ตอนที่แล้วตอนที่ 4 ความในใจที่ซ่อนอยู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 ข้าก็แค่ใช้ได้แต่เคล็ดวิชาขั้นสุดยอดได้ก็เท่านั้น

ตอนที่ 5 ร่างสุดยอด


ตอนที่ 5 ร่างสุดยอด

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

ลู่โจวไม่กลัวที่จะถูกหัวเราะเยาะเลยแม้แต่น้อย สำหรับเขาคนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าของเขา

เขาพยักหน้าของตัวเอง ดวงตาของเขากำลังจ้องมองศิษย์คนที่สาม, ศิษย์คนที่สี่ และศิษย์คนที่ห้าของตัวเองอยู่ สุดท้ายแล้วเขาก็เหลือบมองไปที่ศิษย์คนที่เก้าก่อนที่จะหยุดมองwx

"แล้วเจ้าล่ะหยวนเอ๋อ?"

"ค่ะ ะ คะ?" หยวนเอ๋อลังเล

"ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเจ้าจะคิดอะไรกัน...ข้าก็แค่อยากจะพูดในสิ่งที่ต้องการออกมาก็เท่านั้นเอง ข้าเองก็อยู่มานานจนผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้ง ในตอนที่ศิษย์พี่ของพวกเจ้าและศิษย์พี่คนรองออกจากภูเขาทองไป เจ้าพวกนั้นมันมีความตั้งใจที่แน่วแน่กว่านี้มาก" ลู่โจวพูดออกมาอย่างตัดพ้อ เสียงของเขาแผ่วเบากว่าครั้งไหน

ศิษย์น้องหยวนเอ๋อคุกเข่าลง "ท่านอาจารย์พวกเราลูกศิษย์ของท่านไม่กล้าคิดแบบนั้นหรอกค่ะ"

"ดิ้ง! ภารกิจสำเร็จ ซ่อนเร้นเจตจำนงสำเร็จแล้ว รางวัลที่ได้นั่นก็คือดวงตาแห่งสัจธรรม ผลของดวงตาจะอยู่คงทนถาวร"

สิ่งที่แจ้งเตือนลู่โจวทำให้ตัวเขาหยุดชะงักไปในทันที ด้วยพลังของดวงตาแห่งสัจธรรมทำให้มีตัวหนังสือพิเศษปรากฎขึ้นบนดวงตาของเขาเวลาจ้องมองลูกศิษย์ทั้งสี่

"ด้วนมูเฉิงแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ค่าความจงรักภักดีอยู่ที่ 23% กำลังลดลง..."

"หมิงซี่หยินแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ค่าความจงรักภักดีอยู่ที่ 15% กำลังลดลง..."

"จ้าวยู่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ค่าความจงรักภักดีอยู่ที่ 35% กำลังลดลง..."

"ซีหยวนเอ๋อแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ค่าความจงรักภักดีอยู่ที่ 60% กำลังเพิ่มขึ้น..."

"คำแนะนำ: ถ้าหากค่าความจงรักภักดีของลูกศิษย์เหลืออยู่ที่ 0% ลูกศิษย์คนนั้นจะทรยศสำนักและเป็นศัตรูในทันที ลูกศิษย์ที่มีความจงรักภักดีมากกว่า 80% ขึ้นไปลูกศิษย์คนนั้นจะไม่เคลือบแคลงใจอะไรตัวผู้เป็นอาจารย์ ส่วนลูกศิษย์ที่มีค่าความจงรักภักดีอยู่ที่ 90% จะเป็นลูกศิษย์ที่จงรักภักดีอย่างแท้จริง"

ค่าความจงรักภักดีของศิษย์ทั้งสามคนแรกกำลังลดลง นี่คงจะเป็นเพราะความคาดหมายของพวกเขาไม่ผิดแน่ แต่ลู่โจวกลับรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นค่าความจงรักภักดีของหยวนเอ๋อ ค่าความจงรักภักดีของเธอกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

"ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้วข้าก็คงจะไม่ต้องเสแสร้งต่อหน้าพวกเจ้าอีกต่อไป..." ลู่โจวพูดขึ้นมาโดยเจตนา "ใช่ ตัวข้าในตอนนี้กำลังได้รับบาดเจ็บอยู่..."

ดวงตาของเหล่าลูกศิษย์เปล่งประกายออกมา ในขณะเดียวกันนั้นเองเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายก็กำลังพยายามโจมตีม่านพลังป้องกันด้านนอกตอนนี้ม่านพลังบางส่วนได้ถูกทำลายไปแล้ว พวกนั้นกำลังฉีกม่านพลังออกเป็นชิ้นๆ อย่างบ้าคลั่ง

ลู่โจวสังเกตเห็นว่าความจงรักภักดีของลูกศิษย์ทั้งสามคนแรกลดลงไปอีก 5%

แต่ในตอนนั้นเองน้ำเสี่ยงของลู่โจวก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

"แต่ถึงข้าจะบาดเจ็บก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเจ้าจะสู้ตัวข้าได้หรอกนะ!" ลู่โจวได้อาศัยจังหวะนั้นใช้การ์ดระเบิดจุดสุดยอดไป ในพริบตานั้นเองเส้นพลังลมปราณทั้งหมดในร่างกายรวมไปถึงจุดกักเก็บพลังลมปราณต่างก็ถูกพลังเติมเต็มขั้นสุดpvf

ในตอนนั้นเองหลังพูดจบคลื่นพลังอันรุนแรงก็ได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของลู่โจว!

"ฮะ!"

"นี่มันเป็นไป...ได้ยังไงกัน?"

ด้วนมูเฉิง, หมิงซี่หยิน และจ้าวยู่ต่างก็ถอยกลับหลังไปในทันที พวกเขาทั้งสามต่างก็ได้รับลูกหลงจากคลื่นพลังของลู่โจวไป พวกเขาทั้งสามกระอักเลือดออกมา ในตอนนี้ดวงตาของหยวนเอ๋อเบิกกว้างขึ้น เธอรู้สึกประทับใจท่านอาจารย์คนนี้มากกว่าเดิม

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์นับหมื่นต่างก็จ้องมองพวกเขาอย่างประหลาดใจ ในตอนนั้นเองเสียงการโจมตีก็เงียบสงบลง ม่านพลังในการป้องกันที่ใกล้จะพังแล้วหายไปอย่างสมบูรณ์แบบ เสียงทั้งหมดในสนามรบกลับเงียบลงราวกับว่าโลกใบนี้นั้นได้ตกอยู่ไปในความว่างเปล่า

"ไอแก่นั่นไม่ได้บาดเจ็บอย่างงั้นหรอ เจ้านั่นยังมีพลังระดับนี้ได้ยังไงกัน?"

"ข้าเห็นมากับตาเลยนะว่าเจ้าแก่นั่นวิ่งหนีไปในม่านพลังอย่างตื่นตกใจน่ะ!"

"ตอนนี้ข้าเริ่มรู้สึกไม่ดีซะแล้ว..."

"อย่าพูดแบบนั้นสิ ข้าคิดว่าขาของตัวข้าเองก็กำลังสั่นอยู่!"

เหล่ายอดฝีมือทั้งสิบต่างก็จ้องมองไปที่ลู่โจวด้วยความโกรธเกรี้ยว ในอีกด้านหนึ่งผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังทำได้เพียงหายใจลึกๆ เท่านั้น พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะชายตามองเหล่าลูกศิษย์จอมวายร้ายทั้ง 3

ความรู้สึกของยอดฝีมือมันดีแบบนี้นี่เอง เขารู้สึกได้ถึงพลังทั้งหมดที่กำลังไหลเวียนภายในตัวเขาได้ เขาสามารถจัดการกับพวกศัตรูทั้งหมดได้โดยการขยับเพียงแค่ปลายนิ้วมือเท่านั้น พวกศัตรูพวกนี้ไม่ต่างกับพวกมดปลวกที่รอถูกบดขยี้

ในตอนนั้นเองด้วนมูเฉิงกับศิษย์อีกสองคนก็ได้ล้มลงไปกับพื้น พวกเขาทั้งหมดรีบลุกขึ้นมาคุกเข่าในทันมี "พวกเราศิษย์ทั้งสามขออภัยด้วยท่านอาจารย์!"

เลือดที่ไหลออกตรงมุมปากถูกหลังมือของพวกเขาเองเช็ดไปอย่างรวดเร็ว นิ้วของศิษย์ทั้งสามยังคงสั่นเครืออยู่ พวกเขาแม้แต่จะไม่กล้าหายใจเสียงดังเกินไปด้วยซ้ำ

ลู่โจวมองพวกเขาก่อนที่จะยกมือขึ้น ตอนนั้นเองคลื่นพลังอันทรงพลังก็ได้ไหลไปยังศิษย์ทั้งสามอีกครั้ง คลื่นพลังของลู่โจวในตอนนี้เปรียบเหมือนกับคลื่นพลังลูกยักษ์

"พวกเจ้ากล้ามากนะ กล้าที่จะกระด้างกระเดื่องกับข้าคนนี้ พวกเจ้าจะต้องถูกลงโทษ!"

พึบ! พึบ! พึบ! ตอนนั้นเองลำแสงสีทองสามเส้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ศิษย์ทั้งสาม พวกเขาทั้งหมดกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

"ข้าจะจัดการกับพวกเจ้าอีกครั้งเอง!"

ลู่โจวที่ทำเหมือนมองพวกเขาอยู่แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น ตัวเขากำลังจ้องมองตัวหนังสือที่อยู่บนสายตาของเขาอยู่ ตอนนี้ลู่โจวกำลังมองเวลาที่เหลืออยู่นั่นเอง เขายังคงมีเวลาเหลืออีกประมาณ 29 นาที ดูเหมือนว่าการใช้เวลาให้บทเรียนกับศิษย์ทั้งสามคนคงจะเป็นอะไรที่ใช้เวลามากเกินไป

ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงจัดการกับเหล่าผู้ฝึกยุทธ์นับหมื่นที่มาจากดินแดนภัยพิบัติสวรรค์โฉมใหม่เท่านั้น

ลู่โจวเหลือบมองไปที่ลู่ฉางเฟิงที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นจึงรีบพูดว่า "ให้ข้าแสดงให้ดูเลยไหมละว่าพลังที่แท้จริงกับพลังที่ตัวข้าเคยออมมือให้มันแตกต่างกันแค่ไหน!"

ตู้ม!

ลู่โจวได้ใช้เท้าของตัวเองดันพื้นอย่างเบาๆ ตอนนั้นเองตัวเขาก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ ความเร็วของลู่โจวนั้นรวดเร็วดุจดั่งมิสไซล์สายฟ้า ลู่โจวที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงดังฟังชัด "อวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถี!"

ในตอนนั้นเองร่างอวตารที่สูงกว่าเกือบหนึ่งร้อยฟุต กว้างกว่ายี่สิบฟุตก็ได้ปรากฎขึ้นกลางอากาศ รอบตัวของร่างอวตารนั้นมีแสงสีทองปกคลุมเอาไว้ ดอกบัวแปดแฉกได้บานออกมาอย่างรวดเร็วที่ใต้เท้าของร่างอวตาร

เมื่อลู่ฉางเฟิงเห็นแบบนั้นแล้วเขาก็รีบเดินถอยหลังอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

"หยุดมันซะ!"

ในตอนนั้นเหล่ายอดฝีมือทั้งสิบก็ได้บินขึ้นไปกลางอากาศ พวกเขาทั้งหมดกำลังเผชิญหน้ากับร่างอวตารของลู่โจว

อวตารใหญ่ยักษ์ได้สร้างกำแพงขนาดยักษ์ขึ้น กำแพงอันนั้นใหญ่จนบังแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาจากท้องฟ้าได้

ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธ์กว่าหลายคนได้แต่ตกตะลึงในพลังเท่านั้น พวกเขาไม่ทันที่จะได้ถอยหลังกลับไปด้วยซ้ำ ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนต้องตายไปกับการโจมตีนี้ เลือดของพวกเขาไหลออกมาจากทวารทั้ง 7

"นี่มัน! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าแก่นั้นจะสามารถใช้เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดได้ในทันทีแบบนี้!"

"นี่เป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาลับที่แข็งแกร่งที่สุดของจีเทียนเด๋า อวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถี!"

"อย่าตกใจไป! แม้ว่าเคล็ดวิชาอวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถีจะทรงพลังมากแค่ไหน แต่ท่านี้เองก็กินพลังงานมากเช่นกัน ตราบใดที่พวกเราสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้ เจ้าแก่นั่นจะต้องเสร็จเราแน่!"

นี้คือสิ่งที่เหล่ายอดฝีมือทั้งสิบต่างคิดกัน

เหล่ายอดฝีมือทั้งสิบที่ถูกนำโดยลู่ฉางเฟิงได้เข้าต้านพลังของอวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถีเอาไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นกว่าร้อยไมล์ล้วนแต่ถูกแสงสว่างเข้าปกคลุม สัตว์ร้ายรวมไปถึงนกนักล่าต่างๆ ต่างก็หนีเอาชีวิตรอดกันอย่างไม่คิดชีวิต

หลังจากที่ใช้การ์ดระเบิดจุดสุดยอดไป ทักษะทั้งหมดของจีเทียนเด๋าที่มีก็ได้ปรากฎขึ้นในความคิดของลู่โจว พลังอวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถีเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาที่ทรงพลังมากที่สุดที่จีเทียนเด๋าพอจะมี

ทำไมกัน ทำไมชายคนนี้ถึงเลือกที่จะใช้เคล็ดวิชาที่ทรงพลังแบบนี้เลย?

คำถามนี้ได้เกิดขึ้นภายในใจของคนทุกคน แต่แน่นอนว่าลู่โจวพอจะมีเหตุผลอยู่ ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อไปมากเท่าไหร่ ลู่โจวก็จะต้องใช้พลังจากการ์ดระเบิดจุดสุดยอดมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นแล้วตัวเขาจึงเลือกที่จะใช้เคล็ดวิชานี้ตั้งแต่เริ่มเลยนั่นเอง

"ดูเหมือนว่าเจ้าน่ะจะชอบใช้ดาบมากสินะ ถ้างั้นข้าก็จะใช้ดาบด้วย!" ลู่โจวได้ยกแขนขวาของเขาขึ้น

แสงสีขาวได้สว่างเจิดจ้าขึ้น ตอนนี้เองนิ้วมือของเขาทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางก็ได้กลายเป็นดาบแสงอย่างสมบูรณ์แบบ พลังแสงนั้นหมุนไปรอบๆ ลำแสงที่ปรากฎขึ้นจากมือเป็นเหมือนกับลำแสงแห่งดาบไปในที่สุด

"นี่มันกระบวนท่านั่นอย่างงั้นสินะ?" โดยสัญชาตญาณแล้วด้วนมูเฉิงได้เงยหน้าขึ้นหลังจากที่สัมผัสพลังได้ ร่างกายของเขากำลังสั่นสะท้านอยู่ กระบวนท่านี้เองเป็นกระบวนการท่าการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งที่สุดของกระบวนท่ายุทธพันธ์ศักดิ์สิทธิ์

กระบวนท่ายุทธพันธ์ศักดิ์สิทธิ์ประกอบไปด้วยกระบวนท่าดาบและกระบวนท่าหอก ด้วนมูเฉิงที่ติดตามจีเทียนเด๋ามานานต้องการที่จะเรียนกระบวนท่าดาบทั้งหมดนั่นเอง แต่สิ่งที่เขาหวังไว้ก็ไม่เป็นจริงสักที จีเทียนเด๋าผู้เป็นอาจารย์นั้นได้ปฏิเสธการสอนกระบวนท่าสุดท้ายให้กับด้วนมูเฉิงมาโดยตลอด

ตัวเขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นกระบวนท่าการเคลื่อนไหวในการต่อสู้ครั้งนี้

ด้วนมูเฉิง, หมิงซี่หยิน และจ้าวยู่ พวกเขาทั้งสามคนต่างคิดผิดทั้งหมด อาจารย์ของเขานอกจากจะใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างพลังอวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถีได้อย่างง่ายดายแล้ว เขายังใช้กระบวนท่ายุทธพันธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้

แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวแบบกระบวนท่ายุทธพันธ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นท่านอาจารย์คนนี้ยังใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดพร้อมกับเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างพลังอวตารดอกบัวทั้งแปดแห่งร้อยวิถีด้วยพร้อมกัน เพราะเหตุนี้เองพลังการต่อสู้ของลู่โจวจึงเพิ่มขึ้นอย่างเป็นทวีคูณ

ดวงตาของลู่ฉางเฟิงเบิกกว้างขึ้น ริมฝีปากของเขาสั่นเทา "ถอยเร็วเข้า!"

"ถอยอย่างงั้นหรอ?"

"ถ้าพวกเราไม่ถอยในตอนนี้พวกเราเหล่ายอดฝีมือทั้งสิบจะต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน! ไม่เพียงแต่ปรมาจารย์มหาวายร้ายคนนี้จะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ตาแก่นั่นยังกลับแข็งแกร่งมากกว่าเดิมอีกด้วย!" ลู่ฉางเฟิงพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่

"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?" ฉางเจียนแห่งสำนักต้วนหลินเกิดความสงสัยขึ้น พวกเขาไม่คิดเลยว่าการต่อกรกับจีเทียนเด๋าจะต้องยากลำบากขนาดนี้ ตอนนั้นในตอนหนึ่งเดือนก่อนพวกเขาทั้งหมดต่างก็แน่ใจแล้วว่าจีเทียนเด๋าคนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าใจนั้นได้ผิดไป

ลู่โจวลอยอยู่หน้าอวตารของตัวเขา ทั้งคู่เคลื่อนไหวกันราวกับว่าถูกหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากใช้กระบวนท่ายุทธพันธ์ศักดิ์สิทธิ์ ลู่โจวก็สามารถเข้าหาศัตรูของตัวเขาได้อย่างเรียบง่าย ตอนนี้ตัวเขาเป็นเหมือนกับความว่างเปล่าที่ได้แยกตัวออกจากความวุ่นวายของโลกใบนี้ไปแล้ว

ฟึบ!

ร่างของเหล่ายอดฝีมือทั้งสิบได้หายไปในเวลาเดียวกัน พวกเขาทุกคนกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า และเมื่อทุกคนตัดสินใจที่จะล่าถอยกลับไป เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดที่เหลือก็ถูกทิ้งอยู่ที่พื้นดินด้านล่างอย่างทุกข์ทนทรมาน

ในเวลาต่อมานั้นลำแสงดาบที่ได้ลอยขึ้นได้ล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ลำแสงนั้นตัดผ่านเหล่าฝูงชนอย่างไร้ความปราณี

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด