ตอนที่ 86 ปล้นค่ายหมู่บ้านออร์ค
ตอนที่ 86 ปล้นค่ายหมู่บ้านออร์ค
เจสเปอร์ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ด้วยร่างกายที่กระชุ่มกระช่วยเหมือนเช่นทุกวัน เขาไม่รู้สึกอ่อนแอเหมือนวันแรกที่ย้อนเวลากลับมาอีกแล้ว ร่างกายของเขามีน้ำมีนวลมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่ได้ดื่มกินอาหารดีในทุกๆเช้า เขาตื่นขึ้นมาและจัดการธุระส่วนตัวเหมือนเช่นทุกวันที่เคยทำ
แต่เมื่อเปิดประตูห้องนอนออก เขามาก็พบแต่ความว่างเปล่า ผ้าม่านในห้องนั่งเล่นยังคงปิดสนิท ทีวีที่เคยส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวในทุกเช้ากลับดำมืด สร้างความสับสนให้กับเจสเปอร์อยู่ไม่น้อย เพราะตามปกติแล้วพี่สาวบับเบิ้ลและเจ้ซันนี่จะสลับกันมาเข้ามาทำอาหารให้กับเขาได้ทานในทุกๆเช้า
เจสเปอร์ลองตรวจเช็คตารางก็พบว่าวันนี้เป็นวันที่เจ้ซันนี่ต้องเข้ามาคอนโด ด้วยความเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเลขาของเขา เจสเปอร์จึงตัดสินใจโทรไปหาเจ้ซันนี่โดยทันที เขารอสายอยู่นานมากจนร้อนใจ ก่อนที่คู่สนทนาปลายสายจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียง งัวเงียเหมือนคนพึ่งตื่นนอน
“ฮัลโหลเจ้ซันนี่ เกิดอะไรขึ้นกับพี่หรือเปล่า”
“ฮาโหลวววว เจสสสว่ายังงงงาย มีอะไรรรถึงงงโทรรมาแต่เช้าาา”
เสียงของเจ้ซันนี่ลากยาวเหมือนคนที่ยังไม่ตื่นนอน พอเจสเปอร์ได้ยินก็พอเดาได้ว่าเธอคงน่าจะยังมีอาการเพลียจากการลากยาว 24 ชั่วโมงเมื่อวานอยู่เลยทำให้ตื่นสายแบบนี้
“อ้อ ไม่มีอะไรครับ นอนต่อเถอะครับวันนี้ผมให้ลาหนึ่งวัน...”
“คร่อกกกก…zZz”
ยังไม่ทันที่เจสเปอร์จะพูดจบเจ้ซันนี่ก็หลับไปแล้วโดยที่โทรศัพท์ยังคาอยู่ เสียงกรนของเธอดังเล็ดลอดออกมาจนเขารู้สึกละอายอยู่บางที่ทำให้คนรอบข้างต้องเหน็ดเหนื่อย แต่ถึงยังไงเขาก็เชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกิลด์ของเขาอยู่ดี ไม่ให้ฝึกวันนี้แล้วจะให้รอไปถึงวันไหนถึงจะเริ่มทำ
ทุกคนต่างรู้ดีว่ากิลด์อื่นๆพัฒนาไล่ตามมามากขึ้นทุกวัน หากพวกเขามั่วแต่ชะล่าใจคิดว่าตัวเองเป็นที่หนึ่งอยู่แบบนั้น ไม่นานก็จะถูกกิลด์อื่นที่เร่งเครื่องไล่ตามมาวิ่งแซงไป เมื่อวันนั้นมาถึงพวกเขาคงได้แต่โทษตัวเอง
ส่วนสิ่งที่เจสเปอร์ทำลงไปนั่นเขาได้คิดไตร่ตรองมาถี่ถ้วนแล้วว่าอยู่ในกรอบที่ทุกคนรับไหวและไม่ส่งผลกระทบกับร่ายกายมากเกินไปนัก เพราะถ้าเทียบแล้ว มันคือ 12 ชั่วโมงในชีวิตจริงเท่านั้นเอง
............
