บทที่ 83 รั้งไว้
บทที่ 83 รั้งไว้
กลับมาที่เย่โม่ ตอนที่เขาเดินลมปราณอีก 1 รอบใหญ่เสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เขารู้สึกว่าอาการบาดเจ็บหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ร่างกายอัดแน่นไปด้วยพลังงาน แม้แต่พลังฝีมือยังพัฒนาไปเล็กน้อย เหลือแค่อีกก้าวเดียวก็จะถึงระดับ 2 ขั้นปลายแล้ว แต่เย่โม่รู้ดีว่าในสถานที่ขาดแคลนพลังฟ้าดินแบบนี้...การที่เขาสามารถพัฒนาฝีมือไปได้แม้จะเล็กน้อยแต่ก็ถือว่ามหัศจรรย์มากแล้ว เขาไม่รู้สึกท้อแท้แม้แต่น้อย
เมื่อมองไปยังข้างกายก็พบว่าหยุนปิงลุกออกไปแล้ว อีกทั้งเธอยังไม่อยู่ในห้องด้วย ดูท่าคงจะออกไปข้างนอกแล้ว เย่โม่ลุกออกจากที่นอน เมื่อเดินไปยังห้องน้ำก็พบว่าหยุนปิงได้เตรียมแปรงสีฟันและยาสีฟันไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงเข้าไปล้างหน้าล้างตา
ออด! ออด! มีเสียงออดดังเข้ามา จิตสัมผัสของเย่โม่ก็แผ่ออกไปทันที คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่หยุนปิงแต่เป็นหญิงสาวอายุราว 20 กว่าๆ ดูแล้วเด็กกว่าหยุนปิงไม่มากนัก เธอคนนี้ถึงจะไม่สวยเท่าหยุนปิงแต่รูปร่างก็จัดว่าดีเยี่ยม ในความประทับใจของเย่โม่ที่มีต่อหญิงสาวที่เขาเคยเจอมานั้น...เหวินตงเซ็กซี่ที่สุด แต่หน้าอกของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าประตูยังใหญ่กว่าเหวินตงเสียอีก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอดูเด็กขนาดนี้ เย่โม่คงคิดไปแล้วว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีประสบกาณ์เกี่ยวกับผู้หญิง จะมองผิดไปสักหน่อยก็ถือเป็นเรื่องปกติ
มีหญิงสาวแปลกหน้ามาบ้านของหยุนปิง อย่าเพิ่งพูดถึงว่าหยุนปิงไม่อยู่เลย...ต่อให้เธออยู่บ้านเย่โม่ก็จะบอกให้ไม่ต้องเปิดประตู ถึงยังไงเขาก็ยังอยู่ในช่วงหลบหนีอยู่
หญิงสาวที่อยู่หน้าประตูยืนรอสักพักก็พบว่าไม่มีใครตอบกลับมาเลย เธอพูดกับตัวเอง “พี่ปิงไม่อยู่มหาลัย บ้านก็ไม่อยู่ แล้วเธอจะไปที่ไหนได้?”
เมื่อสัมผัสได้ว่าเธอคนนี้หันหลังออกไปแล้ว เย่โม่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่อยากให้เธอเข้ามาจริงๆ แต่เพียงพริบตาเดียวเขาก็ต้องรู้สึกปวดหัวอีกครั้ง นั่นเพราะเขาสัมผัสได้ว่าหยุนปิงกลับมาแล้ว ในมือก็ถือข้าวของมากมาย ทั้งยังมีกระเป๋าอีกใบหนึ่ง เพียงแต่นั่นกลับไม่ใช่กระเป๋าของเย่โม่
“หือ พี่ปิง พี่ไปไหนมาเนี่ย? หนูออกจากมหาลัยเพื่อมาหาพี่ถึงนี่เลยนะ ในที่สุดก็เจอเสียที” หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นหยุนปิงก็รีบร้องเรียกด้วยความยินดี
“เหอหลี...เธอมาที่นี่ได้ยังไง? แล้วมาถึงหนิงไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” หยุนปิงตอบกลับไปทันที เย่โม่เห็นได้ทันทีว่าสีหน้าของหยุนปิงเปลี่ยนเป็นกระวนกระวาย ดูท่าว่าเธอเองก็คงเข้าใจสถานการณ์ของตัวเขาเช่นกัน
“หนูมาหาพี่แน่นอนว่าต้องมีธุระสิ รีบเปิดประตูเร็ว เข้าไปแล้วเราค่อยคุยกัน” เหอหลีรีบพูด
หยุนปิงหยุดยืนอยู่หน้าประตูด้วยความลังเล เธอไม่ได้เปิดประตูเข้ามาแต่อย่างใด
“เป็นอะไรไปพี่ปิง พี่คงไม่ได้กะจะให้หนูพูดกับพี่ตรงนี้ใช่ไหม? หรือว่าหนูมาไกลขนาดนี้พี่ยังไม่คิดจะให้หนูเข้าไปนั่งในบ้านเลยหรือ พี่คงไม่ได้ซ่อนผู้ชายไว้ใช่ไหม เป็นอะไรถึงไม่กล้าเปิดประตู?” เหอหลีเมื่อเห็นว่าหยุนปิงไม่หยิบกุญแจขึ้นมาไขเสียทีก็รีบพูดล้อเลียนทันที
หยุนปิงหน้าแดงขึ้นมา เธอพูดเสียงตะกุกตะกัก “เออ...พวกเราคุยกันข้างนอกเถอะ ข้างใน...ข้างในมีคน...”
“หะ! พี่ปิง…พี่มีแฟนแล้วหรือ? อย่างนี้หนูยิ่งอยากเข้าไปดูขึ้นไปอีก! หนูอยากเห็นสักหน่อยว่าคนแบบไหนกันถึงคว้าหัวใจเย็นชาของพี่ได้” เหอหลีร้องตะโกนด้วยความประหลาดใจและยินดี
หยุนปิงลังเลอยู่นาน ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไรควรไม่ควร ถึงแม้เหอหลีจะเป็นน้องสาวที่ดี แต่สถาณะของเย่โม่ถือว่าพิเศษ...คิดถึงตรงนี้เธอก็กัดฟันพูด “เหอหลี ครั้งหน้าฉันค่อยพาเธอไปหาเขาเถอะ ตอนนี้เขาโป๊อยู่ ฉัน...”
เหอหลีมองหยุนปิงด้วยอาการตกตะลึงอยู่นาน เธอพูดขึ้นราวกับว่ากำลังมองเอเลี่ยนอยู่ “พี่ปิง…หนูคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่จะเป็นคนเปิดเผยขนาดนี้ ที่แท้ก็นอนด้วยกันแล้ว ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใครกันถึงได้เอาเปรียบพี่ขนาดนี้! ไม่ได้การ…บอกให้เขาสวมเสื้อผ้า ถึงยังไงหนูก็ต้องพบเขาให้ได้!”
“แต่เสื้อผ้าขาดไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อคืน...” ภายใต้ความร้อนรนข้ออ้างของหยุนปิงกลับยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก
เหอหลีเกิดอาการปากอ้าตาค้าง เธอมองหยุนปิงตั้งแต่หัวจรดเท้า ผ่านไปนานจึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมา “พี่ปิง...พวกพี่รุนแรงกันจัง! แค่ถอดเสื้อผ้าแค่นี้ก็ใช้เวลาแปปเดียวไหม? นี่พวกพี่เงี่...นั่นแหละ โอ้พระเจ้า!”
หยุนปิงหน้าแดงก่ำ เธอไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
“เอาเถอะ ดูจากหน้าบางๆ ของพี่…หนูไม่เข้าไปรบกวนความเร่าร้อนของพวกพี่ก็ได้ หนูแค่อยากจะมาบอกข่าวพี่เท่านั้น เฝิงหรงกลับมาแล้ว เขาเที่ยวถามเรื่องของพี่ไปทุกที่ แต่หนูว่าเฝิงหรงคนนี้เชื่อถือไม่ได้ นั่นเพราะหนูรู้ว่าเขาก็พอจะรู้เรื่องราวมาก่อนแต่ก็ยังทำทีเป็นถามคนนู้นคนนี้ พี่ต้องระวังเขาเอาไว้หน่อยนะ อีกอย่างที่หนูมาครั้งนี้ก็เพื่อมาเข้าร่วมงานแถลงข่าวด้วยเหมือนกัน ไม่มีเวลามาคุยกับพี่มากเท่าไหร่ จำไว้ว่าครั้งหน้าต้องพาผู้ชายของพี่มาให้หนูเจอด้วยล่ะ!” เหอหลีพูดจบก็หันหลังเดินจากไป
หยุนปิงเมื่อเห็นแผ่นหลังของเหอหลีที่เดินจากไป จึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็หลอกเธอได้สำเร็จ! ราคาของมันคือการเปิดเผยความเร่าร้อนบ้าคลั่งที่ไม่มีอยู่จริง!
หยุนปิงเปิดประตูเข้าไป เห็นเย่โม่ที่ยืนนิ่งอยู่ตรงปากประตู เธอตื่นตระหนกรีบปิดประตูแล้วพูดขึ้นด้วยความร้อนรน “นายยังไม่หายดีเลย ลุกขึ้นมาทำไม!?”
เย่โม่พูดด้วยความซาบซึ้งเล็กน้อย “อาจารย์หยุนปิง เรื่องเมื่อครู่ขอบคุณมาก”
“นายได้ยินหมดแล้ว!?” หยุนปิงพูดจบก็นึกได้ในทันที เย่โม่ยืนอยู่ตรงนี้แน่นอนว่าต้องได้ยินสิ เรื่องที่เธอพูดไว้เมื่อกี้...สีหน้าของเธอผิดแปลกไปจากปกติเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้เย่โม่จะมองเธอเป็นคนยังไง
“อืม ผมได้ยิน ลำบากอาจารย์หยุนปิงแล้ว ถ้ามีโอกาสผมต้องกลับมาตอบแทนน้ำใจอาจารย์หยุนปิงแน่นอน ผมเองก็รบกวนอาจารย์มา 2 วันแล้ว...” เย่โม่พูดอย่างอึดอัดใจอยู่บ้าง เขาเป็นคนชนิดที่ว่าใครเคารพมาเขาก็เคารพตอบ แยกแยะบุญคุณความแค้นชัดเจน มีบุญคุณต้องทดแทน...มีหนี้แค้นต้องชำระ!
“ฉันยังไม่ได้ช่วยอะไรนายเลย คราวหลังนายไม่ต้องเรียกฉันว่าอาจาร์แล้ว ฉันว่ามันแปลกๆ...” หยุนปิงคิดถึงเรื่องที่ตัวเองนอนกับเย่โม่ขึ้นมา ในเมื่อนอนเตียงเดียวกันแล้ว...ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่การมาเรียกว่าอาจารย์แบบนี้มันรู้สึกแปลกจริงๆ
แต่เหมือนกับว่าอยู่ๆ หยุนปิงจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เธอรีบถามเย่โม่ด้วยความตกใจ “คำพูดเมื่อกี้ของนายหมายความว่ายังไง? หรือว่านายจะไปแล้ว!?”
เย่โม่พยักหน้า “อืม ผมอยู่รบกวนเธอมาหลายวันแล้ว เธอช่วยชีวิตผมไว้...ผมคงไม่อยู่รบกวนต่อแล้ว นั่นจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายเสียเปล่าๆ อีกอย่างตอนนี้ผมก็หายดีแล้ว...จริงสิ! เรื่องกระเป๋าของผมเธอช่วยหาแล้วหรือยัง?”
“ไม่ได้ ฉันไม่ให้นายไป...” หยุนปิงพูดได้ครึ่งเดียวก็เห็นสีหน้าประหลาดใจของเย่โม่ หน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที เธอพูดด้วยความร้อนใจ ความหมายของฉันก็คือตอนนี้ข้างนอกอันตรายมาก มีคนตามหาตัวนายอยู่ทุกที่ นายออกไปข้างนอกก็เท่ากับหาที่ตายนะ!”
เย่โม่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ หยุนปิงถือเป็นหญิงสาวที่ภายนอกดูเย็นชาแต่ภายในกลับใจดี การที่เขาช่วยเธอครั้งนั้นก็เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น เธอตอบแทนเขามาก็ตั้งมากแล้ว แม้แต่ชื่อเสียงของตัวเองเธอยังไม่เก็บมาใส่ใจ
“พี่ปิง ผมรู้ว่าพี่หวังดีกับผม ที่จริงผมก็มั่นใจอยู่ว่าหนีได้แน่นอน วางใจเถอะ” เย่โม่เปลี่ยนคำเรียกจากอาจารย์เป็นพี่ปิง
เมื่อได้ยินคำเรียก หยุนปิงก็รู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้าอยู่บ้าง เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “เย่โม่ นายอยู่ต่ออีกคืนเถอะ ที่จริง...ที่จริงแล้วพอนายอยู่ที่นี่ฉันก็นอนหลับสบายขึ้นมาก เมื่อคืนก็เหมือนกัน คิดเสียว่านายช่วยฉัน…ได้ไหม?”
เย่โม่มองหยุนปิงอย่างไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง หน้าของเธอแดงก่ำ ตอนนี้เธอดูสวยและดึงดูดเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงกลัวว่าพอเขาออกไปแล้วคงจะถูกจับในทันที
เมื่อเห็นว่าเย่โม่นิ่งมองหน้าเธออยู่นานโดยไม่พูดอะไร สีแดงบนหน้าเธอก็จางหายไปแทนทีด้วยสีซีดขาว ขณะที่เธอกำลังจะพูดอยู่นั้นเองเย่โม่กลับพูดขึ้นมาก่อน “เอาเถอะ! พี่ปิง ผมว่าที่พี่พูดมาก็ถูก พรุ่งนี้ก่อนฟ้าสางผมค่อยไปก็แล้วกัน บางทีเวลานั้นอาจจะปลอดภัยที่สุด”
เมื่อเห็นว่าเย่โม่ยอมทำตามที่เธอขอ สีหน้าของหยุนปิงก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นยินดีทันที เธอทำตัวราวกับเด็กสาวที่กำลังประจบผู้ใหญ่อย่างไรอย่างนั้น เธอยืนกระเป๋าในมือส่งให้เย่โม่ “ของๆ นายอยู่ในนี้หมดแล้ว ฉันซื้อของกินไว้ให้นายด้วย เดี๋ยวฉันช่วยทำให้กิน...จะได้มีเรี่ยวมีแรง”