ตอนที่ 84 วนเวียนไม่สิ้นสุด
ตอนที่ 84 วนเวียนไม่สิ้นสุด
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่เจสเปอร์และเจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 ได้ลักลอบเข้าไปยังห้องของเสนาบดีอีกอร์ยามค่ำคืนเพื่อขโมยแผนที่ของกลุ่มผู้ต่อต้านที่อยู่รอบนอกเมืองแซนนิกซ์ แต่ในขณะที่เขาค้นหาอยู่นั่น เจสเปอร์ก็ได้เหลือบไปเห็นเอกสารบางอย่างถูกวางที่เอาไว้ โดยใจความภายในของกระดาษแผ่นนั่นได้เขียนถึงการ ยกทัพขององค์หญิงซีซีเรียมาที่เมืองแซนนิกซ์ พร้อมกับบอกให้เสนาบดีอีกอร์เตรียมตัวรับมือให้ดีอีกด้วย
ก่อนที่เจสเปอร์จะหยิบจดหมายที่ว่านั้นออกมาจากช่องเก็บของของเขา พร้อมส่งให้กับองค์หญิงได้อ่านมัน ความเงียบเข้าปกคลุมประตูด้านหลังปราสาทไปชั่วขณะ เหล่าองค์รักษ์และทหารต่างตกใจกับเรื่องราวที่ซับซ้อน
“ดูเหมือนว่าที่เมืองอีรูไดซ์เองก็มีหนอนบ่อนไส้” องค์หญิงพูดออกมาเบาๆ มือของเธอกำจดหมายเอาไว้แน่น ก่อนที่เธอจะหันมามองผู้กล้าที่เปรียบดังสหายสนิทด้วยความขอบคุณ
เธอเข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมเจสเปอร์ถึงขอติดตามอารักขาเธอกลับเมืองด้วยในครั้งนี้ด้วยตัวเอง แถมเมื่อเช้าชายหนุ่มยังมาเคาะประตูรถม้าของเธอเพื่อเสนอแผนการสุดประหลาดนี้อีก ทั้งหมดก็เพื่อ ปกป้องเธอสินะ
แม้องค์หญิงซีซีเรียจะกลัวเรื่องที่มีคนลอบปองร้ายอยู่บาง แต่ความรู้สึกที่แปลกๆที่เธอไม่สามารถอธิบายได้กลับทำให้เธอลืมเรื่องน่ากลัวพวกนั้นไปเสียสนิท ความรู้สึกนี้มันยังไงกัน มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน แม้จะเป็นความรู้สึกที่เธอไม่รู้จักแต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเธอชอบมัน
ธุระของเจสเปอร์เสร็จสิ้นลงแล้วหลังจากที่เขาส่งองค์หญิงซีซีเรียกลับเข้าประสาทได้สำเร็จ เควสพิเศษที่คุ้มกันองค์หญิงกลับเมืองอัลคาเดียก็จบลง ซึ่งของรางวัลก็เป็นเพียงแค่ค่าชื่อเสียงเล็กๆน้อยเท่านั้น
ก่อนที่เจสเปอร์จะรีบมุ่งหน้ากลับไปยังสมาคมช่างตีเหล็ก ตามที่ได้นัดหมายกับสมาชิกคนอื่นเอาไว้ แต่ทันทีที่เจสเปอร์ปรากฏตัวคำถามจากเพื่อนของเขาก็พรั่งพรูถามเขาจนแทบจะตั้งตัวไม่ทัน
“นายมาดูนี้ก่อนเถอะ จะได้เข้าใจถึงคำถามของพวกเรา” เจ้ซันนี่รีบเปิดคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ของไอเดนที่ขว้างทางขบวนเสด็จให้กับเจสเปอร์ได้ดูพลางถามถึงความจริงที่ว่าคนที่อยู่ในรถม้าเป็นใคร แต่ก่อนเจ้ซันนี่จะพูดคำถามออกเต็มประโยค มือของเจสเปอร์ก็ยกขึ้นมาปิดไว้และส่งสายตาเตือนเธออย่างรวดเร็ว
“ที่นี้ไม่ค่อยปลอดภัย พวกเราไปคุยกันข้างในเถอะ” เจสเปอร์นำสมาชิกทั้งหมดกลับเข้าไปยังโรงตีเหล็กที่ถูกดัดแปลงให้เป็นที่ส่วนตัวของกิลด์ Rising Sun เมื่อประตูที่แน่นหนาถูกปิดลง ชายหนุ่มก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เขารับรู้มาให้กับเพื่อนของเขาได้ฟัง
“แสดงว่าเควสขององค์หญิงซีซีเรีย ยังไม่จบเพียงแค่นี้ใช่ไหม”
“ฉันคิดว่ามันยังมีต่อ แต่ถ้าฉันคาดเดาไม่ผิด AI.อัลฟ่าคงไม่ปล่อยเรื่องราวต่อไปออกมาในเวลานี้หรอก”
เจสเปอร์มองใบหน้าของเพื่อนๆที่เต็มไปด้วยความสงสัยสักพักหนึ่งเพื่อให้แต่ละคนได้มีเวลาย่อยข้อมูลและคิดวิเคราะห์ร่วมกัน
“ที่ยังไม่ปล่อยออกมาเวลานี้ก็เพราะว่ายังไม่มีผู้เล่นคนไหนจะสามารถพิชิตเนื้อเรื่องบทต่อไปได้ใช่ไหม”
“ถูกต้อง”
หลังจากที่ได้ฟังเจสเปอร์เล่ามาเกือบทั้งหมดในที่สุดแล้ว โบม่อน ก็เป็นคนแรกที่เข้าใจหลักสำคัญของ The Era Online สักที
ตามหลักแล้วเควสทุกเควสในเกม The Era Online จะถูกแบ่งตามความยากง่ายอยู่แล้วเป็นพื้นฐานซึ่งจะระบุตั้งแต่ต้นแล้วว่าเควสอยู่ในระดับไหน ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ตามความสมัครใจ แต่กับเควสเนื้อเรื่องจะไม่มีเกณฑ์วัดที่ตายตัวเหมือนเควสทั่วๆไป โดยคนที่จะมารับเควสเนื้อเรื่องได้นั่น ผู้เล่นจะต้องผ่านข้อกำหนดบางอย่างให้ได้เสียก่อนถึงจะรับเควสไปได้ และข้อกำหนดที่ว่าอาจจะเป็นอะไรก็ได้อย่างเช่น ค่าความสนิท ค่ายศศักดิ์รวมถึงเลเวลของผู้เล่น
“ฉันยังสงสัยอีกเรื่อง ในเมื่อนายบอกว่าห้องของเสนาบดีอีกอร์เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย แล้วทำไมวันนั้นนายถึงห้ามพวกเราไม่ให้ไปค้นหาสมบัติพวกนั่นละ”
“ก็เพราะมันเสียเวลายังไงล่ะ”
เจสเปอร์ตอบกลับแบบขอไปที พลางหยิบไอเท็มออกมาจากช่องเก็บของ ที่มีทั้งแร่ต่างๆ อุปกรณ์ อาวุธคุณภาพดี รวมถึงแบบแปลนสูตรน้ำยา และแบบแปลนคัมภีร์อีกนับสิบ ไอเท็มมากมายกองพะเนินอยู่บนโต๊ะ ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วมาจากห้องของเสนาบดีอีกอร์ในคืนวันที่เจสเปอร์และเจ้าชายเอ็ดมันด์ลักลอบเข้าไป
เรียกได้ว่าภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่เสนาบดีอีกอร์ออกไปจัดขบวนทหารเพื่อออกตามล่าเขาและเจ้าชาย เจสเปอร์ก็ได้อาศัยช่วงเวลานั่นยกเค้าสมบัติของเสนาบดีอีกอร์ไปจนเกือบหมดแล้ว และที่เขาเสียเวลาอยู่นานจนต้องให้เจ้าชายตามก็เพื่อคัดสรรไอเท็มที่ถูกใจนั่นเอง
“...”
ไม่มีใครที่จะพูดอะไรออกมาได้อีก เหล่าสหายสนิทของเจสเปอร์บัดนี้ยอมรับแล้วว่า ชายตรงหน้าของพวกเขาไม่ใช่ผู้ควบคุมธาตุตามคลาสอาชีพอีกต่อไปแต่เป็นมหาโจรดีๆนี้เอง ซึ่งสาเหตุที่เจสเปอร์ไม่ได้บอกเพื่อนเขาตั้งแต่แรกก็เพราะว่า หาก NPC เมืองแซนนิกซ์ล่วงรู้ว่าเขาเป็นคนขโมยไอเท็มพวกนี้จากห้องของเสนาบดีอีกอร์แล้วละก็คนที่เดือดร้อนอาจจะเป็นเขาก็เป็นได้
“พวกนายลองดูอุปกรณ์พวกนี้ก่อนว่ามีชิ้นไหนที่ถูกใจบาง ถ้าชอบก็หยิบไปได้เลยส่วนแบบแปลนเจ้ซันนี่คัดแยกออกมาให้ผมหน่อยก็แล้วกัน เพราะตอนหยิบแบบแปลนผมกวาดมาหมดในที่เดียวไม่ได้เลือกเหมือนอุปกรณ์พวกนี้”
เหล่าสมาชิกกิลด์ Rising Sun ตาลุกวาวในทันทีเมื่อเจสเปอร์อนุญาต ก่อนที่อามมี่จะหยิบรองเท้าของคลาสอาชีพตัวเองออกมาลองสวมดู แต่เจสเปอร์ยังไงก็คือเจสเปอร์อยู่วันยังค่ำ
“อามมี่นายชอบร้องเท้านั่นหรอ ฉันกะแล้วว่านายต้องชอบมัน ฉันคิดถูกๆ 100 เครดิตหักจากเงินของนายเดือนนี้ก็แล้วกัน”
“เจสไอ้!!เพื่อนเวร”
หลังจากที่พวกเขาเลือกของที่ต้องการจากกองไอเท็มที่เจสเปอร์หามาจนครบทุกคนแล้ว เจ้ซันนี่และพี่สาวบับเบิ้ลก็เข้าจัดการนับไอเท็มทั้งหมดลงบัญชีคลังกิลด์อย่างรวดเร็ว เพื่อเก็บเอาไว้ให้กับสมาชิกในอนาคตตามแผนที่เจสเปอร์วางเอาไว้ ไอเท็มพวกนี้จะเป็นทุนให้กับกิลด์ Rising Sun เพื่อใช้ขยายกองทัพให้ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ทันทีที่เจ้ซันนี่และพี่สาวบับเบิ้ลจัดการเคลียร์ไอเท็มกับเจสเปอร์จนเป็นที่เรียบร้อย สิ่งที่ทำให้พวกเขาฝันร้ายมาตลอดหลายวันก็มาถึง ทั้งหมดออกเดินทางไปยังตอนบนของภูเขาแรร์เอริธ์ทันทีภายใต้การนำของเจสเปอร์ แต่การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขากลุ่มเดียวเท่านั้น ยังมีช่างตีเหล็กที่เจสเปอร์สนิทสนมทั้ง 5 คนติดตามมาร่วมผจญภัยในครั้งนี้ด้วย โดยไม่รู้เลยว่าจะเผชิญกับอะไร
ลึกเข้าไปในป่าลึกท่ามกลางต้นไม้ที่สูงใหญ่ มีเหล่าออร์คจำนวนมากอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างเงียบสงบเฝ้ารอวันเวลาที่ราชาปีศาจเดียโบจะหวนคืน สถานที่แห่งนี้มีขุนเขาหลายล้อมขนาบเอาไว้เป็นเสมือนป้อมปราการทางธรรมชาติที่ช่วยปกปิดการคงอยู่ของพวกมันจากมนุษย์ผู้ต่ำต้อยเอาไว้มานานแสนนาน
ตามตำนานหลังจากที่ราชาปีศาจเดียโบได้พ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ในครั้งนั้น เผ่าพันธุ์ออร์คที่เป็นข้ารับใช้ให้กองทัพราชาปีศาจ ก็ต้องหนีเอาตัวรอดจากการกวาดล้างของมนุษย์ พวกมันต่างกระจัดกระจายไปทั่วอาณาจักรกรีนเวต้าและซ่อนตัวเองจากโลกภายนอน
‘ตุง ตุง ตุง’
เสียงกลองเตือนภัย ดังก้องกังวานไปทั่วพื้นป่า เหล่าออร์คหยิบอาวุธของพวกมันขึ้นมา ก่อนที่จะมองหาศัตรูที่บุกรุกพื้นที่ของพวกมัน พวกมันมองอยู่นานสองนานก่อนที่จะพบว่า ศัตรูของพวกมันได้หนีไปแล้ว
‘ฉึก’ ลูกธนูแหวกอากาศพุ่งเสียบเข้าที่หัวของออร์คตนหนึ่งอย่างแม่นยำ ศัตรูที่มันคิดว่าหนีไปแล้วกำลังลอบสังหารพวกมัน สร้างความโกรธแค้นให้กับพวกมันเป็นอย่างมากก่อนที่จะพบว่ามีมนุษย์จำนวน 3 คน กำลังตรงเข้ามาหาพวกมัน
“อามมี่ยังจำเทคนิคการลากมอนในคราวก่อนได้ไหม ฉันจะสอนเลเวลขั้นต่อไปของการลากมอนให้กับนาย วิธีนี้เรียกว่า วนเวียนไม่สิ้นสุด ริคเตอร์และนายรอฟังสัญญาณจากฉันให้ดี”
ศัตรูที่พวกออร์คกลุ่มนี้กำลังโกรธแค้นอยู่นั้น แท้ที่จริงแล้วก็คือกลุ่มของกิลด์ Rising Sun นั้นเองเป็นเจสเปอร์และริคเตอร์ที่วิ่งเข้ามาในระยะการมองเห็นของออร์คกลุ่มนั่น ก่อนที่ผู้ควบคุมธาตุจะทำการดึงดูดออร์คบริเวณนั่นให้มาสนใจที่ตนเอง
‘อออคค’
ออร์คจำนวนหลายสิบตัวต่างวิ่งวนไล่ตามเจสเปอร์อยู่อย่างนั้น มันพยายามคว้าจับ หวดอาวุธไปทั่วหมายขยี้หัวของมนุษย์ผู้นี้ให้ได้ หลังจากที่เขาลากพวกมันจนได้ปริมาณที่พอใจแล้ว เจสเปอร์ก็ได้วิ่งเข้าหาอามมี่และริคเตอร์ด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี
“สลิปลงมือเลย อามมี่และริคเตอร์ฝากจัดการต่อด้วย”
‘ฟริ้ว!!’ แส้จากด้านบนต้นไม้รัดร่างเข้าที่ร่างของเจสเปอร์อย่างพอดิบพอดี ก่อนที่จะส่งตัวของชายหนุ่มให้ลอยขึ้นมาบนต้นไม้ที่สูงใหญ่
[รางวัลเพิ่มค่าประสบการณ์จำนวน 24 ชั่วโมง ถูกใช้งาน เริ่มต้นการนับถอยหลัง]
[ระยะเวลาเพิ่มค่าประสบการณ์เหลืออยู่อีก 23.59.59]
“ทุกคนกดยา Experience potions ให้หมดเลยไม่ต้องเสียดาย” เจสเปอร์ร้องตะโกนออกไปก่อนที่เขาจะยกขวดยา Experience potions ขึ้นดื่ม
“It's showtime”
ริคเตอร์และอามมี่ทั้งสองคนต่างยืนพลัดกันรับฝูงออร์คจำนวนมากที่เจสเปอร์ลากเอาไว้ให้ด้วยความอดทนทั้งสองไม่อาจคลายสมาธิลงได้เลย เพราะออร์คกลุ่มนี้ ล้วนแข็งแกร่งและส่งพลัง
ริคเตอร์ใช้สกิลยั่วยุออกไปพร้อมกับยกโล่ในมือของตนขึ้นป้องกัน ขวานและอาวุธมีคมหลากหลายประเภทกระหน่ำตีเข้าใส่โล่อันแข็งแกร่งด้วยความรุนแรง ที่แทบจะทำให้มือของริคเตอร์ต้องสั่นสะท้าน อามมี่เองก็เช่นกันเขาต้องปล่อยหมัดออกไปจนแทบจะนับไม่ถ้วย พลังเวทมนต์ในตัวเขาไหลออกเหมือนน้ำที่เปิดคาเอาไว้ เพื่อยื้อให้เวทย์มนต์ของหิมะน้อยทำงาน
‘ตูม’ ลูกบอลไฟจำนวนมากที่บวกกับการเสริมพลังธาตุจากเจสเปอร์ช่วยทำให้ร่างของออร์คจำนวนมากทรุดลงไปกับพื้นอย่างง่ายได้ แต่ทันทีที่พวกมันจะโงหัวขึ้นมา ก็ถูกลูกธนูหลายสิบลูกยิงกดตึงพวกมันเอาไว้กับพื้นจากลูอิส
“ไอรีน โฟกัสการฮีลให้กับสุดหล่อทั้งสองคนนั้นที่ เจ้ซันนี่และพี่สาวบับเบิ้ลลงมือได้เลย”
ลำแสงอวยพรของไอรีนเข้าปกคลุมร่างของทั้งสองอย่างอบอุ่น เป็นเสมือนอ้อมกอดจากนางฟ้าที่เมตตาพวกเขาเอาไว้ ก่อนที่พื้นที่ที่พวกเขายืนอยู่จะเต็มไปด้วย ทะเลเพลิงและหมอกพิษที่มาจากขวดยาของ 2 นักเล่นแร่แปรธาตุ
ออร์คที่ถูกลากเข้ามาล้วนตกตายอย่างรวดเร็ว ไอเท็มและเหรียญจำนวนมากล้วนกระจายเกลื้อนกราดตามซากศพที่กองพะเนิน
เลเวลของออร์คกลุ่มนี้มีเลเวลเฉลี่ยนอยู่ที่ 30-35 ซึ่งสูงกว่าพวกเขามากนักแต่การออกล่าที่เป็นระบบเช่นนี้ล้วนทำให้การล่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าเป็นอะไรที่ง่ายลงกว่าเดิม ค่าประสบการณ์ของพวกเขาพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากบัพกองทัพและผลจากน้ำยาเพิ่มค่าประสบการณ์ แต่จะให้ตกใจเอาตอนนี้ยังเร็วเกินไป
‘แป้ะ แป้ะ’ เจ้ซันนี่ตบมือของเธอเบาๆ NPC ช่างตีเหล็กทั้ง 5 ก็วิ่งออกมาจากพุ่มต้นไม้ที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังด้วยความขลาดกลัว พวกเขาทั้ง 5 แบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นระบบ คลาซ่าเก็บไอเท็มที่เป็นเหรียญเอาไว้ทั้งหมด อีก 2 เก็บไอเท็มอุปกรณ์ ส่วนคนที่เหลือจะช่วยกันแล่ส่วนต่างๆของร่างกายออร์คที่สามารถนำมาทำส่วนผสม ด้วยความชำนิชำนาญ
‘ตุง ตุง ตุง’
เป็นอีกครั้งที่เสียงกลองดังกึกก้อง เจสเปอร์กระโดดลงมาจากบนต้นไม้ที่สูงใหญ่ อย่างช่ำชอง ก่อนที่จะเก็บตัวเมื่อลงถึงพื้น เพื่อออกวิ่งไปทางเสียงกลองที่เขาได้ยิน ก่อนที่เขาจะพบฝูงออร์คจำนวนยืนงง กระจัดกระจายราวกับว่ามีคนได้ล่อพวกมันเอาไว้ให้อยู่แล้ว ซึ่งนั้นคือผลงานที่ทวิสเต็ดทำเอาไว้นั้นเอง
ด้วยสกิลพรางตัวของทวิสเต็ด ชายหนุ่มจะปรากฏตัวให้อยู่ในระยะการมองเห็นของออร์ค ที่เฝ้ายามอยู่ด้านบน เพื่อล่อให้มันตีกลองส่งสัญญาณ เรียกฝูงออร์คออกมาจากค่าย และเป็นอีกครั้งที่เจสเปอร์รับช่วงต่อพวกมันไปส่งให้กับอามมี่และริคเตอร์ที่อีกด้านของชายป่า
ทั้งหมดเกิดขึ้นและวนเวียนอยู่ซ้ำๆ ตามคำที่เจสเปอร์ได้บอกเอาไว้อย่างตรงตัว ‘วนเวียนไม่สิ้นสุด’ แผนการสังหารมอนสเตอร์รูปแบบนี้มีเพียงเจสเปอร์คนเดียวเท่านั้นที่สามารถผสมผสานการโจมตีของทุกคนให้ออกมาลงตัวได้ บางคนอาจจะมองว่าเขาแค่ลากออร์คมาส่งเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น เจสเปอร์ต้องใช้ทักษะในการหลบหลีกขั้นสูงเพื่อล่อให้ออร์คพวกนี้รวมกลุ่มกันให้ได้ และเขายังต้องรักษาระยะห่างจากพวกมันที่วิ่งได้ไวเทียบเท่าความเร็วของเขาที่บัพมาเต็มที่อีกด้วย
แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกคนในปาร์ตี้ล้วนสำคัญเท่ากันหมดเพราะการขาดพวกเขาคนใดไปคนหนึ่งอาจจะทำให้ เทคนิค ‘วนเวียนไม่สิ้นสุด’ เกิดขึ้นไม่ได้เลย
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
