ตอนที่แล้วEp.144 - เฉินหมิงกลายร่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.146 - เบาะแสองค์กร Z

Ep.145 - ฉินเฟิง VS เฉินหมิง


3/4

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.145 - ฉินเฟิง VS เฉินหมิง

มันคือคู่ขาหลังของสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง ขนเป็นสีเทา แต่ละเส้นดูทนทานและแหลมคม บริเวณเท้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ผ้าใบที่สวมใส่ขาดวิ่นไม่แตกต่างไปจากกางเกง

กล้ามเนื้อขยายขึ้นไปมาก ความสูงของเฉินหมิงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มันเติบโตขึ้นเรื่อยๆจน 2 เมตรถึงค่อยหยุดลง

สภาพในปัจจุบัน เฉินหมิงไม่มีลักษณะของมนุษย์อีกต่อไป แต่เขาคล้ายกับเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์หมาป่า!

ยังไม่พอ กลิ่นอายของเขา ยังน่าสยองขวัญกว่าเดิม มันกลายเป็นระดับราชันย์สัตว์ร้ายในเลเวล F !

แรงกดดันของเลเวลนี้ มิใช่สิ่งที่ผู้ใช้พลังเลเวล G จะทานรับไหว ทุกคนทั่วบริเวณเริ่มหายใจติดขัด

“อะ … อั๊ก …” หลินไคที่ถูกย่ำตรึงไว้โดยเฉินหมิง ไม่อาจทานรับแรงกดดัมหาศาลได้อีกต่อไป กระอักลมหายใจเฮือดสุดท้ายออกมา ศีรษะตกลง และ--

--จบชีวิตโดยสมบูรณ์

คล้ายตระหนักได้ถึงการตายของเขา ป้ายชื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ทันใดนั้นปรากฏช่องว่างมิติขึ้น เคลื่อนย้ายหลินไคออกไป

นักเรียนคนอื่นๆเมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของทั้งหมดเบิกกว้าง จากนั้นความโกลาหลก็แพร่กระจายไปในฝูงชน

ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเริ่ม เมื่อคนแรกชักฝีเท้าถอยกลับ หนึ่งคน สองคนก็เริ่มตาม… ก่อนจะหมุนตัว วิ่งแตกกระเจิงอย่างบ้าคลั่ง

จนปัจจุบัน หลงเหลือเพียง 5 ชีวิตเท่านั้นที่ยังอยู่ในจุดเดิม

แม้โจวฮ่าวจะรังเกียจเฉินหมิงมาโดยตลอด แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้

การกลายร่างของเฉินหมิง ทำให้เขาอดช็อกไม่ได้

“แกมันบ้า! บ้าไปแล้วจริงๆ!” โจวฮ่าวกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ฮะฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า!” เฉินหมิงหัวเราะคลั่ง อาจเป็นเพราะรูปร่างเปลี่ยน น้ำเสียงของเฉินหมิงจึงเปลี่ยนไปจากเดิม

มันกลายเป็นแหบแห้ง แปลกไปอย่างสิ้นเชิงราวกับคนแปลกหน้า!

“ฉันน่ะหรือบ้า? ฉันแค่ยอมรับอำนาจที่แข็งแกร่งขึ้นต่างหาก และคนอย่างแกไม่มีวันเข้าใจ!” เฉินหมิงเย้ยหยัน “ฉินเฟิง แกไม่ใช่แค่ตัดขาฉัน แต่ยังทำลายทีมทหารรับจ้างของฉัน นับว่าโชคยังดี ที่ฉันยังพอมีช่องทางติดต่อ ‘คนๆนั้น’ วันนี้เลยได้มาเซอร์ไพรส์ให้แกตกตะลึง”

สีหน้าของฉินเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง หากแต่ระลอกคลื่นในหัวใจเขากลับกระเพื่อมไหว

“ดังนั้นนายเลยยอมให้คนๆนั้นทำการทดลองกับตัวเองงั้นหรอเฉินหมิง ฉันควรจะพูดว่านายฉลาด หรือว่าโง่บัดซบดี? ไม่ใช่ว่าที่นายวางแผนร้ายในงานเลี้ยง เพราะต้องการจับตัวเพื่อนคนอื่นไปทดลองหรอกหรือ แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นนายเองที่เลือกกระโจนลงในกองไฟล่ะ?”

“นั่นมันเป็นเพราะแกไม่ใช่รึไง! แกขัดขวางภารกิจฉัน ฉันเลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องถีบตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น!” เฉินหมิงหัวเราะ

“แต่นายกำลังทำร้ายตัวเอง!” ฉินเฟิงกล่าวเสียงเย็นชา

“พอที หยุดพล่ามได้แล้ว เพราะนั่นมันแค่ช่วยยืดเวลาตายออกไปเท่านั้น ฉินเฟิง เป็นเพราะแกตัดขาฉัน ฉันเลยได้รับการผสานยีนราชันย์หมาป่าเลเวล F กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่รวดเร็วว่องไว และแกจะต้องตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยอำนาจของมัน!”

