ตอนที่แล้วตอนที่ 36 ฉันจะซื้อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 สามพันต่อเดือน?

ตอนที่ 37 พร้อมเสมอทุกที่ทุกเวลา


ตอนที่ 37 พร้อมเสมอทุกที่ทุกเวลา

เมื่อเด็กหนุ่มเห็นหวังเสียนนำบัตรแพลทินัมของธนาคารออกมาเขาก็ตกตะลึงดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ผู้คนรอบข้างรวมถึงผู้อำนวยการหลี่มองไปที่หวังเสียนด้วยความประหลาดใจ

"เงินในบัตรของผมมีมากกว่า 16 ล้าน ผมจะซื้อร้านอาหารชั้นหนึ่งของคุณ คุณคิดว่าไงผู้อำนวยการหลี่" หวังเสียนถามผู้อำนวยการหลี่พร้อมด้วยรอยยิ้ม

ก่อนหน้านี้หวังเสียนได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันทั้งหมด ทันทีที่เขาได้ยินว่าผู้อำนวยการหลี่จะขายร้านอาหารชั้นหนึ่ง เขาสนใจขึ้นมาทันที

ปัจจุบันเขามีเงินที่หาได้จากวิธีพิเศษ เท่านั้นซึ่งมันไม่ใช่แหล่งรายได้ที่มั่นคง

หากแต่เขาซื้อร้านอาหารชั้นหนึ่งเขาจะสามารถมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองและหากตัวเขาเกิดอับโชคในชีวิตขึ้นมาเขาก็ยังสามารถบริหารร้านอาหารของตัวเองได้ในอนาคต

ยิ่งไปกว่านั้นเขามีข้อได้เปรียบอย่างมากในการหาวัตถุดิบทางทะเลเข้ามาในร้านอาหารของเขา

บางทีเขาอาจจะไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องไปจับสัตว์ทะเลด้วยเอง แต่เขาสามารถสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาจากวังมังกรของเขาจัดการแทนได้

เมื่อเขามีผู้ใต้บังคับบัญชามากขึ้น ถึงตอนนั้นการจัดการกับวัตถุดิบจำพวกอาหารทะเลของเขาแทบจะไม่มีต้นทุนเลย

ร้านอาหารเพียงแค่ต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆเท่านั้น

ธุรกิจของเขาจะไม่มีคำว่าขาดทุน แต่สามารถทำกำไรได้ 100% แทน

หวังเสียนต้องการรอจนกว่าพวกเขาจะคุยกันเสร็จและออกไปก่อน

เขาจึงจะเข้าไปคุยกับผู้อำนวยการหลี่

แต่ใครจะรู้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขาจะรู้ใจและให้ความช่วยเหลือเขาแบบนี้? เขาช่างเป็นคนดีจริงๆ!

"16 ล้านคุณมีมันจริงๆงั้นเหรอ?" เด็กหนุ่มชี้ไปที่หวังเสียนด้วยความไม่อยากจะเชื่อและถามด้วยเสียงสั่น

เด็กหนุ่มคนตรงหน้าเขานี้เขายังเด็กพอ ๆ กับตัวเขาเอง แต่เขาสามารถใช้จ่ายเงินมากกว่า 16 ล้านเหรียญเพื่อที่จะซื้อร้านอาหาร มันจะเป็นไปได้อย่างไร ...

หวังเสียนมองไปที่เด็กหนุ่มก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่ผู้อำนวยการหลี่

"คุณ.."ผู้อำนวยการหลี่เห็นหวังเสียนและจำเขาได้ เขาถามด้วยสีหน้าอันสับสน "คุณต้องการจะซื้อร้านอาหารของผมจริงเหรอ?"

"แน่นอนผมจะไม่ล้อเล่นเมื่อมันเกี่ยวข้องกับเงินหลายล้าน

ด้วยเงิน16 ล้านหยวนคุณจะขายหรือไม่หากคุณจะขายเราสามารถเซ็นสัญญาและชำระเงินได้ในวันพรุ่งนี้" หวังเสียนพูดคุยพร้อมพยักหน้าอย่างจริงจัง

ใบหน้าของผู้อำนวยการหลี่เปลี่ยนไปและดวงตาของเขามองไปที่หวังเสียนอย่างพิจารณา

ในเวลานี้ชายหนุ่มคนเป็นพี่จ้องมองไปที่หวังเสียน " นี่น้องชาย นายแน่ใจยังงั้นเหรอว่าต้องการซื้อภัตตาคารชั้นหนึ่งแห่งนี้? ลองคิดใหม่อีกครั้งดีกว่าไหม"

"มันขึ้นอยู่กับว่าราคามันจะแพงเกินไปไหม ผมจะไม่ซื้อถ้ามันมากเกินกว่า 16 ล้าน คุณต้องการเพิ่มราคาหรือเปล่าล่ะ" หวังเสียนยิ้มให้ชายหนุ่ม

โครมมม!

ชายหนุ่มทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น

“ ฉันว่านายลองคิดดูอีกครั้งจะดีกว่าหากนายต้องการที่จะซื้อร้านอาหาร

นี้ก็เท่ากับนายกำลังท้าทาย สวนอาหารศาลามังกร เมื่อถึงเวลานั้นอย่าร้องไห้หาแม่และรีบล้มละลายไปก่อนซะล่ะ”

หวังเสียนจิบน้ำชาแล้ววางอย่างช้าๆลงบนโต๊ะและพูดอย่างเฉยเมยว่า

"ผมเป็นคนชอบความท้าทายถ้ามีคนต้องการจะสู้กับผม ผมยินดีต้อนรับทุกคน แต่ใครจะแพ้แล้วร้องไห้หาแม่นั้น? ผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่ผม "

"ก็ดี!!"

ชายหนุ่มยืนขึ้นทันที "ฉันนั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีร้านอาหารชั้นหนึ่งเพราะนายอยากเล่นเกมส์ งั้นก็มาเล่นกันเถอะเด็กน้อย นายมันก็แค่มือสมัครเล่น"

"ถ้าผมจัดการร้านนี้..." หวังเสียนค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ " นาย!.ก็จะไม่มีสิทธิ์เป็นแม้แต่คู่แข่งของฉัน!!"

"คลืนนนน"

บรรยากาศรอบด้านหนักอึ้งขึ้นทันทีแรงกดดันมหาศาลครอบคลุมไปทั่วบริเวณ อิทธิพลของราชันย์มังกรส่งผลต่ออารมณ์ของเขาความเดือดพล่านของสายเลือดพุ่งขึ้นสูง คำต้องห้ามสำหรับเขาคือผู้ให้กำเนิด

จนบางทีเขาอยากจับหน้าไอ้หมอนี่กระแทกกับพื้นแรงๆ แต่เขารีบสกัดกั้นอารมณ์ตัวเองไว้ทันที แต่สายตาสาดแสงประกายคมกล้าเย็นยะเยือกยังคงจ้องมองไปทางชายหนุ่มดั่งสัตว์ร้ายกระหายเลือดจ้องมองอยู่ก็มิปาน

ชายหนุ่มกลืนน้ำลายฝืดๆลงคออย่างยากลำบากไม่กล้าแม้จ้องมองนัยน์ตาของหวังเสียน

"กะ..ก็.ด..ดีแล้วเราจะได้เห็นดีกัน!" ชายหนุ่มหันจ้องมองแว่บหนึ่งแล้วรีบหลบสายตา แต่แววตาของเขาแสดงออกถึงความประสงค์ร้ายอย่างชัดเจน

"พร้อมเสมอทุกที่ทุกเวลา"

หวังเสียนมองไปที่ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มเย็นชา

"ฮึ่ม..ฉะ..ผมจะทำให้คุณเสียใจในการตัดสินใจในครั้งนี้"

ชายหนุ่มจากไปหลังจากที่เขากล่าวคำพูดทิ้งท้ายไว้ ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ผู้อำนวยการหลี่อย่างเย็นชา

"นาย ... คุณจะต้องเสียใจ!" เด็กหนุ่มคนน้องกล่าวและชี้นิ้วไปที่หวังเสียน แล้วกระโดดออกวิ่งตามหลังพี่ชายเขาไปเหมือนเด็กน้อยขี้แพ้กล่าวท้าทายขณะร้องไห้หนีกลับบ้าน

หวังเสียนเหลือบมองดูเขาด้วยท่าทางเฉยเมยและไม่สนใจเขา

ก่อนที่เขาจะหันไปหาทางผู้อำนวยการหลี่

คนอย่างเด็กหนุ่มไม่เหมาะสมที่จะพูดกับเขายกเว้นพี่ชายของเขา

"น้องชายคุณต้องการซื้อร้านอาหารชั้นหนึ่งด้วยเงิน 16 ล้านจริงๆงั้นหรือ?"

ผู้อำนวยการหลี่ไม่ได้มองไปที่กลุ่มคนหนุ่มที่เพิ่งเดินจากไป

เขาถามหวังเสียนเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

"แน่นอนสิชัวร์ 100%"

หวังเสียนพยักหน้า

…….. …….

"ฮึ่ม...บัดซบ!"

เมื่อชายหนุ่มเดินนำออกมาจากภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่งก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมากเหงื่อของเขายังคงเปียกเต็มฝ่ามือ ความรู้สึกเหมือนพึ่งถูกปล่อยตัวจากโทษประหารชีวิต

“พี่ใหญ่ไอ้หมอนั้นยะโสโอหังมากเลยพี่เราจะปล่อยเขาไปแบบนี้ไม่ได้นะพี่”

เด็กหนุ่มสบตากับชายหนุ่มผู้พี่ด้วยสีหน้าขุ่นเคืองหลังจากที่เขาเดินออกจากภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่ง

"เออ!!...ฉันรู้หรอกน่า" ชายหนุ่มบอกปัดเขาด้วยความหงุดหงิดรำคาญ ถ้าน้องชายของเขาไม่ดันโง่ไปถามยั่วโมโหผู้ชายคนนั้นเขาก็คงไม่แสดงความสนใจที่จะซื้อภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่ง

หากเขาสามารถซื้อภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่งแห่งนี้ได้ในราคา 15 ล้านมันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา และไม่มีความเสี่ยงต่อธุรกิจอย่างแน่นอนเพราะไม่มีคู่แข่งและจะสามารถทำกำไรได้อย่างมากมาย

ตอนนี้เขาต้องต่อสู้และมีคู่แข่ง

"อย่างไรก็ตามร้านอาหารศาลามังกรได้ทำการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะสามารถเปิดธุรกิจได้ในไม่ช้านี้จนกว่าจะถึงตอนนั้น ... "

ชายหนุ่มแสดงออกอย่างมืดมนเมื่อนึกถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงและเย็นยะเยือกนั่น

เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบขมับของเขาเอาไว้

"....แค่รอดูฉันจะปล่อยมันไว้ก่อนและทำให้มันเสียใจที่คิดเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับฉัน….."

…...

"เราจะจัดการเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ในเวลา 9.00 น. ของวันพรุ่งนี้"

ย้อนกลับไปที่ร้านอาหารชั้นหนึ่งผู้อำนวยการหลี่ยิ้มให้หวังเสียน

เขาพอใจที่จะขายร้านอาหารได้ในราคา 16 ล้านหยวน

"ตกลงวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น." หวังเสียนพยักหน้า

"ฉันจะให้พ่อครัวไปเตรียมของก่อนแล้วเรามาทานอาหารเย็นด้วยกัน" ผู้อำนวยการหลี่กล่าวขณะที่เขายืนขึ้น

"ไม่เป็นไรผมกำลังรอเพื่อน" หวังเสียนส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม นอกเหนือจากข้อตกลงทางธุรกิจนี้เขาไม่มีความอยากใกล้ชิดและพูดคุยกับผู้อำนวยการหลี่เลยแม้แต่นิดเดียว

"อืม...ถ้าอย่างนั้นก็ทานอาหารเย็นให้อร่อยนะครับ พรุ่งนี้ที่นี่ก็จะเป็นของคุณแล้ว!"

ทันทีที่ผู้อำนวยการหลี่พูดจบเขาก็มองไปที่ร้านอาหารของเขาและถอนหายใจออกมา เพราะเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะได้กลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่หลังจากที่ขายร้านอาหารแห่งนี้ไปแล้ว

เขาเดินเข้าไปในสำนักงานที่ด้านหลังโต๊ะแคชเชียร์เหมือนคนไร้ชีวิตชีวา เขาอาจจะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่ทำให้เขาตกอยู่ในชะตาชกรรมอย่างในปัจจุบันนี้คือคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเมื่อครู่ที่ผ่านมา

ทุกอย่างต้องโทษการกระทำและโชคชะตาของเขา

ปี๊บบบ!

โทรศัพท์ของ หวังเสียน ดังขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 10 นาที

"ชูชิง ผมรออยู่ที่ด้านรับรองแขกด้านใน..." หวังเสียนรับสายและบอกกับกวนชูชิง

"หวังเสียน"

เมื่อเสียงของเขาพูดยังไม่ทันได้จบประโยคดีเขาก็ได้ยินเสียงของ กวนชูชิง ดังขึ้นที่ประตู

เธอยิ้มและโบกมือให้เขาพร้อมกับเดินเข้าไปหาเขาทันที

หวังเสียนมองไปพร้อมโบกมือและยิ้มรับแล้วเดินไปข้างหน้าเพื่อทักทายเธอก่อนที่เขาจะเห็นกลุ่มคนที่เดินตามเธอมาอยู่ข้างหลัง

ผู้ที่นำกลุ่มวัยรุ่นมาคือชายหนุ่มอายุประมาณ 28 หรือ 29 ปี สวมเสื้อผ้าที่ทันสมัย อาร์มานี่ (Armani) เขาสูง 1.8 เมตรและค่อนข้างดูดี

เมื่อหวังเสียนมองไปที่เขา ชายหนุ่มก็หันมามองและสังเกตเขาเช่นกัน

ชายหนุ่มที่สวม เวอร์ซาเช่ (Versace)  ครอบครัวของเขาน่าจะมีหน้ามีตาพอควร

หัวหน้าโจวหรี่ตาลงและสังเกตหวังเสียน ตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเขามากมายนัก

ในความคิดของเขา หวังเสียน ก็แค่เด็กหนุ่มเพิ่งโตยังไม่มีประสบการณ์

"ชูชิงนี่เป็นเพื่อนของคุณใช่ไหม สวัสดีผมชื่อโจวหยวนห่าว"

โจวหยวนห่าวเดินไปและยื่นมือเพื่อแนะนำตัวเองพร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หวังเสียนมองเขาแล้วก็ยิ้มรับพร้อมกล่าวตอบออกไป

"สวัสดีเช่นกัน ผมหวังเสียน!"

…………..

จบบท

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด