USB:บทที่ 10 สมบัติ
USB:บทที่ 10 สมบัติ
หลังจากฮวงเฟิงเดินออกจากร้านขายรองเท้า ฮวงเฟิงก็มุ่งตรงกลับบ้าน เขาแน่ใจแล้วว่า รองเท้าคู่นั้น
ไม่ได้มาจากร้านนี้ ความสงสัยผุดกลางใจของฮวงเฟิง แต่ตอนนี้พนักงานขายก็ยืนยันแบบนั้น
นอกจากนี้แล้ว ฮวงเฟิงยังตระหนักได้ว่า มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถอ่านคำอธิบายบนรองเท้าได้ และพนักงานขาย
ก็มองไม่เห็น และดูเหมือนว่า คนอื่น ๆ ก็จะไม่สามารถมองเห็นได้เช่นกัน
ก่อนอื่นคงไม่มีใครโง่ ถึงขนาดเอาของแท้ที่ดีแบบนี้ เอามาขายในร้านรองแท้เกรดต่ำ อย่างที่สอง
หลังจากซื้อรองเท้าหนังคู่นั้นเมื่อวานนี้ นอกจากเวลานอนแล้ว เขาเคยละสายตาไปจากพวกมัน และไม่มีใครสามารถเอามาเปลี่ยนได้ ในบ้านของเขา
พื้นผิวสัมผัสของรองเท้านั้นเปลี่ยนไป.... ไม่ว่ามันจะเป็นคู่เดิม หรือเป็นรองเท้าคู่อื่น
รูปแบบของรองเท้านั้น มีการเปลี่ยนแปลง จากการคาดเดา เวลารองเท้าคู่นั้นอาจเปลี่ยนแปลง อาจเกิดได้ในช่วงเวลาที่เขานอนหลับไปแล้ว
เพราะตอนที่เขายังไม่นอนหลับ สายตาเขาจับจ้องไปที่รองเท้าตลอดเวลา และไม่มีอะไรผิดปกติ เฉพาะฉะนั้น
ในระหว่างที่เขานอนหลับไป เขาวางรองเท้าไว้ในกล่องเก็บของ การเปลี่ยนแปลง น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
หลังจากกลับไปที่ห้องเช่า ฮวงเฟิงรีบเอากล่องเก็บของ ที่เขาวางเอาไว้ในมุมห้องออกมาทันที มีหนังสือสองสามเล่มที่เขาซื้อที่มหาวิทยาลัยเจียงต้า เป็นหนังสือเรียนเก่าๆ ของรุ่นพี่ที่เขาได้มาพร้อมกับ สิ่งของที่ไปซื้อมา
ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก หนังสือเล่มนั้นถูกวางไว้ในกล่องเก็บของ และเนื่องจากมัน ไม่มีราคาค่างวดอะไร
เขาจึงวางมันไว้ในกล่องเฉยๆ นอกจากนี้ยังมีนิตยสารอีกสองสามฉบับ ที่ฮวงเฟิงซื้อมาก่อนหน้านี้
ซึ่งวางอยู่ข้างในกล่อง นอกจากหนังสือสองสามเล่ม ฮวงเฟิงยังใส่เสื้อผ้าที่สะอาดสองสามชิ้นไว้ข้างใน
รวมทั้งไม้แขวนเสื้ออีกสองสามชิ้น เนื่องจากเขายังไม่มีเวลาจัดระเบียบสิ่งต่างๆ
และตอนนี้ ฮวงเฟิง ก็นำของออกมา จากกล่องทีละชิ้น เสื้อผ้าของเขานั้นปกติดี ไม่มีคำอธิบายอะไร บนตัวเสื้อ
สิ่งอื่นๆ ก็ยังปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ฮวงเฟิงที่ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ เขามองไปด้านข้างอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับกล่องนี้
"เป็นไปได้ไหมว่า การคาดเดาของฉันนั้นผิด และมันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กล่องเก็บของใบนี้?"
ฮวงเฟิงคิดด้วยความผิดหวัง ก่อนหน้านี้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก และคิดว่าเป็นเพราะเขา ได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ในนิยาย
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากเกินไป
หลังจากใส่ทุกอย่างกลับเข้าไป ในกล่องเก็บของแล้ว ฮวงเฟิงก็เดินไปเดินมาซักพัก ด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
หลังจากนั้น ก็ล้มตัวนอนบนเตียง
ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่ารองเท้าคู่นี้ไม่ธรรมดา อาจพูดได้ว่า มันทรงพลังมาก และสามารถเร่งความเร็วในการวิ่งของเขาได้
ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษอื่น ๆ อีกเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม รองเท้าคู่นี้ไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตปัจจุบันของเขาได้เลย ให้รองเท้าคู่นี้ลงแข่งขันหรือไม่?
ไม่ต้องพูดถึงเลย ถึงแม้ว่าเขาสามารถผ่านเข้ารอบไปได้ ถ้าเขายังสวมรองเท้าหนังแบบนี้ เข้าร่วมการแข่งขันจริงๆ
เขาจะต้องถูกสงสัย หลังจากการแข่งขันจบลง แม้ว่าคนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่สำหรับเขาแล้ว มันเป็นเรื่องที่ลำบากใจ
อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฮวงเฟิงต้องการรู้มากที่สุด ในตอนนี้คือ สาเหตุที่ทำให้รองเท้าหนังบ้านๆ ของเขากลายเป็นรองเท้าไฮเทคได้นั้น มันคืออะไร เขาต้องหาเหตุผลให้ได้ เพื่อที่จะวางแผนในอนาคตได้
แต่เดิมนั้น เขายังคงสงสัยว่า มันเป็นเพราะกล่องเก็บของหรือไม่ อย่างไรก็ตาม
เมื่อเขาอยู่ในมหาวิทยาลัยเขาชอบอ่านนิยายมาโดยตลอด แม้ว่าในขณะทำงาน เขาก็จะอ่านนิยายบ้างเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ รองเท้าหนังของเขายังถูกเก็บไว้ในกล่องเก็บของตลอด จนกว่าเขาจะใส่มัน นั่นคือเหตุผล
ที่เขาเกิดความสงสัยนี้
อย่างไรก็ตาม เขาได้ตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แล้วมันคืออะไรกันแน่?
และสุดท้ายเขาก็ผิดหวัง
"น่ารำคาญจริง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เรื่องแบบนี้ยากที่จะ พูดคุยกับใครสักคน" ฮวงเฟิงคิดไม่ตก
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับรองเท้าหนังตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่อาจมีบางอย่าง ที่สามารถเปลี่ยนสถานะปัจจุบันของเขา และเปลี่ยนชีวิตของเขาในอนาคตได้
อย่างไรก็ตามไม่ว่า เขาจะคิดให้ตายก็ยังคงไม่ได้คำตอบ เขาไม่มีทางหาสาเหตุได้พบ
ขณะที่ฮวงเฟิงอยู่บนเตียง กำลังพยายามคิดว่า มันเกิดอะไรขึ้น? กล่องเก็บของที่มุมห้อง ก็สว่างวาบขึ้นอีกครั้ง
เพียงแค่ว่าแสงสว่างนี้ ดูสลัวๆ เล็ก
ย้อนไปในโลกแห่งหลูติง รัชสมัยจักรพรรดิคังซี ในยุคเรกเริ่ม เว่ยเสี่ยวเป๋า องค์ชายผู้หนึ่ง กำลังออกค้นหาสมบัติโดยมองไปที่แผนที่ ที่อยู่ภายในมือของเขา ภายในใจครุ่นคิด ที่จะออกไปตามหาสมบัติของตระกูลเหล่าเปา
ดังนั้น สายตาของเขานั้น จึงจับจ้องไปที่ ขันทีกุ้ย คนสนิท และจากนั้นเอ่ยเรียก ขันทีกุ้ย ให้เดินทางติดตาม
เขาออกไปตามหาสมบัติที่ตระกูลเหล่าเปา ด้วยกัน
จากนั้นทั้งสองคน ออกเดินทางไปพร้อมกับทหารจำนวนหนึ่ง ที่ด้านนอกของพระราชวัง เมื่อไปถึงที่ตระกูลเหล่าเปา เขาสั่งให้เหล่าทหารออกไปค้นหาสมบัติตามห้องต่างๆ หลังจากนั้นไม่นาน มีนายทหารคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาเขา พร้อมกล่าวรายงานว่า
"กราบทูลองค์ชายเว่ย และขันทีกุ้ย พบขุมสมบัติ จำนวนหนึ่ง ภายในห้องนอนขอรับ"
ขณะที่ เว่ยเสี่ยวเป๋าฟังจบ บนใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
เขาตกรางวัลให้นายทหารคนนั้น โดยมอบผ่านมือของขันทีกุ้ย และส่งต่อไปที่นายทหารคนนั้น ด้วยสีพึงพอใจ
"ขันทีกุ้ย เราไปดูกันเถอะ" เว่ยเสี่ยวเป๋าร้องเรียกขันทีกุ้ย หลังจากนั้น ก็ออกเดินไปยังสถานที่ๆ พบสมบัติ
“โอ้.... มีสมบัติมากมายเต็มไปหมด?”
ทันทีที่เว่ยเสี่ยวเป๋าเดินไป ยังห้องนอน เขาก็พบคลังสมบัติ อยู่ภายในห้องนั้น หลังจากนั้น
พวกเขาก็ถูกดึงดูดโดยสมบัติเหล่านั้นทันที
ทั้งสองคน ทิ้งตัวนอนเล่น บนกองสมบัติ และเริ่มกอบโกยสมบัติกลับไปยังวังหลวงให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
"ว้าว....นี่มันอะไรกัน?" มันหนักมาก "เว่ยเสี่ยวเป๋า พบกริชเล่มหนึ่ง อยุ่ในกองสมบัติ เพราะมันหนักเกินไป
เขาจึงโยนมันทิ้งไป ทันใดนั้นใครจะรู้ว่า หลังจากโยนมันออกไป กริชนั้นจะปักทะลุโต๊ะข้างๆ เขา.
“กริชเล่มนี้....น่าประหลาดใจจริงๆ” เว่ยเสี่ยวเป๋า และ ขันทีกุ้ย มองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นพวกเขาดึงดาบจากทหารคนหนึ่งออกมา เพื่อลองทดสอบมัน และปรากฎว่ากระบี่นั้น ถูกกริชเล่มนั้น ผ่าครึ่ง โดยที่ตัวกริชนั้น ไม่มีร่องรอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย
"ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ องค์ชายที่พบของดี เป็นกริชล้ำค่า สามารถตัดผ่านโลหะง่ายเหมือนปอกกล้วย"
ขันทีกุ้ยรีบกล่าวประจบประแจง อย่างรวดเร็ว
เว่ยเสี่ยวเป๋าอมยื้ม และรับกริชมาด้วยรอยยิ้ม
"นี่มันคืออะไรกัน?" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขา ภายในใจตระหนักได้ทันที ว่ามันคือสมบัติอย่างแน่นอน "ในขณะที่ ขันทีกุ้ย จับจ้องไปที่ ชุดเสื้อเกราะสีดำ ในคลังสมบัติ ที่ดูธรรมดา ๆ มาก
"องค์ชาย ทำไมไม่ทรงลองสวมดูว่า... มันพอดีหรือไม่?" ขันทีกุ้ยส่งเสื้อเกราะตัวหนึ่ง ให้เว่ยเสี่ยวเป๋า
“เอาสิ” เว่ยเสี่ยวเป๋า ไม่ปฏิเสธ หลังจากนั้น เขาก็ลองสวมดู
“เหมาะกับข้ามากเลยทีเดียว” เว่ยเสี่ยวเป๋า กล่าวด้วยความพึงพอใจ
หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็เริ่มต้นค้นหาสมบัติกันต่อ จนตะวันคล้อย
จากนั้น พวกเขารีบกลับไป ที่พักของเขา เว่ยเสี่ยวเป๋า ไม่ได้รีบเข้าไปเข้าเฝ้า องค์จักรพรรดิก่อน แต่เขากลับตรง
ไปที่เรือนของเขาทันที เพื่อแอบซ่อนสมบัติเอาไว้ รวมถึงเสื้อเกราะสีดำของเขาด้วย
"สิ่งนี้คืออะไรกันแน่? มันน่าเกลียดจริง ๆ อย่างไรก็ตาม มีคนเก็บมันไว้ในคลังสมบัติ ดังนั้นมันก็
น่าจะเป็นสมบัติที่ดีมาก ก่อนอื่น ข้าจะลองใช้กริชเล่มนี้ดูก่อน" เว่ยเสี่ยวเป๋าพูดกับตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ กริชที่ล้ำค่า ที่สามารถตัดผ่านโลหะได้อย่าง่ายดาย เว่ยเสี่ยวเป๋า ลองนำกริชเล่มนี้ ฟันไปที่เสื้อเกราะนี้
แต่เขาพบว่า ไม่ว่าจะออกแรงมากเพียงใด ก็ไม่สามารถทำอะไรกับเสื้อเกราะนี้ได้เลย
"มันเป็นสมบัติจริง ๆ ไม่มีทาง ข้าต้องสวมมันไว้บนร่างกายให้นานที่สุด เพียงเท่านี้ ชีวิตข้า…...ก็จะปลอดภัย ไร้กังวล" เว่ยเสี่ยวเป๋านั้น ดีใจมาก
ทันใดนั้น ก่อนที่เขาจะสวมเสื้อเกราะ ลงบนร่างของเขา ก็มีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น