HPST ตอนที่ 58: ข้อพิพาทของผู้ก่อตั้ง
HPST ตอนที่ 58: ข้อพิพาทของผู้ก่อตั้ง
ซัลลาซาร์ สลิธีรินคว้าที่ไหล่ของอีวาน, ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้าหนาขวางพวกเขาอยู่แต่อีวานยังรับรู้ได้ถึงความเย็นเยือก, มือของอีกฝ่ายนั้นเย็นเหมือนกับน้ำแข็ง,ในครู่ต่อมาพวกเขาได้ออกเดินทาง
อีวานรู้สึกถึงแรงดึงที่แข็งแรง, มันราวกับว่าเขากำลังถูกดึงเข้าไปในหลุมที่มีขนาดเล็กเท่ากับเม็ดถั่ว, เขาเหยียดยาวไปทุกทิศทาง, หน้าอกของเขามีความรู้สึกเหมือนกับมีน้ำหนักพันปอนด์ทับอยู่บนนั้น
ดวงตาของเขาถูกยืดเข้าไปที่ด้านหลังของศีรษะ, แก้วหูของเขาถูกกดเข้าไปในกระโหลกศีรษะ
อีวานกำลังถูกหมุน, มันมืดมิด, เขาไม่สามารถหายใจได้, และมันเหมือนราวกับว่าร่างกายทุกส่วนของเขากำลังถูกดึงออกจนถึงขีดจำกัดของมัน, ขณะเดียวกับที่เขากำลังคิดว่าเขาจะไม่ได้หายใจแล้ว พวกเขาก็มาถึงยังห้องห้องหนึ่ง, เขาสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป
ที่นี่น่าจะเป็นห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่, การตกแต่งนั้นสวยสดงดงาม, ผ้าม่านหนาแขวนอยู่ข้างๆกับชุดเกราะสีเงิน, ภาพจิตรกรรมที่สวยงามถูกระบายอยู่บนผนัง, พื้นมีลวดลายแกะสลักตกแต่งอยู่, ตรงกลางของห้องมีโต๊ะสี่ตัวตั้งอยู่
“ซัลลาซาร์, ฉันดีใจที่ได้พบคุณนะ, ฉันคิดว่าคุณจะขังตัวเองอยู่ในห้องใต้ดินเป็นอาทิตย์เพื่อปรุงยาเสียแล้ว” หญิงสาวที่มีผมสั่นสีน้ำตาลกล่าว
เธอดูเหมือนจะเปี่ยมไปด้วยพลัง, เธอถูกห้อมล้อมไปด้วยกองกระดาษและถ้วยทองคำอร่ามที่ด้านหน้าของเธอ, ในแก้วบรรจุเครื่องดื่มสีดำแวววาว
“ฉันก็ปรุงยาอยู่แต่เลือดสีโคลนคนนี้ดันปรากฏตัวขึ้น, เฮลก้า!”
ซัลลาซาร์ทำเสียงฮึดฮัดขณะที่ผลักอีวานไปข้างหน้า “จับตาดูเขาไว้ตอนที่ฉันไปหาก็อดดริคกับเวโรน่า”
ซัลลาซาร์หายไปในทันที, เหลือเพียงอีวานกับเฮลก้า
อีวานดูเหมือนจะสุภาพมากเกินไปขณะที่เฮลก้ามองเขาอยู่
“ใจเย็น เจ้าหนูน้อย!” เฮลก้าพูดขณะที่เธอยิ้ม “อย่าเก็บมันไปคิดมากเลย,ซัลลาซาร์ภายนอกอาจจะดูดุร้ายแต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจดี, เขาแค่แสดงความรู้สึกของตัวเองไม่เก่งเท่านั้นเอง”
เธอดีดนิ้วของเธอและเอลฟ์ประจำบ้านก็ปรากฏตัวขึ้นมากลางห้องในทันที
“โตโต้, นำขนมทำเองมาให้สุภาพบุรุษคนนี้หน่อยสิ” เฮลก้ากระซิบ หลังจากนั้นเธอหันศีรษะของเธอและมองไปที่อีวาน “จริงสิ, ฉันลืมที่จะแนะนำตัวเองเลย, ฉันชื่อเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ, เธอล่ะชื่ออะไร?”
“สวัสดีครับ, ผมชื่ออีวาน เมสัน” อีวานชิมขนมเค้กที่เอลฟ์ระจำบ้านเอามาให้, เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่มันมีรสหวาน
“พ่อมดมักเกิ้ล-บอร์น, นั้นหาได้ยากนะ,เธอรู้ไหมว่ามักเกิ้ลมีอคติต่อพ่อมด, พวกเขาสนใจแต่จะจับพวกเราไปมัดและเผาพวกเรา” เฮลก้ากล่าว “ฉันไม่เห็นพ่อมดมักเกิ้ล-บอร์นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว, อีวานเธอจะบอกได้ไหมว่าอาจารย์ของเธอเป็นใคร”
“ตามจริง, ผมก็เป็นนักเรียนของฮอกวอตส์…...” อีวานรีบสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เธอมาจากฮอกวอตส์หนึ่งพันปีในอนาคต?” เฮลก้ากล่าว, ท่าทางที่แสดงออกบนใบหน้าของเธอคือตกใจ, อีวานมอบเครื่องย้อนเวลาในกับเธอและเธอก็ศึกษามันไประยะหนึ่งก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะ, “ฉันไม่ค่อยเชี่ยวชาญในเวทมนตร์เวลา, นี่มันเป็นสาขาที่เวโรน่าเชี่ยวชาญเสียมากกว่า, แต่มันดูเหมือนว่ามันจะสามารถพาเธอมายังช่วงเวลาที่เธอนั้นไม่มีตัวตนอยู่ได้, พลังของเครื่องย้อนเวลานี่ต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก”
มันสามารถเห็นได้ชัดเลยว่าฮัฟเฟิลพัฟสนใจในฮอกวอตส์ที่เขาจากมา
เธอถามอีวานค่อนข้างจะหลายคำถามเกี่ยวกับบ้านของเธอและสีหน้าของเธอแล้ว, เธอค่อนข้างจะพึงพอใจกับผลงานของมัน
“หมวกคัดสรรทำงานได้ยอดเยี่ยม, มันสามารถคัดแยกผู้คนเข้ามาบ้านของฉันด้วยแนวคิดปรัชญาที่คล้ายกัน” เฮลก้าพูด “สามบ้านนั้นเหมือนกัน, พวกเขาไม่สนใจคุณสมบัติที่มีมาแต่กำเนิด พวกเขาไม่เลี้ยงดูพรสวรรค์เหล่านั้นดังนั้นพ่อมดรุ่นเยาว์ทั้งหลายก็จะไม่สามารถเติบโตในทางที่ถูกต้องได้ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก”
“ฉันคิดว่าความถนัดเป็นตัวเลือกที่ฉลาดที่สุด!”เสียงผู้หญิงที่แหบแห้งไม่มีตัวตนดังขึ้น
พอเสียงของเธอจางหายไปและร่างทั้งสามก็ปรากฏตัวที่ด้านหลังของอีวาน
ยืนอยู่ทางด้านซ้ายมือคือสลิธีรินและถัดจากเขาคือโรเวน่า เรเวนคลอ, เธอมีรูปร่างที่ผอมบาง,พร้อมกับผมยาวถึงกลางหลังและดวงตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วบความฉลาวเฉลียว, สวมใส่มงกุฏที่มีอัญมณีวิบวับ,ที่ทำให้เธอดูลึกลับซับซ้อน
ในทางขวามือเป็นก็อดดริค กริฟฟินดอร์, เขาสูงใหญ่, หล่อเหลา, ผมของเขามีสีแดงเพลิง, มีแผลเป็นบางๆที่ดวงตาข้างซ้ายของเขาซึ่งทำให้เขาดูดุดันขึ้นเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าโรเวน่าได้ยินที่เฮลก้าพูด, โรเวน่ากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “คุณใจดีเกินไป พวกเราต้องระมัดระวังเมื่อเราเลือกพ่อมดรุ่นเยาว์ที่จะสอน เราต้องเลือกนักเรียนอย่างรอบคอบ”
หลังจากนั้นเธอสังเกตเห็นเครื่องย้อนเวลาที่วางอยู่บนโต๊ะ, เธอมองดูอย่างสนใจเมื่อเธอก้มลงไป
แต่หัวข้อยังคงพูดคุยต่อ
“ดูที่ฮอกวอตส์ตกต่ำลงเมื่อผ่านไปเมื่อหนึ่งพันปีสิ, พวกเขาปล่อยให้เลือดสีโคลนเข้าไปในโรงเรียน” ซัลลาซาร์กล่าวขณะจ้องมองอีวานย่างเหยียดหยาม
“เลือกคำพูดให้ฉลาดๆหน่อย ซัลลาซาร์ เด็กคนนี้มาจากบ้านของฉันนะ” ก็อดดริคกล่าว “เผชิญกับความจริงได้แล้ว, เด็กที่เกิดจากมักเกิ้ลหลายคนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ทางเวทมนตร์และหัวใจของพวกเขานั้นดีงาม ในทางตรงข้าม คนที่สืบทอดสถานะเลือดบริสุทธิ์ของพวกเขาเป็นเวลานานมักจะหันไปเป็นพ่อมดศาสตร์มืด, พวกเขารังแกมักเกิ้ลและฆ่ามักเกิ้ลเพียงเพื่อความสนุก ถ้าสถานการณ์ยังคงดำเนินแบบนี้ต่อไป, โลกแห่งพ่อมดจะต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด”
“ฉันบอกนายมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว ก็อดดริค!” ซัลลาซาร์กล่าวช้าๆ “ฉันกำลังเขียนจดหมายเพื่อส่งไปในรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทมนตร์เพื่อสร้างคุกเพื่อคุมขังพ่อมดศาสตร์มืด! แต่เราต้องรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือดพ่อมดที่พวกมักเกิ้ลไม่เชื่อถือ, พวกเขาแค่อยากจะเผาพวกเราที่เสาแล้วนายยังจะยอมรับคนแบบนั้นมาเป็นนักเรียนหรอ”
“นั่นเพราะว่าพวกเขาไม่มีความรู้เหมือนกับที่พ่อมดมี ดังนั้นพ่อมดแม่มดจึงสร้างความกลัวขึ้น เราต้องแนะนำพ่อมดรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ เพื่อเราจะได้ให้อุดมคติที่ถูกต้องแก่พวกเขา”
“นั่นเป็นความคิดที่ปัญญาอ่อน, นายช่วยพวกเขามาทำลายพวกเรา” ซัลลาซาร์กล่าวอย่างเยือกเย็น
“นายกับอคติดื้อรั้นของนาย,เวลามันเปลี่ยนไปแล้วและถ้านายยังคิดแบบนี้อยู่ ไม่ช้าก็เร็ว ฮอกวอตส์นี้คงได้กลายเป็นโรงเรียนเพื่อชุบเลี้ยงพ่อมดศาสตร์มืด” ก็อดดริคเอามือของเขาไปจับที่ดาบ
“ตราบใดที่ฉันยังอยู่, พ่อมดมืดไม่มีวันได้มีวันมาเหยียบที่ฮอกวอตส์!” ซัลลาซาร์พูดขณะที่เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ของเขาออกมา, อุณหภูมิในห้องลดต่ำลง, “แต่ฉันจะยังคงเลือกเพียงพ่อมดที่มีเลือดบริสุทธิ์ที่สุดเท่านั้น เพราะพวกเขาคือคนที่น่าเชื่อถือที่สุด”
“เฮลก้ากับโรเวน่าตัดสินใจแล้วว่าจะรับนักเรียนที่เกิดจากมักเกิ้ลในปีนี้” ก็อดดริคกล่าว “พวกเราสร้างวัตถุเวทมนตร์ที่สามารถระบุเด็กทุกคนที่มีอายุสิบเอ็ดปีและมีความสามารถทางเวทมนตร์”
“รับนักเรียนมักเกิ้ลเข้ามาในโรงเรียนโดยไม่ผ่านการยินยอมจากฉัน, นายกล้าดียังไง?”ซัลลาซาร์ดูตกใจและตะคอก “ที่นี่คือปราสาทของพ่อฉัน!”
“ที่นี้ก็เป็นโรงเรียนคาถาพ่อมดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์เหมือนกัน” ก็อดดริคตะโกนเสียงดังลั่น “กลับไปของห้องใต้ดินของนายพร้อมกับความดืื้อรันและอคติของนายซะ”
หลังจากนั้นก็อดดริคชักดาบของเขา
“นายอยากจะให้มันเป็นการประลองแบบลูกผู้ชายเพื่อตัดสินอนาคตของฮอกวอตส์ใช่ไหม?”
“นั่นคือความตั้งใจของฉัน, ให้ฉันดู…..”
“พอได้แล้ว ทั้งสองคน!” เฮลก้าห้ามพวกเขาทั้งสอง “พวกนายมาคุยกันเรื่องนี้ต่อหน้าแขกได้ยังไง, นั่นมันไม่สุภาพเลย, โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขกคนนี้ของพวกเรามาจากอนาคต, บางทีพวกนายควรจะฟังสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับฮอกวอตส์หลังจากนี้ในอีกหนึ่งพันปี”
หลังจากเฮลก้าพูดจบ ทั้งห้องก็สงบลง กริฟฟินดอร์และสลิธีรินหันหน้าของพวกเขาและมองไปที่อีวาน
โรเวน่าที่กำลังมองที่เครื่องย้อนเวลาอยู่ก็เงยหน้าของเธอขึ้นมาและจ้องไปที่เขาเงียบๆเช่นกัน