ตอนที่ 37 พร้อมเสมอทุกที่ทุกเวลา
ตอนที่ 37 พร้อมเสมอทุกที่ทุกเวลา
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นหวังเสียนนำบัตรแพลทินัมของธนาคารออกมาเขาก็ตกตะลึงดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ผู้คนรอบข้างรวมถึงผู้อำนวยการหลี่มองไปที่หวังเสียนด้วยความประหลาดใจ
"เงินในบัตรของผมมีมากกว่า 16 ล้าน ผมจะซื้อร้านอาหารชั้นหนึ่งของคุณ คุณคิดว่าไงผู้อำนวยการหลี่" หวังเสียนถามผู้อำนวยการหลี่พร้อมด้วยรอยยิ้ม
ก่อนหน้านี้หวังเสียนได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันทั้งหมด ทันทีที่เขาได้ยินว่าผู้อำนวยการหลี่จะขายร้านอาหารชั้นหนึ่ง เขาสนใจขึ้นมาทันที
ปัจจุบันเขามีเงินที่หาได้จากวิธีพิเศษ เท่านั้นซึ่งมันไม่ใช่แหล่งรายได้ที่มั่นคง
หากแต่เขาซื้อร้านอาหารชั้นหนึ่งเขาจะสามารถมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองและหากตัวเขาเกิดอับโชคในชีวิตขึ้นมาเขาก็ยังสามารถบริหารร้านอาหารของตัวเองได้ในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้นเขามีข้อได้เปรียบอย่างมากในการหาวัตถุดิบทางทะเลเข้ามาในร้านอาหารของเขา
บางทีเขาอาจจะไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องไปจับสัตว์ทะเลด้วยเอง แต่เขาสามารถสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาจากวังมังกรของเขาจัดการแทนได้
เมื่อเขามีผู้ใต้บังคับบัญชามากขึ้น ถึงตอนนั้นการจัดการกับวัตถุดิบจำพวกอาหารทะเลของเขาแทบจะไม่มีต้นทุนเลย
ร้านอาหารเพียงแค่ต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆเท่านั้น
ธุรกิจของเขาจะไม่มีคำว่าขาดทุน แต่สามารถทำกำไรได้ 100% แทน
หวังเสียนต้องการรอจนกว่าพวกเขาจะคุยกันเสร็จและออกไปก่อน
เขาจึงจะเข้าไปคุยกับผู้อำนวยการหลี่
แต่ใครจะรู้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขาจะรู้ใจและให้ความช่วยเหลือเขาแบบนี้? เขาช่างเป็นคนดีจริงๆ!
"16 ล้านคุณมีมันจริงๆงั้นเหรอ?" เด็กหนุ่มชี้ไปที่หวังเสียนด้วยความไม่อยากจะเชื่อและถามด้วยเสียงสั่น
เด็กหนุ่มคนตรงหน้าเขานี้เขายังเด็กพอ ๆ กับตัวเขาเอง แต่เขาสามารถใช้จ่ายเงินมากกว่า 16 ล้านเหรียญเพื่อที่จะซื้อร้านอาหาร มันจะเป็นไปได้อย่างไร ...
หวังเสียนมองไปที่เด็กหนุ่มก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่ผู้อำนวยการหลี่
"คุณ.."ผู้อำนวยการหลี่เห็นหวังเสียนและจำเขาได้ เขาถามด้วยสีหน้าอันสับสน "คุณต้องการจะซื้อร้านอาหารของผมจริงเหรอ?"
"แน่นอนผมจะไม่ล้อเล่นเมื่อมันเกี่ยวข้องกับเงินหลายล้าน
ด้วยเงิน16 ล้านหยวนคุณจะขายหรือไม่หากคุณจะขายเราสามารถเซ็นสัญญาและชำระเงินได้ในวันพรุ่งนี้" หวังเสียนพูดคุยพร้อมพยักหน้าอย่างจริงจัง
ใบหน้าของผู้อำนวยการหลี่เปลี่ยนไปและดวงตาของเขามองไปที่หวังเสียนอย่างพิจารณา
ในเวลานี้ชายหนุ่มคนเป็นพี่จ้องมองไปที่หวังเสียน " นี่น้องชาย นายแน่ใจยังงั้นเหรอว่าต้องการซื้อภัตตาคารชั้นหนึ่งแห่งนี้? ลองคิดใหม่อีกครั้งดีกว่าไหม"
"มันขึ้นอยู่กับว่าราคามันจะแพงเกินไปไหม ผมจะไม่ซื้อถ้ามันมากเกินกว่า 16 ล้าน คุณต้องการเพิ่มราคาหรือเปล่าล่ะ" หวังเสียนยิ้มให้ชายหนุ่ม
โครมมม!
ชายหนุ่มทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น
“ ฉันว่านายลองคิดดูอีกครั้งจะดีกว่าหากนายต้องการที่จะซื้อร้านอาหาร
นี้ก็เท่ากับนายกำลังท้าทาย สวนอาหารศาลามังกร เมื่อถึงเวลานั้นอย่าร้องไห้หาแม่และรีบล้มละลายไปก่อนซะล่ะ”
หวังเสียนจิบน้ำชาแล้ววางอย่างช้าๆลงบนโต๊ะและพูดอย่างเฉยเมยว่า
"ผมเป็นคนชอบความท้าทายถ้ามีคนต้องการจะสู้กับผม ผมยินดีต้อนรับทุกคน แต่ใครจะแพ้แล้วร้องไห้หาแม่นั้น? ผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่ผม "
"ก็ดี!!"
ชายหนุ่มยืนขึ้นทันที "ฉันนั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีร้านอาหารชั้นหนึ่งเพราะนายอยากเล่นเกมส์ งั้นก็มาเล่นกันเถอะเด็กน้อย นายมันก็แค่มือสมัครเล่น"
"ถ้าผมจัดการร้านนี้..." หวังเสียนค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ " นาย!.ก็จะไม่มีสิทธิ์เป็นแม้แต่คู่แข่งของฉัน!!"
"คลืนนนน"
บรรยากาศรอบด้านหนักอึ้งขึ้นทันทีแรงกดดันมหาศาลครอบคลุมไปทั่วบริเวณ อิทธิพลของราชันย์มังกรส่งผลต่ออารมณ์ของเขาความเดือดพล่านของสายเลือดพุ่งขึ้นสูง คำต้องห้ามสำหรับเขาคือผู้ให้กำเนิด
จนบางทีเขาอยากจับหน้าไอ้หมอนี่กระแทกกับพื้นแรงๆ แต่เขารีบสกัดกั้นอารมณ์ตัวเองไว้ทันที แต่สายตาสาดแสงประกายคมกล้าเย็นยะเยือกยังคงจ้องมองไปทางชายหนุ่มดั่งสัตว์ร้ายกระหายเลือดจ้องมองอยู่ก็มิปาน
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายฝืดๆลงคออย่างยากลำบากไม่กล้าแม้จ้องมองนัยน์ตาของหวังเสียน
"กะ..ก็.ด..ดีแล้วเราจะได้เห็นดีกัน!" ชายหนุ่มหันจ้องมองแว่บหนึ่งแล้วรีบหลบสายตา แต่แววตาของเขาแสดงออกถึงความประสงค์ร้ายอย่างชัดเจน
"พร้อมเสมอทุกที่ทุกเวลา"
หวังเสียนมองไปที่ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มเย็นชา
"ฮึ่ม..ฉะ..ผมจะทำให้คุณเสียใจในการตัดสินใจในครั้งนี้"
ชายหนุ่มจากไปหลังจากที่เขากล่าวคำพูดทิ้งท้ายไว้ ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ผู้อำนวยการหลี่อย่างเย็นชา
"นาย ... คุณจะต้องเสียใจ!" เด็กหนุ่มคนน้องกล่าวและชี้นิ้วไปที่หวังเสียน แล้วกระโดดออกวิ่งตามหลังพี่ชายเขาไปเหมือนเด็กน้อยขี้แพ้กล่าวท้าทายขณะร้องไห้หนีกลับบ้าน
หวังเสียนเหลือบมองดูเขาด้วยท่าทางเฉยเมยและไม่สนใจเขา
ก่อนที่เขาจะหันไปหาทางผู้อำนวยการหลี่
คนอย่างเด็กหนุ่มไม่เหมาะสมที่จะพูดกับเขายกเว้นพี่ชายของเขา
"น้องชายคุณต้องการซื้อร้านอาหารชั้นหนึ่งด้วยเงิน 16 ล้านจริงๆงั้นหรือ?"
ผู้อำนวยการหลี่ไม่ได้มองไปที่กลุ่มคนหนุ่มที่เพิ่งเดินจากไป
เขาถามหวังเสียนเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
"แน่นอนสิชัวร์ 100%"
หวังเสียนพยักหน้า
…….. …….
"ฮึ่ม...บัดซบ!"
เมื่อชายหนุ่มเดินนำออกมาจากภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่งก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมากเหงื่อของเขายังคงเปียกเต็มฝ่ามือ ความรู้สึกเหมือนพึ่งถูกปล่อยตัวจากโทษประหารชีวิต
“พี่ใหญ่ไอ้หมอนั้นยะโสโอหังมากเลยพี่เราจะปล่อยเขาไปแบบนี้ไม่ได้นะพี่”
เด็กหนุ่มสบตากับชายหนุ่มผู้พี่ด้วยสีหน้าขุ่นเคืองหลังจากที่เขาเดินออกจากภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่ง
"เออ!!...ฉันรู้หรอกน่า" ชายหนุ่มบอกปัดเขาด้วยความหงุดหงิดรำคาญ ถ้าน้องชายของเขาไม่ดันโง่ไปถามยั่วโมโหผู้ชายคนนั้นเขาก็คงไม่แสดงความสนใจที่จะซื้อภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่ง
หากเขาสามารถซื้อภัตตาคารอาหารชั้นหนึ่งแห่งนี้ได้ในราคา 15 ล้านมันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา และไม่มีความเสี่ยงต่อธุรกิจอย่างแน่นอนเพราะไม่มีคู่แข่งและจะสามารถทำกำไรได้อย่างมากมาย
ตอนนี้เขาต้องต่อสู้และมีคู่แข่ง
"อย่างไรก็ตามร้านอาหารศาลามังกรได้ทำการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะสามารถเปิดธุรกิจได้ในไม่ช้านี้จนกว่าจะถึงตอนนั้น ... "
ชายหนุ่มแสดงออกอย่างมืดมนเมื่อนึกถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงและเย็นยะเยือกนั่น
เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบขมับของเขาเอาไว้
"....แค่รอดูฉันจะปล่อยมันไว้ก่อนและทำให้มันเสียใจที่คิดเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับฉัน….."
…...
"เราจะจัดการเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ในเวลา 9.00 น. ของวันพรุ่งนี้"
ย้อนกลับไปที่ร้านอาหารชั้นหนึ่งผู้อำนวยการหลี่ยิ้มให้หวังเสียน
เขาพอใจที่จะขายร้านอาหารได้ในราคา 16 ล้านหยวน
"ตกลงวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น." หวังเสียนพยักหน้า
"ฉันจะให้พ่อครัวไปเตรียมของก่อนแล้วเรามาทานอาหารเย็นด้วยกัน" ผู้อำนวยการหลี่กล่าวขณะที่เขายืนขึ้น
"ไม่เป็นไรผมกำลังรอเพื่อน" หวังเสียนส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม นอกเหนือจากข้อตกลงทางธุรกิจนี้เขาไม่มีความอยากใกล้ชิดและพูดคุยกับผู้อำนวยการหลี่เลยแม้แต่นิดเดียว
"อืม...ถ้าอย่างนั้นก็ทานอาหารเย็นให้อร่อยนะครับ พรุ่งนี้ที่นี่ก็จะเป็นของคุณแล้ว!"
ทันทีที่ผู้อำนวยการหลี่พูดจบเขาก็มองไปที่ร้านอาหารของเขาและถอนหายใจออกมา เพราะเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะได้กลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่หลังจากที่ขายร้านอาหารแห่งนี้ไปแล้ว
เขาเดินเข้าไปในสำนักงานที่ด้านหลังโต๊ะแคชเชียร์เหมือนคนไร้ชีวิตชีวา เขาอาจจะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่ทำให้เขาตกอยู่ในชะตาชกรรมอย่างในปัจจุบันนี้คือคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเมื่อครู่ที่ผ่านมา
ทุกอย่างต้องโทษการกระทำและโชคชะตาของเขา
ปี๊บบบ!
โทรศัพท์ของ หวังเสียน ดังขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 10 นาที
"ชูชิง ผมรออยู่ที่ด้านรับรองแขกด้านใน..." หวังเสียนรับสายและบอกกับกวนชูชิง
"หวังเสียน"
เมื่อเสียงของเขาพูดยังไม่ทันได้จบประโยคดีเขาก็ได้ยินเสียงของ กวนชูชิง ดังขึ้นที่ประตู
เธอยิ้มและโบกมือให้เขาพร้อมกับเดินเข้าไปหาเขาทันที
หวังเสียนมองไปพร้อมโบกมือและยิ้มรับแล้วเดินไปข้างหน้าเพื่อทักทายเธอก่อนที่เขาจะเห็นกลุ่มคนที่เดินตามเธอมาอยู่ข้างหลัง
ผู้ที่นำกลุ่มวัยรุ่นมาคือชายหนุ่มอายุประมาณ 28 หรือ 29 ปี สวมเสื้อผ้าที่ทันสมัย อาร์มานี่ (Armani) เขาสูง 1.8 เมตรและค่อนข้างดูดี
เมื่อหวังเสียนมองไปที่เขา ชายหนุ่มก็หันมามองและสังเกตเขาเช่นกัน
ชายหนุ่มที่สวม เวอร์ซาเช่ (Versace) ครอบครัวของเขาน่าจะมีหน้ามีตาพอควร
หัวหน้าโจวหรี่ตาลงและสังเกตหวังเสียน ตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเขามากมายนัก
ในความคิดของเขา หวังเสียน ก็แค่เด็กหนุ่มเพิ่งโตยังไม่มีประสบการณ์
"ชูชิงนี่เป็นเพื่อนของคุณใช่ไหม สวัสดีผมชื่อโจวหยวนห่าว"
โจวหยวนห่าวเดินไปและยื่นมือเพื่อแนะนำตัวเองพร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หวังเสียนมองเขาแล้วก็ยิ้มรับพร้อมกล่าวตอบออกไป
"สวัสดีเช่นกัน ผมหวังเสียน!"
…………..
จบบท