ขณะกล่าว กลิ่นอายสังหารของเฉินหมิงก็ฟุ้งไปทั่ว

ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูป คางยื่นออกมา กลายเป็นรูปลักษณ์หมาป่า หลั่งน้ำลายหยดย้อยจากปาก ดวงตาจากสีแดงฉาน ค่อยๆเปลี่ยนเป็นดำสนิททีละนิด ทีละนิด

ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังจะสูญสิ้นสตินึกคิดไป

ไม่ใช่ว่าเฉินหมิงไม่ต้องการพูดมากกว่านี้ หากแต่เขาเริ่มไม่สามารถคุมสติตัวเอง และไม่อาจโต้เถียงกับฉินเฟิงได้อีกต่อไป

ดังนั้น การฆ่าฉินเฟิงทันที นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

นี่คือความคิดของเฉินหมิง

ตูม!

สองเท้าย่ำลงกับพื้น ผืนดินแตกระแหงเป็นหลุมบ่อขนาดย่อม

เฉินหมิงดีดตัวราวกระสุนปืนใหญ่ พุ่งเข้าหาฉินเฟิง

กรงเล็บหมาป่าเปลี่ยนรูปเป็นใบมีดแหลม

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามออกมาทันใด

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! …. เคร้ง!!!

มีดกษัตริย์ครามและกรงเล็บหมาป่าปะทะใส่กัน เชือดเฉือนอย่างดุเดือด

การเผชิญหน้านี้พรั่งพราว น่าตื่นตาเป็นอย่างยิ่ง มิอาจมองเห็นถึงการเคลื่อนไหวแบบเฉพาะเจาะจงได้อย่างชัดเจน

โจวฮ่าวกับเพื่อนในทีมที่กำลังรับชม เห็นได้แค่เพียงภาพอันพร่ามัว จากเศษเสี้ยวของแรงปะทะเท่านั้น

ทั้งคู่รวดเร็วเกินไป!

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับภาพด้วยตาเปล่า

กว่าจะเห็นได้ชัดๆอีกที ทั้งสองฝ่ายก็แยกจากกันแล้ว แต่เวลานี้เฉินหมิงไม่บุกได้โจมตีต่อ

เจ้าตัวยกกรงเล็บหมาป่าขึ้น ปรากฏคราบเลือดเจิ่งนองอยู่เต็มอุ้งเท้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกรงเล็บแหลมบนนิ้วหนึ่ง ถูกเฉือนหายไปอย่างกระทันหัน

ในแววตาของเฉินหมิงตะลึงงันด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

สำหรับเฉินหมิง นี่คืออาวุธของตนเอง ดังนั้นเขาย่อมทราบโดยธรรมชาติ ว่ากรงเล็บนี้แหลมคม และแข็งแกร่งเพียงใด แต่ตอนนี้ มันกลับถูกตัดจนเลือดอาบ!

---ต้องไม่ลืมนะว่ามีดกษัตริย์ครามสามารถตัดได้กระทั่งปลายเท้าแหลมของแม่พันธุ์แมงมุม ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงกรงเล็บของเฉินหมิง ซึ่งเกิดจากยีนผสมของราชันย์สัตว์ร้าย … ที่มิใช่ราชันย์สัตว์ร้ายตัวจริง!

ในความเป็นจริง สิ่งมีชีวิตระดับราชันย์ในเลเวล F ถือว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ดังเช่นแม่พันธุ์แมงมุม , ราชันย์อัศวิน , ชุดคลุมดำกระหายเลือด ทั้งหมดมิใช่การดำรงอยู่ที่จะดูแคลนได้

แต่สิ่งที่มิอาจดูแคลน หนึ่งในน้ันก็มีฉินเฟิงรวมอยู่ด้วยเช่นกัน!

เพราะปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งทางกายภาพหรือพลังสมาธิ เขาก็ได้มาถึงเลเวล F6 แล้ว

เรียกได้ว่าแข็งแกร่งเทียบเคียงได้กับราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล F!  ไหนจะเปี่ยมไปด้วยกำลังภายใน ที่มากกว่าสี่เท่าของระดับสูงสุดเลเวล F หรือกล่าวอีกอย่างว่าไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้ใช้พลังเลเวล E ระดับธรรมดาเลย

ความโอหังของเฉินหมิงในเวลานี้ จึงกลายเป็นเรื่องตลกไป

“มีดเปลวเพลิง!”

บนใบมีดกษัตริย์คราม จู่ๆก็ถูกกลืนกินโดยเปลวไฟ พวกมันว่ายวนและลุกโชนขึ้นเบื้องหน้าฉินเฟิง

“สับสะบั้น!”

ฉินเฟิงสะบัดวาดใบมีดเป็นแนวตั้ง เฉือนเข้าตรงไหล่ของเฉินหมิง

ฉัวะ!

ใบมีดที่ลุกไหม้ตัดเอาแขนข้างหนึ่งของเฉินหมิงขาดกระเด็น และมันไร้ซึ่งเลือดใดๆหยดจากปากแผล นั่นเพราะ--

--ไม่ว่าจะส่วนไหนก็ถูกความร้อนย่างจนสุก!

“แบร๊วววว!”

เฉินหมิงโหยหวนด้วยเสียงไม่ใช่มนุษย์

“สะบั้นที่สอง!”

ฉินเฟิงวาดสะบัดใบมีดเพลิง ตัดแขนอีกข้างของเฉินหมิงอีกครั้ง

วินาทีนั้นรูม่านตาสีดำของเฉินหมิงค่อยๆแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นสีแดงฉาน ร่องรอยของความหวาดกลัวและไม่อาจทำใจยอมรับปรากฏขึ้นภายใน

สำหรับสองคมมีดเมื่อครู่ ใช่ว่าเฉินหมิงไม่ต้องการจะหลบเลี่ยง หากแต่ฉินเฟิงว่องไวเกินไป เขาไม่อาจตอบสนองได้ทัน

‘ต้องหนี!’ นี่คือความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในสมองของเฉินหมิง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีเวลามากพอ

“สะบั้นที่สาม!!”

มีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิงโบกสะบัดอีกครั้ง และในคราวนี้เหมือนกับว่ามันพยายามจะตัดเฉือนตรงเอว

เฉินหมิงกรีดร้องน่าสังเวช

สองขาพลันแยกออกจากร่างของเฉินหมิง แท้จริงแล้วในวินาทีสุดท้าย มีดนี้ไม่ได้ตัดตรงเอว แต่เลื่อนตำแหน่งลงมา และตัดสองขาของศัตรูออกในคราวเดียว

เฉินหมิงไม่อาจทานทนได้อีกต่อไป เขาร่วงลงกับพื้น

ในเวลานี้ สองแขน สองขาล้วนถูกตัดขาดจนสิ้น เฉินหมิงมีสภาพไม่แตกต่างไปจากท่อนไม้ เขาพยายามคืบคลาน ดิ้นรน

แต่ก็ไม่อาจก่อภัยคุกคามใดๆได้อีกต่อไป

จนสุดท้ายเลือดก็เริ่มทะลักจากบาดแผลที่ปิดจากรอยไหม้ เริ่มไหลลงตามแขนขาที่ถูกตัด

พยายามเคลื่อนไหวเท่าใด เลือดก็ยิ่งทะลักออกมาเท่านั้น เฉินหมิงค่อยๆหยุดดิ้นรนอย่างช้าๆ ขนสีขาวเทาบนหน้าเขาหดตัวกลับ ใบหน้าเดิมถูกเผยโฉมออกมา

ดวงตาสีแดงเลือดค่อยๆเปลี่ยนกลับเป็นสีขาว เฉินหมิงในเวลานี้ตกอยู่ในสภาพอ่อนแอมาก แค่รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ยังแทบไม่รอด

ระหว่างกำลังหอบหายใจ ก็ปรากฏรองเท้าสีดำคู่หนึ่งในแนวสายตาของเฉินหมิง

ฉินเฟิงนั่งยองๆลง

“ฉินเฟิง!” เฉินหมิงขบกรามแน่น ร้องตวาดชื่อของอีกฝ่าย

“เฉินหมิง เอาจริงๆนะ ฉันมีคำถาม” ฉินเฟิงกล่าวอย่างสงบ “… ทำไมนายถึงเกลียดฉัน?”

“ทำไมน่ะหรอ? นี่แกไม่คิดหรือว่าตัวเองน่าชิงชังขนาดไหน ทั้งๆที่แกเกิดจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่แกมักจะโชคดีกว่าคนอื่นเสมอ ใครๆก็ชอบที่จะมองแก พูดคุยกับแก ขนาดตัวฉันเอง เพื่อที่จะถีบตัวเองให้สูงขึ้น ยังต้องยอมเกลือกกลั้วกับแก เอาแกเป็นไม้กันหมา ไม่มีแกฉันคงถูกคนอื่นๆปล้น , กลั่นแกล้ง , รังแก …”

“ตั้งแต่เด็กจนโต แกมักจะยืนอยู่หน้าฉันเสมอมา เหนือยิ่งกว่าฉันตลอดเวลา นั่นทำให้แกกลายมาเป็นปีศาจในใจฉัน!”

ฉินเฟิงพอได้ฟัง ก็ย้อนคิดไปถึงเรื่องราวในอดีต ตอนที่เฉินหมิงอายุ 5 ขวบ พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน และต้องมาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เดิมทีเฉินหมิงเป็นคนเก็บตัวไม่พูดกับใครเลย และเอาแต่ด่าว่าเด็กคนอื่นๆว่าสกปรก

เมื่อโตขึ้น พอถึงเวลาที่เฉินหมิงสามารถขอรับเบี้ยเลี้ยงได้ทุกเดือน เขาก็ถูกพวกอันธพาลรีดไถเงินอีก ตอนนั้นอีกฝ่ายร้องไห้จะเป็นจะตาย และเป็นฉินเฟิงนี่แหละที่ก้าวเข้าไปเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือ ต่อสู้จนสุดท้ายได้เงินกลับคืนมา จนครั้งต่อไปที่เจอหน้าพวกอันธพาล พวกมันเลยยอมเดินเลี่ยง อ้อมไปอีกทาง ……...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด