ตอนที่ 17
ตอนที่ 17
แต่ก่อนที่ซูฮยอนจะไปชั้นถัดไป เขาต้องรับรางวัลพิเศษซะก่อน
“รับรางวัลพิเศษ”
[รับทราบ กรุณารอสักครู่]
[โปรดเลือกรางวัลของคุณ]
รายชื่อไอเทมต่างๆที่ยาวเป็นหางว่าว ปรากฏออกมาให้ซูฮยอนเห็น
ร้านค้าทั่วไปของหอคอยแห่งการทดสอบจะใช้คะแนนความสำเร็จเป็นสกุลเงินในการซื้อขาย
แต่เจ้าร้านค้ารางวัลพิเศษมันใช้อย่างอื่น
[คะแนนความสำเร็จพิเศษ : 70 คะแนน]
<>
ซูฮยอนเคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหมือนกันในอดีต
เมื่อระบบพอใจต่อความสามารถของคุณ
ระบบจะมอบคะแนนพิเศษให้คุณ
เพื่อแลกซื้อไอเทม ลิมิเต็ดเอดิชันที่ไม่สามารถหาได้จากร้านค้าทั่วไป
ซูฮยอนเลื่อนสายตาดูรายชื่อไอเทมอย่างระมัดระวัง
เพราะเขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเขาจะได้มีโอกาสได้รางวัลพิเศษอีกไหม เพราะฉะนั้นซูฮยอนจึงต้องตัดสินใจให้ดีๆ
<>
มีไอเทมหลายอย่างที่สามารถใช้คะแนนความสำเร็จซื้อได้จากร้านค้าภายนอก
ซูฮยอนไปที่หัวหมวด สกิล ก่อนเป็นอันดับแรก
มีสกิลบางอย่างที่ซูฮยอนคิดว่าน่าสนใจ
แต่เขาก็ไม่ได้ซื้อมัน เพราะระดับเวทย์ของเขายังห่างไกลเกินไปที่จะใช้มันได้
ซูฮยอนเลื่อนหาสกิลเวทย์ระดับต่ำสักสองสามอัน แต่มันก็มีแต่สกิลที่ไร้ประโยชน์ เขาจึงเลิกสนใจ แล้วไปหมวดถัดไป
<>
หมวดต่อไปที่ซูฮยอนเลือกคือ หมวดของ อาวุธ
ที่เขาข้ามหัวข้อสกิลมา
เพราะว่า เขามีสกิลเพลิงพิโรธอยู่แล้ว
ซึ่งมันยังใช้ได้ดีอยู่
เขาจึงไม่อยากเสียคะแนนไปกับสกิลที่ไร้ประโยชน์พวกนั้น
มีรายชื่ออาวุธมากมายปรากฏออกมาตรงหน้าของซูฮยอน
มีอาวุธบางอันที่คล้ายๆกับของที่ซูฮยอนเคยใช้ในอดีต
“อืม..ก็ไม่ได้แย่อะไร ใช้ได้อยู่”
เนื่องจากมันเป็นชั้นที่ 10
เพราะฉะนั้นของรางวัลมันจึงพัฒนาตามไปด้วย
ซูฮยอนเลื่อนดูรายการอาวุธไปมา
ยิ่งลงมาด้านล่างมากเท่าไหร่ ของรางวัลก็ยิ่งแพงขึ้น
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ของแพงมันต้องดีกว่าของถูกอยู่แล้ว จริงไหม…
<>
ใช้เวลาไปนานพอสมควร แต่ดูเหมือนซูฮยอนจะไม่เจออาวุธที่เขาถูกใจเลยสักชิ้น
ทำไมเขาจะต้องมีอาวุธหลายๆชิ้นด้วย?
สู้มีอาวุธแค่ชิ้นเดียว แต่มีคุณภาพสูงๆไม่ดีกว่าเหรอ
ซูฮยอนละสายตาจากหมวดอาวุธ และหันไปมอง หมวด โพชั่น และของใช้จิปาถะแทน
ในหมวด โพชั่น และของใช้จิปาถะ
มีไอเทมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเกราะ ยาเพิ่มเลือด ยาต้านพิษ ส่วนราคาที่แพงที่สุด คือ 65 คะแนนความสำเร็จพิเศษเท่านั้น
<>
และแล้วซูฮยอนก็ไปสะดุดตาเข้ากับไอเท็มชิ้นหนึ่งเข้า
มันอยู่ในหมวดของใช้จิปาถะ
ชื่อของมันคือ 'ชุดเกราะเทพสวรรค์'
ไอเทมชนิดนี้จะเปลี่ยนไปตามขนาดลำตัวของผู้สวมใส่
ไม่ใช่แค่นั้น มันยังมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ต้านทานไฟ ต้านทานไฟฟ้า ต้านทานพิษ ต้านทานเวทย์ แล้วอื่นๆอีกมากมาย
ความจริงไอเทมชิ้นนี้ไม่ควรปรากฏอยู่ชั้นที่ 10 ด้วยซ้ำ
หืม เดียวก่อนนะ…
[หมวดอื่นๆ]
สายตาของซูฮยอนเหลือบไปมองหมวดสุดท้ายที่เหลืออยู่ มันคือ 'หมวดอื่นๆ'
มันเป็นแหล่งรวบรวมไอเทมต่างๆ มากมายที่ไร้ประโยชน์
เมื่อซูฮยอนเห็นหมวดนี้ครั้งแรก
เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันกับเป็นพิเศษ
แต่ในเมื่อหมวดต่างๆ ไม่มีไอเทมที่ซูฮยอนถูกใจสักเท่าไหร่
เขาจึงตัดสินใจมาดูหมวดอื่นๆแทน
“มาดูกัน ว่าจะมีอะไรโดนใจไหม”
เขาเลื่อนดูรายการไอเทมที่มีมากมายนับไม่ถ้วน
มันมีตั้งแต่ เครื่องดนตรี ถังเก็บน้ำ เสื้อผ้าแฟชั่น และอื่นๆ
ซูฮยอนสงสัยจริงๆว่าของพวกนี้มันจะขายออกจริงๆเหรอ
ส่วนใหญ่มันมีแต่ไอเทมไร้ประโยชน์
แต่มันก็มีไอเทมที่มีประโยชน์อยู่บ้างประปราย
“มันไม่ค่อยมีอะไรดีๆเลยแหะ”
หืม..เดียวนะ
ทันใดนั้นสายตาของซูฮยอนก็ไปสะดุดเข้ากับไอเทมบ้างอย่าง
[ไข่เทวะ ที่ไม่ทราบที่มา]
[ไข่เทวะที่ไม่ทราบความเป็นมา ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า ข้างในเป็นตัวอะไร]
มูลค่าไอเทม 70 คะแนน
“ไข่เทวะ”
มันเป็นไอเทมที่ซูฮยอนสนใจเป็นพิเศษ
“นี้แหละ”
อาวุธ หรือ อุปกรณ์
ซูฮยอนมั่นใจว่าเขาสามารถหามันได้จากร้านค้าทั่วไปหรือการเคลียร์ชั้นอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น ดาบบัลมุงก์ ไอเทมระดับฮีโร่ ที่ซูฮยอนเคยจับมันมาก่อน
แต่เจ้าไข่เทวะใบนี้มันต่างกันออกไป
ถ้า ‘ผู้ตื่นขึ้น’ คนไหนดวงดี มีโอกาสได้รับเจ้าไข่ใบนี้ไปละก็
มันจะทำให้ 'ผู้ตื่นขึ้น' ผู้นั้นก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็น 'ผู้ตื่นขึ้น' แนวหน้าของหน่วยงานนั้นๆ
ซูฮยอนเคยได้ยินไอเทมที่คล้ายๆแบบนี้มาเหมือนกัน
แต่เขาไม่ทราบว่าจะหามันได้ยังไง
“คำอธิบายมันดูกำกวม จะลอยเสี่ยงดวงดูดีไหมหว่า…”
ดูเหมือนว่าซูฮยอนจะหาไอเทมที่ดีไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
“ฉันเอาอันนี้แหละ”
[คุณใช้คะแนนความสำเร็จพิเศษ 70 คะแนน]
[คุณได้แลกซื้อ ไข่เทวะที่ไม่ทราบที่มา]
เมื่อซูฮยอนทำการยืนยัน ไข่ที่มีขนาดเล็กประมาณกำปั้น ก็ปรากฏออกมาในมือของซูฮยอน
มันเป็นไข่สีขาวนวลราวไข่มุก
พื้นผิวของเปลือกไข่ ดูราบเรียบไม่ได้มีลวดลายอะไรเป็นพิเศษ
ซูฮยอนถือมันด้วยมือทั้งสองข้างอย่างประคบประหงม
“มันเล็กกว่าที่ฉันคิดอีกนะเนี้ย”
ซูฮยอนคิดว่าขนาดของมันจะใหญ่กว่านี้ เพราะชื่อของมันคือ 'ไข่เทวะ'
ตกลงมันใช่ไข่เทวะจริงๆใช่ไหม
เขาหวังว่าคงไม่โดนระบบต้มตุ๋นหรอกนะ
“เอาเถอะ อย่างน้อยชั้นที่ 10 ก็เคลียร์เสร็จสักที”
เอาหล่ะ ถึงเวลากลับแล้ว
พิษส่วนใหญ่ในร่างกายของซูฮยอนถูกขับออกไปจนหมดแล้ว
มันจึงทำให้ซูฮยอนกลับสู่โลกจริงได้สักที
ซูฮยอนยืนขึ้นแล้วยื่นมือออกไปด้วยหน้า
อากาศด้านหน้าเริ่มปรากฏเงาเลือนรางของประตูขึ้น
ฉึก..
เขาก้าวผ่านประตูแล้วพูดกับตัวเองเบาๆ
“ตอนนี้ฉัน..ก็ผ่านเป้าหมายแรกที่วางเอาไว้แล้วสินะ”
ซูฮยอนวางแผ่นว่าจะต้องเคลียร์ชั้นที่ 10 ในได้เป็นอย่างน้อย และตอนนี้เขาก็ทำสำเร็จสักที
ด้วยความกระตือรือร้นของซูฮยอน
เลยทำให้เป้าหมายของเขาเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี
“ถึงจะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ”
ซูฮยอนยิ้มเล็กน้อยแล้วก้าวเขามาสู่โลกแห่งความจริง
“แผนต่อไปของฉันคือ ความแข็งแกร่ง ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้”
“ฉันต้องพยายามให้มากกว่านี้”
ในหอคอยแห่งการทดสอบ เวลาของมันจะเดินช้ากว่าโลกจริงไปหลายชั่วโมง
ในชั้นที่ 10 ก่อนที่ซูฮยอนจะจากมา เวลาของมันคือ ช่วงเช้า ประมาณ 7 โมง
แต่เวลาโลกจริงมันคือเวลา บ่าย 2 โมง
เมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความจริง
ซูฮยอนมุ่งหน้าตรงไปที่ตู้ธนาคารที่ใกล้ที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก
เขาสอดบัตรแล้วทำการตรวจสอบยอดเงินในบัญชี
เงินที่ซูฮยอนเก็บออมไว้ มีทั้งหมด 1,210,000 วอน
ทุกๆเดือนซูฮยอน จะเก็บเงินค่าขนมที่แม่ให้มาไว้ตลอด
ความจริงซูฮยอนแทบไม่ได้ใช้เงินของตัวเองเลยสักวอน
จะมีก็แค่ ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ซูฮยอนซื้อไปฝากแม่ของเขาก็แค่นั้น
มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ซูฮยอนมีเงินเก็บจำนวนมากขนาดนี้
คลิ๊ก
ซูฮยอนทำการถอดเงินออกมาทั้งหมด
ซูฮยอนเก็บรวบรวมเงินทั้งหมดใส่กระเป๋า
แล้วมุ่งหน้าไปป้ายรถบัส เพื่อรอขึ้นรถ
เป้าหมายของเขาคือ กรุงโซล เมื่องหลวงของเกาหลี
เขารื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆของตังเอง
แล้วเดินหาสถานที่ตั้งของสำนักงานแห่งหนึ่ง
เดินมาได้ไม่นานเขาก็มาถึงสถานที่ตั้งของมันสักที
ซึ่งมันใหญ่โตโอฬารเป็นอย่างมาก
[ สำนักงานรับรองเหล่าสหายผู้ตื่นขึ้น ]
มันเป็นสำนักงานที่รัฐบาลสร้างขึ้น
มันมีหน้าที่ค่อยประเมินความสามารถของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’โดยเฉพาะ
ไม่ใช่แค่นั้นสำนักงานแห่งนี้ยังค่อยจำตาดู 'ผู้ตื่นขึ้น' จากต่างประเทศ
แล้วชักชวนมาทำงานให้กลับประเทศเกาหลีอีกด้วย
“น่าคิดถึงจริงๆ”
‘ผู้ตื่นขึ้น’ แถบทุกคนต้องเคยมาที่นี่ สัก 4-5 ครั้ง
เพราะเมื่อพวกเขาได้รับพลังและก้าวข้ามสามัญชนไปแล้ว
พวกเขาต้องมารายงานตัวที่นี่แทบทั้งสิ้น
ที่สำคัญไปกว่านั้น เมื่อคุณผ่านบททดสอบ แล้วปีนป่ายหอคอยไปจนถึงชั้นสูงๆ
ถ้าคุณอยากเลื่อนแรงค์ถัดไป
คุณต้องแวะมาประเมินใหม่อีกครั้งอีกครั้ง
แต่สำหรับซูฮยอนมันแตกต่างออกไป
ซูฮยอนไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ด้วยซ้ำ
เพราะในอดีตเขาเคยเป็นกำลังรบแนวหน้าของเกาหลีมาก่อน
ซูฮยอนเดินเข้าไปในสำนักงานพร้อมกลับคิดเรื่องราวในอดีตของตัวเองไปด้วย
“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
เมื่อซูฮยอนเดินเข้ามาในล็อบบี้ ก็มีพนักงานคนหนึ่งร้องทักเขาด้วยเสียงสดใส
“ผมมารับการประเมินครับ”
“ไม่ทราบว่าคุณพึ่งได้รับพลัง 'ผู้ตื่นขึ้น' ใช่หรือเปล่าคะ”
“ไม่นะครับ ผมได้มันมาสักพักแล้วครับ”
“งั้นเหรอคะ ถ้างั้นตามฉันมาเลยค่ะ มันอาจจะเสียเวลาสักหน่อย”
เธอพาเขาไปวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก และตรวจสอบข้อมูลประจำตัว
เมื่อทำการบันทึกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เธอก็พาเขาไปชั้นที่ 1
ซูฮยอนถูกพาเข้าไปในห้องที่กว้างใหญ่
ทันทีที่ซูฮยอนเข้ามา เขาก็พบว่ามีคนอยู่ภายในห้องแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
“โอ้”
ดูเหมือนซูฮยอนเจอคนรู้จักเก่า
“ซเวฮักจุน”
เขาคือคนที่ซูฮยอนเคยพบในหอยคนแห่งการทดสอบเมื่อนานมาแล้ว
ดูเหมือนว่า ซเวฮักจุน ก็มาประเมินเหมือนกัน
“รอประมาณ 30 นาทีนะคะ ตอนนี้เจ้าหน้าทีกำลังเตรียมของอยู่ ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวมีคนมาเรียกชื่อไปประเมินคะ”
*****
ผู้หญิงที่นำทางซูฮยอนมาห้องนี้
เมื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ของเธอ
เธอก็ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ผู้คนที่อยู่ในห้องอยู่ก่อนหน้า ต่างจ้องมองไปที่ซูฮยอนเป็นตาเดียว
“โย้ว”
ฮันจูนโบกมือทักทายซูฮยอน
แต่ไม่นานเขาก็ค่อยๆลดมือลง
ฮักจุนเงยหน้ามองซูฮยอนอย่างแน่วแน่
เขาไม่มั่นใจว่าซูฮยอนที่อยู่ตรงหน้า ใช่คนที่เขาเคยเจอมาก่อนหรือป่าว
“ไม่ได้เจอกันนาน”
เมื่อยังไม่ถึงเวลาประเมิน ซูฮยอนจึงเดินไปหาฮักจุนและทักทาย
ฮักจูนมองหน้าของซูฮยอนแล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเคยเจอกันมันก่อนใช้ไหม”
“อืมใช่ เราเคยเจอกันมาก่อน ชั้นที่ 2 ไง ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็เถอะ”
“อ่า..ฉันจำได้แล้ว”
ฮักจุนหัวเราะพร้อมปรบมือเสียงดัง
เขาไม่เคยลืมความรู้สึกแรกที่เจอซูฮยอนบนชั้นที่ 2 เลยสักครั้ง
“นายมาประเมินที่นี้กี่ครั้งแล้วหล่ะ”
ดูท่าทางฮักจุนจะเคยประเมินมาแล้วหลายครั้ง
ซูฮยอนสายหัวแล้วตอบ
“ฉันไม่เคยมาประเมินเลยสักครั้ง”
“งั้นครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของคุณสินะ”
“ใช้แล้ว”
“ผมจำได้ว่าที่พวกเราเจอกันครั้งแรกมันก็ผ่านว่าเป็นปีแล้วนี้น๊า…”
ในเวลาปกติ ถ้าคนผู้นั้นได้รับพลัง 'ผู้ตื่นขึ้น' มาแล้วล่ะก็
พวกเขาจะรีบมาประเมินระดับของตัวเองทันที
ไม่ใช่แค่นั้นเมื่อระดับเวทย์หรือปัจจัยเวทย์ของคนผู้นั้นเพิ่มขึ้น
คนผู้นั้นจะต้องรีบมาประเมินอีกครั้งในทันที
เหตุผลเป็นเพราะแรงค์ของคุณอาจเลื่อนระดับก็ได้
ยังไม่หมด...คุณยังมีโอกาสได้เข้าร่วมการเคลียร์ดันเจียนที่โผล่ออกมาตามที่ต่างๆของโลกภายนอกอีกด้วย
“จริงสินายรู้แล้วใช้ไหมว่าพวกเขาประเมินกันยังไง”
“ผมรู้แล้ว ผมศึกษามันมาพอสมควร”
“งั้นเหรอ..แล้วนายมานี้คงต้องการเงินด้วยใช่ไหม”
ว่ากันตามตรงเมื่อมี 'ผู้ตื่นขึ้น' หน้าใหม่ปรากฏตัวขึ้นมา
สิ่งแรกที่พวกเขาคิดก็คือ เรื่องเงินเรื่องทอง
เมื่อพลังได้ถูกปลุกขึ้น งานต่างๆที่มีรายรับดีๆจะตามมาเองในอนาคต
บางคนที่ดูมีแววโดดเด่น
ก็จะถูกชักชวนโดยคนรวยๆ เพื่อไปทำงานให้กับองค์กรของพวกเขา
“เงินงั้นเหรอ..”
ตามจริงซูฮยอนไม่ได้กังวลเรื่องเงินเลยแม้แค่น้อย
แต่สิ่งเขาอย่างได้มากที่สุด มันเป็นบัตรประจำตัวของผู้ตื่นขึ้นต่างหาก
ทว่า…
“ถ้าบอกว่าไม่ คงเป็นเรื่องโกหก ใช่ฉันต้องการเงิน”
ซูฮยอนหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะมีเงินมากพอ
เพื่อไม่ให้แม่ของเขาทำงานหนักๆแบบนั้นอีก