ตอนที่ 77 สมาชิกคนสุดท้าย
ตอนที่ 77 สมาชิกคนสุดท้าย
องค์หญิงซีซีเรียปล่อยข่าวลวงออกไปตามคำบอกของเจสเปอร์ เมืองแซนนิกซ์ที่เคยสงบเงียบบัดนี้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยจราจล ผู้คนต่างลุกหื้อโกรธแค้น สาปแช่ง บางคนร้องไห้ต่อการสูญเสีย การถูกประหารชีวิตจองเจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 แห่งเมืองแซนนิกซ์ในฐานะกบฏอาณาจักร
ข่าวลือแพร่กระจายดั่งสายน้ำที่ไหลเฉียว เพียงแค่ค่ำคืนเดียวประชาชนในเมืองแซนนิกซ์ก็ทราบข่าวนี้จนทั่ว ก่อนที่เรื่องนี้จะถึงหูของเสนาบดีอีกอร์และขุนนางโฉดชั่ว
“ฮ่าฮ่า ยินดีกับแผนของท่านอีกอร์ด้วยที่ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี”
“ท่านขุนนางก็พูดเกินไป เป็นองค์หญิงซีซีเรียต่างหากที่ทำแผนของข้าให้สำเร็จลุล่วง พวกท่านทั้งหลายลองมองดูสิว่าชาวเมืองของเราเศร้าเสียใจต่อการจากไปของเจ้าชายเอ็ดมันด์มากแค่ไหน”
เสนาบดีอีกอร์ดื่มชาอย่างอารมณ์ดีโดยมีขุนนางน้อยใหญ่หลายล้อมให้การสนับสนุน กลับกันที่ด้านนอกปราสาทมีประชาชนยืนรอกันเต็มด้านหน้าประตู เพื่อขอความจริงว่าข่าวลือที่ได้ยินมาเป็นความจริงหรือไม่
“ท่านเห็นไหมว่าในเมืองแห่งนี้ยังมีคนอีกมากมายยังรักและเคารพในตัวเจ้าชายของพวกเขาอยู่”
เจสเปอร์ออนไลน์กลับเข้ามาในเกมอีกครั้งหลังจากที่ได้นอนพักผ่อนไปชั่วขณะหนึ่ง ทันทีที่เขาออนไลน์ เหล่าองค์รักษ์และองค์หญิงก็เคลื่อนตัวเข้าประชิดเมืองแซนนิกซ์ที่ไร้ซึ่งการป้องกัน เนื่องจากจากทหารยามทุกคนที่เฝ้าประตูถูกเกณฑ์ให้ไปรับมือกับกองจราจลที่ด้านหน้าปราสาทประจำเมืองนั่นเอง
เจ้าชายเอ็ดมันด์มองเหล่าประชาชนของตัวเองด้วยความปลื้มปิติ แม้ตัวเขาจะอยากออกไปปรากฏกายให้ผู้คนรับรู้ว่าเขาไม่ได้ถูกประหารตามที่ข่าวลือปลอมๆได้เผยแพร่ แต่เพื่อแผนการจัดการเสนาบดีอีกอร์และขุนนางที่สมคบคิด เขาจึงต้องหักห้ามใจเอาไว้
‘ยอมให้คนรักเสียน้ำตาในเรื่องที่ไม่จริง ดีกว่าให้คนที่รักเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะหลงเชื่อคนผิด’
ไม่นานประตูปราสาทประจำเมืองก็เปิดออกโดยมีเสนาบดีอีกอร์และขุนางคนอื่นๆเดินตามออกมาด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า เสนาบดีอีกอร์ยกมือของตนขึ้นเพื่อให้ชาวเมืองเบาเสียงลง ก่อนที่จะเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนวานก่อนที่มีคนบุกรุกเข้ามาเพื่อจับตัวเจ้าชายไป ให้กับประชาชนได้รับฟัง
“ข้าเองก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นจริงแต่พวกเราคณะขุนนางขอแจ้งให้ทุกคนทราบว่าข่าวลือที่พวกท่านได้ยินมาคือเรื่องจริง เจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 แห่งตระกูลเอ็ดมันด์ผู้ปกครองเมืองแซนนิกซ์ถูกประหารชีวิตโดยฝีมือขององค์หญิงซีซีเรียแห่งราชวงศ์กรีนเวต้า”
เสนาบดีอีกอร์เว้นระยะสักนิดเพื่อดูปฏิกิริยาของประชาชนที่กำลังเดือดดาล ก่อนที่จะเอ่ยปากปลุกระดมออกมาอย่างชัดเจน
“บัดนี้คนที่ฆ่าเจ้าชายของพวกเรากำลังปิดล้อมเมืองแซนนิกซ์ที่ยิ่งใหญ่ เหล่าผู้กล้าและชาวเมืองอย่างพวกเราจะไม่ยอมตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรแห่งนี้อีกต่อไป ข้าอีกอร์ขอนำพวกท่านลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาเมืองแห่งนี้ด้วยตัวข้าเอง”
สิ้นเสียงของเสนาบาดีคลื่นความโกรธแค้นจากบรรดาชาวเมืองต่างกู่ร้อง พ่นถอยคำไม่สุภาพด่าทอองค์หญิงซีซีเรียไปทั่วทั้งเมือง เหล่าผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ก็เช่นกันคำพูดปลุกระดมเมื่อครู่ของเสนาบดีอีกอร์เป็นการมอบเควสพิเศษให้กับผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้
[ภารกิจพิเศษ: ปกป้องเมืองแซนนิกซ์จากการรุกรานขององค์หญิงซีซีเรีย]
[รายละเอียด: ค้นหาและกำจัดเหล่าองค์รักษ์หรือสังหารองค์หญิงซีซีเรีย เควสนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อสามารถปกป้องเมืองไม่ให้แตกพ่าย และจะล้มเหลวทันที่เมื่อเสนาบดีอีกอร์ถูกสังหาร]
ส่วนของรางวัลเป็นอะไรที่ล่อตาล่อใจเหล่าผู้เล่นเป็นอย่างมาก ยศศักดิ์ ค่าประสบการณ์ ไอเท็มพิเศษ มีอยู่ทั้งหมดในเควสนี้ ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองแซนนิกซ์แห่งนี้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์กดรับเควสโดยไม่ลังเล ส่วนบทลงโทษพวกเขาหาได้สนใจไม่ จะเป็นไปได้ยังไงที่ประชาชนทั้งเมืองจะพ่ายแพ้ให้กับกองกำลังเล็กที่ยกมาจากที่ห่างไกล ทุกคนถืออาวุธชูขึ้นฟ้าตามชาวเมืองพร้อมโห่ร้องตะโกนผสมวง
แต่ทันใดนั้น ‘พรึบ’ เหล่าองค์รักษ์และทหารขององค์หญิงซีซีเรียก็ได้เปิดเผยตัวตนออกมาจากที่ซ่อนและเข้าล้อมกรอบเหล่าฝูงชนและสาวกของเสนาบดีอีกอร์เอาไว้
“พวกมันอยู่ตรงนั้น พวกเราชาวเมืองแซนนิกซ์อย่าได้กลัวเกรงลุยเข้าไปเลย”
เสนาบดีอีกอร์ดูเหมือนจะตกใจอยู่บางเล็กน้อยที่เห็นกองทัพขององค์หญิงซีซีเรียเข้าปิดล้อมพวกตนเอาไว้ตั้งแต่แรกแบบนี้ แต่ถึงตกใจแค่ไหนฝั่งของตนก็มีคนมากกว่าตั้งหลายเท่าแถมยังมีประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ดูสิว่าองค์หญิงที่ใสซื่อจะกล้าทำร้ายประชาชนตาดำๆไหม
“ช้าก่อนประชาชนที่รักของข้า”
คราวนี้เป็นเสียงของเจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 ที่ก้าวออกมาจากหลังขบวนองค์รักษ์ เกิดความแตกตื่นขึ้นทันที ประชาชนพลันสับสนงุนงง
“ข้าเจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 ไม่ได้ถูกประหารชีวิตแต่อย่างใด ข่าวที่ว่าข้าถูกจับตัวไปโดยองค์หญิงซีซีเรียล้วนเป็นข่าวลวง พวกท่านทั้งหลายอย่าได้หลงเชื่อคำของเสนาบดีโฉดชั่วที่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหวังยึดอำนาจตระกูลเอ็ดมันด์อีกต่อไปเลย”
ประชาชนบ้างส่วนเมื่อได้เห็นหน้าเจ้าชายและได้ฟังคำกล่าวเมื่อครู่ ก็เริ่มพากันเดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมและเหล่าสาวกของเสนาบดีอีกอร์ ส่วนฝ่ายขององค์หญิงซีซีเรียก็รีบเปิดทางให้กลุ่มคนเหล่านั้นด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
“ประชาชนชาวเมืองแซนนิกซ์อย่าไปหลงเชื่อคำของชายคนนั้น ข้าที่อยู่กับเจ้าชายเอ็ดมันด์มานาน ข้ารู้ดีชายคนนั้นต้องเป็นตัวปลอมอย่างแน่นอน โทษของคนที่ปลอมเป็นเจ้าชายของพวกเรามีแต่ต้องตายสถานเดียวเท่านั้น”
บัดนี้เหล่าประชาชนต่างสับสนยิ่งกว่าเก่าไม่มีใครกล้าที่จะขยับตัว ทั้งสองฝ่ายต่างมองซึ้งกันและกัน เป็นฝ่ายเสนาบดีอีกอร์ที่เปิดฉากการสงครามกลางเมืองขึ้นก่อนโทสะที่มีถูกแปรเปลี่ยนออกมาเป็นคลื่นพลังแบบเดียวกับที่เจสเปอร์เคยโดนในการบุกรุกห้องของเสนาบดีอีกอร์เมื่อคืนวาน
‘บรึม’
ลำแสงสีดำของเสนาบดีอีกอร์ตกกระทบเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมและทหารองค์รักษ์ โดยไม่สนว่าเป็นฝ่ายไหน เหล่าประชาชนต่างวิ่งหนีตายกันชุลมุนมั่วไปหมด ทันทีเสนาบดีอีกอร์เปิดฉาก ทหารของทั้งสองฝ่ายต่างก็พุ่งเข้าปะทะกัน เกิดการต่อสู้ทุกหนทุกแห่งและนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ผู้เล่นของเมืองแซนนิกซ์จะได้เริ่มต้นทำเควสพิเศษที่ได้รับมาซะที
ผู้เล่นบาบาเรี่ยนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้ ร้องตะโกนและกวัดแกว่งอาวุธในมือเข้าใส่องค์รักษ์ที่แข็งแกร่ง แต่การไม่ประมาณตนเลือกคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินกำลัง คงทำให้ผู้เล่นบาบาเรี่ยนกลุ่มนั้นจดจำไปอีกนาน
องค์รักษ์ที่แม้แต่เจสเปอร์ก็ไม่กล้าต่อกรด้วย เข้าสังหารผู้เล่นบาบาเรี่ยนราวกับฆ่าสไลม์ตัวเล็กๆอย่างง่ายดาย ผู้เล่นที่ดูเหตุการณ์อยู่วงนอกก็ล้วนแล้วแต่ตกใจกับสิ่งที่ได้พบเห็น
‘นี้ใช่ไหมองค์รักษ์ที่ผู้เล่นเมืองๆอื่นต่างพูดถึง’
พวกเขาเคยคิดว่าผู้เล่นเมืองอื่นนั่นไร้ความสามารถกับแค่ลำพัง NPC ทหารประจำเมืองก็ต่อกรไม่ได้ สู้พวกเราผู้เล่นเมืองแซนนิกซ์ไม่ได้เลย แค่พวกเราใช้คนแค่ 3คนรวมพลังช่วยกันสู้ก็สามารถจัดการทหารยามได้อย่างง่ายดาย ผิดกับผู้เล่นเมืองอื่น ขนาดใช้คนถึง 10 คนก็ยังรับมือไม่ได้ตามวิดีโอที่อัพโหลดลงบนกระดานสนทนา บัดนี้พวกเขารู้แจ้งแล้วไม่ใช่ว่าผู้เล่นเมืองอื่นไม่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะทหารของเมืองนี้อ่อนแอต่างหาก
สาเหตุที่ทำให้ทหารเมืองแซนนิกซ์อ่อนแอกว่าทหารเมืองอื่นๆนั้นเป็นเพราะว่า ในอดีตเมืองแซนนิกซ์เคยทำสงครามครั้งใหญ่กับตระกูลกรีนเวต้ามาก่อน หลังจากที่พ่ายแพ้สงครามทหารที่แข็งแกร่งล้วนล้มตายจากศึกครั้งนั้นไม่จนหมด แม้ว่าจะมีทหารชุดใหม่ขันอาสาเข้ามาทำหน้าที่แต่ก็ไม่อาจทัดเทียมได้กับเมืองอื่นๆที่มีครูฝึกสอนทหารยามรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา
ผู้เล่นหลายคนต่างรู้ถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นและเริ่มคิดถึงบทลงโทษที่จะได้รับหากพ่ายแพ้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงดื้อดึงปฏิเสธการยอมแพ้ ในเมื่อเสนาบดีอีกอร์ยังคงยืนยัดที่จะสู้พวกเขาก็จะไม่ถอยหนี
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อ ในเมื่อไม่อาจสู้ได้ด้วยฝีมือและกำลัง จำนวนเท่านั้นที่จะสามารถทดแทนได้ องค์รักษ์หนึ่งคนของฝ่ายองค์หญิงซีซีเรียต้องรับมือกับผู้เล่นเกือบ 20 คน ในคราวเดียว ถึงแม้จำนวนที่มากของผู้เล่นจะไม่สามารถโค่นล้มองค์รักษ์พวกนี้ได้แต่อย่างน้อยก็สามารถต้านทานให้กับ ทหารและประชาชนในเมืองแซนนิกซ์ที่โกรธเกรี้ยวได้ตีฝ่าออกมา
“ระวังอย่าให้ถูกประชาชน” องค์หญิงยังคงตะโกนเตือนทหารของฝั่งตนอยู่ตลอดเวลาผิดกลับเสนาบดีอีกอร์ที่สั่งการให้ทหารฝ่ายตนเอาประชาชนเป็นโล่มนุษย์
“เจ้าเล่ห์และเลวทรามใช่ได้เลย เสนาบดีอีกอร์” เจสเปอร์ไม่รู้ตัวเลยว่าปากของเขายิ้มออกมาเมื่อไร แต่อามมี่และลูอิสที่อยู่กับเขามานาน เมื่อได้เห็นรอยยิ้มนี้ต่างพูดเป็นเสียงกันว่า
“หากเจสเปอร์มีรอยยิ้มลึกลับแบบนี้จะต้องมีใครบางคนต้องเจ็บตัวจนกระอักเลือดแน่ๆ”
เจสเปอร์ อามมี่ ลูอิส ไอรีนและหิมะน้อยทุกคนต่างมายืนอยู่บนด้านบนของปราสาทโดยอาศัยทางลับใต้ดินลอบเข้ามา ทุกคนต่างมองดูเหล่าบรรดาผู้เล่นและ NPC เปิดฉากสู้กันอยู่นาน ทุกคนสงสัยว่าทำไมเจสเปอร์ถึงไม่ลงมือ แต่พอถามเจสเปอร์ก็เอาแต่บอกว่า ‘รอใครบางคนอยู่’ พอพวกเขาขอคำตอบชัดเจนว่ารอใคร ชายหนุ่มก็พูดเพียงว่า ‘ให้รอดู’
“จะให้พวกรออีกนานแค่ไหน นายช่วยบอกฉันทีว่าใครกันที่นายรอ ทวิสเต็ดอย่างนั้นหรอ” ในที่สุดแล้วอามมี่ก็บ่นออกมาตามภาษาหนุ่มเลือดร้อนและเพื่อนคนสนิท
“จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของกิลด์ Rising Sun สมบูรณ์แล้ว” เจสเปอร์พูดโพร่งออกมาทันทีที่ได้เห็นทวิสเต็ดมาถึง
ทวิสเต็ดและชายลึกลับอีกหนึ่งคนกำลังเดินขึ้นมาทางกลุ่มพวกเขา ชายลึกลับที่ไว้ผมยาวสีน้ำตาลเข้ม หนวดเครารุงรัง มาพร้อมกับผิวสีแทน ให้อารมณ์สอดคล้องกับเมืองทะเลทรายแห่งเมืองแซนนิกซ์โดยแท้
“ไม่ต้องแนะนำตัวให้มากพิธี งานแรกของนายที่จะเป็นบทพิสูจน์ว่านายดีพอ ที่จะเข้าร่วมกับพวกเรา Rising Sun อยู่ข้างหน้าแล้ว”
เจสเปอร์ชี้นิ้วไปที่เสนาบดีอีกอร์ที่ขณะนี้ยืนอยู่เพียงลำพัง เสนาบดียังคงไม่รู้ตัวถึงภัยที่กำลังมา เพราะเขายังคงตะโกนสั่งทหารและผู้เล่นอย่างบ้าคลั่ง!!
“เจสเปอร์เอาจริงหรอ พวกเราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ NPC เสนาบดีอีกอร์คนนี้เลยนะ แถมพวกทหารที่อยู่รอบๆอีก พวกเราคงเข้าถึงตัวหมอนี้ลำบากมากพอดู”
“ใช่ ฉันเฝ้ามองมาหลายวันก็พอจะบอกได้แค่ว่า พลังของเสนาบดีคนนี้น่าจะเทียบเคียงระดับบอส LV 40 เห็นจะได้ ไม่ใช่ว่าพวกฉันไม่ไว้ใจนายแต่การกระทำของเรามันบ้าระห่ำเกินไปหน่อยนะ”
อามมี่และลูอิสที่ทำหน้าที่เป็นคนจับตาปราสาทแห่งนี้ตั้งแต่วันแรกๆ รีบร้องเตือนเจสเปอร์ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากพวกเขาลงมือกับเสนาบดี
“ฉันไม่ทำให้พวกนายเดือดร้อนแน่นอน คอยดูฝีมือของ คนที่ทวิสเต็ดพามาเถอะ”
เจสเปอร์มองไปยังชายลึกลับก่อนที่จะพยักหน้าไปทางทวิสเต็ดเพื่อให้สัญญาณ
“เริ่มได้แล้ว จำเอาไว้ว่าห้ามพลาดต่อหน้าเพื่อนฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะจับแกไปเป็นอาหารให้หนอนดินหน้าเมือง”
ทุกคนได้ยินหูไม่ฝาดและได้ยินเหมือนกันหมด ทวิสเต็ดกำลังข่มขู่ชายลึกลับที่พามาเต็ม 2 รูหู เรื่องความแข็งแกร่งของทวิสเต็ดพวกเขาไม่กังขาแต่เรื่องข่มขู่และบีบบังคับคน นี้มันคุ้นๆเหมือนนิสัยของใครบางคน
ชายลึกลับมองทวิสเต็ดด้วยความหวาดกลัวก่อนที่จะก้าวออกมา ทั้งตัวของชายคนนี้ไม่มีอาวุธอะไรติดตัวมาเลย มีเพียงแส้เส้นเล็กๆเหน็บอยู่ที่เอว ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะทำอันตรายแกใครได้ แต่ทุกคนหารู้ไม่ว่าคนเถื่อนตรงหน้าของพวกเขาหาใช่บาบาเรี่ยนที่พวกเขาพบเห็นเมืองเหมือนคนอื่นๆ แต่ชายผู้นี้คือผู้ที่ครอบครองอาชีพลับคนเถื่อน อย่าง ‘ผู้เบิกทาง(Pathfinder)’ นั้นเอง
อาชีพลับผู้เบิกทางเป็นอาชีพที่ใช้แส้หรือตะขอเป็นอาวุธ จัดเป็นอาชีพลับที่แม้แต่เจสเปอร์เองก็ไม่รู้ถึงการได้มา แต่ตามข้อมูลจากอดีตชายผู้นี้คือหนึ่งเดียวในอาณาจักรกรีนเวต้าที่ได้ครอบครองอาชีพที่ว่านี้
ชายลึกลับปาแส้ในมือของตนออกไป มันพุ่งตรงเข้าพันกับร่างของเสนาบดีอีกอร์อย่างแนบแน่น ก่อนที่ชายลึกลับจะออกแรงกระชากแส้ให้กลับมา ดึงร่างเสนาบดีอีกอร์ ลอยเข้ามากลางวงล้อมของกิลด์ Rising Sun ที่มีเจสเปอร์เตรียมรอต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่คนสุดท้ายของพวกเรา ‘สลิป(Slip)’”
นี้คืองานที่เจสเปอร์มอบหมายให้ทวิสเต็ดทำตั้งแต่มาถึง ไม่ใช่แค่เพียงออกตามสืบข่าวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการออกตามหาผู้เล่นที่ชื่อ สลิป คนนี้อีกด้วย นี้คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มกิลด์ของเขาให้สมบูรณ์ ดังที่เขาเคยได้บอกไปว่ากิลด์ควรมีผู้เล่นอิสระสักหนึ่งคนและคนที่มารับหน้าที่นั่นคือทวิสเต็ด ส่วนอีกตำแหน่งที่จะมาฉีกกฎทุกแขนงให้ย่อยยับนั่นคือ สายอาชีพที่คาดเดาไม่ได้อย่าง ผู้เบิกทาง ‘สลิป’
...โปรดติดตามตอนต่อไป...