ตอนที่ 23
ตอนที่ 23
“อะไรกัน..”
“ประตูมัน..”
“เวรเอ้ย เปิดไม่ออก”
ปัง ปัง
อามินซอก คนที่อยู่เกือบหลังสุดได้เหวี่ยงหมัดใส่ประตูเต็มแรง
แต่ไม่ว่าเขาจะต่อยไปมากแค่ไหน
ประตูก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
คนอื่นๆในปาร์ตี้เริ่มแสดงสีหน้าไม่สู้ดีออกมา
ซูฮยอนยืนอยู่เฉยๆ แล้วสังเกตบริเวณรอบไป
ถ้ำแห่งนี้มันใหญ่โตโอฬารจริงๆ
มันเหมาะแก่การเป็นสนามต่อสู้แบบสุดๆ
<>
ซูฮยอนเองก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเหมือนกันในชาติที่แล้ว
เหตุการณ์แบบนี้มักจะปรากฏออกมาเฉพาะดันเจี้ยนระดับสีเหลืองเท่านั้น
“เรื่องบ้าอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” แม้แต่ลีจุนโฮก็ยังสับสน
ดันเจี้ยนที่มีบททดสอบให้ผู้ตื่นขึ้นทำ ลีจุนโฮ ก็เคยได้ยินมันมาบ้าง
แต่เรื่องแบบนั้นมันควรเกิดขึ้นที่ดันเจี้ยนระดับสูงสิ
แต่ทำไม มันถึงมาโผล่ในดันเจี้ยนที่ระดับต่ำแห่งได้?
<>
ทันใดนั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในหัวสมองของทุกคนอีกครั้ง
[การทดสอบเริ่มขึ้น]
[พวกคุณทุกคน ถูกขังอยู่ในถ้ำปิดตาย ถ้าพวกคุณต้องการออกจากที่แห่งนี้ คุณต้องเลือก 1 ใน 2 วิธี ที่ระบบกำหนดให้]
[วิธีที่ 1 ทำยังไงก็ได้ให้รอดชีวิต โดยทุกๆ 30 นาที จะมีฝูงมอนสเตอร์ออกมาโจมตีพวกคุณ คุณตัองรอดไปให้ได้ทั้งหมด 10 รอบ]
[วิธีที่ 2 หนีให้รอดจากฝูงมอนสเตอร์และใช้กุญแจที่มอบให้ ไปไขประตูที่ระบบกำหนดให้]
[คำเตือน การทดสอบจะเริ่มในอีก 10 นาที]
เมื่อระบบได้อธิบายทุกอย่างครบถ้วน ภายในถ้ำก็เงียบสงบลง
ดันเจี้ยนแห่งนี้ มันก็คล้ายๆกับการทดสอบในหอคอย
ถึงแม้มันจะไม่เหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
ซูฮยอนคิดว่ากฏเกณฑ์ที่มันให้มาก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
แต่ว่า..
<>
การโจมตี 10 รอบงั้นเหรอ…
เขาคิดว่ายิ่งใกล้รอบสุดท้ายมากเท่าไหร่ ระลอกคลื่นของมอนสเตอร์จะต้องแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วยแน่ๆ
<>
ดันเจี้ยนทุกแห่งที่โผล่ออกมาตามพื้นโลก
มันไม่ได้ถูกสร้างออกมามั่วๆ
ดันเจี้ยนเกือบทุกที่ มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
ที่ต่างกันก็มีแค่ มอนสเตอร์ และ กับดัก ภายในดันเจี้ยนเท่านั้น
ซูฮยอนคิดว่า เจ้าลิซาร์ดคอพส์ ที่เจออยู่ปากทางเข้า
มันก็เหมือนคำเตือนที่บอกเป็นนัยๆอยู่แล้ว ว่า..
ถ้าคุณไม่สามารถผ่านมอนสเตอร์ลิซาร์ดคอพส์ไปได้
คุณก็ควรล่มเลิกแผนการในการโจมตีดันเจี้ยนครั้งนี้ซะ
<>
ขณะที่ซูฮยอนกำลังคิด เขาก็มองไปอีกฟากหนึ่ง ซึ่งมันเป็นที่ตั้งของประตูที่ระบบพูดถึง
<>
วิธีที่ 2
หลบหนีจากมอนสเตอร์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และเปิดประตู
เมื่อเอาวิธีที่ 2 มาเปรียบเทียบกับวิธีที่ 1
ดูเหมือนวิธีที่ 2 จะอันตรายมากกกว่า
“ตะ..ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงกันดี”ลีอึนมี ถามด้วยความกังวล
ประตูที่พวกเขาพากันเข้ามา ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนา
ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีมันมากแค่ไหน
มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะพังทลายลงเลยสักนิด
“ตอนนี้ พวกเราทำได้แค่เดินหน้าต่อไปเท่านั้น”ลีจุนโฮตอบ
ซูฮยอนเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกลับคำพูดของลีจุนโฮ
<>
ถ้าพวกเขาอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร
พวกเขาคงได้แต่นั้งรอความตายเท่านั้น
ในชาติที่แล้วของซูฮยอน เขาเองเคยได้ยินข่าวที่ดังมากๆข่าวหนึ่ง
ซึ่งเหตุการณ์มันก็เหมือนกับแบบนี้เป๊ะๆ
เหตุการณ์ในครั้งนั้นสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนเสียชีวิตไปทั้งหมด
แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป...
เพราะมีซูฮยอนมาอยู่ที่นี่ เหตุการณ์ในอดีตที่ซูฮยอนเคยได้ยินอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
เส้นทางความเป็นความตายของพวกเขา
ขึ้นอยู่กลับ 2 วิธีเท่านั้น
ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า เส้นทางไหนปลอดภัยที่สุด
<>
ซูฮยอนทำการตรวจสอบสมาชิกในปาร์ตี้ทุกคน ไม่นานเขาก็ได้ข้อสรุป
ถึงแม้ลีจุนโฮจะแข็งแกร่งที่สุด แต่เขาเพียงคนเดียว ก็ไม่สามารถผ่านดันเจี้ยนแห่งนี้ไปได้
ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ พวกเขาก็อ่อนแอเกินไป
พวกเขาไม่สามารถผ่านดันเจี้ยนสีเหลืองไปได้อย่างแน่นอน
“แล้วพวกเราจะเลือกเส้นทางไหนดีหล่ะ” คิมบารึมถามลีจุนโฮ
ลีจุนโฮหันไปมองซูฮยอนแล้วถาม
“ซูฮยอนนายคิดว่าไง พวกเราควรทำยังไงต่อไปดี”ลีจุนโฮกล่าว
ดูเหมือนลีจุนโฮจะคิดว่าซูฮยอนคือตัวแปรสำคัญในครั้งนี้
พวกเขาควรทำไงกันดี?
พวกเขาควรต่อสู้กับมอนสเตอร์จำนวน 10 รอบ หรือ ควรวิ่งหนีไปหาประตูอีกฟากหนึ่งดี?
ถ้าเป็นคนทั่วไป พวกเขาคงเลือกวิธีที่ 2 แน่ๆ
ใครมันจะบ้า ไปเลือกวิธีที่ 1
ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเหนื่อยตายก่อนหรอกเหรอ
แต่.......
“พวกเราไม่ควรไปเปิดประตูฝั่งนั้น” ซูฮยอนตอบกลับมาอย่างทันที
เขาตอบคำถามด้วยเสียงดังฟังชัด
“นายพูดแบบนั้นหมายความว่าไง”ลีจุนโฮต้องการรายละเอียดมากกว่านี้
ไม่ใช่แค่ลีจุนโฮเท่านั้นที่สงสัย สมาชิกในปาร์ตี้ก็สงสัยด้วยเช่นกัน
ทำไมถึงไม่ไปเปิดประตูอีกฝั่งกัน มันง่ายกว่าไม่ใช่เหรอ
“คุณไม่เข้าใจคำอธิบายของมันเหรอ ถ้าพวกเราอยากจะเปิดประตูบานนั้น สิ่งที่เราทำได้คือวิ่งหนีจากมอนสเตอร์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงประตู”
“อ่า..”ลีจุนโฮพยักหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจซูฮยอนแล้ว
แต่ก็มีบางคนที่ไม่เข้าใจ เช่น อามินซอก
ใบหน้าของอามินซอก มีตัวอักษรเขียนว่า 'ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่นายพูด' อยู่บนกลางหน้าผาก
ซูฮยอนถอนหายใจแล้วอธิบายต่อไป
“ถ้าพวกเราเลือกที่จะต่อสู้กับมอนสเตอร์ 10 รอบ สิ่งที่เราทำได้คือ ป้องกันกับโจมตี
แต่ถ้าเราเลือกเปิดประตู สิ่งที่เราทำได้มีแค่วิ่งหนีไปเรื่อยๆเท่านั้น พวกนายคิดว่าอย่างไหน อันตรายกว่ากันหล่ะ”
“แน่นอน การวิ่งหนีสินะ” พวกเขาตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน
แต่ความคิดของอามินซอก แตกต่างไปจากซูฮยอน
“แต่ว่า…มันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าเราเลือกวิ่งหนี ถึงต่อสู้ไป พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะชนะมันได้ไหม”
“อืม..จริงๆฉันก็เห็นด้วยนะ ทำไมเราไม่เลือกวิ่งหนีล่ะ ทำไมพวกเราต้องต่อสู้ถึง 10 รอบด้วย”
“ถ้างั้นทำไมพวกเราไม่ลอง…”
“เป้าหมายขอพวกเราคือการโจมตีดันเจี้ยน ไม่ใช่การวิ่งหนี”
“อ่า…จริงด้วย”ในที่สุดอามินซอก็รู้สักทีว่าเขาลืมอะไรไป
การทดสอบและภารกิจ
เขาใจจดใจจ่อกับสองสิ่งนี้มากเกินไป
จนทำให้เขาลืมส่วนสำคัญ
ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบ
แต่เขาอยู่ในดันเจี้ยนที่กว้างใหญ่ และมันตั้งอยู่ที่โลกแห่งความจริง
ซึ่งมันแตกต่างกับหอยคอยแห่งการทดสอบ
ในหอค่อยการทดสอบ
พวกเขาส่วนใหญ่จะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้เพื่อไปให้ถึงชั้นที่สูงขึ้น
แต่ในดันเจี้ยนสถานการณ์มันต่างกัน
พวกเขาทุกคนจะต้องเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้ให้ได้ เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์
<>
ซูฮยอนไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ถ้าพวกเขาเลือกวิ่งหนี
เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ มันไม่ปลอดภัยเลยสักนิด
สถานการณ์ที่ไม่เคยเจอ
มอนสเตอร์ที่คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเก่งหรืออ่อนแอ
ไม่แปลกใจที่ตอนนี้ทุกคนจะมีแต่ความกระสับกระส่ายเต็มไปหมด
[คุณเหลือเวลาอีก 5 นาที โปรดตัดสินใจโดยเร็ว]
เสียงระบบที่อ่อนโยนและเป็นมิตรดังมาอีกครั้ง
เมื่อเหลือว่าเวลาตัดสินใจอีก 5 นาที
ประตูที่อยู่อีกฝั่งเริ่มมีการสั่นสะเทือน
ดูเหมือนระบบต้องการให้พวกเขาตัดสินใจให้ดีๆ
แต่พวกเขาในตอนนี้ได้ตัดสินให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตามที่ซูฮยอนบอก พวกเราจะอยู่ที่นี่”
ด้วยคำพูดของซูฮยอน มันจึงเป็นเหตุให้ลีจุนโฮตัดสินใจอยู่ต่อ
เขาเดิมพันทั้งหมดไปกับคำพูดของซูฮยอน
<>
ซูฮยอนดึงดาบออกมาถือไว้ แล้วหลับตาลง
มันเหลือเวลาอีกตั้ง 5 นาที ก่อนที่นรกจะมาเยือน
[คุณมีเวลาเหลืออีก 1 นาที กรุณาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการโจมตี]
คลิ๊ก เอี๊ยด
กร๊ากกกกก โครกกกกก
โฮกกกก
อีกฝากหนึ่ง ประตูที่ปิดอยู่ เริ่มเปิดออกมาทีละน้อย
ประตูที่แง้มออกมานิดเดียว แต่กลับได้ยินเสียงคำรามของมอนสเตอร์ได้อย่างชัดแจ๋ว
ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยเข้าไปสำรวจภายในมาก่อน
แต่พวกเขาทุกคนก็มั่นใจว่า ข้างในประตูบานนั้น
ต้องมีมอนสเตอร์อยู่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมดแน่ๆ
“คือว่า..ประตูบานนั้นมันจะค่อยๆเปิดออกใช่ไหม ฉันหวังว่ามันคงไม่เปิดแบบเซอร์ไพรส์หรอกนะ”
“อ่า..ฉันก็หวังให้มันเปิดช้าๆเหมือนกัน”
“แต่ฉันคิดว่าพวกเราคงต้องเตรียมใจสักหน่อยนะ เพราะตอนนี้พวกเราอยู่ในดันเจี้ยน แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก”
เสียงที่พูดคุยกันเต็มไปด้วยความสั่นเทา
นี่คงเป็นครั้งแรกของพวกเขา ที่ได้มาเจออะไรแบบนี้
สมาชิกปาร์ตี้ต่างพากันคิดว่า
ประตูบานนั้นมันอาจจะเปิดออกโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าพร้อมกับฝูงมอนสเตอร์ที่มากมายก่ายกองก็ได้
<< 30วินาที>>
ซูฮยอนนับเวลาที่เหลือ
มันเหลือเวลาอีกแค่ 30 วินาทีเท่านั้น
ก่อนที่การทดสอบของดันเจี้ยนจะเริ่มขึ้น
ตุบ ตุบ
ซูฮยอนจับดาบในกระชับมือและเดินไปเป็นคนแรก
ดูเหมือนประตูอีกฝั่งหนึ่งพร้อมจะเปิดออกมาได้ทุกเมื่อ
เมื่อเจ้ามอนสเตอร์กลุ่มเล็กๆถูกปล่อยออกมา เจ้าประตูบานนั้นก็จะปิดตัวลง
<>
ถึงแม้จะยังไม่มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมา
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความกังวลของพวกเขาลดลง
เพราะประตูบานนั้นจะปล่อยระลอกคลื่นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง เป็นจำนวนทั้งหมด 10 รอบ
ซึ่งมันยังเหลืออีกตั้ง 9 รอบ
ตุบ
ซูฮยอนเดินมาเรื่อยๆไม่นานเขาก็มาถึงกลางถ้ำ
เขาลืมตาขึ้น แล้วอัดฉีดพลังเวทย์เข้าไปให้ดาบ
เมื่อมองดูซูฮยอนที่เป็นผู้นำ
สมาชิกในปาร์ตี้ทุกคนก็เริ่มมีความหวังและขวัญกำลังใจมากขึ้น
เสียงสั่นเทาที่เคยมี ก็เริ่มจางหายไป
การรวมพลังใจของปาร์ตี้เป็นเรื่องง่ายๆ
ตราบเท่าที่คุณไม่แสดงความกลัวออกมา
แล้วยืนหยัดด้วยความสง่าผ่าเผย
ความกลัวของสมาชิกในปาร์ตี้จะค่อยๆลดลง
ไม่ใช่แค่นั้น...แถมยังทำให้สมาชิกทุกคนมีกำลังใจมากขึ้นอีก
เพราะพวกเขาเชื่อว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
มันก็เปรียบเสมือนจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
“เหลือเวลาอีก 10 นาที”
เสียงของซูฮยอนเต็มไปด้วยพลังเวทย์
มันทำให้เสียงของซูฮยอนดังไปทั่วบริเวณรอบๆและซาบซ่านไปทั่วร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเขา
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม”
หลังจากซูฮยอนพูดจบลง
ลีจุนโฮก็มายืนเคียงข้างของซูฮยอนทันที
เช่นเดียวกันกับ อามินซอก เขาเข้าประจำตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ในเวลา 10 วินาที สมาชิกทุกคนก็เข้าประจำตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้สมาชิกทุกคนต่างซีเรียสกันหมด
เพราะพวกเขากำลังจะเจอกับศึกหนัก
กร๊ากกก
โฮกกก
เมื่อเห็นประตูถูกเปิดออก ข้างในของมันเต็มไปด้วยมอนสเตอร์มากมายหลายชนิด
เมื่อมองดูคร่าวๆ พวกมันมีประมาณ 10 กว่าตัวได้
ตูม!
อยู่ๆประตูก็เปิดขึ้นอย่างฉับพลัน มอนสเตอร์ระลอกแรกต่างพากันวิ่งกรูออกมา
มอนสเตอร์ที่ออกมา มีมากมายหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็น อีกาจอมตะกละ ซาลาแมนเดอร์มอสส์ ลิซาร์ดคอพส์ และ แมงมุมทมิฬ
พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่พวกเขารู้จักกันดี
ซูฮยอนตั้งท่าเตรียมพร้อม เขาจับดาบให้มือไว้อย่างแน่นหนา
ฟรึบ
ซูฮยอนใช้การเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ แล้วกระโดดขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว
<>
เมื่อซูฮยอนเห็นมอนสเตอร์ครั้งแรก เขาก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะปลิดชีพตัวไหนก่อน
อีกาจอมตะกละเป็นมอนสเตอร์ที่มีหัวเป็นเอกลักษณ์
ซูฮยอนคิดว่า ขณะที่มันกำลังบินอยู่บนอากาศ
มันมีโอกาศที่ มอนสเตอร์ตัวนี้อาจจะลอบโจมตีสมาชิกปาร์ตี้ที่เผลอ
เพราะฉะนั้นเขาจะต้องจัดการมันให้ได้ก่อนอันดับแรก
กาาาา
เมื่ออีกาจอมตะกละเห็นว่าซูฮยอนกำลังพุ่งตรงไปหามัน
มันจึงง้างกงเล็บที่แหลมคมไปทางซูฮยอน
เพื่อหวังขยี้ซูฮยอนในแหลกเป็นชิ้นๆ