่พร้อมตายไปด้วยกัน

ใครจะไปคาดคิดว่าเธอวางแผนที่จะฆ่าพวกเขา

“นายรู้จักกิลด์ดัมพ์ไหม”

“กิลด์ดัมพ์?”

ลีจุนโฮไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยสักครั้ง

ซูฮยอนอธิบายต่อ

“กิลด์ดัมพ์เป็น กิลด์ที่สร้างโดยเหล่าอาชญากรรม สมาชิกภายในกิลด์มีแต่พวกตัวปัญหาทั้งนั้น”

“มีกิลด์แบบนี้จริงดิ”

“มีสิ แต่กิลด์ดัมพ์ มันยังไม่คอยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ ไม่แปลกถ้านายไม่รู้จัก”ซูฮยอนพูดแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ

“ที่สำคัญ ใครก็ตามที่รู้ว่ามีกิลด์ดัมพ์อยู่ พวกเขาส่วนใหญ่เสียชีวิตเกือบทั้งหมด”

“อะไรนะ”ใบหน้าของลีจุนโฮซีดขาวเหมือนไก่ต้ม

ใครก็ตามที่รู้การคงอยู่ของกิลด์ดัมพ์

พวกเขาจะถูกตามล่าจนกว่าเหยื่อผู้นั้นจะตาย

'ทำไม่เรื่องราวมันถึงเหมือนหนังสยองขวัญจัง'ลีจุนโฮคิด

“ทะ...แล้วทำไมนายถึงบอกฉันล่ะ”ลีจุนฮถามซูฮยอน

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาไม่อยากรู้เรื่องนี้เลย

ซูฮยอนมองดูลีจุนโฮที่แสดงสีหน้าไม่ดีออกมาแล้วพูด “เป็นอะไรไป นายคือนักผจญภัยที่ไม่กลัวความตายไม่ใช่หรือไง”

“ใครบอก... ใครๆก็กลัวตายกันทั้งนั้นแหละ จริงสิ ทำไมนายถึงฆ่าเธอละ ในเมื่อยังไงพวกเราก็รอดกันอยู่แล้ว ค่อยไปจัดการเธอข้างนอกก็ได้”

“ถ้าผมไม่ฆ่าเธอแล้วปล่อยเธอไป ยังไงกิลด์ดัมพ์ก็ส่งคนมาฆ่าพวกเราอยู่ดี”

“อ๊าก...ทำไมชีวิตของฉันจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยวะ”ลีจุนโฮจับผมด้วยเองแล้วกรีดร้องราวคนบ้า ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวกิลด์ดัมพ์จนขึ้นสมอง

โชคยังดีที่ คิมเยอึน ยังไม่ได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของกิลด์ดัมพ์

ในการเข้ารวมเป็นสมาชิกของ กิลด์ดัมพ์

ทางกิลด์จะมีบททดสอบให้ผู้เข้าร่วมไปทำ

หากพวกเขาสามารถทำบททดสอบจนผ่าน

ทางกิลด์ดัมพ์ จะพิจารณาอีกทีว่าเขาคนนั้นเหมาะสมหรือไม่ที่จะเข้ารวมกิลด์

และสิ่งที่คิมเยอึนกำลังอยู่ก็คือบททดสอบที่กิลด์ดัมพ์ให้มา

ก็อย่างที่บอกไปเมื่อกี้

ตอนนี้เธอยังไม่ได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของกิลด์ดัมพ์

เพราะฉะนั้นการตายของเธอ กิลด์ดัมพ์คงไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่

และที่สำคัญกิลด์ดัมพ์เองก็ยังไม่อย่างเป็นที่สนใจของสาธารณชนตอนนี้

<<หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้วนะ>>

ซูฮยอนรู้สึกของโทษลีจุนโฮจริงๆ ที่ดึงเขามาเกี่ยวด้วย

แต่อย่างน้อย ลีจุนโฮ ก็ได้รู้แล้วว่ามีกิลด์ที่ชั่วร้ายอย่าง กิลด์ดัมพ์ อยู่

<<ฉันไม่สามารถปล่อยให้กิลด์นี้เติบโตไปมากกว่านี้ได้>>

กิลด์ดัมพ์ เป็นกิลด์ที่มีสมาชิกหลักเป็นเหล่าอาชญากร

ซึ่งพวกมันเปรียบเสมือนเศษเดนของสังคม

และในอนาคตกลุ่มของพวกมันน่ากลัวยิ่งกว่ามอนสเตอร์ซะอีก

การกำจัดกลุ่มกิลด์ดัมพ์ ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของซูฮยอนเช่นกัน

แต่การที่จะทำมันต้อนนี้เป็นเรื่องที่ยากมากๆ

เพราะกิลด์ดัมพ์ยังคงหลบซ่อนตัวในมุมมืดอยู่

“รีบเดินกันเถอะ เสียเวลามานานพอแล้ว” ซูฮยอนพูดพร้อมกลับหันไปมองลีจุนโฮที่เดินก้มหน้าอยู่

“อ่า..ฉันหวังว่าพวกเราคงไม่ตายที่นี่หรอกนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด