HPST ตอนที่ 56: อีวานกับแฮร์รี่ vs ทอม ริดเดิ้ล
HPST ตอนที่ 56: อีวานกับแฮร์รี่ vs ทอม ริดเดิ้ล
“คำถามของแกคืออะไร?” แฮร์รี่ตะคอก, หมัดของเขายังคงกำไว้แน่น
“มีมากมายเลยล่ะ, ยกตัวอย่างเช่น…...”
บนใบหน้าของทอม ริดเดิ้ลมีรอยยิ้มบิดเบี้ยว “ทำได้อย่างไร เด็กทารกที่ไม่มีแม้แต่เวทมนตร์อันทรงพลัง, เอาชนะพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลได้อย่างไร? เธอรอดพ้นมันมาได้โดยไร้บาดแผล, โดยมีเพียงแค่แผลเป็นและฆ่าโวลเดอมอร์ได้อย่างไร?”
ดวงตาของเขาเหมือนกับหมาป่าหิวโหยที่มีแสงสีแดงประหลาด
“มันก็น่าขำนะที่แกถูกทำให้พ่ายแพ้โดยแฮร์รี่ แต่แกก็ยังไม่รู้ว่าแกล้มเหลวได้ยังไง โวลเดอมอร์,แกเรียกสิ่งนี้ว่าเวทมนตร์ที่ทรงพลังหรอ?” อีวานยิ้ม
อีวานกำลังมองหาสมุดไดอารี่
ตอนนี้ริดเดิ้ลเป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ไม่มีร่างกาย, เขาเพียงดูดซับพลังของรอนและสร้างร่างขึ้น, การโจมตีใส่เขาไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น
เพียงแค่เขาหาฮอร์ครักซ์เจอแล้วพวกเราจะสามารถแก้ปัญหาได้?
“ฉันประเมินแกต่ำเกินไปอีกครั้งแล้ว เลือดสีโคลน! ดูเหมือนว่าแกจะรู้แล้วสินะว่าฉันคือใคร, ฉันคือโวลเดอมอร์ เขาคืออดีต, ปัจจุบัน และอนาคตของฉัน”
เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ที่หักของรอนขึ้นมาและเขียนไปในอากาศ : ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล
“โวลเดอมอร์คือชื่อใหม่ของฉัน!” ทอมกระซิบ “แกคิดว่าฉันจะใช้ชื่อของพ่อที่เป็นเลือดสีโคลนโสโครกไปทั้งชีวิตรึยังไง? ในตัวของฉันมีสายเลือดของซัลลาซาร์ สลิธีรินไหลอยู่,ฉันไม่มีทางใช้ชื่อมักเกิ้ลที่น่ารังเกียจ เขาทิ้งฉันก่อนที่ฉันจะเกิดเพราะว่าภรรยาของเขาเป็นแม่มด!”
“มันไม่มีวันเป็นไปได้! ฉันจะต้องมอบชื่อใหม่ให้กับตัวของฉัน ซึ่งหมายถึงตัวตนใหม่! ฉันรู้ดีว่าในวันหนึ่งตอนที่ฉันได้เป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พ่อมดทุนหนทุกแห่งจะเกรงกลัวที่ต้องเอ่ยชื่อของฉัน!”
แม้ว่าแฮรี่จะรู้แล้วว่าทอมคือโวลเดอมอร์ แต่แฮรี่ก็ยังตะลึงเมื่อเห็นชื่อที่เขียนในอากาศ
เขามองไปที่ริดเดิ้ล, ผู้ชายคนนี้, คนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเขาและคนอื่นอีกมากมาย
“ไม่, แกไม่ใช่” แฮร์รี่ฝืนตัวเองเพื่อจะพูด, เสียงเบาๆของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ไม่ใช่อะไร?” ทอมถามอย่างดุร้าย
“ไม่ใช่พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก!” แฮร์รี่กล่าวขณะที่หายใจสั้นๆ “ขอโทษที่ทำให้แกผิดหวัง, แต่พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ทุกคนบอกว่าแม้แกจะแข็งแกร่ง แต่แกก็ไม่กล้าที่จะก้าวเท้าเข้ามาในฮอกวอตส์ แกกลัวดัมเบิลดอร์ และตอนนี้แกก็ยังกลัวเขาอยู่”
รอยยิ้มบนใบหน้าของริดเดิ้ลหายไปและเขาแสดงท่าทางน่าเกลียดออกมา
“ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเราได้พบกันจวบจนครั้งสุดท้าย, ดัมเบิลดอร์ไม่เคยเชื่อใจฉัน, เมื่อตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกในบ้านเด็กกำพร้า,ฉันก็รู้, แต่มันก็ไม่สำคัญ,ฉันรู้เวทมนตร์มากมายที่เขาจะจินตนาการไม่ออก, ฉันแข็งแกร่งที่สุด, บอกฉันมาเสียที,แฮร์รี่ พอตเตอร์, แกคิดว่าคำพูดของแกจะช่วยตัวของแกกับไอ่เลือดสีโคลนข้างๆแกมีชีวิตรอไปได้อีกนานแค่ไหน”
“ทำไมแกถึงล้มเหลวเมื่อแกลงมือกับฉัน? ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” แฮร์รี่พูดทื่อๆ “แต่ฉันเห็นได้ว่าทำไมแกถึงฆ่าฉันไม่ได้, ก็เหมือนกับที่อีวานพูด, เพราะว่าแม่ของฉันตายเพื่อพยายามช่วยชีวิตของฉัน, เธอหยุดแกด้วยความรักที่เธอมอบให้กับฉัน!”
แฮร์รี่สั่นด้วยความโกรธ “เธอหยุดแกที่จะฆ่าฉัน, ฉันเห็นตัวตนที่แท้จริงของแกแล้ว, ฉันเห็นแกเมื่อปีที่แล้ว สิ่งที่เหลือสำหรับแกคือความล้มเหลว ฉันขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย,แกมันปีศาจ แกมันน่ารังเกียจและน่าขยะแขยง”
ริดเดิ้ลหันและมองไปที่รูปปั้นของสลิธีริน, เขาเผยรอยยิ้มบนหน้าให้เห็นชัดเจนขึ้น
“ตอนนี้มาดูกันดีกว่าว่าแกกับเลือดสีโคลนนั่นจะหนีรอดจากพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลยังไง”
ทอมพูดในภาษาพาร์เซล ปากขนาดใหญ่ของรูปปั้นเปิดออกและเกิดเป็นหลุมสีดำขนาดใหญ่ยักษ์
อีวานมองไปที่หน้ารูปปั้นของสลิธีรินซึ่งแทบจะมองไม่เห็น จากนั้นเขาเห็นสมุดไดอารี่ที่เขากำลังมองหาอยู่เหนือรูปปั้นนั่น
บาซิลิสก์ค่อยๆเลื้อยออกมาอย่างช้าๆจากรูปปั้น,ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผล, การโจมตีของสเนป, และเสียงร้องของไก่ตัวผู้ที่ทำให้มันเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแอกว่าปกติ
แต่สำหรับพ่อมดน้อยสองคน, บาซิลิสก์ยังอันตรายถึงตายแม้ว่ามันจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ
“ฆ่าพวกมัน!” ทอมกู่ร้องอย่างบ้าคลั่ง
บาซิลิสก์เลื้อยมาหาพวกเขา, ไม้กายสิทธิ์ของอีวานสร้างแสงสีชมพู, มันเป็นคาำสาปที่ทำให้ดวงตาเจ็บแสบ แต่มันก็ถูกหักล้างโดยคาถาจากริดเดิ้ล
“แกโง่หรือยังไง, คิดว่าฉันจะปล่อยให้แกทำแบบเดิมเป็นครั้งที่สองหรอ” ริดเดิ้ลพูดเสียงดัง “ถึงเวลาที่เจ้าเลือดสีโคลนจะได้ลิ้มรสความตายอันหอมหวาน…….”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ, มีเสียงเพลงดังไปทั่วทั้งห้องแห่งความลับ
มันน่าขนลุกจนกระดูกสันหลังต้องรู้สึกเสียวซ่าน
อีวานเห็นนกสีแดงเข้มบินลงมาในทันใด,มีขนาดใหญ่เหมือนนกกระเรียน, เล่นดนตรีที่แปลกประหลาด, มีหางที่ทอแสงระยิบระยับขนาดใหญ่เท่ากับหางของนกยูง, กรงเล็บมันวาวคู่หนึ่ง และพัสดุบนอุ้งเท้าของมัน
“มันคือฟอกส์, ฟีนิกส์ของดัมเบิลดอร์!”
เขาบินลงมาและโยนหมวกเก่าๆลงตรงเท้าของชายหนุ่มทั้งสอง, อีวานเห็นว่ามันคือหมวกคัดสรรของโรงเรียน
ในทันที ริดเดิ้ลระเบิดเสียงหัวเราะออกมา, เขายิ้มและตัวสั่น, มันเหมือนกับว่ามีคนสิบคนกำลังหัวเราะในเวลาเดียวกัน, “นี่คือผู้พิทักษ์ที่ดัมเบิลดอร์ส่งมาช่วย, นกร้องเพลง กับหมวกขาดๆ! รู้สึกกล้าขึ้นมาบ้างไหม, แฮร์รี่ พอตเตอร์? แกรู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นไหมในตอนนี้?”
เมื่อเสียงของทอมเบาลง, เขาเห็นฟอกส์บินไปทางบาซิลิสก์และวนรอบหัวของมัน
บาซิลิสก์พยายามจะโจมตีฟีนิกส์ด้วยเขี้ยวของมัน
แต่มันเปล่าประโยชน์, ฟอกส์ก้มลงและเหวี่ยงปากสีทองกว้างๆของมันเข้าไปที่หัวของบาซิลิสก์,ฟอกส์ร้องเป็นเพลงแปลกๆออกมา, เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จิกที่บาซิลิสก์จนเลือดสีดำพุ่งออกมาในไม่ช้า, ฟีนิกส์ได้จิกมันจนตาบอด
“ไม่, ฆ่าเด็กพวกนั้น! ไม่ต้องไปสนใจนก, เด็กพวกนั้นอยู่ข้างหลังของแก! ริดเดิ้ลกรีดร้องดังลั่น
“แฮร์รี่,เชื่อมั่นในตัวเอง” อีวานยื่นหมวกคัดสรรออกมาไว้ในมือของแฮร์รี่ จากนั้นเขาหันไปทางรูปปั้นสลิธีรินและตะโกนว่า “ฉันจะไปเอาไดอารี่, นายต้องจัดการมัน”
แฮร์รี่จ้องไปที่หมวกที่ขาดรุ่งริ่งจากนั้นเขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่แข็งๆอยู่ในหมวก, เขาก้มลงไปและมองเห็นดาบสีเงินวาววับ ด้ามจับนั้นถูกตอกด้วยทับทิมขนาดเท่ากับไข่ไก่
แฮร์รี่ดึงมันออกมา, ทับทิมเรืองแสงออกมาจางๆ
หลักฐานของความกล้าหาญ, ดาบของกริฟฟินดอร์!