ตอนที่ 40 ผมเป็นเจ้าของร้าน
ตอนที่ 40 ผมเป็นเจ้าของร้าน
บรรยากาศในห้อง VIP บนชั้นที่สองของร้านอาหารชั้นหนึ่ง ค่อนข้างจะอึมครึม
กวนชูชิง รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยขณะนั่งกินอาหารอยู่
ในตอนนี้เธอรู้สึกได้แล้วว่าหัวหน้าโจวและเพื่อนร่วมงานโดยรอบในที่นี้นั้นไม่ชอบหวังเสียน
และเธอยังรู้สึกอีกได้ว่าหัวหน้าโจวมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเธอ
สิ่งนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดที่ไม่ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการสังสรรค์ในวันนี้ให้เด็ดขาดไปตั้งแต่แรก
ปี๊บบ!ปี๊บบ!
ขณะนั้นเองโทรศัพท์ของโจวหยวนห่าวก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู
" มันเป็นโทรศัพท์จากผู้จัดการหวางผู้ดูแลที่นี่เขาน่าจะนำคาเวียร์ที่ผมสั่งเอาไว้มาให้แล้วละมั้ง"
เขายิ้มและรับสายโทรศัพท์หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
"อะไรนะ! คุณว่ามันไม่มีเหลืออีกแล้ว
งั้นรึ ไม่มีเหลือแม้สักที่เลยเหรอ?" เมื่อหัวหน้าโจวรับสายเขาก็ถามด้วยความตกใจ
"ผมขอโทษจริงๆผู้อำนวยการโจวเราไม่มีคาเวียร์เหลืออยู่ในร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งเลยในตอนนี้เนื่องจากทางร้านเราได้รับคำสั่งจากลูกค้าประจำระดับ VIP ได้จองไปหมดแล้ว"
ผู้จัดการหวางอธิบายทางโทรศัพท์
“ผมขอโทษคุณจริงๆครับ ครั้งหน้าผมจะบริการคุณไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยนะครับผู้อำนวยการโจว!”
"ไม่เป็นไรหรอกครับถ้ามันขายหมดแล้วก็ช่างมันเถอะครับ!"
หัวหน้าโจวส่ายหัวเล็กน้อยและวางสายโทรศัพท์ทันที
“คราวนี้พวกเราคงไม่ได้มีโอกาสชิมคาเวียร์แล้วหล่ะ ผู้จัดการ หวาง บอกว่าคาเวียร์ขายหมดไปแล้ว”
เขายักไหล่และพูดกับ กวนชูชิง ว่า "คราวนี้เราพลาดไปเอาไว้คราวหน้าผมจะพาคุณมาชิมคาเวียร์ของที่นี่ได้อย่างแน่นอน"
ปี๊บบบ!ปี๊บบบ!
หลังจากนั้นไม่นาาโทรศัพท์ของ หวังเสียน ก็ดังขึ้นเช่นกัน เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์จากหัวหน้าหลี่ เขาจึงรับทันที
“น้องชาย หวังเสียนคุณอยู่ห้องรับรองส่วนตัวหมายเลขไหนหรือครับ?”
"ห้อง 203 หัวหน้าหลี่มีอะไรเร่งด่วนหรือเปล่า?"
"โอ้..ไม่มีครับไม่มีอะไรผมจะมาขอรบกวนเวลาคุณสักครู่"
เมื่อหัวหน้าหลี่พูดจบก็มีคนมาเคาะประตูห้องรับรองส่วนตัวของพวกเขา หลังจากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็เปิดประตู
"ขออภัยสำหรับการขัดจังหวะ น้องชาย หวังเสียนด้วยนะผมมาที่นี่เพื่อเสิร์ฟอาหารพิเศษขึ้นชื่อของทางร้านเรา"
หัวหน้าหลี่ยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูขณะที่เขายิ้มและพูดกับหวังเสียน
ด้านหลังของเขาคือผู้จัดการหวางที่ยืนพร้อมจานในมือ ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปผู้จัดการ หวางมองไปที่ หวังเสียน และส่งยิ้มให้อย่างนอบน้อม
“หัวหน้าหวังครับนี่คือคาเวียร์สูตรพิเศษของร้านอาหารของเรามีอาหารทั้งหมดห้าอย่างที่ขึ้นชื่อของที่นี่และผมได้นำทั้งหมดมาที่นี่สำหรับคุณและแขกของคุณหัวหน้าหวังคุณสามารถเรียกผมว่าเสี่ยวหวางได้นะครับ ผมเป็นผู้จัดการของ ร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งในปัจจุบันนี้ครับ”
ผู้จัดการหวาง เป็นชายวัยกลางคน และเขายังทำตัวได้อย่างน่าชื่นชม เขาสุภาพเรียบร้อยเป็นอย่างมาก เขาถือจานและวางคาเวียร์ที่เสิร์ฟไว้บนโต๊ะตรงหน้าหวังเสียนอย่างนอบน้อม
หวังเสียนเองก็ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มและพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่หัวหน้าหลี่และกล่าว "ขอบคุณสำหรับความตั้งใจดีของคุณนะครับหัวหน้าหลี่"
"ขอให้สนุกและอร่อยกับมื้ออาหารนะครับ น้องชายหวังเสียนผมจะไม่รบกวนเวลาของพวกคุณแล้วนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ" หัวหน้าหลี่ยิ้มให้เขา
"ขอบคุณมาก" หวังเสียนพยักหน้าและยิ้มให้
"หัวหน้าหวัง ได้โปรดทำตัวตามสบายนะครับ ถ้ามีอะไรให้ผมรับใช้อย่าลังเลที่จะเรียกผมนะครับผมยินดีให้บริการหัวหน้าหวังอย่างเต็มใจเลยครับ"
ผู้จัดการหวางโค้งตัวและก้มหัวลง ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้มองไปที่คนอื่นเลยและเขาให้ความสนใจแต่กับหวังเสียนเพียงคนเดียว
แม้ในขณะที่เขากำลังจะออกไปเขาก็โค้งตัวลงอีกครั้งก่อนจะหันหลังกลับและเดินออกจากห้องไป
โจวหยวนห่าวตกตะลึงและดวงตาของเขาก็เบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากค้าง
ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างเขาสังเกตว่าผู้จัดการหวางไม่ได้หันมองมาและสนใจที่เขาเลยแม้แต่น้อย ประหนึ่งก้อนหินริมทาง มันทำให้เขารู้สึกเสียหน้าและอับอายเป็นอย่างมาก
ส่วนบรรดาชายหนุ่มและหญิงสาวคนอื่น ๆ ก็ตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็น
สถานการณ์ตอนนี้คืออะไร?
สองคนนั้นก่อนหน้านี้นั้นเป็นใคร?
ผู้ชายที่เสิร์ฟคาเวียร์บอกว่าเขาเป็นผู้จัดการของสถานที่แห่งนี้และหวังเสียนสามารถเรียกเขาว่าเสี่ยวหวางได้งั้นเหรอ? เขาเป็นผู้จัดการหวางคนเดียวกับที่หัวหน้าโจวพูดถึงหรือเปล่า?
พวกเขารีบหันหน้าไปมองหวังเสียน
พวกเขาเห็นคาเวียร์ทั้งห้าชุดจัดอย่างสวยงามข้างๆเขาโดยแต่ละชุดน่าจะมีราคาอย่างน้อย 4,000 หยวนแน่นอนและรวมๆแล้วคงไม่ต่ำกว่า 20,000 หยวนเป็นแน่
และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้แม้ว่าจะมีเงินก็ไม่สามารถจัดหามาได้อย่างแน่นอน
แม้แต่หัวหน้าโจว ของพวกเขาก็ยังไม่สามารถสั่งเมนูอาหารชุดพวกนี้ได้แม้แต่จานเดียว แม้จะรู้จักและพึ่งจะโทรหาผู้จัดการ หวาง ก็ตาม
กระนั้นแม้แต่ผู้จัดการหวางก็ยังมาส่งอาหารทั้งห้าชุดนี้ด้วยตัวเองอย่างนอบน้อมและมีความเคารพอย่างสูงนี้
มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นแค่นักศึกษาไม่ใช่เหรอ?
กวนชูชิง ซึ่งอยู่ข้างๆ หวังเสียน ก็มองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ เธอสังเกตเห็นว่าเธอมีเรื่องที่เธอยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาเป็นนักศึกษายากจนที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์บ่อยๆเพื่อหารายได้ค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพไม่ใช่หรือ
ปัจจุบันนี้เขาขี่มอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์และเสื้อผ้าที่เขาใช้ก็ไม่ได้มีราคาถูกๆเช่นกัน
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดสำหรับเธอ สิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากคือทัศนคติของผู้จัดการก่อนหน้านี้และอาหารฟรีที่มีมูลค่าถึง 20,000 หยวน
"หวังเสียน ... นาย ... นาย ... "
กวนซูชิงมองไปที่หวังเสียนและพูดติดๆขัดๆ เธอมีคำถามมากมายที่จะถามเขา แต่เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มถามที่ตรงไหน
" ทานอาหารกันก่อนเถอะคาเวียร์ลิมิเต็ดของร้าน อาหารชั้นหนึ่งแห่งนี้จะรสชาติสมคำเล่าลือหรือเปล่า"
หวังเสียนยิ้มและส่งจานให้เธอ
"หวังเสียน ... นี่ ... ทำไมผู้จัดการของที่นี้ถึงนำอาหารพวกนี้มาเสิร์ฟให้หล่ะ... "
กวนชูชิงมองไปที่คาเวียร์ที่หวังเสียนส่งมาวางอยู่ตรงหน้าเธอและถามอย่างเหม่อลอย
"ผมซื้อที่นี่ไว้แล้ว" หวังเสียนมองเธอและพูดต่อ
"หัวหน้าหลี่ที่เข้ามาก่อนหน้านี้เป็นเจ้าของร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เราได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการทำธุรกรรมแล้วและผมจะเป็นเจ้าของร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งแห่งนี้ ในวันพรุ่งนี้เพราะฉะนั้น ... "
หวังเสียนพูดพร้อมกับยิ้ม กวนชูชิง จ้องมองไปที่ หวังเสียน ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ ร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งแห่งนี้ ...
"ใช่!" หวังเสียน ยิ้มและพยักหน้า
"ถ้าคุณอยากจะกินอะไรในอนาคตคุณสามารถมาหาผมได้เลยผมจะเลี้ยงคุณเอง"
"นี่ ... " กวนชูชิง ตกตะลึงเล็กน้อย
“มันจะเป็นไปได้ยังไง”
เมื่อมาถึงจุดนี้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆไม่สามารถเก็บซ่อนความประหลาดใจไว้ได้อีกและแสดงท่าทางไม่อยากเชื่อออกมา
นักศึกษาที่นั่งอยู่ตรงนี้กับเขาเนี่ยนะซื้อร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่ง? นี่คือร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งเชียวนะไม่ใช่แผงขายผัก! เขาต้องมีเงินซักเท่าไร
10 ล้านหรือ 20 ล้าน?
นี่คือร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่ง! ใครจะสามารถซื้อที่นี่ได้ด้วยเงินเพียง 10 ล้านหยวนมันคงเป็นไปไม่ได้?
เหล่าบรรดาชายหนุ่มและหญิงสาวคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ก็แสดงท่าทีที่ไม่อยากจะเชื่อ
พวกเขานึกถึงสิ่งที่เคยพูดกับหวังเสียนก่อนหน้านี้ 'ฉันเกรงว่านายจะไม่มีโอกาสได้ลองกินมันอีกครั้งในชีวิตหลังจากนี้'
เมื่อนึกย้อนกลับไป ตอนนี้พวกเขารู้สึกได้ถึงความร้อนที่ใบหน้าของพวกเขา นี่เป็นการตบหน้าพวกเขาแบบเต็มหน้า!
ไม่เพียง แต่จะลองอีกครั้งเขายังซื้อร้านอาหารทั้งหมดนี่เลย
ตอนนี้พวกเขาหันไปมองหน้าของหัวหน้าโจวอย่างช้าๆ ในตอนนี้พวกเขาตระหนักว่าการแสดงออกทางใบหน้าของหัวหน้าโจวนั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมากขึ้น
ใบหน้าของเขากระตุกอย่างต่อเนื่องปากเบะลงเบี้ยวนิดๆและร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่หวังเสียน
แสร้งเป็นหมูกินเสือ?แกล้งทำตัวแย่ๆแล้วโชว์พาวเพื่อดึงดูดความสนใจ? คนอะไรคิดแผนการได้ร้ายกาจนัก!
หัวหน้าโจวจ้องไปที่หวังเสียนและมีวลีต่างๆที่ปรากฏขึ้นในใจของเขา เขากัดฟันแน่น
เพื่อที่จะสามารถซื้อร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งที่นี่ได้ เขาต้องมีทรัพย์สินหลายสิบล้านอย่างแน่นอน และสำหรับครอบครัวของตัวเขาเองพวกเขามีทรัพย์สินรวมทั้งหมดเพียง 50 - 60 ล้านเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ของตัวเขาเอง มันเป็นทรัพย์สินภายใต้ชื่อพ่อของเขาทั้งหมด
หวังเสียนเหลือบมองไปที่หัวหน้าโจว
อย่างช้าๆ ก่อนจะพูดกับ กวนชูชิง
“ผมจะเริ่มจัดการร้านอาหารแห่งนี้ในวันพรุ่งนี้และผมจะไม่เปลี่ยนแปลงพนักงานและจำนวนของลูกจ้างแต่ผมอาจต้องการหาคนที่เชื่อถือได้เพื่อจัดการเรื่องภายในต่างๆ และผมคงไม่สามารถ ดูแลด้วยตัวเองได้ทั้งหมดคุณจะมาช่วยผมได้ไหม”
"ฉัน ... ฉัน ... " เมื่อ กวนชูชิง ได้ยินคำพูดของหวังเสียนดวงตาก็เป็นประกาย แต่เธอก็ยังเหลือบมองไปที่หัวหน้าโจวข้างๆเธอและพูดว่า "แต่ฉันยังไม่ได้ลาออก.... "
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมองไปที่หวังเสียนอีกครั้งเธอก็พยักหน้าทันทีแม้จะลังเลอยู่เล็กน้อยก็ตาม " ตกลงในเมื่อนายเชิญฉัน ฉันจะปฏิเสธคำเชิญของนายได้ยังไง"
"นั้นเยี่ยมมากเลย เมื่อมีคุณมาช่วยงานผม ผมคงลดปัญหาหลายๆอย่างไปได้เยอะเลยหล่ะ"
หวังเสียนยิ้ม
ตอนนี้หัวหน้าโจว ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอคิ้วของเขากระตุกและหน้าบูดเบี้ยวอย่างรุนแรงและเขากำหมัดแน่นเมื่อเห็น กวนชูชิง ตอบตกลงกับหวังเสียนต่อหน้าเขา
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาสามารถซื้อร้านอาหารทะเลชั้นหนึ่งได้แบบง่ายดาย เขาอาจมีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งมากๆ
ไอ้ที่เขาตอบคำถามมาว่า 'เขามีแต่น้องสาวเพียงคนเดียว'! นั้นก็คงเป็นอีกแผนการที่ร้ายกาจของเขาอีกเป็นแน่!....
……….
จบบท