เจสเปอร์ออนไลน์กลับเข้าเกมอีกครั้งหลังจากที่ได้กินอาหารเช้าฝีมือตัวเองจนอิ่มท้อง เขาปรากฏตัวขึ้นในเต๊นท์สนามที่คุ้นเคยที่ทุกคนต่างใช้เป็นที่ออฟไลน์เพื่อฟื้นฟูค่าความเหนื่อยของตัวละคร พลางตรวจเช็ครายชื่อของเพื่อนในกิลด์ว่ามีใครออนไลน์อยู่บาง ในรายชื่อทั้งหมดของเขาล้วนเป็นสีเทาแสดงสถานะว่าไม่ได้เชื่อมต่อออนไลน์ กินพื้นที่ไปเกินครึ่ง ส่วนที่ออนไลน์สีเขียวสว่างสุกใสมีเพียงแค่ทวิสเต็ดและริคเตอร์เท่านั้น
เจสเปอร์ LV.32
อามมี่ LV.30
โบม่อน LV.30
ลูอิส LV.30
หิมะน้อย LV.27
ริคเตอร์ LV.28 [Online]
ไอรีน LV.26
ซันนี LV.25
ทวิสเต็ด LV.28 [Online]
คลูเอล LV.22 (เมือง อีรูไดซ์) [Online]
บับเบิ้ล LV.24
สลิป LV.29
[อยู่ไหนกัน ฉันมีเรื่องที่จะทำกับคลาซ่าสนใจมาด้วยกันไหม]
เจสเปอร์ส่งข้อความลงช่องสื่อสารของกิลด์เพื่อติดต่อกับคนทั้งสอง ชายหนุ่มรอเพียงไม่นานก็มีข้อความตอบกลับ
[ผมอยู่กับพี่ทวิสเต็ด ที่ด้านหน้าของหมู่บ้านออร์คเมื่อวาน เพื่อเรียนรู้การหลบหลีกจากพี่ทวิสเต็ดอยู่ครับ]
นับว่าเป็นเด็กที่ไฟแรงถูกใจเจสเปอร์เป็นอย่างมาก หากคิดที่จะเรียนรู้เรื่องการหลบหลีกคนที่จะสอนหลักการพื้นฐานได้ดีนอกจากตัวเขาแล้วก็คงมีแต่ทวิสเต็ดนักฆ่าฝีมือดีเท่านั้นที่พอจะสอนได้
เจสเปอร์ออกเดินทางไปตามพิกัดที่ริคเตอร์ทิ้งไว้ให้ โดยระหว่างทางก็ได้เรียกตัวคลาซ่าและช่างตีเหล็กอีก 1 คนติดตามมาด้วย ส่วนที่เหลืออีก 3 คนเขาให้เฝ้าอยู่ที่เต๊นท์เพื่อป้องกันมอนสเตอร์ป่าจู่โจมแคมป์ของพวกเขาในระหว่างที่คนอื่นยังไม่มา
เมื่อเจสเปอร์เดินทางไปถึงพิกัดที่ทั้งริคเตอร์และทวิสเต็ดก็เห็นทั้งคู่กำลังต่อสู้อยู่กับฝูงออร์คจำนวนหนึ่งด้วยท่าทางสบายๆ การเคลื่อนไหวของริคเตอร์ดูดีขึ้นจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางการหลบก็ไม่ได้เก้กังๆอีกต่อไป ขาทั้งสองข้างก็ปักหลังกับพื้นไว้แน่นอย่างมั่นคง ส่วนท่อนบนก็โยกหลบตามจังหวะและลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นทิ้งไป
เมื่อลูกศิษย์กล่าวหน้ามีหรือที่อาจารย์จะไม่ดีใจ เจสเปอร์ที่มองดูอยู่นานก็เดินเข้าไปลูบหัวน้องชายคนนี้ด้วยความเอ็นดู พลางกล่าวชื่นชมถึงความเอาใจใส่ต่อการพัฒนาของริคเตอร์ด้วยความจริงใจ
“เอาล่ะฉันมีเรื่องสนุกให้พวกเราทำระหว่างที่รอคนอื่นกลับมา พวกนายสองคนสนใจไหม”
ทั้งสองคนนี้ตอบรับอย่างรวดเร็วตามสไตล์ของทั้งคู่ ทวิสเต็ดใครจะให้ทำอะไรก็ได้อยู่แล้วขอเพียงมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องดังคำที่ว่า ‘เงินมางานก็เดิน’ ส่วนริคเตอร์ที่เป็นพวกคลั่งไคล้เจสเปอร์จากกิลด์ Rising Sun เป็นทุนเดิมอยู่แล้วขอแค่เพียงเจสเปอร์สั่งเด็กน้อยคนนี้ก็จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ภายในบริเวณหมู่บ้านออร์คหลังจากที่เจสเปอร์และเพื่อนๆมาช่วยกันถล่มเอาไว้เมื่อวันก่อนจนราบเรียบ บัดนี้ก็เริ่มมีออร์คจำนวนหนึ่งเกิดขึ้นมาอีกครั้งไม่มากไม่น้อย ที่เจสเปอร์มองว่าพวกเขา 3 คนกับอีก 2 NPC น่าจะพอรับไหว
“สิ่งที่ฉันจะให้พวกนายได้ทำในวันนี้ก็คือการออกปล้นค่าย”
เจสเปอร์อธิบายแผนการด้วยสีหน้ายิ้มเหมือนเช่นทุกทีที่เคยทำแต่สำหรับทวิสเต็ดนั้นกลับมองต่างรอยยิ้มแบบนี้ถ้าออกมาจากคนอื่นคงไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้ามันมาจากหันหน้ากิลด์ของตนแล้วละก็ไม่ใครก็ต้องใคร ต้องมีช้ำใจกันไปข้าง
“แล้วเราจะปล้นกันยังไง? เมื่อวานที่ฉันลากพวกมัน ก็เข้าออกหมู่บ้านแห่งนี้จนเกือบครบทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่เห็นจะมีสิ่งของมีค่าอะไรเลย” ทวิสเต็ดถามด้วยความสงสัยเพราะเมื่อวานเขาก็เดินไปจนทั่วตามที่พูดจริงๆ แต่ก็ไม่เห็นจะมีไอเท็มอะไรที่น่าสนใจเลยสักนิด
“ครั้งนี้ไม่ใช่เราที่ปล้น แต่เป็นสองคนนี้” เจสเปอร์ดันคลาซ่าและช่างตีเหล็กอีก 1 คนมาข้างหน้า ช่างตีเหล็กคนนี้ก็คือ Brokk หรือ NPC ช่างตีเหล็กที่เจสเปอร์ได้ช่วยเอาไว้จากเงื้อมมือของราชินีเมดูซ่า ที่ขุนเขาแรร์เอิร์ธเมื่อนานมาแล้วนั้นเอง
เป็นอีกครั้งที่เจสเปอร์เดินออกนำขบวนเข้าสู่ใจกลางหมู่บ้านออร์ค เจสเปอร์เปลี่ยนเครื่องแต่งกายของเขาเป็นชุดเซ็ต Arcane Magic ที่ได้รับเป็นของรางวัลจากองค์หญิงซีซีเลีย ที่เมืองแซนนิกซ์ เครื่องแต่งกายของเขา Arcane Magic Set ล้วนเป็นสีดำทั่วทั้งตัวให้ดูลึกลับ ตัดด้วยแถบสีแดงตามข้อต่อต่างๆเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้มากขึ้น ด้านบนคอเสื้อมีโซ่เส้นเล็กเกี่ยวรั้งกับแถบตราสัญลักษณ์ทองรูปพระอาทิตย์ส่องแสงที่ติดอยู่ตรงอกเอาไว้ ขับความน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อยเมื่อยามต้องกระทบกับแสดงแดด
โดยในส่วนของตราสัญลักษณ์มีผ้าเล็กผืนเล็กเย็บติดอยู่ด้านข้างห้อยเอาไว้ เผื่อยามใดต้องการปกปิดตัวตนและสถานะ ก็สามารถดึงผ้าขึ้นเกี่ยวปิดตรากิลด์พระอาทิตย์สีทองเอาไว้ได้
นับเป็นชุดที่ดูดีเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับบรรดาชุดที่ผู้เล่นทั้งหมดสวมใส่อยู่ในขณะนี้ แต่ความเท่หรือความสวยงามในรูปลักษณ์ล้วนไม่จีรังยั้งยืน ทักษะความสามารถต่างหากที่จะเป็นตัวชี้วัดคุณค่าของคน
เจสเปอร์หยิบดาบประจำตัวของเขาขึ้นมาพร้อมกับฟาดฟันมันลงที่ออร์คชั้นสูงตัวหนึ่งที่วิ่งเข้าใส่กลุ่มของเขา เจสเปอร์ก้มตัวต่ำเล็กน้อยก่อนที่จะพุ่งทะยานออกไปด้วยความรวดเร็ว แสงแดดที่กระทบกับตราสัญลักษณ์สีทอง สะท้อนภาพชายหนุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวให้โดนเด่น ทิ้งลำแสงสีทองจางๆเอาไว้เมื่อพัดผ่าน
‘โฮกกกก’
ออร์คตัวหนึ่งร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ความเสียหายที่เจสเปอร์ทำเอาไว้ส่งผลให้ออร์คขั้นสูงตัวหนึ่งเกือบต้องสลายหายไปด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ความสามารถพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาจากชุด Arcane Magic ความหายากเกรด Rare ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้
ชุดเซ็ต Arcane ยังช่วยให้ผลของการสุ่มเวทย์มนต์จาก Auto Spell เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทำให้ทุกๆครั้งที่เจสเปอร์โจมตีออกไปจะมีการสุ่มเวทย์มนต์เข้าโจมตีศัตรูด้วยผลของสกิล Auto Spell
ซึ่งความรุนแรงของเวทย์มนต์ที่เจสเปอร์สุ่มออกมานั่นก็ไม่ใช่เวทย์มนต์กระจอกๆอย่างที่ผู้ควบคุมธาตุคนอื่นทำได้ แต่มันรุนแรงและส่งพลังจนเทียบเท่า ผู้เล่นสายอาชีพจอมเวทย์เลยทีเดียว
ด้วยค่าสถานะและความเหนือล้ำทางอุปกรณ์ ส่งผลให้เจสเปอร์กลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระยะประชิด หรือ การต่อสู้ด้วยเวทย์มนต์
เมื่อเจสเปอร์ออกโรงกรุยทาง เหล่าฝูงออร์คก็ไม่อาจต้าน ริคเตอร์และทวิสเต็ดที่ไล่ตามมาสมทบก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น เพียงแค่อัพเกรดอุปกรณ์ขึ้นหนึ่งขั้น ก็ทำให้หัวหน้ากิลด์ของพวกเขาแข็งแกร่งได้มากขนาดนี้เชียว
“หัวหน้าไม่คิดจะเหลือให้พวกเราฝึกซ้อมกันหน่อยหรอ!!” ริคเตอร์พูดอย่างเซ็งๆ พลางเหวี่ยงดาบที่อยู่ในมือไปมาเพื่อแก้เบื่อ
“ไม่ต้องห่วงว่าจะว่างงานไปริคเตอร์ พี่คนนี้ไม่เคยปล่อยให้พวกนายว่างหรอก คลาซ่า Brokk ออกค้นหาได้เลย ตรงนี้พวกเราจะจัดการเอง” เจสเปอร์ขยิบตาส่งไปทาง ทวิสเต็ดและริคเตอร์ด้วยท่าทีกวนๆ ก่อนจะออกคำสั่งให้กับ NPC คลาซ่าและBrokk ให้เริ่มแผนการ
กระโจมของหมู่บ้านออร์คนั่นตั้งหันหน้าเข้าชนกัน เหมือนกับมนุษย์ในยุคหิน ที่พักอาศัยของพวกมันทำด้วยไม้ และตกแต่งประดับประดาด้วยซากสัตว์ นานาชนิด ซึ่งพวกออร์คเองก็มีระบบการแบ่งชนชั้นเหมือนเช่นมนุษย์ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากเครื่องประดับที่พวกมันสวมห้อยคอหรือการแต่งตกแต่งบ้านตามสไตล์ของพวกมัน
คลาซ่าและBrokk ได้เข้าไปตามบ้านเรือนต่างๆเพื่อขุดหาแร่ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะลงมือตอกมุดเพื่อขุดแร่ออกมา ระบบที่ปกป้องไอเท็มเอาไว้ก็ได้เริ่มทำงาน ออร์คจำนวน 3-4 ตัววิ่งออกมาจากกระโจมหลังใหญ่ที่อยู่ตรงกลางหมู่บ้าน อย่างดุดัน ก่อนที่จะเข้าขับไล่ผู้บุกรุกที่บังอาจมาขโมยไอเท็มจากเผ่าของมัน
“เอาเลย พวกนี้ฉันยกให้นายสองคน” ออร์คที่เฝ้าสมบัติแตกต่างจากออร์คขั้นสูงอยู่เล็กน้อยตรงที่ว่าพวกมันมีสีผิวเป็นสีเทาคลุมทับด้วยหนังสัตว์และค่อนข้างที่จะดุร้ายกว่า ในเมื่อเจสเปอร์ได้บอกเอาไว้แต่แรกแล้วว่าเขาจะให้โอกาสริคเตอร์ได้ฝึกซ้อม เขาที่เป็นหัวหน้ากิลด์จะมากลืนน้ำลายตัวเองได้อย่างไร
เจสเปอร์เดินหลบออกไปด้านข้างเปิดพื้นที่ให้กับริคเตอร์ได้รับมือกับออร์คที่วิ่งเข้ามา ออร์คมีร่างกายใหญ่กว่ามนุษย์อยู่เกือบ 2 เท่าตัว ก่อนที่โถมน้ำหนักตัวเองชนกับร่างของริคเตอร์ที่มีโล่คอยป้องกัน
‘ตูม’
ริคเตอร์ใช้เท้าทั้งสองยืนปักหลักด้วยความมั่นคง เพื่อรับแรงกระแทกที่ถาโถมเข้าใส่ แต่นั้นก็ยังไม่อาจต้านแรงของออร์คเอาไว้ได้เลย ร่างของริคเตอร์ปลิวกระเด็นไปจากจุดเดิมเกือบ 1 เมตร
“ประเมินศัตรูทุกครั้งที่คิดจะต้านรับ เพื่อใจรับแรงกระแทกเอาไว้บางจะได้ตั้งหลักได้ถูก” เจสเปอร์ยืนกอดอกเสมือนติวเตอร์ ชี้จุดบกพร่องและแนะนำวิธีที่ถูกต้องให้กับริคเตอร์ด้วยความใจเย็น “ลองอีกครั้ง!! ทวิสเต็ดจัดการด้านนู้นเสร็จแล้วช่วยมาเอาอีกตัวไปที มันเกะกะน้องเวลาฝึก”
“. . .”
คำชี้แนะมาแนะนำให้กับผู้ที่มีพรสวรรค์ ไม่นานก็จับหลักการได้ คราวนี้ริคเตอร์ไม่ได้ฝืนรับพลังตรงๆของออร์คอีกต่อไปแล้ว เขาเลือกที่จะหลบออกข้างตามที่ได้รับการฝึกจากเจสเปอร์และทวิสเต็ด พร้อมกับหันปลายดาบ ฟันเข้าที่หลังออร์คอย่างแรง
‘โฮกกกก’
เสื้อหนังสัตว์ที่ออร์คสวมใส่ฉีกขาดทันที เผยให้เห็นแผ่นหลังสีเทาที่โชกไปด้วยเลือดจากคมดาบ มันหันกลับมามองผู้พิทักษ์หนุ่มด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกับส่งขวานในมือกระหน่ำตีเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่ทุกๆการโจมตีของมันก็ล้วนแล้วแต่ถูกโล่อันหนาเตอะของริคเตอร์รับไว้ได้ทุกครั้งไป
‘เกร้ง’ ‘เกร้งงง’
ในช่วงจังหวะที่ขวานถูกฟาดลงมา ริคเตอร์ที่ได้รับคำชี้แนะมาจากเจสเปอร์และทวิสเต็ดก็ได้สำแดงเดช เด็กหนุ่มเลื่อนตัวออกด้านข้างตามจังหวะขวานที่สับลงมา
‘Miss!!’
ออร์คโจมตีพลาดเป้าแล้ว มันสูญเสียหลักเล็กน้อย ทำให้ลำตัวของมันเซถลามาด้านหน้า ที่มีดาบดูดเลือดเล่มใหญ่รอต้อนรับ ‘ฉึก’ ปลายดาบของริคเตอร์แทงทะลุผ่านลำตัวออร์คอย่างรุนแรง ก่อนที่จะส่งร่างที่ใหญ่โตของมันให้กลายเป็นฝุ่นควัน
“เยี่ยม” เจสเปอร์ตบมือให้กับสิ่งที่ริคเตอร์แสดงออกมาด้วยความชื่นชม ก่อนที่จะมอบคำชมเชยไปถึงทวิสเต็ดที่อยู่อีกฝั่งด้วยเช่นกัน
ถึงยังไงเขาก็ต้องชมทวิสเต็ดบางเพราะนักฆ่าผู้โดดเดี่ยวคนเดียวสามารถจัดการออร์คเฝ้าสมบัติไปได้ถึง 3 ตัวแถมยังใช้เวลาน้อยกว่าริคเตอร์ผู้พิทักษ์ที่รับมือออร์คแค่ตัวเดียว อีกต่างหาก
“. . .”
...โปรดติดตามตอนต่อไป...