ตอนที่แล้วตอนที่ 77 สมาชิกคนสุดท้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 79 ฟ้าหลังฝน

ตอนที่ 78 พลังที่ซ่อนอยู่


ตอนที่ 78 พลังที่ซ่อนอยู่

ร่างของเสนาบดีอีกอร์ถูกกระชากอย่างแรงส่งผลให้รอบลำตัวมีบาดแผลจากการถูกรัดเต็มไปหมด คนอื่นในกิลด์ Rising Sun ต่างตื่นตะลึงเมื่อเห็นร่างของเสนาบดีลอยมาทางพวกตน สกิล Hook ของผู้เบิกทางหากคว้าจับเป้าหมายได้ โอกาสรอดกลับไปก็แทบเป็นศูนย์ เสนาบดีอีกอร์ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่ไหนเลยจะมีคนสนใจ

แค่ลำพังขุนนางและทหารคนอื่นๆรับมือกับการบุกโจมตีของฝ่ายองค์หญิงที่กำลังเข้าประชิดก็แทบจะแย่อยู่แล้ว คงไม่มีใครว่างมากนั่งคุ้มกันเสนาบดีอีกอร์ที่อยู่ในจุดปลอดภัยแนวหลังกันหรอก

เสนาบดีอีกอร์แม้จะคาดหวังถึงความช่วยเหลือจากขุนนางคนอื่นๆ แต่เมื่อสังเกตุกลุ่มคนที่ลากตนเองออกมาจากแนวหลังจนละเอียด ใบหน้าที่หยิ่งยโสก็ปรากฏออกมาให้ทุกคนได้เห็น

“ข้าก็หลงตกใจนึกว่าเป็นองค์รักษ์ที่แข็งแกร่งขององค์หญิงซะอีก แต่ที่ไหนได้ที่แท้ก็แค่หนูสกปรกที่เคยลักลอบเข้าห้องของข้าวันก่อนนั้นเอง”

เสนาบดีอีกอร์แม้จะพูดจาเหยียดหยามศัตรูตรงหน้าแต่สายตาก็จ้องมองผู้กล้าที่รายล้อมเอาไว้ตลอดเวลา ไม่มีสัญญาณ ไม่มีใครเคลื่อนไหว เพียงแค่สบตากัน ร่างของเจสเปอร์และเสนาบดีอีกอร์ก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ราวกับแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน

เสนาบดีอีกอร์พุ่งตัวอย่างรวดเร็วโดยมีเปลวเพลิงสีดำประสานอยู่ที่มือ เป้าหมายของมันย่อมเป็นเจสเปอร์ มันมองศัตรูที่แสนอ่อนแอตรงหน้าพลางแสยะยิ้มออกมา คลื่นลำแสงทำลายล้างในมือถูกปล่อยออกมา ลำแสงพุ่งมาเป็นทางยาวกวาดหลังคาประสาทประจำเมืองให้พังพินาศ แต่ทว่าเมื่อลำแสงได้ตกกระทบกับเป้าหมาย ร่างของชายผู้นั้นกลับหายไป

‘คลื่นทมิฬของฉันพลาดเป้าได้ยังไงไม่มีทางเป็นไปได้’

ถูกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา เจสเปอร์ยกดาบอีเทอนัลวอร์เบลดที่ได้อัพเกรดขึ้นจากการกลืนกินแร่ Utopian Titanium ที่ตนได้แอบลักลอบเข้าไปในห้องของเสนาบดีกอร์โดยบังเอิญ ทันทีเจสเปอร์ยกดาบเล่มนี้ขึ้น เขารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ไหลเวียนเข้ามา พลังที่แข็งแกร่ง กำลังหล่อหลอมให้เขาเติบโตขึ้นอีกขั้น

‘วูม!!’ คลื่นทมิฬถูกเจสเปอร์ปัดออกข้าง ส่งให้ลำแสงสีดำลอยเคว้งไร้เป้าหมายออกไปในทิศทางที่ไม่ผู้คน

“ตาฉันบางละนะ” เจสเปอร์พูดออกไป ขณะที่ร่างของเขากระหน่ำโจมตีเข้าใส่เสนาบดีอีกอร์

แขนของเสนาบดีอีกอร์ถึงกับสั่นระริกเมื่อต้องรับการโจมตีของดาบอีเทอนัลวอร์เบลดที่ฟาดฟันเข้ามา แต่แค่การฟันธรรมดาจะสาแก่ใจเจสเปอร์ไปได้อย่างไร ชายหนุ่มบิดตัวลอบขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะปล่อยสกิล ‘Infernal Impact’ ออกมา

ค่าความเสียหายที่เสนาบดีอีกอร์ได้รับพุ่งสูงขึ้น ก่อนที่การโจมตีครั้งสุดท้ายของสกิล Infernal Impact จะผลักให้ตัวมันล้มลง

“ลุยเลย!! อย่าให้มันได้ลุก” การต่อสู้กับบอสที่เลเวลสูงกว่าเช่นนี้ คงไม่มีใครคิดจะสู้แบบตัวต่อตัวอยู่แล้ว สมาชิกกิลด์ Rising Sun เองก็รอจังหวะที่เสนาบดีอีกอร์ล้มลงมานานแล้วเช่นกัน เพียงแค่เจสเปอร์เอ่ยปากท่วงทำนองแห่งการเชื่อมผสานก็อุบัติขึ้น

อามมี่ออกมารับตัวเสนาบดีอีกอร์ที่ล้มลงเป็นคนแรกด้วยสกิล ‘Blink’ ร่างของเขาแทบจะแนบชิดติดกับบอสอีกอร์ก่อนที่จะคว้าจับตัวให้มันลุกขึ้นยืน ประเคนหมัดชุดเป็นออเดิฟแรกเพื่อเรียกน้ำย่อย คอมโบหมัดชุดกระหน่ำเข้าใส่ร่างของเสนาบดีอีกอร์จนตัวหงิกงอ ทุกหมัดที่โจมตีเข้าไปไม่ใช่เพียงแค่ทำความเสียหายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีผลข้างเคียงที่ศัตรูจะได้รับเข้าไปอีกนั้นคือการลดเกราะ

‘ฉึก ฉึก ฉึก’

เสนาบดีอีกอร์ยังไม่ทันหายเมาจากการรับหมัดของอามมี่ ลูกธนู 3 ดอกก็ตรงลอยเสียบร่างของมันซ้ำเข้าไปอีก “เล่นคนเดียวไม่แบ่งคนอื่น นิสัยไม่ดีเลยนะ เจ้ากล้ามปู” ลูอิสหยอกล้ออามมี่ พร้อมกับเปลี่ยนหัวลูกธนูในมือให้เป็นหัวตันที่มีสถานะสตัน ลูกธนูถูกนำขึ้นสายพาดรอเตรียมที่จะปล่อย

‘ปัก บรึ้ม!!’

เวทย์ศรไฟระเบิดจากหิมะน้อยผสมเข้ากับลูกธนูหัวตันของลูอิส แม้เสนาบดีอีกอร์จะมีค่าป้องกันเวทย์สูงมากแค่ไหน แต่ค่าความเสียหายที่ปรากฏออกมาก็สูงจนน่าวิตกอยู่ดี

“พวกแกบังอาจมากที่กล้ามาทำร้ายฉัน งั้นจงตายซะ”

เสนาบดีอีกอร์ฮอบร่างตัวเองขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ร่ายกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือด ไม่หลงเหลือรอยยิ้มแห่งความหยิ่งยโสอีกต่อไป หน้าของมันบูดบึ้ง แววตาเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น มันยกมือขึ้นผสานก่อนที่จะเริ่มท่องมนต์อะไรบางอย่างที่กว่าเจสเปอร์จะรู้ตัวก็สายไปแล้ว

“มันกำลังขายวิญญาณให้ความมืด!!” ชายหนุ่มร้องเตือนด้วยความตกใจแต่เพื่อนของเขา กลับไม่รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง

การขายวิญญาณให้ความมืดในเกม The Era Online คือการแลกเปลี่ยนความเป็นมนุษย์ให้กับราชาแห่งความมืดเพื่อรับพลังมหาศาล คล้ายกับอาการคลุ้มคลั่งของบอสทั่วๆไป แต่ที่ทำให้สกิลนี้แตกต่างเหนือกว่าคือมันไม่ลดประสิทธิภาพในการป้องกันของตัวเอง ลงและยังคงสติสัมปชัญญะของผู้ใช้เช่นเดิม พลังเช่นนี้มักจะมีอยู่ในบอสระดับสูงธาตุความมืดแทบทุกตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในอดีตของเจสเปอร์

‘นึกไม่ถึงจริงว่าเสนาบดีอีกอร์จะมีสกิลแบบนี้ด้วย’ เจสเปอร์ไม่ได้ลืมถึงพลังของสกิลนี้แต่ที่เขาไม่เอะใจตั้งแต่แรกก็เป็นเพราะว่า เขานึกไม่ถึงว่าจะพบเจอสกิลขั้นสูงจากเสนาบดีอีกอร์เร็วแบบนี้

‘ย่าห์’ “ข้าแด่ราชาแห่งความมืด Dark Xin ข้ายอมสละเลือดเนื้อและร่างกายนี้ให้กับท่าน ขอให้ท่านราชาผู้ยิ่งใหญ่รับศิษย์ผู้นี้ไว้ในอ้อมกอดและมอบพลังความมืดที่แข็งแกร่งให้แก่ข้าผู้น้อด้วยเถิด”

‘ครืน’

หลังจากที่เสนาบาดีอีกอร์กล่าวคำถวายร่างกายให้ราชาแห่งความมืดเสร็จสิ้น ท้องฟ้าบริเวณเมืองแซนนิกซ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป แสงจากพระอาทิตย์ที่ค่อยสาดส่องนำทางถูกความมืดเข้าปกคลุม กลุ่มควันจับตัวเป็นหัวกะโหลกรูปร่างน่าหวาดกลัว ผู้เล่นและNPC ทั้งหมดต่างแหงนหน้ามองปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นด้วยความแตกตื่นระคนตกใจ

หัวกะโหลกที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอ้าปากออกช้าๆ ก่อนที่จะพ่นควันประหลาดสีดำออกมา เสนาบดีอีกอร์กางแขนทั้งสองข้างเพื่อรับควันที่ลอยมาด้วยความยินดี ‘กึก’ หลังจากร่างกายเสนาบดีอีกอร์รับควันสีดำเข้าไป เสียงของกระดูกที่อยู่ภายในร่างกายของเขาก็ดังลั่นออกมา ร่างของเขากระตุกอย่างรุนแรงก่อนที่มันจะยื่นออกมาผิดรูป

เจสเปอร์ยืนมองการเปลี่ยนสภาพของการขายวิญญาณครั้งนี้ด้วยความแปลกใจ เขาเคยเห็นการเปลี่ยนสภาพมานับครั้งไม่ถ้วน แต่มีครั้งนี้ที่มันแปลกไปกว่าทุกทีหากอิงจากอดีตของเขา ร่างกายของผู้ที่ขายวิญญาณจะยังคงรูปลักษณ์เดิมเอาไว้อย่างสมบูรณ์เพียงแต่ส่วนที่เปลี่ยนแปลงคือสีของผิวหนังที่เปลี่ยนเป็นสีดำและนัยน์ตาสีขาว,

แต่กลับกันร่างของเสนาบดีอีกอร์ไม่ใช่สีผิวและนัยน์ตาเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง ร่างกายของมันบิดงอจนผิดรูป แทบจะไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้อีกต่อไป

“จงเกรงกลัวข้า เหล่ามนุษย์ผู้ต่ำต้อย ฮ่าฮ่า” เสียงที่ดังออกมาจากปากของเสนาบดีอีกอร์กลายเป็นเสียงที่แหบพร่าติดๆขัด ทำให้ผู้ได้ฟังพากันรู้สึกสยดสยองยิ่งกว่าเดิม

เสนาบดีอีกอร์แสยะยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียดเมื่อได้เห็นสายตาของคนอื่นที่จ้องมาด้วยความหวาดกลัว มันยังไม่รู้ว่าตัวว่าคนอื่นที่มองมันด้วยความหวาดกลัวหาใช่เพราะความแข็งแกร่งที่มันมี แต่เป็นเพราะรูปกายที่อัปลักษณ์ของมันต่างหาก

“ทุกคนถอยออกมา ให้ฉันเข้าไปตรวจสอบมันดูก่อน” เจสเปอร์บอกกับเพื่อนที่กำลังยืนตะลึงด้วยความตกใจให้ถอยห่างออกมา “ไอรีนเสริมพลังทั้งหมดให้ฉันเท่าที่เธอสามารถทำได้”

ร่ายกายของเจสเปอร์กลับมาพร้อมสมบูรณ์หลังจากได้คำอวยพรเสริมพลังและการรักษาจากไอรีน เขาไม่ได้รีบพุ่งเข้าไปปะทะตรงๆเหมือนครั้งก่อน

ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงที่เดิมอยู่นานพลางยกดาบขึ้นวาดเป็นเครื่องหมายอะไรสักอย่าง ก่อนที่รูปร่างอัปลักษณ์ของเสนาบดีอีกอร์จะลอยเข้ามาหาเขาเหมือนถูกดูดด้วยอะไรบางอย่าง พลังนี้คล้ายคลึงกับสกิล Hook ของผู้เบิกทางสลิปที่สามารถดึงเป้าหมายของมาหาผู้ใช้ได้ แต่ที่แตกต่างกันเลยคือระยะของสกิล Hook จะยาวกว่าและต้องอาศัยอาศัยความชำนาญในการกะจังหวะเพื่อดึงเป้าหมายเข้ามา

แต่สกิลที่เจสเปอร์ใช้ไปเมื่อครู่สามารถร่ายเข้าใส่เป้าหมายได้โดยตรง เป็นสกิลของดาบในมือเขาที่ชื่อว่าสกิล [Telekinesis] มันเป็นสกิลพิเศษที่โผล่ขึ้นมาหลังจากการดูดซับแร่ Telelium เข้าไปในครั้งก่อน ส่วนสาเหตุที่มันยังไม่สามารถใช้ได้ในตอนนั้นคงเป็นเพราะ ดาบอีเทอนัลวอร์เบลด ยังแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะใช้มันนั้นเอง

[Telekinesis]

[รายละเอียด: พลังที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตให้เคลื่อนที่ได้ด้วยพลังจิตบางอย่าง]

ร่างของเสนาบดีอีกอร์ถูกทำให้ลอยขึ้นจากพื้น มันพยายามขัดขืนดิ้นรนต่อสู้กับพลังบางอย่างที่จับต้องไม่ได้บนอากาศ ก่อนที่เขาจะวาดดาบอีกครั้ง ส่งร่างอัปลักษณ์ที่ลอยอยู่ด้านบนเข้ามาหาตัว

‘ตึง!!’ เสนาบดีอีกอร์ตกลงมากระแทกกับพื้นด้านล่างอย่างแรง มันยังคงมึนงงจากการตกลงมาเมื่อครู่อยู่นิดหน่อย แต่สิ่งที่ช่วยปลุกให้มันตื่นจากความสับสนได้ ก็คงเป็นวิถีดาบที่ลอยตามลงมาจากผู้ควบคุมธาตุที่ชื่อว่า เจสเปอร์

พลังธาตุที่เก็บสะสมเอาไว้จากการโจมตีเมื่อครั้งก่อนถูกปลดปล่อยเข้าใส่ร่างอัปลักษณ์ เจสเปอร์รีบม้วนเก็บตัวเมื่อตกลงถึงพื้น ก่อนที่จะวิ่งเข้าใส่กระหน่ำกรีดเฉือนเพื่อตีชิงความได้เปรียบจากอาการสตันที่ เสนาบดีอีกอร์ได้รับไป

‘โฮก’ สถานะสตันหมดไปแล้ว อีกอร์ในร่างสัตว์ประหลาดตอบโต้กลับทันที มันปล่อยคลื่นพลังทมิฬของมัน ไฟสีดำค่อยๆรวบรวมเป็นลูกใหญ่ มากพอจะเผาทำลายบ้านหลังหนึ่งให้แหลกเป็นจุลได้อย่างสบายๆ ไฟเพลิงสีดำที่ไม่มีวันมอดดับถูกปล่อยออกมามันพุ่งเข้ากระแทกเจสเปอร์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับลุกไหม้บริเวณรอบๆ

“เจสเปอร์!!” ไอรีนร้องตะโกนเรียก เธอยอมกระโดดลงมาจากหลังคาปราสาทที่สูงเกินจุดปลอดภัยที่ตัวละครจะทำได้เพื่อส่งการรักษาให้ชายหนุ่มที่กำลังถูกไฟครอก โดยที่ไม่สนความเสียหายจากการตกจากที่สูงเมื่อครู่นี้เลย

“ตายไปซะ ไอ้หนูสกปรก”เพลิงทมิฬเผาผลาญทุกสิ่งรอบข้างจนดำเป็นเถ้าถ่าน เสนาบดีอีกอร์มั่นใจว่าตนเองฆ่าเจสเปอร์ไปได้แล้ว แต่มันก็ต้องตระหนกเมื่อเห็นร่างของคนผู้หนึ่งยืนอยู่ในท่ามกลางกองขี้เถ้า

“เป็นไปได้ยังไง ทำไมแกไม่ตาย!!”

ไฟทมิฬดับมอดลงไปแล้ว เจสเปอร์เดินออกมาจากกองขี้เถ้าด้วยร่างกายที่บอบช้ำแสนสาหัส แต่สิ่งที่ยังคงประคองร่างกายของเขาให้ยื่นเอาไว้ได้คงเป็นอำนาจจากเหรียญตราผู้กล้า The Life & Magic Award ที่องค์หญิงซีซีเรียมอบให้ พลังเวทย์มนต์ในตัวของเขาทั้งหมดถูกแลกเปลี่ยนเป็นพลังชีวิตจนหมดสิ้น แต่ถึงกระนั่นมันก็ยังเกือบไม่พอที่จะประคองร่างเขาเอาไว้ได้ หากมีใครสักคนเข้ามาจู่โจมเขาในตอนนี้ เขาก็คงต้องตกตายกลายเป็นลูกไฟวิญญาณ ณ ที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

เสนาบดีอีกอร์ในรูปอัปลักษณ์แม้ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงตรงหน้าได้ คลื่นไฟทมิฬพลังทำลายขั้นสูงสุดของมันไม่อาจเผาผลาญชีวิตศัตรูที่มันมองเป็นเพียงหนูสกปรกตัวหนึ่ง

“หนูสกปรกยังไงก็ต้องถูกกำจัด ชะตาของแกก็ไม่อาจรอดพ้นจากน้ำมือข้าไปได้”

<คลื่นทมิฬ!!>

เสนาบดีอีกอร์ร่ายเวทย์อย่างรวดเร็วก่อนที่จะปล่อยพวกมันเข้าใส่เจสเปอร์ที่ไร้ซึ่งการตอบโต้

พลังเวทย์มนต์ของเขาหมดลงไปแล้วเหรียญตราผู้กล้าก็ไม่อาจช่วยชีวิตเข้าได้อีก ก็แค่ความตายทำไมเขาจะไม่เคยเผชิญ อดีตของเขาตายต้องไม่รู้กี่ครั้ง เจสเปอร์ยืนรับคลื่นที่ลอยมาด้วยความเต็มใจ

‘บรึ้ม!!’ ~ ~

“หลบไปท่านผู้กล้า ตรงนี้ข้าจะช่วยต้านเอาไว้ให้ ทหารคุ้มกันท่านวิสเคานต์ออกไปจากตรงนี้ที”

เจสเปอร์ลืมตาขึ้นมา เขาที่เตรียมใจตายถูกกลุ่มองค์รักษ์จำนวนหนึ่งเข้ามา หิ้วปีกทั้งสองข้างออกไป โดนตรงหน้าเป็นอัศวินหญิงในชุดเกราะสีเงินประดับสัญลักษณ์ของอาณาจักรกรีนเวต้า ‘องค์หญิงซีซีเรีย’

แต่ยังมีหญิงสาวอีกหนึ่งคนที่วิ่งมาทางเขาด้วยตาของเธอมีคราบน้ำตาเอ่อคลอ เธอกระหน่ำรักษาเขา ด้วยพลังทั้งหมดที่เธอมี ไม่นานพลังชีวิตของเจสเปอร์ก็พ้นจุดอันตราย สติกลับมาแจ่มชัด แต่ประโยคแรกที่หลุดออกจากไปชายหนุ่มกับเป็นการด่าทอ

“พวกนายจะยืนแอ็คเป็นพระเอกกันอีกนานไหม สู้กับบอสนะทำไมไม่เข้ามาช่วยฉัน ต้องให้ฉันตายก่อนหรือไง พวกนายถึงจะลงมา!!!!”

“...”

“ก็นายบอกพวกเราเองว่าให้ถอยหลังไปก่อน นายจะตรวจสอบไอ้เจ้านั่นเองไม่ใช่หรอ พวกเราก็นึกว่าที่นายเจ็บอยู่นี้คือการทดสอบเสียอีก”

อามมี่และลูอิสพูดด้วยคำพูดซื่อๆย้อนแย้งกับใบหน้าที่ หัวเราะแทบสะใจที่ได้เห็นเจสเปอร์ เจ็บปางตาย ซึ่งคนที่หลุดหัวเราะจนเก็บไว้ไม่อยู่เป็นคนแรก ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทวิสเต็ด นักฆ่าผู้เงียบขรึมประจำกิลด์นั่นเอง

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด