ตอนที่ 20: จงเลือกภรรยาโดยไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน
“สวัสดี, เอิร์ลเบลส์”
“อ้าวนี่มันเจ้าชายอาร์โนลด์ไม่ใช่หรอครับ วันนี้มีอะไรให้ช่วยครับ?”
เอิร์ลเบลส์เป็นขุนนางราชสำนักที่ไม่มีที่ดินและอาศัยอยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ
ด้วยการได้รับสืบทอดมารุ่นต่อรุ่น, เอิร์ลเบลส์นั้นได้รับหน้าที่ให้ดูสำนักงานสำคัญๆในจักรวรรดิ นอกจากนี้เอิร์ลเบลส์ยังมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยของกระทรวงวิศวะกรรมซึ่งทำหน้าที่ในสาขางานของวิศวกรรมโยธาและการควบคุมน้ำท่วม
เบลส์นั้นรักษาระยะห่างของตัวเองจากสงครามผู้สืบทอดมาโดยตลอด เนื่องจากตำแหน่งของเขาไม่ได้มีอิทธิพลโดยตรงกับกระแสของสงครามผู้สืบทอด, พวกพี่ๆสามคนเองก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับเขาเหมือนกัน
ส่วนเหตุผลที่เขามายังที่พักของเอิร์ลเบลส์คนนี้ก็เพราะเขาได้ยินข่าวลือมาบางอย่าง
“อันที่จริง, ข้าได้ยินข่าวลือมาเรื่องนึง”
เอิร์ลเบลส์เป็นชายวัยสามสิบปีแล้ว
ศรีษะที่โล่งเตียนของเขาผนวกกับนิสัยที่ดูใจเสาะทำให้เขาเป็นคนที่ไม่ตกเป็นที่สนใจของผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม, เมื่อไม่กี่ปีก่อน, ในที่สุดเขาก็ได้ทำการหมั้นหมาย แต่เดิมแล้ว, เขาก็ถือเป็นคนที่มีพรสวรรค์ผู้ซึ่งอยู่ในตระกูลที่มีชื่อเสียงและยังมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยอีก ขอแค่วิธีการหาเจ้าสาวของเขาไม่ผิดพลาด, ก็น่าจะมีคนมาสมัครเป็นภรรยาของเขานับไม่ถ้วน
แต่, เขาก็ได้ทำพลาดเข้าซะแล้ว
“ขะ, ข่าวลือหรอครับ.......?”
“อ่า, เป็นข่าวลือไม่ดีนะ อันที่จริงเรื่องมันมีอยู่ว่าดูเหมือนภรรยาของเอริ์ลเบลส์นั้นจะชอบออกไปเที่ยวเล่นทุกคืนแถมยังเป็นที่สะดุดตาด้วย เธอชอบทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองเป็นราชวงศ์และทุกคนก็พากันสงสัยว่าเธอไปเอาเงินทั้งหมดมาจากไหน ข้าได้ยินข่าวลือมาแบบนี้แหล่ะ”
“คะ, คือว่ามัน......มันก็แค่ข่าวลือที่ใส่สีใส่ไข่จนเกินจริงครับ ก็ใช่อยู่ที่ภรรยาของข้าชอบเที่ยวเล่น แต่การทำตัวเหมือนเป็นราชวงศ์นี่มัน, เธอไม่ทำแน่ๆครับ......”
เอิร์ลเบลส์เอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่ไหลบนหน้าผากของเขา
ดูเหมือนว่าข้อมูลที่เซบาสสืบมาจะเป็นความจริงสินะ
จากที่เซบาสบอกมา, เห็นได้ชัดว่า, เอิร์ลนั้นชอบบนเรื่องภรรยากับเหล่าคนรู้จักของเขา ความไม่พอใจของเขาที่มีต่อเธอเข้าขั้นรุนแรง, เขามักจะชอบพูดว่าอยากหย่าหรือถ้าหย่าไม่ได้เขาก็จะฆ่าตัวตาย
ตัดสินจากปฏิกิริยาของเขา, ฉันเดาว่าเขารู้สึกว่าการกระทำของภรรยาของเขานั้นไม่เป็นที่น่าพอใจ คำถามก็คือว่าชายคนนี้จะทำกับเธอได้มากแค่ไหน
“เอิร์ลเบลส์
“คะ, ครับ!”
เขาเปลี่ยนโทนเสียง, ในตอนที่ฉันจ้องเขา, ฉันมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังยืดตัวตรง
มันเป็นเพราะสำนึกผิดรึเปล่า? หรือว่าอาจจะเป็นท่าทีตามปกติของเขา?
“แล้วก็มีข่าวลือเรื่องนี้ด้วย ผู้คนพูดกันว่าเจ้ากำลังใช้เงินที่ยักยอกมาจากจักรวรรดิเพื่อภรรยาของเจ้า”
“ข้า, ข้าไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นครับ! ข้าทำงานหนักมาโดยตลอดในฐานะรัฐมนตรีที่ซื่อสัตย์ต่อจักรวรรดิ! ได้โปรดเชื่อข้าเถอะนะครับ!”
“ถึงเจ้าจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ครั้งนี้, ที่ข้ามาที่นี่ก็เพราะข่าวลือมันไปถึงปราสาทแล้ว เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ถ้าข่าวมันไปถึงหูของพ่อข้า? ข้าอยากจะจัดการให้เรียบร้อยก่อนหน้านั้น”
เลือดฝาดหายไปจากใบหน้าของเอิร์ล
เขาเป็นคนที่อ่านได้ง่าย มันอาจจะเป็นเพราะนิสัยใจเสาะของเขา, เขาถึงไม่อยากให้ข่าวลือแบบนี้ไปถึงจักรพรรดิ
ฉันคาดหวังอะไรจากเรื่องนี้ได้บ้างนะ?
“อะ, องค์ชาย! ขอข้ายืมอำนาจของท่านหน่อยเถอะครับ! ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”
“ข้าไม่คิดจะช่วยอาชญากรหรอกนะ แน่นอนว่า, ลีโอด้วย”
“ข้า, ข้าไม่ได้แตะต้องเงินของจักรวรรดิเราจริงๆนะครับ!”
“แล้วเงินนั่นมาจากไหนหล่ะ? ภรรยาของเจ้าไม่น่าจะออกไปเที่ยวเล่นแบบนั้นได้ด้วยเงินเดือนของเอิร์ลหรอกนะ”
“คือว่ามัน, มันมาจากเงินเก็บของพวกเราครับเพราะฉะนั้นตอนแรกมันจึงไม่เป็นปัญหาอะไร....แต่มันก็ถูกผลาญอยากรวดเร็วข้าก็เลยยืมเงินจากคนรู้จักของข้าและช่วงนี้ข้าก็ต้องยืมจากพ่อค้าด้วย....ข้ารู้สึกไม่ดีกับคนรู้จักของข้าแถมเส้นตายก็ใกล้จะถึงแล้ว, ข้าควรจะทำยังไงดี........”
ทำไมถึงเลือกแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้นะ?
ในตอนที่ฉันกำลังคิดเรื่องหยาบคายนี้อยู่, ประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรุนแรง
“ที่รัก! เงินของเดือนนี้ไม่พอ!?”
“บะ, เบทิน่า!? ออกไปเลยนะ! ข้ากำลังคุยเรื่องสำคัญกับเจ้าชายอยู่!”
คนที่เข้ามานั้นคือสาวงามแต่งตัวหวือหวาที่มีผมสีทอง อายุของเธอน่าจะพอๆกับฉันหรือไม่ก็เด็กกว่าเล็กน้อย หญิงสาวคนนึงจะพิจารณาว่าเธอจะแต่งงานกับชายแก่อายุช่วงวัยสามสิบเมื่อไหร่กันหล่ะ
ทุกสิ่งที่เธอสวมนั้นแวววับ เสื้อผ้าของเธอคือชุดแบบที่ฉันมักจะเห็นผู้หญิงในตำหนักในสวมกันและโลหะอันล้ำค่าที่ประดับอยู่ตามร่างกายของเธอก็ดูเหมือนจะเป็นของจริงด้วย
ฉันพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงอยากเลิก
“เจ้าชายหรอ? องค์ไหน?”
“นะ นี่!?”
“ข้าอาร์โนลด์ เลคส์ แอดเลอร์ ขอโทษที่รบกวนนะ, คุณนายเบลส์”
“อาร์โนลด์? อ๋อ! เจ้าชายไร้ค่าคนนั้นหน่ะหรอ? ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าจากลูกชายของดยุคฮอร์วาร์ธ เจ้าชายน่าสมเพชที่ถูกน้องชายแย่งส่วนดีๆไปหมดใช่ไหม? แล้วคนที่ไม่มีอะไรดีอย่างเจ้ามาทำอะไรในบ้านของเราหล่ะ?”
“.......”
เอิร์ลเบลส์ถึงกับพูดไม่ออก
เอาเถอะ, ฉันเองก็เหมือนกัน คนๆเดียวที่เคยล้อเลียนฉันกลางฝูงชนก็คงจะมีแค่กีโด้เท่านั้น เธอคงคิดว่ามันจะไม่เป็นอะไรกับเธอเหมือนกันเพราะกีโด้ยังสามารถทำได้ แต่กีโด้เป็นทั้งเพื่อนสมัยเด็กของฉันและลูกชายของดยุค ตำแหน่งของพวกเขาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
โถ่, ยัยผู้หญิงคนนี้, เธอช่างโง่จริงๆ พอเห็นการตอบโต้ของเธอ, ฉันก็รู้สึกเห็นใจแทนเอิร์ล
“อะ, ออกไปเดี๋ยวนี้......”
“หา? นี่เจ้ากำลังสั่งข้าหรอ?”
“จะยังไงก็ช่าง, รีบๆออกไปซะ!!”
นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เอิร์ลโกรธใส่ภรรยาของเขาขนาดนี้
ด้วยความตกตะลึง, เบทิน่าก็ออกจากห้องไปอย่างไม่พอใจ
“ได้โปรดยกโทษให้กับความไร้มารยาทของภรรยาข้าด้วยเถอะครับ! องค์ชาย!”
“ข้าไม่สนใจหรอก ข้าชินแล้ว แต่เธอเป็นภรรยาที่ใช้ไม่ได้เอาซะเลยนะ”
“.....ภรรยาของข้าเข้ามาหาข้าในตอนที่เธออายุได้สิบเจ็ดปี เธอเป็นลูกสาวของขุนนางท้องถิ่นและมีชื่อเสียงในเรื่องของความงดงาม, ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น หลังจากนั้น, ข้าก็มอบให้เธอทุกอย่างตามที่ต้องการเพราะข้าไม่อยากถูกเกลียดแต่มันก็เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เธอเข้าใจผิดว่าตัวเองมีความเป็นราชวงศ์หรือมีความเป็นขุนนางระดับสูงอยู่”
“แน่นนอน, ข้าคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอแต่มันก็ถือเป็นความรับผิดชอบของท่านด้วยเหมือนกันเพราะเธอถูกสามีตามใจมากเกินไป ถ้าท่านเป็นสามีของเธอท่านก็ควรจะตำหนิเรื่องการวางตัวของเธอในทันทีที่จับได้”
“ครับ....ที่องค์ชายกล่าวมามันถูกต้องแล้ว”
บางทีหัวใจของเขาน่าจะพังจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วหล่ะ
ร่างที่นั่งอย่างเซื่องซึมและศรีษะที่ตกลงมาของเขานั้นมันช่างน่าสงสารจริงๆ
เอาเถอะ, ในเมื่อเป็นแบบนี้, ดูเหมือนว่าฉันจะต้องปรับแผนซักหน่อยสินะ
แผนเดิมคือการค่อยๆรับความไว้ใจจากเอิร์ลแต่ถ้าฉันทิ้งเขาเอาไว้คนเดียว, บางทีนี่อาจจะนำไปสู่การฆ่าตัวตายจริงๆก็ได้
มันก็ช่วยไม่ได้หล่ะนะ
“เหตุผลที่เจ้าไม่หย่าเพราะเจ้ายังรักเธอหรอ?”
“นั่นก็ใช่อยู่หรอกครับ...แต่คือว่าในตอนที่ข้ารายงานกับองค์จักรพรรดิว่าแต่งงานกับเธอ, พระองค์ดูปลื้มปิติมาก.....แถมพวกเรายังได้รับของขวัญแสดงความยินดีมาเยอะเลยด้วย
“เข้าใจหล่ะ แบบนั้นจะให้หย่ามันก็ยากอยู่หล่ะนะ”
เหตุผลที่ฉันจับตาดูเอิร์ลเบลส์นั้นมันไม่ใช่แค่จุดอ่อนของเขาในเรื่องของภรรยา
มันยังเป็นเพราะองค์จักรพรรดิถูกใจเขาด้วย
บางทีตอนนี้ฉันอาจจะกำลังคุยกับว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงวิศวกรรมคนต่อไปก็ได้ เอิร์ลเบลส์ที่ซื่อสัตย์กับงานและไม่ค่อยออกไปเที่ยวไหนนั้นคือคนที่น่าเชื่อถือจากมุมมองของคนที่ทำงานด้วย
ถ้าเขารู้สถานการณ์ของเอิร์ล, จักรพรรดิคงจะสนับสนุนเรื่องหย่าด้วยตัวเองแน่ๆ อย่างไรก็ตาม, มันไม่มีทางที่เขาจะรู้เรื่องของลูกน้องทุกคนอย่างลึกซึ้งขนาดนั้นหรอก”
ตอนนี้, เขาจำเป็นต้องมีคนที่ทำหน้าที่เป็นคนกลาง
“เอิร์ลเบลส์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนโง่ เจ้าคงจะรู้เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ใช่ไหม?”
“คะ, ครับ.....เพื่อเพิ่มข้าเข้าไปในขั้วอำนาจของเจ้าชายลีโอนาร์ดสินะครับ?”
“ตามนั้นแหล่ะ ถ้าเป็นไปได้ข้าอยากใช้เวลามากกว่านี้เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเจ้า.....แต่ดูเหมือนว่าพวกเราคงไม่มีเวลามากขนาดนั้นนะ ข้าจะขอให้ลีโอนำสถานการณ์ของเจ้าไปถ่ายทอดกับท่านพ่อ จากนั้น, ถ้าการตอบสนองของท่านพ่อเอนเอียงไปทางสนับสนุนเจ้าก็จะทำเรื่องหย่าในทันที และข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องจดหมายจากฝั่งครอบครัวภรรยาของเจ้าเองเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง”
“จะ, จริงหรอครับ!?”
เอิร์ลเบลส์มองฉันเหมือนกับว่ากำลังมองผู้ช่วยชีวิต นี่เขากังวลขนาดไหนกันเนี่ย
เอาเถอะ, มันอาจจะดูค่อนข้างเห็นแก่ตัวแต่นี่ก็เพื่อสงครามผู้สืบทอด เรามาทำให้คุณนายได้เสียน้ำตากันเถอะ ผลที่ตามมาคงจะจบไม่สวยแน่ๆ แต่ความแตกต่างก็คือว่าเอิร์ลมีประโยชน์กับเขาในขณะที่ภรรยาของเขาไม่มีเลย
แต่ว่าจะอธิบายกับลีโอยังไงดีหล่ะ? คนแบบหมอนั่น, เข้าไปคุยด้วยตรงๆคงจะดีกว่าหล่ะนะ
แต่ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากเก็บลีโอเอาไว้ให้ห่างสายตาของผู้หญิงคนนั้นจังเลยนะ ไอ้หมอนั่นมันแพ้ผู้หญิงซะด้วย
“เอิร์ลเบลส์ ขอโทษนะ, แต่เจ้าช่วยเขียนจดหมายร้องเรียนให้ลีโอได้ไหม?”
“จะ, จดหมายหรอครับ?”
“อ่า, ขอตอนนี้เลย ถ้าใช้วิธีนี้มันจะโน้มน้าวเขาได้ง่ายกว่า”
“โน้มน้าวหรอครับ?”
“ก็รู้นี่ว่าลีโอเป็นพวกที่มีนิสัยดีจ๋า ถ้าข้าเอาเรื่องนี้ไปพูดด้วยตัวเอง, อาจจะจบลงที่ได้ข้าเป็นคนกลางก็ได้ เจ้าคงไม่ต้องการแบบนั้นหรอกถูกไหม?”
“คะ, ครับ, ข้าจะเขียนจดหมายให้เดี๋ยวนี้เลย!”
พอถูกเขากระตุ้น, เอิร์ลก็เริ่มเขียนจดหมายร้องเรียนให้ลีโอ
แม้ว่าเขาจะเป็นพวกหัวกะทิที่เกิดในบ้านของขุนนางราชสำนักและประสบความสำเร็จในฐานะหัวหน้าตระกูล, แต่แค่ผู้หญิงคนเดียวสามารถทำให้เขาตกต่ำได้ถึงขั้นนี้เลยหรอ.....
ว่าแล้วเชียว, การเลือกภรรยานี่มันต้องพิจารณาให้ดีๆจริงๆด้วย
ทันใดนั้นเอง, ภาพของผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขา, ฟีเน่กับเอลน่าก็ปรากฎขึ้นในความคิดของเขา
แค่นึกภาพพวกเธอมาเป็นภรรยาของฉันก็ขนลุกแล้ว ดูเหมือนว่ามันคงจะมีปัญหาตามมาเพียบเลยหล่ะไม่ว่าใครจะได้มาเป็นภรรยาของฉันก็ตาม หยุดคิดเรื่องนี้เถอะ
ไม่ว่ายังไง, ฉันก็ชอบผู้หญิงปกติ
“อะ, องค์ชาย, แบบนี้ได้ไหมครับ.....?”
“ขอดูหน่อยซิ”
ใบหน้าของฉินบิดเบี้ยวในตอนที่อ่านจดหมาย
สิ่งที่เขียนอยู่ในนี้คือรายงานของเอิร์ล, และการติเตียนเกี่ยวกับการกระทำของภรรยา ความไม่พอใจทั้งหมดที่เขามีต่อภรรยานั้นได้ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรแต่ละตัวที่อยู่ในจดหมายฉบับนี้
ฉันถอนหายใจให้กับเนื้อหาในจดหมาย อันที่จริงเรียกมันว่าคำสาปแช่งคงจะถูกต้องกว่า
“หลังจากที่เจ้าเริ่มร่วมมือกับพวกเราแล้ว, ทำให้มั่นใจด้วยนะว่าจะระวังเรื่องการถูกล่อลวง”
“คะ, ครับ! ข้าจะไม่ชายตามองผู้หญิงคนไหนอีก! ข้าจะรับใช้เจ้าชายลีโอนาร์ดกับเจ้าชายอาร์โนลด์อย่างซื่อสัตย์ด้วยความสามารถทั้งหมดที่ข้ามีครับ!”
“อย่าเข้าใจผิดไป พวกเราก็แค่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เจ้านายของเจ้ายังคงเป็นองค์จักพรรดิอยู่ ไม่ใช่พวกเรา”
“ปะ, โปรดอภัยให้กับความหยาบคายของข้าด้วย”
ฉันจำเป็นต้องทำให้ชัดเจนในเรื่องนี้
ถ้าเขาปฏิบัติกับลีโอเหมือนเป็นเจ้านาย, พวกเราก็มีแต่จะสร้างศัตรูให้ตัวเองมากขึ้น ฉันอยากกำจัดความเป็นไปได้พวกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ไม่เป็นไร, ตอนนี้จดหมายของเจ้าอยู่กับข้าแล้ว ข้าจะแจ้งผลให้รู้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าช่วงนี้ก็อดใจรอไปก่อนหล่ะ”
“ครับ! ขอบคุณมากจริงๆครับ”
หลังจากนั้น, ฉันก็ออกมาจากคฤหาสน์ของเอิร์ล
ในตอนที่ฉันออกมาจากคฤหาสน์นั้นคุณนายกำลังจ้องเอิร์ลเบลส์จากด้านหลังแต่ก็เอาเถอะ, ฉันหวังว่าในช่วงไม่กี่วันนี้เข้าจะยังอดทนไหวอยู่นะ
ท้ายที่สุดแล้ว, ในตอนที่ฉันให้ลีโออ่านจดหมาย, ‘ทำไมเขาถึงแต่งงานกับคนแบบนี้นะ?’, คำถามที่ไม่น่าแปลกอะไรนี้ออกมาจากปากของลีโอ เอาเถอะ, หลังจากนั้นฉันก็โน้มน้าวลีโอให้เขาไปแจ้งกับท่านพ่อ, ซึ่งท่านพ่อก็สนับสนุนเรื่องการหย่าของเอิร์ลอย่างเต็มที่และพิธีหย่าก็ถูกดำเนินการในทันที
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้อยู่, สำหรับท่านพ่อ, การได้เห็นว่าทีรัฐมนตรีในอนาคตของเขาถูกลูกสาวขุนนางท้องถิ่นที่ไหนไม่รู้มาทำขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องที่จะทนกันได้อยู่แล้ว
ด้วยประการฉะนี้เอง, เอิร์ลเบลส์จึงได้เข้าร่วมกับขุมอำนาจของลีโอและอิทธิพลของลีโอก็แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย