บทที่ 89 : พ่อมดดำ ณ ถ้ำปีศาจ
เช้าวันใหม่ก็มาถึง
แลนเซล็อตตื่นแต่เช้าเพื่อไปเยี่ยมวิลเลียม เขาต้องการไปขอบคุณท่านลอร์ดที่ช่วยชีวิตของเขาไว้โดยเฉพาะ
เขาจะไม่กล่าวถึงเรื่องอื่นๆ
ค่าความสัมพันธ์ของแลนเซล็อตที่มีต่อวิลเลียมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปถึง 600 หน่วย พวกเขาเป็นสหายที่ดีต่อกัน
เริ่มแรก วิลเลียมต้องการรู้ถึงบทสนทนาของผู้ส่งสารในวิหาร เขาต้องการรู้ว่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์กำลังทำอะไรอยู่ใกล้ๆเมืองแห่งรุ่งอรุณ
ทำไมนักล่าค่าหัวหลายคนถึงมาที่นี่กัน? พวกเขาเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเมืองรุ่งอรุณเป็นอย่างมาก
แลนเซล็อตลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่เพื่อความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยในเมืองรุ่งอรุณ เขาจึงยอมเปิดเผยออกมาว่ามีถ้ำปีศาจอยู่ใกล้ที่แห่งนี้ และแท่นบูชาแห่งอเวจีอยู่ภายในนั้น
ในขณะที่เขาฟังข้อมูลใหม่
วิลเลียมก็เริ่มเป็นกังวล
ในชีวิตก่อนเขาไม่เคยรับรู้ข้อมูลนี้มาก่อนเลย และไม่เคยได้ยินเรื่องพรรณนี้ด้วย
ถ้ำปีศาจไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก ในเกมเวอร์ชันนี้ แผนที่ของพื้นที่ขนาดเล็กนี้ไม่สามารถมีถ้ำปีศาจขนาดใหญ่ได้ ถ้ำปีศาจเล็กๆ แบบนี้มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก สิ่งมีชีวิตในความมืดอาศัยอยู่ในถ้ำเหล่านี้และมันก็เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับผู้เล่นในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ ...
อย่างไรก็ตาม แท่นบูชาแห่งอเวจีกลับเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ำเช่นนี้จะมี NPC ที่ต่อต้านมนุษย์อย่างน้อยหนึ่งคนคอยปกป้องคุ้มครองถ้ำเอาไว้
ยิ่ง NPC ทรงพลังมากเท่าไรก็ยิ่งมีจำนวนสิ่งมีชีวิตที่จำเป็นต้องปกป้องถ้ำน้อยลงเท่านั้น
ในเวอร์ชัน 2.0 การแพร่หลายของพ่อมด ผู้วิเศษ และผู้ใช้เวทย์ที่ต่อต้านมนุษย์ทำให้เกิดการรุกรานของกองกำลังมืด
พวกเขาเข้าสู่ด้านมืดและสร้างแท่นบูชาแห่งอเวจีขึ้นในถ้ำปีศาจ พวกเขาสังเวยสิ่งมีชีวิตสู่ความมืดมิดเพื่อแลกกับพลังมืด
หากพวกเขาไม่ได้อัญเชิญปีศาจออกมา เงามืดจะบุกรุกพื้นโลกได้รวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?
“ท่านเกือบจะพบที่ตั้งของถ้ำปีศาจแล้วหรือยัง?”
แลนเซล็อตมองไปที่วิลเลียมที่จิตใจที่หนักแน่น แล้วพยักหน้าด้วยความสิ้นหวัง เขาพูดว่า “ใช่ครับ มันตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองห่างไป 50 กิโลเมตร หากท่านช่างสังเกตก็จะสามารถค้นพบเส้นทางได้”
“ข้าได้นำพรรคพวกเข้าสู่หุบเขาก่อนเราจะถูกซุ่มโจมตีโดยนักล่าค่าหัว...”
“แน่นอนว่าข้ากล่าวได้อย่างมั่นใจว่ามีถ้ำปีศาจอยู่ในหุบเขา แต่ข้าก็แน่ใจเช่นกันว่าสัญชาตญาณของข้าถูกต้องเนื่องจากการปรากฏตัวของเงามืด”
“เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ! แต่ท่านไม่ได้เป็นอัศวินของเมืองรุ่งอรุณใช่ไหม?” วิลเลียมงงงวย
“โอ้...ข้าเป็นคนของวิหารแห่งแสง ณ อาณาจักรเหล็ก บ้านของข้าอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ!”
“...” วิลเลียมจมไปในความคิด บ้านของแลนเซล็อตอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนืองั้นหรือ?
แลนเซล็อตมีสายเลือดของจักรวรรดิ หลังจากเข้าร่วมกับวิหาร เขาก็มาที่นี่เพื่อฝึกฝนและเพิ่มพูนประสบการณ์
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ตำแหน่งของแลนเซล็อตสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้ว่าเขาจะเป็นอัศวินที่เต็มไปด้วยความชอบธรรม แต่เขาก็ยังต้องพึ่งพาความสัมพันธ์เพื่อปีนขึ้นจุดสูง
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่วิลเลียมจินตนาการไว้และไม่มีใครได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตของแลนสล็อตในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา
ในวิหารแห่งแสงนั้นมีอัศวินอยู่มากมาย มีเพียงอัศวินบางคนเท่านั้นที่มีทั้งความชอบธรรมและสายเลือดที่น่านับถือ
แต่ทำไมแลนเซล็อตถึงได้เป็นผู้มีชัยในตอนจบกัน…
แลนเซล็อตจะต้องมีบางสิ่งที่ดีเกี่ยวกับเขาเป็นแน่…
วิลเลียมอยากจะค้นหา แต่แลนเซล็อตยังไม่สามารถต่อสู้ได้
ไม่ใช่เพราะว่าเขาบาดเจ็บ แต่อัศวินคนนี้ทำภารกิจได้ดี เต็มไปด้วยความยุติธรรมและรู้วิธีที่จะเสียสละเพื่อเพื่อนร่วมงานของเขา แน่นอนว่าผู้ส่งสารในวิหารย่อมให้การการสนับสนุนเขาอย่างแน่นอน และตอนนี้ปัญหาของถ้ำปีศาจก็ได้รับการยืนยันแล้ว
วิหารต้องการจับคนทรยศท่ามกลางคนของพวกเขา และค้นหาว่าทำไมนักล่าค่าหัวถึงซุ่มโจมตีพวกเขาล่วงหน้าได้!
จากนั้นวิหารจึงจัดการปัญหาของถ้ำปีศาจ
ในทวีปรีเจนดารีมีถ้ำปีศาจอยู่หลายแห่ง วิหารแห่งแสงไม่สามารถทำลายพวกมันทั้งหมดได้ แม้ว่าแลนเซล็อตจะไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับถ้ำปีศาจ ผู้ส่งสารของวิหารก็ยังคงแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำปีศาจในวิลเลียมทราบเพื่อที่เขาจะได้จัดการกับปัญหาอยู่ดี
ในขณะเดียวกัน
นักล่าค่าหัวก็แยกย้ายกันไปราวกับว่าพวกเขาไม่รู้จักกัน พวกเขาเป็นเพียงนักล่าที่ถูกจ้างโดยนายจ้างคนเดียวกันเพื่อทำภารกิจ หากพวกเขาเป็นทีมพวกเขาจะไม่ยอมให้ผู้ติดตามมังกรคลั่งตายลงอย่างเด็ดขาด
นักล่าค่าหัวต่างระแวงซึ่งกันและกัน
เช้าวันใหม่มาถึง
มีฝนตกปรอยๆ
เหล่าพงไพรถูกปกคลุมไปด้วยป่าหนาทึบ ไม่มีใครสังเกตว่าพ่อมดดำคาซ่ากำลังมุ่งหน้าไปทิศทางไหน
ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
คาซ่าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ณ หุบเขาที่แลนเซล็อตบอกกับวิลเลียม
ท่ามกลางหมอกหนาเช่นนี้ สำหรับคนอื่นมันยากมากนักที่จะมองเห็นเส้นทาง แต่สำหรับคาซ่านั้น สถานที่นี้เป็นสถานที่อันแสนจะคุ้นเคย
สิ่งมีชีวิตจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในความมืด ดวงตาสีแดงเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนดูน่าพิศวง แต่คาซ่ากลับไม่ได้รับผลกระทบแม้เพียงนิด
เขาเดินในหุบเขาที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดเป็นเวลานานก่อนจะถึงพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง เขาย้ายมันออกแล้วเดินเข้าไปในถ้ำอันแสนมืดมิด เขาได้พบเข้ากับพ่อมดที่สวมเสื้อคลุมสีดำขลับ ก่อนจะทักทายเขาด้วยความเคารพ
พ่อมดดำอาวุโสกล่าวด้วยเสียงแหบห้าวและสุขุม “ภารกิจเป็นอย่างไรบ้าง?”
คาซ่าส่ายศีรษะ แล้วพูดว่า “คนกลุ่มนี้มีจิตใจที่กระตือรือร้นในงาน พวกเขามีโอกาสฆ่าศัตรูสามคนสุดท้าย แต่กลับปล่อยพวกมันไป”
“จากนั้น พวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับลอร์ดแห่งเมืองรุ่งอรุณที่สามารถฆ่าผู้ติดตามมังกรคลั่งลงได้ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะล่าถอย และตอนนี้คงคาดหวังเงินรางวัลจากเราอีกครั้ง”
พ่อมดดำหัวเราะอย่างเยือกเย็น ก่อนจะกล่าวว่า “ฮึ! พวกโลภมาก!”
ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อคลุมสีดำแวววับด้วยแสงสีเขียวขจีอันน่าขนลุก เขาถามอย่างสงสัย “ท่านคิดอย่างไรกับลอร์ดแห่งเมืองรุ่งอรุณ ข้าประหลาดใจนักที่เขาสามารถฆ่าผู้ติดตามมังกรคลั่งได้!”
“ยากที่จะพูดออกมาอยู่บ้าง เขามีการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังซึ่งสามารถก้าวข้ามช่องว่างและมิติได้ ไม่เช่นนั้นผู้ติดตามมังกรคลั่งอาจสามารถหลบหลีกการโจมตีที่รุนแรงด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและคล่องตัวของเขา
“แต่ข้ารู้สึกได้ถึงการคงอยู่ของจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง…” คาซ่างงงวย
“เขาเป็นคนที่น่าสนใจ” พ่อมดดำอาวุโสกล่าวขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายสีเขียว เขาไม่ได้คาดคิดว่าวิลเลียมจะรอดชีวิตจากการโจมตีของเขาได้
ในเวลาเพียงครึ่งปีวิลเลียมก็กลายเป็นคนละคน เมืองแห่งรุ่งอรุณขยายตัวอย่างรวดเร็วภายใต้การปกครองของเขา
พลังของเมืองรุ่งอรุณได้เติบโตขึ้นสู่สถานะที่ผู้ใช้เวทย์ไม่กล้าเคลื่อนไหวอันใดที่ต่อต้านเมืองอีกต่อไป
“เนื่องจากเมืองแห่งรุ่งอรุณรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ พวกเขาจะเข้ามาโจมตีเราอย่างแน่นอน นั่นก็เพียงพอแล้ว…” พ่อมดดำใต้เสื้อคลุมสีเข้มยกยิ้มบาง ๆ ก่อนที่เขาจะหายตัวไปในความมืดขณะกำลังใคร่ครวญถึงเรื่องนี้
คาซามองดูพ่อมดดำอาวุโสจากไป เขาโน้มตัวพิงผนังก่อนจะพ่นลมหายใจ
“เราคือพ่อมดดำ”
“แต่ระดับของเรานั้นแตกต่างกันมาก”
พ่อมดดำที่เพิ่งจากไปนั้นเป็นนักล่าค่าหัวแปดดาว!
และเป็นพ่อมดดำที่กำลังจะขึ้นสู่ระดับสูง ...
การขยายเมืองแห่งอรุณได้กวาดล้างเหล่าอสูรเวทย์, สรรพสัตว์และเผ่าพันธุ์มากมาย
มีสิ่งมีชีวิตที่อาภัพเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถหลบหนีจากการตามล่าเมืองแห่งรุ่งอรุณได้ แต่ชะตากรรมที่รอคอยพวกเขากลับกลายเป็นเครื่องสังเวยเสียแทน
คาซาไม่รู้ว่าพ่อมดดำอาวุโสจะทำอะไร
เขาถวายเครื่องสังเวยทั้งวันทั้งคืน แต่เขากลับไม่ได้รับอำนาจใด ๆ แต่สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดกลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และแข็งแกร่งขึ้น
โดยไม่กล่าวสิ่งใด
จุดสิ้นสุดที่ลึกที่สุดของถ้ำปีศาจก็แสดงให้เห็นถึงเหล่าผู้เล่นที่ไม่มีวันตายนับพันแล้ว
“อาจารย์ของฉันกำลังก่อสงครามหรือ? นี่… สิ่งนี้ไม่เป็นผลดีต่อพ่อมดมนต์ดำเลยสักนิด” คาซาไม่เข้าใจ เป้าหมายหลักของพวกเขาในฐานะพ่อมดดำคือการได้รับอำนาจจากการสังเวย
สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดสามารถถูกอัญเชิญไปยังทวีปในรีเจนดารี แต่มันก็เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา
คาซาในวัยเยาว์ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าพ่อมดดำอาวุโสจะถวายกองทัพรุ่งอรุณเป็นเครื่องสังเวย?
หากวิลเลียมรู้เกี่ยวกับแผนของพ่อมดตนนี้ เขาจะบอกให้พ่อมดมาหาเขาแทนเหล่ากองทัพ
“มาและส่งเมืองแห่งรุ่งอรุณมาสังเวย ข้ากำลังรอท่านเริ่มสงครามอยู่ ข้าจะปล่อยให้ท่านบูชาผู้วิเศษรอบด้านและนักเวทย์ด้านมิติเช่นเช่นกัน ข้าขอต้อนรับท่านในดารถวานเครื่องบูชา…”