HPST ตอนที่ 57: ฮอกวอตส์หนึ่งพันปีก่อน
HPST ตอนที่ 57: ฮอกวอตส์หนึ่งพันปีก่อน
ขณะที่ฟีนิกส์กำลังสู้อยู่กับบาซิลิสก์, อีวานวิ่งไปที่รูปปั้น ทอมดูเหมือนจะรู้ว่าอีวานจะทำอะไรดังนั้นทอมจึงร่ายคาถาใส่อีงาน คาถาสองสามคาถาที่ทอมร่ายเกือบจะโดนอีวาน
“ฆ่าไอ่เลือดสีโคลน อย่าให้เขาเข้าไปใกล้รูปปั้น, เขาอยู่ด้านขวาของแก” ทอมตะโกน
บาซิลิสก์ไม่สนใจฟีนิกส์อีกต่อไปและกระโจนเข้าหาอีวาน
อีวานมองกลับมาที่ด้านหลังและเห็นดวงตากระหายเลือดขนาดใหญ่สองดวงกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ในจังหวะเดียวกับที่เขากำลังคิดว่าเขาจะถูกกลืนโดยบาซิลิสก์, แฮร์รี่มาปรากฏตัวอยู่ตรงระหว่างเขากับบาซิลิสก์, เขาขว้างไม้กายสิทธิ์ของเขาไปกับพื้น, กระชับดาบในมือของเขาอย่างแน่นหนา, หน้าของเขาซีดขาวแต่มันก็ยังแสดงให้เห็นว่าเขามีความกล้าหาญที่จะเผชิญกับบาซิลิสก์
บาซิลิสก์ไม่สังเกตเห็นแฮร์รี่, และริดเดิ้ลอยากจะบอกกับมันแต่เขาก็ช้าเกินไป
แฮร์รี่แทงใส่บาซิลิสก์โดยไร้ความปราณี, ทิ้งรอยแผลลึกที่คุณสามารถเห็นกระดูกได้, มันทำความเสียหายมากกว่าคาถาทุกคาถามารวมกันเสียอีก
บาซิลิสก์กระโดดกลับไปด้านหลัง, เสียงขู่ฟ่อดังไปทั่วทั้งห้อง, มันบิดร่างกายของมันไปมาอย่างดุเดือด และมันขดตัวรอบเสาหินทำให้ห้องทั้งห้องสั่นไหว
แฮร์รี่ถูกโยนและกระเแทกกำแพงทำให้เขาขาดความรัดกุม
โชคดีที่ฟอกส์บินเข้ามาและหยุดการโจมตีของบาซิลิสก์ และยังคงโจมตีบาซิลิสก์ต่อไป
อีวานไม่มีเวลามาโฟกัสกับการต่อสู้, เขารีบปีนขึ้นไปบนรูปปั้นขณะที่ดิ้นรนหลบคาถาที่ทอมร่ายใส่
คาถาพวกนี้ต่างก็ทรงพลัง, ทุกคาถาที่ทอมร่ายทำให้หินแตกกระจายไปทั่ว, รูปปั้นของสลิธีรินเปลี่ยนจนจำเค้าเดิมไม่ได้, แต่การที่เขาร่ายและควบคุมคาถาด้วยไม้กายสิทธิ์หักๆนั้นต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก
“เวรเอ้ย เวรเอ้ย!” ริดเดิ้ลโยนไม้กายสิทธิ์ของรอนทิ้ง
อีวานเห็นเขาไปที่ที่แฮร์รี่ทิ้งไม้กายสิทธิ์ของเขาและหยิบมันขึ้นมา
อีวานรีบปีนเร็วกว่าเดิม, เขาใกล้กับไดอารี่อย่างมาก, แต่หลังจากนั้นทอมร่ายคาถาสีเขียว, มันหนาขึ้นกว่าเดิมมาก ‘วิ่ง!’ อีวานคิดขณะที่เขากัดฟันกรอดและกระโดดขึ้นไปคว้าไดอารี่, จากนั้นทิ้งตัวเองไปทางแฮร์รี่
ในวินาทีต่อมา, แสงสีเขียวปะทะเข้ากับเขา
“อีวาน!”
ความเจ็บปวดแสนสาหัสกระจายไปทั่วทั้งร่างกายของเขา, อีวานได้ยินแฮร์รี่ตะโกนชื่อของเขา เขาต้องการที่จะตอบสนอง แต่เขาก็รู้สึกว่าชีวิตของเขาจางหายไป เขาเหลือพลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาร่วงลงไปในปากที่เปิดอยู่ของรูปปั้นสลิธีริน
มันเป็นถ้ำที่มืดและลึกไร้สิ้นสุด, มันกลืนกินอีวานโดยไร้ความปราณี
ด้วยแสงเล็กๆที่เหลืออยู่, อีวานเห็นวัตถุที่เหมือนกับนาฬิกาพกพาลอยออกมาจากกระเป๋าของเขา, เข็มชี้ได้หมุนทวนเข็มนาฬิกาและหมุนวนไป
อีวานไม่รู้ได้เลยว่ามันหมุนไปกี่ครั้ง, เมื่อแสงสุดท้ายหายไป,
แสงสว่างในดวงตาของอีกวานก็หายตามไปในไม่ช้า
เขาไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานแค่ไหน, อีวานลืมตาของเขาขึ้นมาอย่างช้าๆ
‘นี่เป็นความรู้สึกของความตายรึเปล่า’, ห้องแห่งความลับไม่เพียงแต่จะมืดมิดแต่มันยังว่างเปล่าอีกด้วย
‘ไม่, ที่นี่ไม่ใช่ห้องแห่งความลับ!’
ถึงแม้ห้องนี้จะมีขนาดเท่ากันกับห้องแห่งความลับ, แต่มันก็ขาดงานแกะสลักรูปงูที่น่ากลัวบนเสาหินและรูปปั้นของสลิธีรินก็ไม่มีอยู่
มันรกมาก ดูเหมือนห้องทำงานของสเนปที่มีขนาดใหญ่ขึ้น, มีสมุนไพรหลากหลายชนิดและน้ำยาเวทมนตร์,ซึ่งถูกเต็มไปด้วยของเหลวที่มีสีสันและสัตว์สตาฟ ที่มันจะทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุข
“ใครกันที่เขามาในห้องของฉันโดยไม่รับอนุญาต?”
อีวานเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผมสีดำขลับสวมใส่เสื้อคลุมพ่อมดสีเขียวแก่แบบโบราณ, เขาดูหล่อเหลาอย่างประหลาดและดูเหมือนกับขุนนาง พ่อมดหนุ่มมองที่อีวานด้วยความสงสัย, จากนั้นเขาดึงไม้กายสิทธิ์สีเงินออกมา
“สวัสดีครับ ผมชื่ออีวาน เมสัน, ที่นี่คือที่…...”
อีวานงุนงง, เขาเคยอยู่ในห้องแห่งความลับ, ต่อสู้กับโวลเดอมอร์กับบาซิลิสก์ แต่ตอนนี้เขานอนอยู่ในห้องกับพ่อมดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
อีวานคิดในแง่ดีว่าคนคนนี้ไม่ใช่นักดรียนของฮอกวอตส์หรือศาสตราจารย์, ไม่ว่าจะเป็นใคร, เขาเป็นพวกเจ้าอารมณ์แน่ๆ
“มันเคยเป็นปราสาทของพ่อฉันแต่ตอนนี้มันเป็นโรงเรียนเวทย์มนต์ที่เรียกว่าฮอกวอตส์” ชายคนนั้นกล่าวช้าๆ “ฉันชื่อซัลลาซาร์ สลิธีริน, หนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้”
ได้ยินคำพูดของเขาอีวานพูดไม่ออก
ซัลลาซาร์ สลิธิรีน
หนึ่งในผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์, ชายหนุ่มคนนี้, เขาอายุมากกว่าพันปีแล้วแต่ทำไมยังดูหนุ่มแบบนี้
“ห้องนี้เป็นห้องลับของฉัน ดังนั้นไม่น่าจะมีคนอื่นที่รู้เกี่ยวกับมัน” ซัลลาซาร์พูดขณะที่มองไปที่อีวานอย่างระมัดระวังด้วยสายตาที่หลี่ลง “และเธอพึ่งบอกว่าชื่อของเธอคืออีวาน เมสัน, ฉันไม่เคยได้ยินครอบครัวพ่อมดชื่อเมสันมาก่อน,เธอเป็นเลือดสีโคลน?”
ภายใต้สายตาอันเยือกเย็นของอีกฝั่ง, อีวานพยักหน้าอย่างระมัดระวัง, เขาเห็นความรังเกลียดบนใบหน้าของสลิธีริน
อีวานรู้สึกได้ถึงอันตรายในชั่วประเดี๊ยวนั้น
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นทรงพลัง, เขาไม่ต่างจากดัมเบิลดอร์หรือโวลเดอมอร์ อีวานสังเกตว่าห้องถูกตกแต่งในสไตล์ยุคกลาง
นี่คงจะไม่ใช่ฮอกวอตส์เมื่อหนึ่งพันปีก่อนใช่ไหม, ชายหนุ่มที่หล่อแปลกๆนี่คงจะไม่ใช่สลิธีรินตัวจริง
อีวานรู้สึกว่าสมองของเขาทำงานหนักเกินไปแล้ว, ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงสิ่งของเวทมนตร์ที่ดูเหมือนกับนาฬิกา เขาจับไปที่หน้าอกของเขาและมันยังอยู่ตรงนั้น
“ท่านครับ ผมเป็นนักเรียนของฮอกวอตส์, ผมมาจากริฟฟินดอร์” อีวานพูดก่อนที่สลิธีรินจะทำให้เขาหายไป
“นักเรียนของก๊อดดริค?” ซัลลาซาร์มองไปที่อีวาน “เธอกำลังโกหก, ฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อน”
“ผม ผมไม่ได้โกหกคุณ, คุณไม่เคยเห็นผมมาก่อนเพราะว่าผมมาจากฮอกวอตส์หนึ่งพันปีในอนาคต ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม แต่ผมมอาจจะถูกพามาที่นี้ด้วยเจ้าสิ่งนี้” อีวานกล่าวขณะที่เขาโชว์ของที่เหมือนกับนาฬิกา
“เครื่องย้อนเวลา,นี่มันช่างน่าทึ่ง!” ซัลลาซาร์ขณะที่เขาดูที่นาฬิกาอย่างระมัดระวัง “มันไม่เหมือนกับเครื่องย้อนเวลาทั่วๆไป, มันมีเวทมนตร์ประหลาดๆบนมัน, มันเป็นการออกแบบที่ซับซ้อนมาก, มันดูจะคล้ายกับงานของโรเวน่านิดหน่อยนะ”
เห็นท่าทีของสลิธีริน, อีวานถอนหายใจด้วยความโล่งอก, รู้ว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็เชื่อเขาเสียที มิฉะนั้น,เขาจะต้องได้พบกับชะตากรรมที่น่าสังเวช,หลังจากนี้ในอีกหนึ่งพันปีแล้วซัลลาซาร์ยังรู้สึกกลัว, ใครจะรู้ว่าซัลลาซาร์จะกำจัดเขายังไง
“ตามฉันมา, ฉันจะพาเธอไปพบกับก็อดดริคกับเวโรน่า” ซัลลาซาร์พูดพร้อมกับหลี่ตาของเขาและแสดงสีหน้าแสนเย้ยหยัน “ถ้าฉันรู้ว่าเธอโกหกกับฉัน, เธอจะได้เสียใจแน่ที่ได้ทำมันลงไป”