บทที่ 33 มารฝัน
บทที่ 33 มารฝัน
ภายในแหล่งกำเนิดปราณของกุนไท่ จุดแสงดาวได้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งจุด ทำให้ตอนนี้มีมากถึงสามจุดแล้ว และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากุนไท่ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นวิญญาณ!
ผู้บ่มเพาะทั่วไปที่อยู่ระดับสร้างรากฐาน ตอนที่พวกเขาอยู่ขั้นร่างกายจุดแสงดาวจะเท่ารูเข็ม เมื่อมาถึงขั้นจิตใจจุดแสงดาวจะเท่าผลส้ม ส่วนขั้นวิญญาณจะเท่าลูกบอล แต่ของกุนไท่นั้นเมื่อตอนที่อยู่ขั้นร่างกายจุดแสงดาวก็เท่ากับลูกบอลแล้ว! และแต่ละขั้นก็จะเพิ่มจุดแสงดาวขนาดเท่าลูกบอลขึ้นมาอีกหนึ่งจุด!
ปัง!
พลังปราณระเบิดแผ่ขยายออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ พร้อมกับพลังวิญญาณสีฟ้าที่ปะปนมาด้วย
กุนไท่ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเก็บกลิ่นอายพิเศษของตนกลับไป พลางลุกขึ้นยืนแล้วรับรู้ได้ทันทีว่า วิสัยทัศน์รอบตัวของตนนั้นคมชัดมากขึ้น ประสานทั้งห้าเฉียบคมมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก! จิตสัมผัสก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
กุนไท่ออกจากบ้านพักแล้วพบกับเหวินอี้ที่กำลังยืนรออยู่ เมื่อเหวินอี้เห็นกุนไท่ เขาก็วิ่งมาหา พร้อมกับกล่าวขึ้นอย่างยินดีว่า
“ยินดีกับน้องไท่ด้วย ที่สามารถทะลวงได้!”
“ข้าก็แค่โชคดีเท่านั้น พี่อี้ข้ามีของจะให้ท่าน!”
กุนไท่โยนโอสถสีเขียวเม็ดหนึ่งให้อีกฝ่าย
“นี่คือ?”
เหวินอี้รับมาด้วยความงุนงง
“นี่คือโอสถรุ่งทิวา มันสามารถช่วยให้ท่านไปถึงขั้นวิญญาณได้!”
กุนไท่ตอบกลับด้วยรอยยิ้มให้กำลังใจ เหวินอี้พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ก่อนจะกล่าวออกมาว่า
“ข้าไม่อาจรับสิ่งที่มีค่าเช่นนี้ได้!”
“เราเป็นพี่น้องกัน เหตุใดต้องกล่าวเช่นนี้เล่า! ท่านรับไว้เถอะ สำหรับข้าแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไร ข้ามีสายเลือดพิเศษไม่สามารถใช้มันได้!”
กุนไท่กล่าวพลางอธิบาย เหวินอี้พยักหน้ารับแต่โดยดี เขารู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ภายในใจของเขา เขารู้สึกว่ากุนไท่ไม่ได้เป็นน้องชายของเขา แต่รู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นพี่ชายเสียมากกว่า!
วันนี้คือวันที่อาจารย์จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบ่มเพาะ แต่สำหรับเหวินอี้นั้นเขาไม่ได้เข้าเรียน เพราะเขามีอาจารย์โดยตรงอยู่ก่อนแล้ว ส่วนกุนไท่แม้จะมีอาจารย์ที่เป็นถึงผู้พิทักษ์
แต่ก็ต้องเข้าเรียนกับผู้อื่นตามปกติเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสงสัยเขา จนกว่าเขาจะแข็งแกร่งจนสามารถปกป้องตนเองได้ เขาถึงสามารถแสดงสถานะที่แท้จริงได้ ศัตรูของนิกายนั้นแข็งแกร่งมาก
หากพวกมันรู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นผู้สืบทอดของผู้พิทักษ์แล้วละก็ คงใช้ทุกวิธีการเพื่อให้เขาตายอย่างมิต้องสงสัย
หลังจากที่อาจารย์สอนจบแล้ว กุนไท่ก็กลับมาที่บ้านพัก แต่ระหว่างทางเขาพลันเห็นคนจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอยู่ที่บ้านพักของศิษย์ผู้หนึ่งอยู่ เนื่องจากความรู้สึกสงสัย กุนไท่จึงเดินเข้าไปถามคนที่อยู่ใกล้ๆ
“พี่ชายเกิดอะไรขึ้น! ทำไมถึงมีคนมากมายที่นี่!”
ชายหนุ่มคนที่ถูกถามหันมาหากุนไท่ พร้อมกับสายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม มันพูดด้วยความโกรธ
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ไสหัวไป!”
กุนไท่สีหน้ายังไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะเจอคนที่หยาบคายก็ตาม หากไม่ได้ล้ำเส้นเขามากจนเกินไป เขาก็คงจะไม่ทำอะไรอีกฝ่าย กุนไท่มองไปที่ลานบ้านพักก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
มีชายหนุ่มหัวล้านร่างกายล่ำสันผู้หนึ่งกำลังรังแกหญิงสาวอยู่ พร้อมกับชายอีกหลายคนที่เป็นลูกน้องของมัน หญิงสาวผู้นี้นั้นมีใบหน้าที่ไม่ได้งดงามอย่างสตรีทั่วไป ร่างกายนางเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย และที่มุมปากของนางนั้นมีเลือดไหลออกมา
“ยังไม่คิดจะจ่ายค่าคุ้มครองให้พวกข้าอีกหรือ จ่ายมาเสียดีกว่า!”
ชายหัวล้านคำรามออกมา
“หึ ข้าไม่มีทางจ่ายเด็ดขาด เจ้าเป็นศิษย์สายในแต่กลับทำตัวเยี่ยงขอทานเช่นนี้หรือ!”
หญิงสาวหน้าตาน่าเกลียดตอบกลับไปด้วยความโกธรเช่นเดียวกัน
“ปากดีนักนะ นางสุนัขตัวเมียจากหอนางโลม ตายซะ!”
ชายหัวล้านโกธรจนหน้าแดงมันคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะใช้ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังปราณของระดับหลอมรวมพลังตบเข้าใส่อีกฝ่าย
เพียะ!
เสียงตบดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนได้ยินอย่างชัดเจน แต่เสียงตบนั้นไม่ได้เป็นของหญิงสาวผู้นั้น แต่เป็นของชายหัวล้านที่ถูกตบจนกระเด็นจบลอยออกไปหลายเมตร
ทันใดนั้นเบื้องหน้าของหญิงสาวปรากฏร่างของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แผ่กลิ่นอายพิเศษออกมาทำให้ฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่อพลันนอนเรียงรายกัน พร้อมกับใบหน้าที่มีความสุขจากการนอนหลับเผยออกมา
กุนไท่ส่งสมุนไพรรักษาให้อีกฝ่ายก่อนจะใช้ฝ่ามือวางใบศีรษะของชายหัวล้านพลางเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า
“วิชาระดับสามัญชน ขั้นสูง มารฝัน!”
กล่าวจบกุนไท่ก็หายตัวไปโดยไม่รีรอคำขอบคุณของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวจดจำรูปลักษณ์ของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน นางคิดว่าหากเจอกุนไท่อีกสักคราจะกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายอย่างจริงใจ
ภาพเหตุการณ์นี้ไม่มีใครพบเห็น เพราะโดนกลิ่นอายของชายหนุ่มทำให้หมดสติไปทุกคน ชายหัวล้านตื่นขึ้นมา พร้อมกับความรู้สึกที่ปวดตรงใบหน้าที่ถูกตบ ก่อนจะสบถออกมาอย่างโกธรแค้น พลางเดินกลับไปด้วยความคับแค้นใจ และสาบานกับตนเองว่าจะหาคนที่มันตบหน้ามันให้จงได้!
ชายหัวล้านรู้สึกง่วงขึ้นมา เขาสงสัยว่าเขาง่วงได้อย่างไร เพราะผู้ที่อยู่ในระดับหลอมรวมพลังนั้นไม่จำเป็นต้องนอนอีกต่อไป
เขาคิดเพียงแค่ว่าตนเองได้รับบาดเจ็บมา ร่างกายอาจจะต้องการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ เขาเหยียดกายบนที่นอนอย่างสบาย พร้อมกับปิดตาหลับลึกไป
“หึๆ! ฮ่า ฮา! เด็กน้อย! ไปอยู่กับข้าที่อีกโลกเถอะ!”
เสียงแหบแห้งชวนขนลุกขนพองดังขึ้นในหัว พร้อมกับมีปีศาจตัวสีดำดวงตาสีแดงก่ำกำลังกัดกินศพของชายผู้หนึ่งอยู่ ใช่แล้วมันคือร่างของเขาเอง!
ชายหัวล้านเห็นร่างกายของตัวเองโดนปีศาจตนนั้นฆ่าต่อหน้าต่อตาตนเอง มันเป็นฉากที่น่ากลัว และแปลกประหลาดอย่างมาก
ใช่แล้ว นี่เป็นเพียงแค่ฝัน มันไม่มีทางเป็นจริง! ใครจะไปเห็นตัวเองถูกฆ่าได้กัน ก็ในเมื่อเขายืนอยู่ตรงนี้! แต่เหตุใดคนตรงหน้าเขาถึงได้เหมือนกับตนนัก! ชายหัวล้านพยายามปลอบใจตัวเอง
“ใช่แล้วนี่คือความฝัน! เพราะเจ้าได้ตายในความฝันแล้ว! ฮ่าๆๆๆ”
ปีศาจตนนั้นหันหน้ามา พร้อมกับกล่าวพลางหัวเราะอย่างชั่วร้าย
เช้าวันต่อมา กุนไท่หยุดการบ่มเพาะลง ก่อนจะออกจากบ้านพักไป และได้ข่าวว่ามีศิษย์สายในผู้หนึ่งเสียชีวิตลง กุนไท่พลันยิ้มออกมาอย่างไม่แยแสพลางรู้สึกว่าวิชาใหม่ของตนนั้นมีประสิทธิภาพมาก และเห็นผลไวมาก!
นี่คือวิชาใหม่ของกุนไท่ วิชามารฝัน! มันเป็นวิชาที่เอาไว้ลอบสังหารโดยทำให้ผู้อื่นไม่ทันรู้ตัว ผู้อื่นไม่สามารถหาสาเหตุการตายได้
วิชานี้จะทำให้อีกฝ่ายนอนหลับ แล้วได้เจอกับมารฝันที่จะมาสังหารอีกฝ่ายโดยที่ไม่สามารถขัดขืนได้ วิชานี้เป็นวิชาที่โหดร้าย แต่แน่นอนว่ามันมีเงื่อนไขที่ว่า ผู้ที่โดนนั้นต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตต่ำกว่าขั้น 4 ลงไป
แม้จะโหดร้าย แต่เป็นวิธีที่จะทำให้นิกายน่าอยู่ยิ่งขึ้น เขาเกลียดคนชั่ว และไร้ยางอายเช่นนี้ที่สุด กล้าข่มเหงรังแกผู้อื่นตอนกลางวันแสกๆ คนประเภทนี้สมควรโดนแล้ว!