ตอนที่แล้วตอนที่ 71 คู่หูที่ไว้ใจได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 73 ดวงตาแห่งความจริง

ตอนที่ 72 เมืองแซนนิกซ์


ตอนที่ 72 เมืองแซนนิกซ์

เมืองแซนนิกซ์(Sandnic)ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางทะเลทรายโดยมีเจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 เป็นผู้ปกครองเมืองแห่งนี้ แต่ถึงกระนั้นเมืองแซนนิกซ์ที่มีเจ้าชายปกครองตามหลักเชื้อสายก็ยังต้องขึ้นตรงต่อ กษัตริย์ Candor แห่งราชวงศ์กรีนเวต้าอยู่ดี เพราะในอดีตเคยพ่ายแพ้ให้กับเจ้าชาย Candor ผู้ปกครองเมืองอัลคาเดีย ในสงครามแบ่งแยกดินแดน ก่อนที่เจ้าชาย Candor จะเป็นฝ่ายชนะพร้อมกับสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์และก่อตั้งอาณาจักรกรีนเวต้าในเวลาต่อมา

เมืองแซนนิกซ์แห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองอัลคาเดียอยู่เล็กน้อย แต่การดำรงชีพและสภาพแวดล้อมของประชาชนภายในเมืองแห่งนี้จัดว่าย่ำแย่กว่าเมืองที่พวกเขาอยู่เป็นอย่างมาก แต่สาเหตุที่ผู้เล่นยังคงเลือกเมืองแห่งนี้เป็นเมืองเกิดอาจเป็นเพราะผู้คนอยากเลือกเล่นนักผจญภัย (Adventurer type) สายอาชีพคนเถื่อน(BarBarian) ที่เป็นอาชีพพิเศษเฉพาะสำหรับเมืองแซนนิกซ์ แห่งนี้ก็เป็นได้

อาชีพคนเถื่อนหรือบาบาเรี่ยน นั้นเริ่มต้นมาจากคลาสนักผจญภัยเช่นเดียวกับสายอาชีพธนู นักกวีและผู้อัญเชิญ แต่สิ่งที่ทำให้อาชีพคนเถื่อนมีความแตกต่างจากคลาสอาชีพนักผจญภัยจากเมืองอื่นนั่นคือ ค่าพลังป้องกันและพลังชีวิตที่สูงกว่า แต่ต้องแลกมาด้วยความเร็วที่เชื่องช้ากว่านักผจญภัยคลาสเดียวกัน

บาบาเรี่ยนล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น รูปลักษณ์และการแต่งตัวคล้ายกับชนเผ่า ทำให้เหล่าคนเถื่อนล้วนเป็นที่สะดุดตา เมื่อเดินในเมืองอื่นที่ไม่ใช่เมืองแซนนิกซ์แห่งนี้

เจสเปอร์และคนอื่นๆได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้คล้ายกับผู้เล่นเมืองแซนนิกซ์ให้มากที่สุดเพื่อที่จะแฝงตัวเข้าไปในเมืองโดยไม่เป็นที่สงสัยจากผู้เล่นคนอื่นๆสักเท่าไร

“ทุกคนจำชุดแต่งกายของนักฆ่าในวันนั้นกันได้หมดทุกคนแล้วใช่ไหม หากเจอ NPC คนไหนแต่งตัวคล้ายกับนักฆ่ากลุ่มนั้น รีบรายงานลงช่องสื่อสารของกิลด์ก็แล้วกัน”

พวกเขาแบ่งกลุ่มออกตามเดิมยกเว้นทวิสเต็ดที่แยกตัวออกไปก่อนหน้าตั้งแต่ที่มาถึงตามคำขอของเจสเปอร์ ไอรีนจึงเข้าไปทดแทนตำแหน่งของทวิสเต็ดที่ขาดหายไป ทำให้เจสเปอร์เป็นคนเดียวที่ออกสืบเพียงลำพัง

เจสเปอร์เดินเข้าเมืองแซนนิกซ์ด้วยท่าทางปกติ เขาผ่านทหารประจำเมืองเข้ามาได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับรีบเดินทางไปยังแหล่งชุมนุมตลาดมืดโดยอาศัยความทรงจำจากอดีตของเขาที่เคยมาเยือนเมืองแห่งนี้ แหล่งชุมนุมตลาดมืดไม่ต่างอะไรจากแหล่งมั่วสุมของ NPC และผู้เล่นที่ทำงานผิดกฎหมาย โดย NPC ที่อาศัยอยู่ในย่านแห่งนี้จะใช้ค่าสถานะฆาตกรเป็นเกณฑ์ในการมอบเควสให้กับผู้เล่น ยิ่งค่าสถานะฆาตกรยิ่งสูงก็จะยิ่งได้เควสดีๆมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ผิดกับ NPC ในเมืองที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้เล่นประเภทนี้ เหมือนเช่นเมืองอื่นๆ

“ที่นี้แหละ เชิญนายอาละวาดให้เต็มที่” เจสเปอร์พูดกับทวิสเต็ดที่ล่องหนอยู่ข้างๆ พรางชี้มือเข้าไปยังแหล่งมั่วสุมตรงหน้า มีมือมาบีบที่ไหล่ของเขาเบาๆเป็นอันตกลง ก่อนที่เจสเปอร์จะเดินออกจากบริเวณนั่นเพื่อทำภารกิจของเขาต่อไป

เจสเปอร์หยิบแผนที่ที่ได้รับมาจากศิษย์เอกเกโดออกมา พร้อมที่สอดส่องสายตาหาทางเดินลับที่เชื่อมไปยังปราสาทว่าการประจำเมืองแซนนิกซ์แห่งนี้ ในเมื่อตัวเขาไม่มีข้อมูลหรือคำใบ้อะไรเกี่ยวกับเควสนี้เลย วิธีการแอบเข้าไปจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เขาพอจะคิดออกในตอนนี้ โดยทางเข้าไปยังปราสาทประจำเมืองมีด้วยกันถึง 3 ช่องทาง

‘คงต้องลองไปมันทุก 3 เส้นทาง!!’

เจสเปอร์เองก็ไม่ทราบว่าทั้ง 3 ช่องทางไหนยังคงใช้ได้อยู่บาง เพราะด้วยความที่แผนที่ในมือค่อนข้างเก่าและเป็นสิ่งที่เขียนขึ้นนานแล้ว ทำให้มีแต่ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าทางเดินลับยังใช้ได้อยู่หรือไม่

แต่เหมือนว่าวันนี้จะไม่ใช่วันของเขาสักเท่าไหร่เพราะ 2 ใน 3 เส้นทางถูกปิดตายลงไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ความหวังของเจสเปอร์เหลือเพียงอีก 1 เส้นทาง แต่ทางเดินใต้ดินนั้นกลับมีบ้านของ NPC ตั้งทับเอาไว้อยู่ แผนการของเจสเปอร์ดูเหมือนจะล้มเหลว แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้น ทางเข้าใต้ดินที่บ้านหลังนี้สร้างทับเอาไว้ยังคงอยู่ดีโดยมี NPCเจ้าของบ้านหลังนี้ซ่อนมันเอาไว้จากองค์รักษ์ประจำเมืองแซนนิกซ์ แต่เรื่องนี้เจสเปอร์หาได้รู้ไม่

แม้เขาจะถอดใจไปบาง ที่แผนไม่ได้เป็นอย่างที่คิดแต่ลึกแล้วเขาก็ยังเชื่อว่าภารกิจนี้ต้องมีคำใบ้หรือตัวช่วยอะไรบางอย่างให้กับผู้เล่นบาง หากไม่เช่นนั้นภารกิจนี้จะไม่สามารทำสำเร็จได้เลย

‘มันอยู่แค่ตรงหน้าฉันนี้เองให้เห็นกับตาก่อนก็แล้วกันว่ามันถูกปิดไปแล้วจริงๆ’

เจสเปอร์พึมพำกับตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ภายในพุ่มไม้ข้างบ้านหลังนั่น เวลาค่อยๆเคลื่อนผ่านไปไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตภายในบ้าน

แต่ก่อนที่ความอดทนของเจสเปอร์จะหมดลง ประตูบ้านหลังนั้นก็เปิดออกช้าๆในตอนรุ่งสางของเช้าวันถัดมา มีชายชราแก่ๆเดินหลังค้อมออกมาจากบ้านหลังนั่นพร้อมกับตะกร้าที่ว่างเปล่าในมือ

เจสเปอร์แอบติดตามชายชราเจ้าของบ้านหลังนั่นไปอย่างเงียบๆโดยรักษาระยะห่างที่พอเหมาะเอาไว้พลางจับตาดูชายชราหลังค้อมกำลังเดินเข้าไปยังตลาดที่มีผู้คนอยู่พลุกพล่าน

‘คงต้องเรียกคนอื่นๆมาช่วยเรื่องนี้ซะแล้ว’

เจสเปอร์คิดแผนบางอย่างออกในที่สุด ก่อนจะส่งข้อความหาเพื่อนในกิลด์ไม่นานนัก ริคเตอร์ โบม่อนและไอรีน ก็มาพบกับเขาที่หน้าตลาด ก่อนทั้ง 3 จะมานั่งล้อมวงเพื่อฟังแผนการคร่าวๆ

“ฉันถามจริงๆ นายคิดนานไหมกับแผนการนี้” ไอรีนหันมามองหน้าเจสเปอร์ช้าๆก่อนที่จะพูดบางอย่างออกมาเมื่อได้ฟังแผนการของเจสเปอร์

“เอ่อ...เมื้อกี้นี้เอง”

“ฉันยอมรับน่ะว่านายอาจจะดูชั่วร้ายกับคนอื่นๆบาง แต่ก็ไม่คิดว่ากับ NPC ชายชรานายก็ยังไม่เว้น”

หากใครพูดแบบนี้กับเขาคงจะไม่รู้สึกรู้สาสักอะไร แต่คำพูดนี้ดันมาจากหญิงสาวที่ทำให้เขาใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ชายหนุ่มที่จิตใจอ่อนแอแบบเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกจุกที่อกเล็กน้อย

“ฉันชั่วร้ายตรงไหน ฉันไม่ให้พวกนายล้วงกระเป๋าขโมยกุญแจของชายแก่นั้นก็ดีแค่ไหนแล้ว”

“ยังมีแผนนี้อยู่ในหัวนาย ด้วยอย่างนั้นหรอเจส ฉันคิดว่าฉันเริ่มจะเห็นด้วยกับคำพูดของไอรีนเมื่อครู่แล้วละ” คราวนี้เป็นโบม่อนที่แทรกเข้ามาจิกกัดเจสเปอร์ ก่อนที่ส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อ

ทั้งหมดในที่นี้คงมีแต่ริคเตอร์เพียงคนเดียวในกิลด์ที่ไม่เคยพูดจาเหน็บแนมหัวหน้ากิลด์เช่นเขา เพราะเจสเปอร์จะทำอะไรริคเตอร์ก็ดูจะเลื่อมใสไปเสียหมด เหมือนเช่นครั้งนี้ที่เจ้าตัวขันอาสาเป็นตัวหลักในแผนการ

“ถ้าไม่มีใครขัดค้านก็เริ่มงานตามแผนเลยเถอะ อย่ามั่วแต่เสียเวลา” เจสเปอร์เปลี่ยนสีหน้าเป็นขึงขัง พร้อมกับแยกตัวออกไปกับไอรีน

เจสเปอร์และไอรีนเดินเข้าไปใกล้กับ NPC ชายชราเจ้าของบ้านที่ละนิด ก่อนที่ริคเตอร์และโบม่อนจะทำทีมาเดินซื้อเลือกของและอาศัยจังหวะที่คนเยอะๆเบียด NPC ด้านข้างให้ชนกับชายชราที่อยู่ถัดไปจนล้มลง เจสเปอร์และไอรีนรีบพุ่งเข้าประชิดพลางพยุงช่วยเหลือ ชายชราคนนั้นให้ลุกขึ้นยืน

“คุณลุงเป็นอะไรมากหรือเปล่า มีตรงไหนที่เจ็บไหมคะ”

ไอรีนทำทีเข้ามาสอบถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง หากเจสเปอร์ไม่รู้แผนการนี้ตั้งแต่แรกคงเชื่อเสียสนิทไปแล้วว่าเธอห่วง NPC ชายชราคนนี้จริงๆ

“ฉันไม่เป็นไรขอบใจพวกเธอทั้งสองคนมาก” NPC ชายชราปฏิเสธพร้อมกับปัดเศษทรายที่ติดอยู่ตามตัวให้หลุดออก ก่อนที่ชายชราจะลุกเดินจากไปโดยไม่หันมามองชาย หญิงทั้งสองที่ช่วยเหลือตน

ทิ้งให้เจสเปอร์และไอรีนยืนอยู่กับที่ แผนที่พวกเขาวางเอาไว้พังไม่เป็นท่า ชายชราไม่เพียงแต่จะปฏิเสธการช่วยเหลือของพวกเขา แต่ยังหมางเมินไม่สนใจผู้กล้าเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย.

“แม้ไม่เป็นไปตามแผนแต่ก็ขอบใจเธอมาก” เจสเปอร์ตบถุงผลไม้ที่หยิบออกมาจากตะกร้าของชายชราด้วยรอยยิ้ม “ฉันก็นึกว่าแผนของนายจะล้มเหลวซะอีก”

เป็นความจริงที่แผนทำทีเป็นช่วยเหลือของเขาล้มเหลวแต่มีหรือว่าเจสเปอร์จะไม่เตรียมแผนสำรองมารองรับเอาไว้ ทันทีที่ไอรีนถามชายชราเจสเปอร์ได้แอบล้วงเข้าไปในตะกร้าของชายชราที่ถืออยู่ในมือหยิบถุงผลไม้ออกมาและซ่อนเอาไว้ไม่ให้คนอื่นๆเห็นเพราะพฤติกรรมขโมยหากถูก NPC พบเห็นจะถูกลงโทษเช่นเดียวกับการทำอันตรายต่อ NPC เจสเปอร์จึงวางแผนให้ริคเตอร์และโบม่อนแฝงตัวเข้าไปในฝูงชนที่แออัดแกล้งทำทีเป็นเบียดผู้คนให้ชนกับชายชรา เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดในข้อนี้นั่นเอง

เจสเปอร์และไอรีน รีบเดินตามไปยังบ้านของชายชราในทันที เพื่อทำทีเป็นว่าชายชราทำถุงผลไม้นี้หล่นพื้นเมื่อตอนล้ม

‘ก๊อก!!’

“ใครน่ะ” ชายชราพูดออกมาจากภายในบ้านด้วยเสียงที่แข็งกร้าว

“พวกเราเองครับที่ช่วยพยุงคุณลุงที่ตลาด เผอิญคุณลุงทำถุงผลไม้นี้ตกเอาไว้พวกเราเห็นจึงนำมาส่งคืนครับ”

มีเสียงลั่นกลอนเพื่อปลดล็อคประตูที่ละจุด ก่อนที่ชายชราจะเปิดประตูออกมา

“พวกเจ้านี้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบางหรือไง...เฮ้อ เข้ามาข้างในเถอะ”

ชายชราหลีกทางให้ผู้กล้าทั้งสองได้เข้าไปข้างใน พร้อมกับปิดประตูตามหลังและล็อคกลอนกลับเช่นเดิม ชายชรานำทางพวกเขามานั่งในห้องรับแขกเล็ก พลางรินน้ำชาให้ทั้งสองคนได้ดื่ม

“บ้านของคุณลุงสวยจังนะครับ จะเป็นอะไรไหมถ้าผมขออนุญาตเดินดูรอบสักหน่อย”

หลังจากที่เจสเปอร์และไอรีนตามชายชราเข้ามาในห้องรับแขกในตัวบ้าน ชายหนุ่มก็รีบออกอุบายขอตัวไปสำรวจบ้านหลังนี้ แต่ทันทีที่เจสเปอร์ได้ยินประโยคคำพูดหนึ่งของชายชราเจ้าของบ้าน ความคิดที่จะเดินสำรวจก็มลายหายไปในบัดดล

“ทางเข้าทางเดินลับอยู่หลังตู้ในห้องครัว” ชายชราชี้นิ้วไปที่ห้องครัวก่อนที่จะนั่งจิบชาร้อนๆด้วยความสบายใจ ผิดกับ ชายและหญิงแปลกหน้าทั้งสองที่นั่งอ้าปากค้างมองชายชราด้วยความตกใจ “ลูกไม้ของเจ้า ข้ายอมรับว่ายอดเยี่ยมแต่การแสดงของพ่อหนุ่มควรปรับปรุงเสียหน่อยนะ หากข้าเป็นศัตรูป่านนี้คงจับพิรุธได้ตั้งแต่เจ้าเคาะประตูบ้านข้าไปแล้ว”

“คุณลุงรู้ได้อย่างไรว่าพวกเรามาด้วยเรื่องทางเดินลับใต้ดิน” แม้จะละอายใจกับการแสดงอันห่วยแตกของเขา แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่าชายชรารู้ได้อย่างไร

“เจ้ามีพลังบางอย่างที่คล้ายกับศิษย์เอกทั้ง3ในตำนานยังไงล่ะ” ชายชรามองไปดาบที่เหน็บอยู่ที่เอวของเจสเปอร์ ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นมาได้ว่า ดาบอีเทอนัลวอร์เบลดเคยดูดกลืนพลังจากแร่ Telelium เข้ามาในตอนที่เขาได้พบกับศิษย์เอก เกโด ถ้าหากชายชรารับรู้และเคยเห็นพลังเหล่านี้มาก่อน แสดงว่าเบื้องหลังของชายชราผู้นี้ ต้องเป็นคนของศิษย์เอกคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน

“ถูกต้องแล้ว ข้าเป็นคนของศิษย์เอกทอน์ นามว่า อัลบัส”

‘ศิษย์เอกทอน์?’

“ท่านลุงอัลบัสพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่า ศิษย์พี่ทอน์อยู่ที่ใดเผอิญว่าข้ามีเรื่องที่สำคัญต้องการพบกับศิษย์พี่โดยด่วน”

“ท่านทอน์เป็นคนอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ชอบออกไปไหนมาไหนคนเดียวนาน ข้าเอกก็ไม่ได้พบกับท่านทอน์มาแล้วหลายปี แต่จากการที่ได้พูดคุยกับท่านล่าสุด เห็นว่าท่านจะออกเดินทางไปยังซากวิหารเมืองที่ล้มสลายทางตอนเหนือของเมืองอัลคาเดียอย่างนั้นละ”

ในที่สุดคำใบ้เควสระดับตำนานของปรมาจารย์เมนอสก็เผยออกมาให้เขารู้จนครบทั้งสามคนแล้ว ศิษย์พี่ซีริคอยู่ที่เมืองหนาว ปราสาทแบล็คแคสเทิล ส่วน ศิษย์พี่ทอน์เอกก็อยู่ที่เมืองล้มสลายไปแล้วทางตอนบนของเมืองอัลคาเดีย

เจสเปอร์เป่าปากออกมาด้วยความโล่งใจแม้ตัวเขายังอ่อนแอ ไม่สามารถเดินทางไปพบเจอศิษย์พี่ทั้งสองเพื่อบอกข่าวได้ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าจุดหมายควรจะไปที่ใด ไม่ได้มืดแปดด้านไร้ข้อมูล เดินอยู่ทางกลางความืดอันโดดเดียวอีกต่อไป

นับว่าเป็นความโชคดีของชายหนุ่มอย่างแท้จริง ถ้าหากเจสเปอร์ไม่เลือกออกเดินทางมายังเมืองแซนนิกซ์ตามคำขอขององค์รักษ์ประจำตัวองค์หญิงซีซีเรียแล้วละก็เขาอาจไม่ได้มีโอกาสมาพบกับลุงอัลบัสผู้กุมความลับทางเดินใต้ดินซึ่งช่วยนำพาไปสู่คำใบ้ต่อไปของเควสระดับตำนานที่ตนค้างอยู่ก็เป็นได้

ดังเช่นคำกล่าวที่ว่า ‘โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ’

“พวกเจ้าทั้งสองพอจะบอกชายแก่เช่นข้าได้หรือไม่ว่าเหตุใดพวกเจ้าทั้งสองถึงต้องเดินทางมายังเมืองแซนนิกซ์ที่ห่างไกลเช่นนี้ พวกเจ้าไม่รู้เหรอว่าเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย” เป็นฝ่ายลุงอัลบัสบางที่ถามเจสเปอร์และไอรีน

แม้ลุงอัลบัสจะเป็นคนของศิษย์เอกทอน์แต่อย่างที่ลุงอัลบัสบอกเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย เขาไม่อาจเชื่อใจใครได้เลยเพราะฉะนั้นก่อนที่เขาจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชายชราคนนี้ได้ฟัง เขาจะต้องตรวจเช็คอะไรบางอย่างเพื่อให้แน่ใจซะก่อนว่า NPC ชราคนนี้เป็น NPC ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเขา ไม่ใช่เป็นคนของเจ้าชายเอ็ดมันด์ที่ 7 ที่เป็นผู้ปกครองเมืองแซนนิกซ์แห่งนี้

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด