บทที่ 62
การสังหารหมู่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีผู้ใดรู้สึกตัวแม้แต่น้อย ทันทีลูกศรหน้าไม้พุ่งเสียบศีรษะคนผู้หนึ่งของสำนักกิเลนไฟ ปราณมีดสีม่วงก็พุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เกิดการปะทะพิษร้ายก็กระจายออกไป หนึ่งคนตกตายลงทันทีเพราะลูกศรหน้าไม้ สองคนตกตายลงจากปราณมีด อีกสามคนทุกข์ทรมานจากพิษร้าย ไม่นานคนทั้งห้าก็ตกตายลงไป ไม่แม้รู้กระทั่งว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ หยางเวยจัดการรูดทรัพย์ของคนทั้งห้าอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น เนี่ยฟงก็เทผงทำลายซากศพทั้งห้าอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้งสองคนก็พุ่งทะยานหลบหนีไป
ตลอดทั้งวันทั้งสองคน ไล่ล่าสังหารศิษย์สำนักกิเลนไฟเป็นว่าเล่น ไม่มีการพูดจาใดใด ทันทีที่พบตัวหรือกลุ่มคน ไม่ถึงหนึ่งเค่อทั้งหมดที่เนี่ยฟงและหยางเวยพบเจอ ล้วนตกตายอย่างอนาถ ไม่แม้แต่จะรับรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับตน ทั้งสองลงมือได้เฉียบคมยิ่ง หยางเวยเข้าปะทะด้านหน้าใช้ออกด้วยลมปราณที่มีพิษร้าย เนี่ยฟงอยู่ด้านนอกคอยสังเกตรอบนอกและใช้หน้าไม้เป็นอาวุธสังหารจากระยะไกล แหวนจำนวนหลายสิบวงอยู่ในการครอบครองของหยางเวย มีทั้งเม็ดยา อาวุธ คัมภีร์ เงินอีกจำนวนไม่น้อย
ย่างเข้าวันที่สิบ ทั้งสองยังคงออกไล่ล่าสังหารศิษย์สำนักกิเลนไฟอย่างต่อเนื่อง ช่วยเหลือเพื่อนในสำนักด้วยกันก็หลายกลุ่ม ยามบ่ายของวันนั้นเอง ในระหว่างที่สังหารสัตว์อสูรเสือดำระดับสีม่วงตัวหนึ่ง เนี่ยฟงก็ฝ่าศีรษะนำแก่นพลังปราณออกมา ทั้งสองก็พบเจอกับกลุ่มของจงเหรินป้าและหยางเฟยพร้อมกับคนติดตามรวมทั้งหมดเก้าคนมีสองคนที่ได้รับบาดเจ็บเดินเข้ามาในบริเวณที่ทั้งสองอยู่ จงเหรินป้าและหยางเฟยทั้งสองจ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา เนี่ยฟงโบกสะบัดมือโยนขวดยาสีขาวนวลให้แก่จงเหรินป้า
“ในนั้นมีเม็ดยารักษาบาดแผล พวกเจ้าใช้มันรักษาคนในกลุ่มของพวกเจ้าเถอะ”
“เหอะ อย่ามาทำเป็นเห็นใจ หากไม่ใช่เจ้าเล่นงานพวกข้าในการประลอง มีหรือพวกข้าจะได้รับบาดเจ็บจากศิษย์สารเลวสำนักกิเลนไฟ”
เนี่ยฟงที่ได้ยินหยางเฟยกล่าวก็ขมวดคิ้วหาได้กล่าวสิ่งใด เป็นหยางเวยกล่าววาจาตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้า
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทั้งหลายคิดสั่งสอนเนี่ยฟงหรอกรึ ถึงได้ส่งผู้คนมากมายขึ้นต่อสู้ ข้าต้องขอบใจพวกเจ้ามากเช่นกัน หากไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ได้รับเม็ดยาจากการพนันในวันนี้หลายหมื่นเม็ด”
หยางเฟยถึงกับสบถออกมาเสียงดัง
“บัดซบไอ้ลูกหมาเจ้ากล่าวอันใด อยากเจ็บตัวเช่นในอดีตรึ ถึงแม้เราจะแซ่หยางเหมือนกัน แต่เจ้าเป็นเพียงแค่เด็กที่ท่านอาเก็บมาเลี้ยง หาใช่คนตระกูลหยาง ขยะมักอยู่รวมกันอยู่แล้ว”
หยางเวยหาได้หวาดกลัวหยางเฟยเช่นในอดีต จ้องมองกลับอย่างไม่วางตา
“เช่นนั้นเรามาตัดสินกันที่นี่หรือไม่หยางเฟย ว่าขยะที่เจ้ากล่าวออกมาจะจัดการเจ้ายังไง”
“เหอะ อย่าคิดว่ามีเนี่ยฟงอยู่ข้างๆแล้วจะกล่าวสิ่งใดก็ได้ เอาสิข้าอยากรู้เช่นกันว่าเจ้ามีได้แค่ไหน”
หยางเฟยที่ตอนนี้เริ่มที่จะมีอารมณ์จากการที่หยางเวยกล่าวยั่งยุ เดินออกมาจากกลุ่ม หยางเวยก็เช่นกันหันไปมองเนี่ยฟงแล้วเดินออกมาเช่นกัน เนี่ยฟงทำได้เพียงส่ายศีรษะไปมา ไม่ถึงสองลมหายใจเนี่ยฟงก็นำแผนที่ออกมาดูแล้วตะโกนแจ้งต่อหยางเวย
“หยางเวยพอเถอะ เราต้องรีบไปแล้ว อย่าเสียเวลาที่นี่”
หยางเวยหันไปมองเนี่ยฟงที่ถือแผ่นหนังอยู่ก็พอจะรับรู้ว่าเกิดสิ่งใด หลังจากนั้นก็เดินหันกลับมา เพียงแต่ว่าหยางเฟยไม่คิดเช่นนั้น พุ่งทะยานเข้าหาพร้อมกับซัดฝ่ามือขวาออกมา หวังจัดการหนางเวยที่หันหลังให้ แต่ทว่าไม่เป็นเช่นนั้น หยางเวยหันกลับมาพร้อมกับซัดฝ่ามือขวาออกมาเช่นกัน เปรี้ยง ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันเป็นหยางเฟยที่กระเด็นออกมาแทน กระอักเลือดออกมานอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือขวาที่เข้าปะทะเมื่อครู่เกิดเป็นรอยช้ำสีม่วงเพราะได้รับพิษ หยางเวยไม่กล่าววาจาใดออกมาทั้งสิ้น โยนขวดยาสีขาวนวลให้จงเหรินป้า
“นั้นคือยาถอนพิษ นำไปรักษาหยางเฟยเถอะ อีกอย่างพวกเจ้ารีบหลบหนีออกจากที่นี่เถอะ คนของสำนักกิเลนไฟกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่”
จงเหรินป้าเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พวกเจ้าทั้งสองรู้ได้อย่างไรกัน”
เนี่ยฟงโยนแผ่นหนังให้แก่จงเหรินป้า
“มันคือแผนที่อักขระศักดิ์สิทธิ์ ข้าได้มันมาจากศิษย์สำนักกิเลนไฟ มันสามารถตรวจจับและซุ่มโจมตีพวกเรา ดั่งเช่นที่พวกเจ้าเคยประสบมา”
จงเหรินป้าโคจรลมปราณไปที่แผ่นหนังไม่นานก็ปรากฏเป็นแผนที่ออกมา
“บัดซบ ไอ้พวกสารเลว”
เนี่ยฟงเมื่อสิ่งที่ควรบอกกล่าวก็ทำไปแล้ว เม็ดยาสำหรับรักษาบาดแผลก็ให้แล้ว เมื่อไม่มีอะไรให้อยู่ต่อจึงคิดหลบออกไป
“หากไม่มีสิ่งใดแล้วข้าทั้งสองต้องขอตัวก่อน”
เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นเนี่ยฟงและหยางเวยก็พุ่งทะยานออกไป
“ข้าขอบใจพวกเจ้ามาสำหรับข้อมูลและแผนที่”
เป็นจงเหรินป้าที่ตะโกนเอ่ยวาจากล่าวขอบคุณทั้งสอง ในระหว่างที่พุ่งทะยานไปตามกิ่งไม้ เนี่ยฟงก็เอ่ยถามบางอย่างออกมา
“เหตุใดเจ้าถึงได้มอบยาถอนพิษให้แก่หยางเฟย”
“เหอะ กล่าวตามตรงข้าสมควรที่จะปล่อยให้มันผู้นั้นตกตายไป แต่ก็ทำไม่ได้หากไม่เพราะคนตระกูลหยางเก็บข้ามาเลี้ยง บุญคุณที่ถูกชุบเลี้ยงมาข้ามิอาจตัดใจสังหารหยางเฟยได้”
“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้วสิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรกระทำทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเจ้า ตอนนี้ข้าว่าเจ้าเตรียมตัวเถอะ ด้านหน้ามีคนของสำนักกิเลนไฟอยู่”
ทันทีที่เข้ามาบริเวณก็ได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้น พบเห็นศิษย์สำนักกิเลนไฟสี่คนสังหารคนของราชสำนักจำนวนห้าคนอยู่ ศิษย์ผู้หนึ่งฟาดฟันดาบออกไป ปราณดาบสีแดงพุ่งเข้าหาร่างชายผู้หนึ่งของราชสำนักร่างกายระเบิดออกพร้อมกับมีสะเก็ดไฟลุกไหม้ แน่นอนว่าเนี่ยฟงจดจำได้ดีเพราะดาบเล่มนั้นตนเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง หยางเวยเมื่อเห็นว่าเนี่ยฟงยืนนิ่งก็เอ่ยถามอีกครั้ง
“เจ้าจะลงมือสังหารพวกมันหรือไม่ ดาบของมันผู้นั้นช่างร้ายกาจยิ่งนัก”
“แน่นอน เจ้าจัดการสามคนที่เหลือ ส่วนผู้ที่ถือดาบเล่มนั้นข้าจะจัดการเอง”