ตอนที่แล้วบทที่ 82 เสียงถอนใจของหยุนปิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 84 เจ้าชายขี่ม้าขาวจากฟากฟ้า

บทที่ 83 รั้งไว้


บทที่ 83 รั้งไว้

กลับมาที่เย่โม่  ตอนที่เขาเดินลมปราณอีก 1 รอบใหญ่เสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว  เขารู้สึกว่าอาการบาดเจ็บหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว  ร่างกายอัดแน่นไปด้วยพลังงาน  แม้แต่พลังฝีมือยังพัฒนาไปเล็กน้อย  เหลือแค่อีกก้าวเดียวก็จะถึงระดับ 2 ขั้นปลายแล้ว  แต่เย่โม่รู้ดีว่าในสถานที่ขาดแคลนพลังฟ้าดินแบบนี้...การที่เขาสามารถพัฒนาฝีมือไปได้แม้จะเล็กน้อยแต่ก็ถือว่ามหัศจรรย์มากแล้ว  เขาไม่รู้สึกท้อแท้แม้แต่น้อย

เมื่อมองไปยังข้างกายก็พบว่าหยุนปิงลุกออกไปแล้ว  อีกทั้งเธอยังไม่อยู่ในห้องด้วย  ดูท่าคงจะออกไปข้างนอกแล้ว  เย่โม่ลุกออกจากที่นอน  เมื่อเดินไปยังห้องน้ำก็พบว่าหยุนปิงได้เตรียมแปรงสีฟันและยาสีฟันไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  เขาจึงเข้าไปล้างหน้าล้างตา

ออด! ออด!  มีเสียงออดดังเข้ามา  จิตสัมผัสของเย่โม่ก็แผ่ออกไปทันที  คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่หยุนปิงแต่เป็นหญิงสาวอายุราว 20 กว่าๆ  ดูแล้วเด็กกว่าหยุนปิงไม่มากนัก  เธอคนนี้ถึงจะไม่สวยเท่าหยุนปิงแต่รูปร่างก็จัดว่าดีเยี่ยม  ในความประทับใจของเย่โม่ที่มีต่อหญิงสาวที่เขาเคยเจอมานั้น...เหวินตงเซ็กซี่ที่สุด  แต่หน้าอกของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าประตูยังใหญ่กว่าเหวินตงเสียอีก

ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอดูเด็กขนาดนี้  เย่โม่คงคิดไปแล้วว่าเธอแต่งงานแล้ว  แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีประสบกาณ์เกี่ยวกับผู้หญิง  จะมองผิดไปสักหน่อยก็ถือเป็นเรื่องปกติ

มีหญิงสาวแปลกหน้ามาบ้านของหยุนปิง  อย่าเพิ่งพูดถึงว่าหยุนปิงไม่อยู่เลย...ต่อให้เธออยู่บ้านเย่โม่ก็จะบอกให้ไม่ต้องเปิดประตู  ถึงยังไงเขาก็ยังอยู่ในช่วงหลบหนีอยู่

หญิงสาวที่อยู่หน้าประตูยืนรอสักพักก็พบว่าไม่มีใครตอบกลับมาเลย  เธอพูดกับตัวเอง  “พี่ปิงไม่อยู่มหาลัย  บ้านก็ไม่อยู่  แล้วเธอจะไปที่ไหนได้?”

เมื่อสัมผัสได้ว่าเธอคนนี้หันหลังออกไปแล้ว  เย่โม่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก  เขาไม่อยากให้เธอเข้ามาจริงๆ  แต่เพียงพริบตาเดียวเขาก็ต้องรู้สึกปวดหัวอีกครั้ง  นั่นเพราะเขาสัมผัสได้ว่าหยุนปิงกลับมาแล้ว  ในมือก็ถือข้าวของมากมาย  ทั้งยังมีกระเป๋าอีกใบหนึ่ง  เพียงแต่นั่นกลับไม่ใช่กระเป๋าของเย่โม่

“หือ  พี่ปิง  พี่ไปไหนมาเนี่ย?  หนูออกจากมหาลัยเพื่อมาหาพี่ถึงนี่เลยนะ  ในที่สุดก็เจอเสียที”  หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นหยุนปิงก็รีบร้องเรียกด้วยความยินดี

“เหอหลี...เธอมาที่นี่ได้ยังไง?  แล้วมาถึงหนิงไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”  หยุนปิงตอบกลับไปทันที  เย่โม่เห็นได้ทันทีว่าสีหน้าของหยุนปิงเปลี่ยนเป็นกระวนกระวาย  ดูท่าว่าเธอเองก็คงเข้าใจสถานการณ์ของตัวเขาเช่นกัน

“หนูมาหาพี่แน่นอนว่าต้องมีธุระสิ  รีบเปิดประตูเร็ว  เข้าไปแล้วเราค่อยคุยกัน”  เหอหลีรีบพูด

หยุนปิงหยุดยืนอยู่หน้าประตูด้วยความลังเล  เธอไม่ได้เปิดประตูเข้ามาแต่อย่างใด

“เป็นอะไรไปพี่ปิง  พี่คงไม่ได้กะจะให้หนูพูดกับพี่ตรงนี้ใช่ไหม?  หรือว่าหนูมาไกลขนาดนี้พี่ยังไม่คิดจะให้หนูเข้าไปนั่งในบ้านเลยหรือ  พี่คงไม่ได้ซ่อนผู้ชายไว้ใช่ไหม  เป็นอะไรถึงไม่กล้าเปิดประตู?”  เหอหลีเมื่อเห็นว่าหยุนปิงไม่หยิบกุญแจขึ้นมาไขเสียทีก็รีบพูดล้อเลียนทันที

หยุนปิงหน้าแดงขึ้นมา  เธอพูดเสียงตะกุกตะกัก  “เออ...พวกเราคุยกันข้างนอกเถอะ  ข้างใน...ข้างในมีคน...”

“หะ!  พี่ปิง…พี่มีแฟนแล้วหรือ?  อย่างนี้หนูยิ่งอยากเข้าไปดูขึ้นไปอีก!  หนูอยากเห็นสักหน่อยว่าคนแบบไหนกันถึงคว้าหัวใจเย็นชาของพี่ได้”  เหอหลีร้องตะโกนด้วยความประหลาดใจและยินดี

หยุนปิงลังเลอยู่นาน  ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไรควรไม่ควร  ถึงแม้เหอหลีจะเป็นน้องสาวที่ดี  แต่สถาณะของเย่โม่ถือว่าพิเศษ...คิดถึงตรงนี้เธอก็กัดฟันพูด  “เหอหลี  ครั้งหน้าฉันค่อยพาเธอไปหาเขาเถอะ  ตอนนี้เขาโป๊อยู่  ฉัน...”

เหอหลีมองหยุนปิงด้วยอาการตกตะลึงอยู่นาน  เธอพูดขึ้นราวกับว่ากำลังมองเอเลี่ยนอยู่  “พี่ปิง…หนูคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่จะเป็นคนเปิดเผยขนาดนี้  ที่แท้ก็นอนด้วยกันแล้ว  ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใครกันถึงได้เอาเปรียบพี่ขนาดนี้!  ไม่ได้การ…บอกให้เขาสวมเสื้อผ้า  ถึงยังไงหนูก็ต้องพบเขาให้ได้!”

“แต่เสื้อผ้าขาดไปหมดแล้วตั้งแต่เมื่อคืน...”  ภายใต้ความร้อนรนข้ออ้างของหยุนปิงกลับยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก

เหอหลีเกิดอาการปากอ้าตาค้าง  เธอมองหยุนปิงตั้งแต่หัวจรดเท้า  ผ่านไปนานจึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมา  “พี่ปิง...พวกพี่รุนแรงกันจัง!  แค่ถอดเสื้อผ้าแค่นี้ก็ใช้เวลาแปปเดียวไหม?  นี่พวกพี่เงี่...นั่นแหละ  โอ้พระเจ้า!”

หยุนปิงหน้าแดงก่ำ  เธอไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

“เอาเถอะ  ดูจากหน้าบางๆ ของพี่…หนูไม่เข้าไปรบกวนความเร่าร้อนของพวกพี่ก็ได้  หนูแค่อยากจะมาบอกข่าวพี่เท่านั้น  เฝิงหรงกลับมาแล้ว  เขาเที่ยวถามเรื่องของพี่ไปทุกที่  แต่หนูว่าเฝิงหรงคนนี้เชื่อถือไม่ได้  นั่นเพราะหนูรู้ว่าเขาก็พอจะรู้เรื่องราวมาก่อนแต่ก็ยังทำทีเป็นถามคนนู้นคนนี้  พี่ต้องระวังเขาเอาไว้หน่อยนะ   อีกอย่างที่หนูมาครั้งนี้ก็เพื่อมาเข้าร่วมงานแถลงข่าวด้วยเหมือนกัน  ไม่มีเวลามาคุยกับพี่มากเท่าไหร่  จำไว้ว่าครั้งหน้าต้องพาผู้ชายของพี่มาให้หนูเจอด้วยล่ะ!”  เหอหลีพูดจบก็หันหลังเดินจากไป

หยุนปิงเมื่อเห็นแผ่นหลังของเหอหลีที่เดินจากไป  จึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก  ในที่สุดก็หลอกเธอได้สำเร็จ!  ราคาของมันคือการเปิดเผยความเร่าร้อนบ้าคลั่งที่ไม่มีอยู่จริง!

หยุนปิงเปิดประตูเข้าไป  เห็นเย่โม่ที่ยืนนิ่งอยู่ตรงปากประตู  เธอตื่นตระหนกรีบปิดประตูแล้วพูดขึ้นด้วยความร้อนรน  “นายยังไม่หายดีเลย  ลุกขึ้นมาทำไม!?”

เย่โม่พูดด้วยความซาบซึ้งเล็กน้อย  “อาจารย์หยุนปิง  เรื่องเมื่อครู่ขอบคุณมาก”

“นายได้ยินหมดแล้ว!?”  หยุนปิงพูดจบก็นึกได้ในทันที  เย่โม่ยืนอยู่ตรงนี้แน่นอนว่าต้องได้ยินสิ   เรื่องที่เธอพูดไว้เมื่อกี้...สีหน้าของเธอผิดแปลกไปจากปกติเล็กน้อย  ไม่รู้ว่าตอนนี้เย่โม่จะมองเธอเป็นคนยังไง

“อืม  ผมได้ยิน  ลำบากอาจารย์หยุนปิงแล้ว  ถ้ามีโอกาสผมต้องกลับมาตอบแทนน้ำใจอาจารย์หยุนปิงแน่นอน  ผมเองก็รบกวนอาจารย์มา 2 วันแล้ว...”  เย่โม่พูดอย่างอึดอัดใจอยู่บ้าง  เขาเป็นคนชนิดที่ว่าใครเคารพมาเขาก็เคารพตอบ  แยกแยะบุญคุณความแค้นชัดเจน  มีบุญคุณต้องทดแทน...มีหนี้แค้นต้องชำระ!

“ฉันยังไม่ได้ช่วยอะไรนายเลย  คราวหลังนายไม่ต้องเรียกฉันว่าอาจาร์แล้ว  ฉันว่ามันแปลกๆ...”  หยุนปิงคิดถึงเรื่องที่ตัวเองนอนกับเย่โม่ขึ้นมา  ในเมื่อนอนเตียงเดียวกันแล้ว...ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่การมาเรียกว่าอาจารย์แบบนี้มันรู้สึกแปลกจริงๆ

แต่เหมือนกับว่าอยู่ๆ หยุนปิงจะคิดอะไรขึ้นมาได้  เธอรีบถามเย่โม่ด้วยความตกใจ  “คำพูดเมื่อกี้ของนายหมายความว่ายังไง?  หรือว่านายจะไปแล้ว!?”

เย่โม่พยักหน้า  “อืม  ผมอยู่รบกวนเธอมาหลายวันแล้ว  เธอช่วยชีวิตผมไว้...ผมคงไม่อยู่รบกวนต่อแล้ว  นั่นจะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายเสียเปล่าๆ  อีกอย่างตอนนี้ผมก็หายดีแล้ว...จริงสิ!  เรื่องกระเป๋าของผมเธอช่วยหาแล้วหรือยัง?”

“ไม่ได้  ฉันไม่ให้นายไป...”  หยุนปิงพูดได้ครึ่งเดียวก็เห็นสีหน้าประหลาดใจของเย่โม่  หน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที  เธอพูดด้วยความร้อนใจ  ความหมายของฉันก็คือตอนนี้ข้างนอกอันตรายมาก  มีคนตามหาตัวนายอยู่ทุกที่  นายออกไปข้างนอกก็เท่ากับหาที่ตายนะ!”

เย่โม่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ  หยุนปิงถือเป็นหญิงสาวที่ภายนอกดูเย็นชาแต่ภายในกลับใจดี  การที่เขาช่วยเธอครั้งนั้นก็เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น  เธอตอบแทนเขามาก็ตั้งมากแล้ว  แม้แต่ชื่อเสียงของตัวเองเธอยังไม่เก็บมาใส่ใจ

“พี่ปิง  ผมรู้ว่าพี่หวังดีกับผม  ที่จริงผมก็มั่นใจอยู่ว่าหนีได้แน่นอน  วางใจเถอะ”  เย่โม่เปลี่ยนคำเรียกจากอาจารย์เป็นพี่ปิง

เมื่อได้ยินคำเรียก  หยุนปิงก็รู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้าอยู่บ้าง  เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ  “เย่โม่  นายอยู่ต่ออีกคืนเถอะ  ที่จริง...ที่จริงแล้วพอนายอยู่ที่นี่ฉันก็นอนหลับสบายขึ้นมาก  เมื่อคืนก็เหมือนกัน  คิดเสียว่านายช่วยฉัน…ได้ไหม?”

เย่โม่มองหยุนปิงอย่างไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง  หน้าของเธอแดงก่ำ  ตอนนี้เธอดูสวยและดึงดูดเป็นอย่างมาก  เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงกลัวว่าพอเขาออกไปแล้วคงจะถูกจับในทันที

เมื่อเห็นว่าเย่โม่นิ่งมองหน้าเธออยู่นานโดยไม่พูดอะไร  สีแดงบนหน้าเธอก็จางหายไปแทนทีด้วยสีซีดขาว  ขณะที่เธอกำลังจะพูดอยู่นั้นเองเย่โม่กลับพูดขึ้นมาก่อน  “เอาเถอะ!  พี่ปิง  ผมว่าที่พี่พูดมาก็ถูก  พรุ่งนี้ก่อนฟ้าสางผมค่อยไปก็แล้วกัน  บางทีเวลานั้นอาจจะปลอดภัยที่สุด”

เมื่อเห็นว่าเย่โม่ยอมทำตามที่เธอขอ  สีหน้าของหยุนปิงก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นยินดีทันที  เธอทำตัวราวกับเด็กสาวที่กำลังประจบผู้ใหญ่อย่างไรอย่างนั้น  เธอยืนกระเป๋าในมือส่งให้เย่โม่  “ของๆ นายอยู่ในนี้หมดแล้ว  ฉันซื้อของกินไว้ให้นายด้วย  เดี๋ยวฉันช่วยทำให้กิน...จะได้มีเรี่ยวมีแรง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด