HPST ตอนที่ 59: สมบัติลับของเหล่าผู้ก่อตั้ง
HPST ตอนที่ 59: สมบัติลับของเหล่าผู้ก่อตั้ง
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทั้งสี่ อีวานบอกทุกสิ่งที่เขารู้
พวกเขาสนใจสถานะของฮอกวอตส์เป็นอย่างมาก,นักเรียน,หลักสูตร,และอื่นๆ กริฟฟินดอร์,เรเวนคลอ,และฮัฟเฟิลพัฟขัดจังหวะอีวานด้วยการถามคำถามบ่อยๆ
มีเพียงแต่สลิธีรินที่ไม่พูดอะไร, เขาฟังอีวานอย่างเงียบๆ, หน้าของเขากลายเป็นดำคล้ำลง
เห็นได้ชัดว่าเขาประหลาดใจที่พ่อมดและมักเกิ้ลอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเขาที่จะยอมรับก็คือครอบครัวเลือดบริสุทธิ์เริ่มจะแต่งงานกับมักเกิ้ลมากขึ้นเรื่อยๆ ,เลือดบริสุทธิ์ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องตลก, ไม่ใช่เกียรติยศแห่งอำนาจสูงสุด
มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งอีวานพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับครอบครัวสลิธีรินที่ทำให้เขายืนขึ้น
“พอได้แล้วเลือดสีโคลน, เธอบอกว่าลูกหลานของฉันจะกลายเป็นพ่อมดศาสตร์มืด, เธอกำลังดูถูกตระกูลสลิธีรินอันยิ่งใหญ่”
อีวานรู้สึกถึงความกดดันที่มาจากซัลลาซาร์, มันบีบรัดเขาจนถึงจุดที่เขาแทบจะหายใจไม่ออก แต่ความรู้สึกกดดันนี่นก็หายไปอย่างรวดเร็ว, กริฟฟินดอร์ลุกขึ้นยืน
“อีวานไม่ได้ดูถูกตระกูลสลิธีริน เขาแค่พูดความจริง, เห็นได้ชัดเลยว่าลูกหลานของนาย, พ่อมดศาสตร์มืดที่เรียกว่าโวลเดอมอร์มีความคิดคล้ายคลึงกับนายเล็กน้อย และฉันก็ได้บอกไปแล้วว่าความคิดของนายมันอันตราย” ก็อดดริคกล่าว
“สายเลือด,ความแข็งแกร่ง,และอำนาจ ซัลลาซาร์ นี่เป็นสิ่งที่คุณและพวกเลือดบริสุทธิ์ต้องการ, ในความเห็นของฉัน, มันก็ไม่ได้ผิดอะไรที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา แต่คุณควรจะมีหลักการมากกว่านี้ในบางครั้ง” เฮอลก้ากล่าวต่อ
“การดื่มด่ำในพลังอำนาจที่มากกเกินไปจะทำให้คนตาบอด! มีเพียงผู้ที่ฉลาดที่สุดเท่านั้นที่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมดังกล่าวได้” โรเวน่ากล่าวอย่างนุ่มนวล “พ่อมดควรควบคุมเวทมนตร์, เวทมนตร์ไม่ควรควบคุมพ่อมด”
หลังจากทั้งสามคนกล่าวจบ, สลิธีรินไม่ได้ตอบโต้, เขานั่งลง,หน้าของเขาซีดขาว, คุณจะไม่สามารถเห็นสีสันบนใบหน้าของเขาได้
กริฟฟินดอร์ขอร้องให้อีวานพูดต่อไป, อีวานตัดสินใจว่าจะไม่พูดเรื่องที่สลิธีรินออกจากโรงเรียนหลังจากมีเรื่องบาดหมางกับทั้งสามคนที่เหลือ ดูจากหน้าของสลิธีรินแล้ว, เป็นไปได้ว่าเขาจะฆ่าอีวานถ้าเขาพูดอะไรแบบนั้นออกไป
เขาลังเลไประยะหนึ่งก่อนที่เขาจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับห้องลับ
“พระเจ้า, ซัลลาซาร์, นายสร้างห้องลับไว้ในโรงเรียนและยังทิ้งบาซิลิสก์ไว้ในนั้น? ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่านายจะทำอะไรแบบนี้” ก็อดดริคกล่าว
“ก็มันเป็นปราสาทของฉัน,ฉันมีสิทธิ์ที่จะดัดแปลงถ้าจำเป็นและมอบบางสิ่งที่จะช่วยเหลือลูกหลานของฉันได้ และอย่าคิดว่าฉันไม่รู้เกี่ยวกับห้องลับที่พวกนายทุกคนแอบสร้าง”
“โอเค, แต่ฉันไม่คิดว่านายจะปล่อยบาซิลิสก์ทิ้งไว้…..”
“นั้นมันไม่ใช่ประเด็น, สุภาพบุรุษ, ประเด็นมันอยู่ที่ไดอารี่ที่อีวานพูดถึงถ้าฉันเดาไม่ผิด, มันดูเหมือนว่าจะเป็นฮอร์ครักซ์” โรเวน่ากล่าวอย่างนุ่มนวล
“ฮอร์ครักซ์?”
ทั้งสามดูเหมือนจะตะลึงไปชั่วขณะ และหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็อดดริคก็พึมพำ “คุณหมายถึงคาถาที่ชั่วร้ายที่เฮอร์โปผู้ชั่วร้ายสร้างขึ้น?”
โรเวน่าพยักหน้าเบาๆ, ทั้งห้องกลายเป็นเงียบสงัด,ไม่มีใครส่งเสียงออกมา
“คนโง่ที่ไหนกันถึงจะโง่ขนาดแบ่งวิญญาณของเขาได้? นอกจากเขาจะอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นปีศาจ, ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อย่างอื่นเลย”
“เขาจะเป็นอมตะ, แต่เมื่อเขาแบ่งวิญญาณของเขา, เขาจะติดอยู่ในภาพลวงตาไปตลอดกาล, เขาไม่สามารถตายหรือกลายเป็นผีได้”
“มันไม่ใช่เรื่องของอุดมคติอีกต่อไปแล้ว!” ก็อดดริคยืนขึ้น “ซัลลาซาร์, ฮอครักซ์ต้องถูกทำลาย ความชั่วร้ายนี้ขัดแย้งกับกฏแห่งธรรมชาติ นายจะปล่อยให้ลูกหลานของนายค่อยๆบ้าคลั่งแล้วทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสัมผัส,รวมไปถึงฮอกวอตส์ด้วย”
“ถ้านายพูดแบบนั้นฉันจะไปจัดการกับเขาด้วยตัวเอง เกียรติยศของตระกูลสลิธีรินไม่สามารถทำให้เสื่อมเสียได้” ซัลลาซาร์กล่าว “แต่ความคิดของฉันยังเหมือนเดิม, เลือดสีโคลนในอนาคตทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ”
“เอาล่ะ เอาล่ะ, ถ้านานเลือกที่จะทิ้งอะไรบางอย่างให้กับทายาทของนาย แต่พวกเราก็จะทิ้งบางอย่างสำหรับอนาคตของฮอกวอตส์ด้วยเหมือนกัน, ฉันไม่อยากให้โรงเรียนถูกทำลายด้วยฝีมือของคนแบบนั้น ก็อดดริคกล่าวขณะเดินวนไปมา
“ห้องลับของนาย ซัลลาซาร์!” โรเวน่าพูดเบาๆ “พวกเราสามารถสร้างห้องแห่งความลับที่แท้จริงและทิ้งบางสิ่งไว้ข้างใน ทายาทที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะสามารถเปิดมันได้ในช่วงเวลาวิกฤติที่สุดตอนที่ฮอกวอตส์ตกอยู่ในอันตราย”
“เป็นความคิดที่ฉลาด พวกเราสามารถทิ้งบททดสอบและสมบัติลับเพื่อให้แน่ใจในอนาคตของออกวอตส์ พวกเราสามารถใช้ปรัชญาส่วนตัวของพวกเราและทำลายพ่อมดศาสตร์มืดด้วย” ก็อดดริคพูดอย่างตื้นเต้น “ฉันเห็นด้วยกับข้อเสนอของโรเวน่า, พวกคุณคิดว่ายังไง?”
“ฉันไม่มีความคิดเห็น!” เฮลก้าพูดพร้อมกับยิ้มและพยักหน้า
“พวกนายอย่างทำอะไรก็ทำแต่ฉันจะทำด้วยวิธีของฉัน” ซัลลาซาร์กล่าวด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง
อีวานมองผู้คนทั้งสี่ที่กำลังตื้นเต้น, ผู้ก่อตั้งของฮอกวอตส์ทิ้งสมบัติลับเอาไว้ “นี่มันการล่าสมบัติหรือไง?” อีวานคิด
“ในกรณีนี้ ลองไปดูที่ห้องลับกันก่อน” เวโรน่าพูดจากนั้นเธอก็หันไปหาอีวาน “สำหรับเธอ, ฉันพึ่งดูเครื่องย้อนเวลาเสร็จ, มันถูกเริ่มใช้งานโดยผิดวิธี มันจึงพาเธอมาในเวลาที่เธอนั้นยังไม่มีตัวตนอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นผมควรทำยังไง, ผมจะกลับไปได้ไหม?” อีวานถามอย่างเป็นกังวล
“ไม่ต้องกังวลไป,แต่พวกเราต้องรีบกันหน่อย เมื่อเวทมนตร์หมดลงเธอจะถูกส่งกลับไปในเวลาก่อนหน้าของเธอ” โรเวน่ากล่าว, “ก่อนอื่นเธอต้องกลับไปตรงที่ที่เธอเคยอยู่มาก่อนดังนั้นมันจึงไม่น่าประหลาดใจอะไร”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ, กริฟฟินดอร์คิดเกี่ยวกับการไปพร้อมกับอีวาน และฮัฟเฟิลพัฟเสียใจที่อีวานไม่ได้ชิมอาหารที่เธอทำ ทั้งห้าคนตรงไปที่ห้องลับด้วยกุญแจของสลิธีริน
ห้องแห่งความลับ, กริฟฟินดอร์,เรเวนคลอและฮัฟเฟิลพัฟมองไปรอบๆด้วยความพึงพอใจ, มันเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเก็บสมบัติลับจริงๆ
“ที่นี่,เลือดสีโคลน, เธอตกลงมาจากที่แห่งนี่”
สลิธีรินนำอีวานไปตรงที่ที่อีวานเคยอยู่บนรูปปั้น, อีวานรู้สึกถึงช่องว่างเวลารอบตัวเขา
“ความฉลาดคือสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์!”โรเวน่ากล่าว “อีวาน เมสัน ในอนาคตเมื่อฮอกวอตส์เผชิญกับช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ฉันหวังว่าเธอจะผ่านการทดสอบไปได้”
“อีวาน!” เฮลก้ากล่าวอย่างร่าเริง “ฉันจะทิ้งสูตรอาหารไว้ที่นี่ ถ้าเธอหามันพบ พวกมันก็จะเป็นของเธอ”
“จงฟังไว้ให้ดี หนุ่มน้อย!” ก็อดดริคกล่าวเสียงดังพร้อมกับกำหมัดของเขา “ฉันจะทิ้งอาวุธพิเศษของกริฟฟินดอร์ที่ทรงพลังไว้สักสองสามอย่างเพื่อเตะก้นเจ้าพ่อมดศาสตร์มืดนั่น อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ถ้าเธอล้มเหลวล่ะก็ฉันจะจัดการเธอแน่”
ซัลลาซาร์ไม่กล่าวอะไร, เขาดูไม่มีความสุข, เขาจ้องไปที่หน้าของอีวานแต่ก่อนที่อีวานจะหายไป เขาก้าวมาข้างหน้าและนำบางอย่างมาใส่ไว้ในมือของอีวาน
“น้ำยานี่ไป มันเป็นของขวัญของฉัน, ฉันขอโทษที่ลูกหลานของฉันทำร้ายเธอ”
ก่อนที่อีวานจะได้ตอบกลับ เขาถูกหมุนส่งกลับไป เขากลับมาจุดที่เขาเคยอยู่ในตอนแรก
เขานอนอยู่ในรูปปั้นของสลิธีริน, มันเหมือนกับว่าทุกสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝัน