บทที่ 87 : สังหารภายในเสี้ยววินาที
“อา! ในที่สุดท่านก็อนุญาตให้เขาออกมาจากเมืองแห่งรุ่งอรุณได้” เสียงแปลกๆที่แทบจะได้ยินดังมาจากเงามืดราวกับมีบางอย่างกำลังเคลื่อนเข้ามา
ออร์คขาวปรากฏตัวขึ้น ก่อนจะค่อยๆลดความเร็วลง เขามีรูปร่างที่ใหญ่โตแต่ว่องไว
เขาเหลือบมองไปยังคนที่ขวางทางแต่ไม่ได้พุ่งเข้าโจมตี เขากล่าวต่อไปโดยไม่สนใจคนผู้นั้น “ลอร์ดวิลเลียมนั่นช่างน่ารังเกียจ ข้าล่ะอยากจะฆ่าเขาเสียจริง นอกจากนี้ยังมีรองเจ้าเมืองโอดอม เงินค่าหัวของเขานั้นไม่น้อยเลย”
“แท้จริงแล้วในฐานะครึ่งเอลฟ์ ข้าก็ไม่ได้ยินดีเมื่อเห็นเขานักหรอก” ครึ่งเอลฟ์ตนหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากเงามืด เขามีรอยแผลเป็นสามรอยบนใบหน้า และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้าย
จากนั้น
ก็มีอีกสามร่างเดินออกมาอยู่ด้านหลังของเขา
หนึ่งในนั้นคือชายลึกลับสวมเสื้อคลุมเวทย์สีดำขลับ เขาค่อนข้างเงียบขรึม
อีกคนเป็นนักรบที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาทึบ เขาแลบลิ้นยาวตวัดเลือดที่อยู่บนใบหน้าของตนราวกับถูกครอบงำ
คนสุดท้ายเป็นนักรบมนุษย์ที่ถูกเผาด้วยเปลวไฟสีดำ
เพียงแค่ห้าคน
พวกเขาก็ได้ทำการสังการอัศวินศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ไปเรียบร้อย
พวกเขาเป็นนักล่าค่าหัวที่เดินทางไปในโลกแห่งเงามืด…
พวกเขาไม่ได้แบ่งแยกเชื้อชาติหรือเพศ ในดินแดนอันมืดมิดแห่งนี้มีเพียงแต่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพ
เป้าหมายงานของพวกเขาคือสังหารใครก็ตามที่สามารถฆ่าได้
คนเหล่านี้ต่างไปจากทหารรับจ้างอย่างมาก ทหารรับจ้างจะไม่กล้าฝ่าฝืนกฏหมายแม้เพียงนิด กระทั่งเมื่อรับภารกิจลอบสังหาร เป้าหมายของพวกเขาก็มักจะเป็นอาชญากร แต่นักล่าค่าหัวจะไม่สนใจว่าใครที่เป็นเป้าหมายของพวกเขา พวกเขาไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำนั้นชอบธรรมหรือชั่วช้า
แลนซ์ล็อตเห็นคนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นทีละคนๆ เขาจับดาบยาวที่ลุกโชนไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ แล้ววาดมันไปข้างหน้า
สายตาของเขามั่นคงและพร้อมที่จะต่อสู้
เขาไม่ได้เกรงกลัว หากทั้งห้าคนนั่นต้องการจะผ่านเขาไป ก็คงต้องข้ามศพเขาไปก่อน
“หากพวกเจ้าไม่โจมตี ข้าจะเริ่มแล้วนะ แม้ว่ากระดูกของเขาจะแข็งไปสักหน่อย แต่ก็ยังถือว่าบอบบางอยู่ดี” คนที่เป็นมนุษย์หรี่ตา ดินใต้ฝ่าเท้าเขากระเพื่อมขณะที่เขาพุ่งตัวออกไปราวกับปืนใหญ่
แลนซ์ล็อตไม่แพ้สิ่งมีชีวิตใดในแง่ของความเร็ว เขาเบี่ยงร่างออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหวดฟันเข้าไปยังทิศทางหนึ่งเห็นเพียงประกายไฟในอากาศ
ในขณะเดียวกัน เกล็ดสีเขียวเข้มก็ถูกซัดผ่านอากาศเข้ามา
บาดแผลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแลนซ์ล็อตและเลือดก็เริ่มไหลซึมออกมา ใบหน้าของเขาบาดเจ็บ เขาไม่สามารถใช้พลังการต่อสู้เพื่อปกป้องร่างกายของเขาได้ พลังงานการต่อสู้ใด ๆ ก็ตามที่เขามีอยู่ในร่างกายถูกผสานลงไปยังอาวุธ เขามุ่งที่จะทำความเสียหายให้กับศัตรูของเขามากที่สุด
“ตาย!” สัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยเกล็ดร้องคำราม มันเป็นการโจมตีอย่างเฉียบพลันขณะที่มันแยกเขี้ยวอันแหลมคมและพยายามที่จะเข้ามากัดแลนซ์ล็อต
แต่อัศวินตรงหน้ากลับไม่ได้ใช้ดาบ เขาต่อยเข้าที่ฟันของฝ่ายตรงข้ามแทน
แลนซ์ล็อตไม่ได้สนใจควาเจ็บที่มือ เขาเตะไปที่สัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยเกล็ด แต่กลับไม่สามารถต้านทานพลังอันมหาศาลของมันได้ การโจมตีไม่สามารถทำให้สัตว์ประหลาดถอยไปได้ เนื่องจากขาของมันปักลงบนพื้นดินอย่างมั่นคง มันตอบโต้และใช้กรงเล็บอันแหลมคมแทงทะลุเกราะของแลนสล็อตล็อตผ่านร่างกายของเขา
“เพื่อศักดิ์ศรี!” แลนซ์ล็อตตะโกนอย่างมุทะลุ เขารวบรวมพลังงานการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ก่อนจะพยายามจะเอาสัตว์ประหลาดไปกับเขาด้วย
แต่ทว่า…
ไม่ว่าใครก็สามารถเห็นได้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะฆ่าสัตว์ประหลาดตนนี้ได้
แต่ทันใดนั้น
แสงไฟสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นและเสียงคมของดาบได้ทำลายความเงียบงันใน ณ ที่นั้น ปรากฏการณ์นี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายแยกจากกันในทันที และยังได้สร้างร่องรอยขนาดใหญ่ไว้บนพื้นดินอีกด้วย
นักล่าค่าหัวทั้งห้ามองไปยังทิศทางเดียวกันพร้อมกัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง…
ผู้มาเยือนคือใครกัน?
ก็เป็นแค่เพียงคนที่ไม่สามารถนอนหลับได้ในเวลากลางคืนและคอยตรวจตราดินแดนของเขาด้วยตัวเอง
ไม่ใช่เพราะเหตุใด
แต่เป็นเพราะว่าเมื่อวิลเลียมเห็นดินแดนและเมืองของเขา เขาก็คิดถึงวันที่ดีในอนาคต เขารู้สึกมีความสุขมาก
บังเอิญว่ามีผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิดจากการตรวจตราในครั้งนี้
“บังเอิญอะไรเช่นนี้! นักล่าค่าหัวทั้งห้า แล้วทั้งหมดยังอยู่ในระดับอีปิคอีก ทำไมพวกเขาถึงมารบกวนฉันกันล่ะ?” วิลเลียมรู้สึกเสียใจที่เขายิงลูกธนูออกไปจริงๆ
เขาไม่ได้นำม้วนกระดาษสื่อสารมาด้วยในตอนที่เขาตื่นขึ้นเพราะนอนไม่หลับ
ตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะตะโกนก็ไม่มีใครมาช่วยได้อีกแล้ว มีเพียงกองกำลังลาดตระเวนนอกเมืองรุ่งอรุณยามค่ำคืนไม่กี่คนเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่อีกด้วย ...
โชคดีที่วิลเลียมเก่งด้านการแสดงและการต่อสู้ก็เหมาะกับเขามาก เขาไม่กลัว เขากระโดดลงมาจากต้นไม้และเชิดหน้าขึ้นขณะที่เดินไป สีหน้าของเขาดูสับสน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า “ตอนกลางดึกเช่นนี้ ท่านไม่ได้ฝึกฝนพลังการต่อสู้ ไม่ไปหาหญิงสาว ท่านกำลังตรวจตราในนามของท่านลอร์ดอยู่หรอกเหรอ?”
“ท่านลอร์ดแห่งเมืองรุ่งอรุณ?” นักล่าค่าหัวทั้งห้าตกตะลึง พวกเขาไม่เพียงเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แต่ยังเต็มไปด้วยความโล�
“ท่านชื่ออะไร?” วิลเลียมไม่ได้สนใจทั้งห้าคนนั้น เขามองไปยังอัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้โด่งดัง แลนซ์ล็อต!
ถูกต้องแล้ว
หลังจากหน้าต่างข้อมูลของเขา วิลเลียมพบว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ในอนาคตเขาจะเป็นหัวหน้าของเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์และในไม่ช้าแลนซ์ล็อตก็จะกลายเป็นไอดอลของผู้คน
โดยเฉพาะ เขานั้นจัดว่าเป็นมาตรฐานของเหล่าอัศวินทั้งหมด
สุภาพ, ซื่อสัตย์, เห็นอกเห็นใจ, กล้าหาญ, ยุติธรรม, เสียสละ, มีสง่าราศีและมีจิตวิญญาณ!
เขาไม่มีความกลัวต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่ง เขาเป็นคนที่กล้าหาญและภักดี เป็นคนที่อุทิศตนและชอบธรรม เขามีมโนธรรมชัดเจนและยอมตายกว่าที่จะยอมแพ้ เขาปกป้องคนอ่อนแอและทำตามกฎเกณฑ์!
ฉันสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อผู้อ่อนแอเป็นอย่างดี
ฉันสัญญาว่าจะต่อต้านความรุนแรงด้วยความกล้าหาญ
ฉันสัญญาว่าจะต่อสู้กับความเลวร้ายทุกๆอย่าง
ฉันสัญญาว่าจะต่อสู้เพื่อปกป้อง
ฉันสัญญาว่าจะช่วยเหลือทุกคนที่ขอความช่วยเหลือ
ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายภรรยา
ฉันสัญญาว่าจะช่วยเพื่อนอัศวินของฉัน
ฉันสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อเพื่อนด้วยความจริงใจ
ฉันสัญญาว่าจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะตายและไม่หวาดกลัวต่อความตาย
มันง่ายมาก
อัศวินคนนี้บริสุทธิ์มาก!
เขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับราชินีคนใด เขารักษาวินัยของอัศวินจนตัวตาย
ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นคู่รักในฝันของผู้เล่นหญิงจำนวนมาก พวกเธอฝันถึงเขา พวกเขาตะโกนและบอกทุกคนว่าเขาเป็นมาตรฐานสำหรับคู่รักในอนาคตของพวกเธอ...
“แต่เขาจะมีจุดจบอย่างไรในสถานการณ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้? ฉันต้องช่วยเขา ถ้าไม่ใช่เพราะ…” วิลเลียมคิดเรื่องนี้คร่าวๆ ก่อนจะเข้าใจ มันคือปรากฏการณ์บัตเตอร์ฟลาย เอฟเฟ็กต์!
“แลนซ์ล็อตแห่งอัศวินศักดิ์สิทธิ์” อัศวินที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตอบอย่างอ่อนแรง เขาไม่ได้สลบไปเพราะความเชื่อในใจของเขาไม่ยอมให้เขาทำ
เขาไม่สามารถดูลอร์ดของเมืองแห่งรุ่งอรุณต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากศัตรูของเขา
วิลเลียมมองเขา ก่อนจะถอนหายใจ อัศวินระดับกลางที่มีสายเลือดระดับรีเจนดารีมีเลเวลเพียง 41 เท่านั้น เขาเพิ่งก้าวไปถึงระดับกลางเท่านั้น การที่ถูกล้อมรอบไปด้วยห้านักรบระดับอีปิคก็เหมือนถูกรังแก
“สามคนเลเวล 49 และมีสองคนเลเวล 50 ค่อนข้างโหดร้ายเลยทีเดียว” วิลเลียมยังอยู่ที่เลเวล 46 มันไม่ใช่ว่าเขาใช้เวลานานในการก้าวไปข้างหน้า เขาแค่ต้องการประสบการณ์อีกมากมายในการเพิ่มเลเวล!
ทันใดนั้นวิลเลียมก็หัวเราะ “งั้นพวกเจ้าก็เข้ามาสิ!”
นักล่าค่าหัวห้าคนก้าวออกมาในเวลาเดียวกัน
พวกเขาไม่กลัวท่านลอร์ดแห่งเมืองรุ่งอรุณ วิลเลียมไม่ได้มีความสำเร็จในการต่อสู้เดี่ยวที่โดดเด่น
แต่พวกเขากลัวเหล่าองครักษ์เอลฟ์ที่ไม่เคยห่างกายวิลเลียมรวมถึงองครักษ์เอลฟ์อย่างลอทเนอร์ที่คอยปกป้องเขาอยู่เสมอ
“ไม่เข้ามางั้นหรอ? ฉันจะเริ่มเอง!” เมื่อวิลเลียมพูดเสร็จเขาก็ยกมือขึ้นแล้วยิงศรธนูแสง ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ตอบโต้ มันก็เจาะทะลุหน้าอกของสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยเกล็ดเสียแล้ว
[แสงแห่งรุ่งอรุณ : สำหรับทักษะพลังการต่อสู้บางอย่างมันสามารถเพิ่มพลังงานการต่อสู้ขึ้นได้ 50% , เพิ่มพลังโจมตีเป็น 250% และเพิ่มความเสียหายสายฟ้า 230 หน่วย เวลาคูลดาวน์ 23 นาที]
ทักษะที่บ้าคลั่งนี้ทำให้เขาสามารถเสริมกำลังการยิงธรรมดาและฝ่าแนวป้องกันได้
การระเบิดที่รุนแรงได้รับการจัดการแล้ว!
แต่ไม่หยุดเพียงแค่นั้น
ยังมีการโจมอย่างฉับพลันด้วยจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!
วิลเลียมเดินข้ามผ่านช่องว่าง แล้วมาถึงยังด้านหน้าของสัตว์ประหลาด ก่อนที่มันจะหนีไปได้...
เขาแทงสัตว์ประหลาดด้วยดาบแห่งสายฟ้าและดาบสั้นอาบพิษพร้อมกัน!
มันถึงแก่ความตายทันที
มันเป็นพลังที่อธิบายไม่ได้
มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นบนร่างกายของสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยเกล็ด อวัยวะของมันถูกฉีกออก เลือดพุ่งกระฉูดออกจากร่างกายของมัน
จากนั้นไม่ถึงสองวินาที
วิลเลียมผลักศพไร้ชีวิตออกไปและมองไปยังคนที่เหลือ รูปลักษณ์ของเขาเป็นหนึ่งในความอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
“แข็งแกร่งมาก?” นักล่าค่าหัวที่เหลืออีกสี่คนกลืนน้ำลาย
ลอร์ดแห่งเมืองหรี่ตา แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมรับว่าเขาได้ใช้กลอุบายของเขาหมดแล้ว หากพวกเขาต่อสู้กับเขาจริงๆ แน่นอนว่าเขาเองก็ต้องวิ่งหนี!