MATOP ตอนที่ 19
โรแลนด์อยู่บนถนนในหมู่บ้าน ขณะมองไปที่ไม้เท้าวิเศษในมือของเขา
ปกตินั้นของวิเศษจะมีราคาแพงมาก แต่ฟอลเคนก็ยังคงให้ไม้เท้าแก่เขา มันอาจจะเป็นเพราะเมื่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดของเขากับ NPC เกินกว่าเกณฑ์บางอย่างของภารกิจหรือ เพียงแค่ฟอลเคนมอบให้เขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ?
ความสับสนของโรแลนด์นั้นเป็นที่เข้าใจได้ เพราะตอนนี้นั้นเขากำลังอยู่ในเกม
ตามสามัญสำนึกแล้ว เนื่องจากเขากำลังอยู่ในเกม ไอเทมก็ควรเกี่ยวจะข้องกับภารกิจมากกว่า
กระนั้นโรแลนด์รู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะทั้งฟอลเคนและคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน ต่างก็ทำให้เขาประทับใจในฐานะคนที่มีจิตวิญญาณ มีชีวิตอยู่และมีอารมณ์เป็นของตัวเองแทนที่จะเป็น NPC แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ตามที่เกมได้โปรโมตไว้ แต่โรแลนด์นั้นไม่ได้รู้สึกเลยว่าพวกเขานั้นแตกต่างไปจากคนจริง ๆ
เขาอยู่ในเกมที่เสมือนจริงหรือเปล่า ?
หรือเป็นโลกจริง ๆ ที่มีมนุษย์อยู่กันแน่ ?
เพราะคนเหล่านี้มีภาษา ขนบธรรมเนียมและประวัติศาสตร์ของตนเองด้วยซ้ำ
ทีมผู้ผลิตเกมสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ มากมายได้ขนาดนี้เลยจริง ๆ เหรอ ?
โรแลนด์พบว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ หากพวกเขาสามารถทำได้จริง พวกเขาอาจได้รับการว่าจ้างจาก Think Tank เพื่ออนุมานประวัติศาสตร์และอนาคตของโลกทั้งใบ (Think Tank คือสถาบันที่ทำการค้นคว้า ศึกษา วิจัย วิเคราะห์นโยบายสาธารณะ)
นี่มันเป็นสิ่งที่ซับซ้อนอย่างมาก
กระนั้นหน้าต่างของระบบที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขานั้นก็ยังทำให้เขาเชื่อว่าเขานั้นอยู่ในเกม
ชื่อ: Mini Sapphire Magic Staff (ยอดเยี่ยม)
คุณสมบัติ: ความรุนแรงในการร่ายเวทย์ +2, การฟื้นฟูพลังเวทย์ +1
คำอธิบาย: ไม้เท้าที่ค่อนข้างธรรมดา แต่สามารถใช้ได้ตลอดชีวิตหากดูแลอย่างถูกต้อง
จากนั้นเขาก็มองไปที่ร่างกายของตัวเอง หน้าต่างโปร่งแสงอีกบานก็โผล่ขึ้นมา
ชื่อ: White Magic Robe (ยอดเยี่ยม)
คุณสมบัติ: การฟื้นฟูพลังเวทย์ +2
คำอธิบาย: เสื้อคลุมตัวยาวที่ดูไม่น่าสนใจซึ่งน่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับแรกสำหรับเด็กฝึกงาน
โรแลนด์ถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าผู้เล่นคนอื่นมอง NPC ในเกมนี้อย่างไร แต่สำหรับตัวเขาเอง เขาไม่สามารถลงมือกับ NPC ที่เหมือนมนุษย์เช่นนี้ เพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์หรืออัพเลเวลได้เหมือนในเกมอื่น ๆ
ทว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ที่จะฆ่าสัตว์ป่าที่มีหน้าตาแปลกประหลาด
ตอนนี้เขาเดินมาถึงป่าเมเปิ้ลแล้ว
โรแลนด์มองไปที่ไม้เท้าและดาบยาวของเขา พลางหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปในป่าอย่างช้า ๆ
ขณะที่เขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ บรรยากาศในป่าก็เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ
ความเงียบสงบของที่นี่บางครั้งก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงนกร้องจากมุมใดมุมหนึ่งในป่า
โรแลนด์เหยียบใบไม้เน่า ๆ ที่ร่วงทับถมกันเป็นพรมหนา เสียงใบไม้และฝีเท้าของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาได้กลิ่นเหม็นเน่าแปลก ๆ
แม้ว่าตัวเขานั้นจะสามารถฟื้นคืนชีพได้หากเขาตาย ทว่าโรแลนด์ก็ยังรู้สึกกลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
เขาเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังและตื่นตัวเต็มที่ แม้แต่เสียงที่เบาที่สุดก็ยังทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว เขามองไปยังแหล่งที่มาของเสียงและส่วนใหญ่เกิดจากสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ
ความรู้สึกพิเศษของความกลัวและความคาดหวังนี้ทำให้เขานึกถึงเกม Resident Evil 2 ที่เขาเล่นเมื่อตอนอายุเจ็ดขวบ
มันทั้งตื่นเต้นและสนุกสนาน
หลังจากนั้นอีกสามนาทีต่อมา โรแลนด์ก็เริ่มสังเกตเห็นใยแมงมุมสีขาวไม่สมประกอบ ที่ด้านล่างของต้นไม้รอบตัวเขา นอกจากนี้เขายังได้ยินเสียงดังจากข้างหน้าราวกับว่ามีคนกำลังย่ำใบไม้อยู่
มันต้องเป็นแมงมุมยักษ์แน่นอน
โรแลนด์นั่งยอง ๆ ลงและพยายามหายใจเบา ๆ
แมงมุมยักษ์สีแดงเข้มปรากฏขึ้นมาในความมืดอย่างช้า ๆ
ดูเหมือนแมงมุมจะยังไม่สังเกตเห็นเขา แต่หัวใจของโรแลนด์นั้นเต้นแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อแมงมุมเข้ามาใกล้ เขาจำบทความบทหนึ่งที่มีชื่อเสียงบนโลกอินเทอร์เน็ตได้
ความลังเลนั้นหมายถึงความล้มเหลว เฉกเช่นสิงโตจะพยายามอย่างเต็มที่แม้ว่ามันจะจับกระต่ายเพียงแค่ตัวเดียวก็ตาม!
เขาเริ่มรวมพลังเวทย์มนตร์ทั้งหมดของเขา โรแลนด์ปล่อยลูกบอลไฟสีฟ้าขนาดใหญ่เท่ากะละมัง
หลังจากยิงมันออกไปโรแลนด์ก็รีบวิ่งหนีไปและหมอบลงทันที
ลูกไฟมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อมันลอยไปข้างหน้า ไม่นานมันก็ไปถึงแมงมุมยักษ์
สัตว์ส่วนใหญ่กลัวไฟและแมงมุมยักษ์ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
ลูกไฟยุบตัวลงอย่างรวดเร็วในตอนแรกก่อนที่จะระเบิดด้วยความเร็วที่สูงมาก
เสียงและเปลวไฟของการระเบิดบ่งบอกว่าระเบิดเพิ่งถูกจุดชนวน
ก่อนที่แมงมุมยักษ์จะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นมันก็ถูกเปลวเพลิงอันรุนแรงเผาผลาญจนหมดสิ้น
จากนั้นไฟและควันก็พวยพุ่งเหมือนดอกเห็ดขนาดใหญ่
แม้ว่าเขาจะอยู่นอกระยะของการระเบิด แต่โรแลนด์ก็ถูกระเบิดขนาดมหึมานั่นเหวี่ยงกระเด็นไป
เขาร่วงไปบนกองใบไม้แห้งที่อยู่บนพื้น จากนั้นอากาศร้อนก็พัดผ่านศีรษะของเขา
โชคดีที่ใบไม้นั้นหนาพอที่จะป้องกันไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บ
เขาพยายามที่จะลุกขึ้นยืนเพียงเพื่อที่จะแสดงสีหน้าพูดไม่ออกจากสิ่งที่เขาก่อเอาไว้
เบื้องหน้าเขานั้นเป็นหลุมขนาดมหึมา ที่มีลาวาสีแดงเข้มไหลอยู่ด้านล่าง ต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียงถูกไฟไหม้และหักล้ม พื้นที่กว้างอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอลถูกระเบิดจนมีสภาพแย่ ต้นไม้หลายต้นเอนไปในแนวแรงของระเบิด
ภายในรัศมีการระเบิดไม่มีอะไรเหลืออยู่ นอกจากลำต้นของต้นไม้ที่เหลือเพียงแค่เศษเถ้าถ่านเท่านั้น
ความรุนแรงนั่น…โรแลนด์ทรุดลงกับพื้น
พลังเวทย์ของเขาถูกใช้ไปจนหมดแล้ว และพลังของลูกไฟนั้นใหญ่ยิ่งกว่าตอนที่เขาทดลองใช้พลังที่เมืองเรดเมาน์เทนซะอีก
อาจเป็นเพราะเลเวลของเขามากขึ้น และเพราะไม้เท้านั่นยังช่วยเพิ่มพลังเวทย์ของเขา!
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม ความรุนแรงของคาถาก็เกินจินตนาการของโรแลนด์ไปมาก
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คลาส ที่โจมตีระยะประชิด จะทำแบบเดียวกันนี้ได้ในช่วงเริ่มต้นของเกม
และเขาก็ไม่คิดว่าพวก Warlock จะทำได้เช่นกัน
ว่ากันว่าพลังในการร่ายเวทย์สำหรับ Warlock นั้นได้รับการแก้ไขหรือกำหนดเป็นอัตราส่วนที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
นั่นหมายความว่า…ถ้าเทียบกับรถยนต์แล้วเหล่า Warlock จะเป็น AT และเหล่า Mage จะเป็น MT (AT = Automatic Transmission หมายถึงเกียร์ออโต้ MT = Manual Transmission หมายถึงเกียร์ธรรมดา)
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่ารถที่ดีที่สุดสำหรับการแข่งขันในสนามคือ MT ทั้งหมด
โรแลนด์พยายามขยับร่างกายของเขาให้ห่างจากจุดที่เกิดการระเบิดมากขึ้น เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงมากนัก
โชคดีที่ในป่าค่อนข้างชื้นและไฟไม่ได้ลุกลามออกไป แต่กลับเริ่มมอดลงช้า ๆ
เขานั่งนิ่ง ๆ เพลิดเพลินไปกับฉากที่น่าสะพรึงกลัวที่ทำให้เขาหลงใหลและพึงพอใจ
มันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากที่เขามีพลังทำลายล้างเช่นนี้
สิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในโลกความเป็นจริงนั้นกลับสามารถทำได้ในเกม ในโลกนี้ที่แทบจะเหมือนจริงนั้น เขากลับสามารถทำสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนได้
ความฝันของการเป็น Mage ที่เขามีเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ได้ถูกเติมเต็มแล้ว
โรแลนด์หัวเราะเบา ๆ ด้วยความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นที่เขาไม่เคยรู้สึกมาหลายปี
โลกแฟนตาซีแห่งดาบและเวทมนตร์ นั่นคือความโรแมนติกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหัวใจของเด็กผู้ชายทุกคน