ตอนที่ 1 ปรมาจารย์จอมวายร้าย
ตอนที่ 1 ปรมาจารย์จอมวายร้าย
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
"ไอพวกชั่วพวกนั้นมันกล้าเรียกตัวเองว่าสำนักฝ่ายธรรมะที่มีชื่อเสียงได้ยังไงกัน! พวกมันกล้าเล่นสกปรกแบบนี้เลยสินะ? ข้าจะออกไปจัดการพวกมันให้หมดเอง!"
"ศิษย์พี่สาม พี่อย่าตกหลุมพรางของพวกมันแบบนี้สิ นี่จะต้องเป็นกลอุบายของพวกมันแน่"
"น้องห้าพูดถูกแล้วล่ะ พวกเราจะต้องไม่ตื่นตระหนกกันนะ ถึงแม้ว่าท่านอาจารย์จะไม่สามารถสู้พวกมันได้ แต่ระดับพวกมันคงจะไม่สามารถทำให้พวกเราเดือดร้อนไปได้หรอก"
"แต่ตอนนี้เหล่านักสู้ยอดฝีมือทั้ง 10 ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ที่นี่พร้อมหน้าพร้อมตากันหมดแล้ว! แต่สภาพของอาจารย์พวกเรายัง..."
"เงียบหน่อยสิพวกนาย! ไม่เห็นหรอว่าท่านอาจารย์กำลังพักผ่อนอยู่น่ะ?"
ลู่โจวที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น ความทรงจำที่สับสนนั้นวนเวียนอยู่ภายในจิตใจของเขา ความทรงเหล่านี้เป็นเหมือนกับเข็มนับร้อยนับพันเล่มที่กำลังทิ่มแทงหัวของเขาอยู่อย่างไม่หยุดพัก
"ที่นี่ที่ไหนกัน?"
"เกิดอะไรขึ้นกับฉัน?"
"ดะ...เดี๋ยวนะ? ฉันคือจีเทียนเด๋า ปรมาจารย์ผู้ชั่วร้ายอย่างงั้นหรอ?" ลู่โจวได้มองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ
ศาลานี่ ภูเขาทอง และลูกศิษย์มหาวายร้ายทั้ง 4 คน รวมไปถึงเหล่าสาวกฝ่ายธรรมะกว่าหนึ่งหมื่นคนที่กำลังรวมตัวกันอยู่ที่เชิงเขา...
ในตอนนั้นเองความทรงจำต่างๆ ก็เริ่มถาโถมเข้าสู่ชายคนนี้....
ในชีวิตของจีเทียนเด๋าเขาได้รับลูกศิษย์มาทั้งหมด 9 คนด้วยกัน ลูกศิษย์ทั้งหมดทุกคนของเขาล้วนแต่เป็นมหาวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งหมด ลูกศิษย์ของเขาล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพลในวงการต่างๆ รวมไปถึงชอบก่อเรื่องในทุกๆ ที่
ศิษย์คนโตของเขามีชื่อว่ายู่เฉิงไห่ เขาคนนี้ตั้งใจที่จะก่อตั้งสำนักแห่งใหม่เพื่อที่จะทรยศผู้เป็นอาจารย์อย่างเขานั่นเอง และในตอนนี้ผู้ที่เป็นหัวหน้าสำนักอธรรมแห่งใหม่ก็มีชื่อเสียงมากขึ้น จนท้ายที่สุดสำนักนั่นก็ได้ชื่อว่าเป็นสำนักอันดับหนึ่งของฝ่ายอธรรมผู้ชั่วร้าย
ส่วนศิษย์คนที่สองของเขามีชื่อว่ายู่ฉางตง เขาคนนี้เป็นยอดฝีมือในการใช้ดาบ จนถึงตอนนี้เขาได้กลายเป็นปีศาจผู้ใช้ดาบไปซะแล้ว เขาได้ตะเวนท้าประลองกับเหล่าผู้ยอดฝีมือมากมายและสังหารเหล่าผู้ไม่เห็นด้วยกับเขามาอย่างไม่หยุดยั้ง
ส่วนศิษย์คนที่สาม, ศิษย์คนที่สี่ และศิษย์คนที่ห้า พวกเขาทั้งสามคนนั้นจะออกไปก่อเรื่องเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่โชคยังดีที่พวกเขายังไม่ได้ออกจากภูเขาทองลูกนี้ไป
ส่วนลูกศิษย์คนที่หกของเขามีชื่อว่ายี่เทียนซิน คนคนนี้เป็นหัวหน้าของวังจันทรา และเธอก็ยังได้รับการสนับสนุนจากเหล่าผู้ฝึกยุทธ์หญิงอีกหลายคนที่ถูกเรียกว่ากลุ่มผู้พิทักษ์หน้าหยกอีกด้วย
ส่วนศิษย์คนที่เจ็ดมีชื่อว่าสีวู่หยา เขาคนนี้มีเครือข่ายข้อมูลอยู่ทั่วทุกมุมโลก เขาเป็นวายร้ายจอมวางแผนนั่นเอง เขาคนนี้ครั้งหนึ่งเคยทำสงครามโดยใช้การหว่านล้อมทำให้เกิดความขัดแย้งมาแล้ว สงครามในครั้งนั้นมีผู้โชคร้ายที่จะต้องเสียชีวิตไปรวมถึงยังมีผู้ทุกข์ร้อนอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากสงครามครั้งนั้น
ส่วนลูกศิษย์คนที่แปดของเขามีชื่อว่าซู่ฮ่องกง เขาคนนี้เพิ่งจะได้รับฉายาเจ้าแห่งปีศาจมาหลังจากที่ออกจากภูเขาลูกนี้ไปเมื่อไม่กี่ปีเท่านั้น
ส่วนลูกศิษย์คนที่เก้าที่เพิ่งจะเข้าร่วมสำนักมามีชื่อว่าซีหยวนเอ๋อ เธอคนนี้เป็นลูกศิษย์คนโปรดของท่าอาจารย์ เธอเป็นเพียงลูกศิษย์คนเดียวที่ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ เธอคนนี้จะอยู่ที่ภูเขาทองตลอดเวลาโดยที่ไม่จากไปไหน
น่าเสียดายที่จีเทียนเด๋าคนนี้อยู่มาในโลกใบเกือบที่จะครบพันปีแล้ว อายุที่มีมากขนาดนี้เกือบที่จะถึงขีดจำกัดทางอายุขัยของผู้ฝึกยุทธ์มากขึ้นทุกที เมื่อเขาเริ่มที่จะแก่ตัวมากขึ้น ตัวเขาเองก็ไม่สามารถที่จะควบคุมลูกศิษย์ทั้ง 9 คนได้อีกต่อไป แน่นอนว่าการยับยั้งลูกศิษย์แต่ละคนเองก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นกัน ในที่สุดลูกศิษย์ทั้งห้าก็ได้ทรยศตัวเขาไปในที่สุด นี่ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจของผู้เป็นอาจารย์คนนี้โดยตรง
หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เหล่ายอดฝีมือทั้ง 10 ของสำนักฝ่ายธรรมะได้วางแผนที่จะโจมตีท่านปรมาจารย์ผู้ชั่วร้าย จีเทียนเด๋าได้ต่อสู้กับยอดฝีมือทั้ง 10 ด้วยตัวคนเดียวจนท้ายที่สุดแล้วการต่อสู้ก็จบลงด้วยผลเสมอ
ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายของสำนักฝ่ายธรรมะวางแผนที่จะโจมตีภูเขาทองลูกนี้ พวกเขาทั้งหลายได้เตรียมพร้อมอยู่ก่อนที่เชิงเขาแล้วนั่นเอง ตอนนี้ภูเขาทองลูกนี้กำลังพบกับวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ลู่โจวไม่รู้เลยว่าควรจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ ในตอนนั้นเองเขาที่กำลังพยายามฝืนลุกขึ้นก็ต้องล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ท่านอาจารย์ตื่นแล้วอย่างงั้นหรอ!"
"ท่านอาจารย์"
เหล่าสาวกทั้งสี่ที่รอคอยการฟื้นของท่านอาจารย์อยู่ที่ด้านนอกได้รีบวิ่งเข้ามาก่อนที่จะโค้งคำนับลู่โจวพร้อมกัน ลู่โจวได้เหลือบมองลูกศิษย์ทั้ง 4 ของเขาที่กำลังโค้งคำนับให้ก่อนที่จะกระแอมออกมาครั้งหนึ่ง
ตัวเขาไม่ได้พูดอะไรออกไปแม้แต่น้อย เหล่าสาวกทั้งสี่ที่อยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ล้วนแต่เป็นมหาวายร้าย และการทรยศของลูกศิษย์ทั้งห้าก็ทำให้อาจารย์ผู้นี้ต้องตื่นขึ้น
"เป็นยังไงบ้างท่านอาจารย์?" ลูกศิษย์คนที่สามด้วนมูเฉิงได้ถามอาจารย์ของเขาด้วยความกังวล
"ข้าสบายดี"
ใบหน้าของเหล่าสาวกทั้งสี่เริ่มมีความหวังมากขึ้น
"ท่านอาจารย์...เหล่ายอดฝีมือจากสำนักฝ่ายธรรมะได้เคลื่อนทัพมาเข้าที่เชิงเขาแล้ว ข้าคิดว่าพวกเขาจะบุกมาถึงที่นี่หลังจากที่ทำล้ายแนวป้องกันทั้งหมดไปในเร็วๆ นี้" ลูกศิษย์คนที่สี่หมิงชี่หยินพูดขึ้น
ลู่โจวทำได้เพียงพยายามสงบใจลง ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกต่อไปนอกซะจากยอมรับความทรงจำจากจีเทียนเด๋ารวมไปถึงร่างกายของเขาเอาไว้
"ทำไมพวกเราไม่ออกไปข้างนอกเพื่อที่จะขอให้ศิษย์พี่ใหญ่กลับมาช่วยพวกเรากันล่ะ? ถ้าหากเป็นเขาละก็เขาคงจะไม่นิ่งดูดายอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาเป็นถึงหัวหน้าสำนักใหม่ เขาจะต้องมีสมุนกว่าหลายพันคนติดตามอยู่แน่"
"หรือเราควรจะขอความช่วยเหลือจากน้องเจ็ดดี เขาเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบที่เฉียบคม..."
"ท่านอาจารย์..."
"หุบปาก!" ลู่โจวพูดขัดจังหวะพวกเขาทั้งหมด "ใจเย็นๆ ไว้ตัวฉัน ไม่ต้องตกใจไป ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นถึงอาจารย์ของมหาเหล่าวายร้าย ฉันคงจะเปิดเผยความจริงที่ตัวฉันเสียวรยุทธ์ทั้งหมดไปไม่ได้เด็ดขาด ถ้าหากฉันเปิดเผยความจริงไปแล้วฉันก็คงจะไม่ต่างอะไรกับเศษเนื้อที่อยู่บนเขียงรอโดนเชือด เหล่าสาวกของฉันทั้งสี่จะต้องฆ่าฉันก่อนที่พวกเหล่ายอดฝีมือของสำนักฝ่ายธรรมะข้างนอกจะเข้ามาเชือดฉันก่อนแน่นอน"
"การป้องกันของภูเขาทองจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะรับมือพวกนั้นได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยพวกเราก็ยังจะพอมีเวลาอยู่ แล้วพวกนายกำลังตื่นตระหนกเพราะเรื่องอะไรกัน หะ?" ลู่โจวได้ตำหนิศิษย์ทั้ง 4
สาวกทั้งสี่ได้แต่ทำสีหน้าเอือมระอาอยู่ที่ด้านหลังก่อนที่จะก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรต่อไป
"เจ้าสาม เมื่อกี่พูดอะไรออกมาอย่างงั้นหรอ?" ลู่โจวได้ถามโดยใช้น้ำเสียงเดียวกับจีเทียนเด๋า
ในฐานะที่ตัวเขาเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาดโบราณที่มีชีวิตยืนยาวมาหลายพันปี ดันนั้นสถาพจิตใจของเทียนเด๋านั้นจึงเหนือล้ำกว่าคนอื่นมาก แม้แต่ลู่โจวเองที่เป็นคนที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วก็ยังจะต้องใช้เวลาผสานความทรงจำของตัวเขาเข้ากับความทรงจำของเทียนเด๋าอยู่ดี ตราบใดที่ตัวเขาไม่ได้เผยกิริยท่าทางที่ผิดแปลกออกมา แน่นอนว่าก็คงจะไม่มีใครพบเห็นสิ่งผิดปกติในตัวของเขาได้
"ท่านอาจารย์ ผมอยากจะขอให้ศิษย์พี่คนโตกลับมาช่วยพวกเราครับ" ด้วนมูเฉิงได้พูดความต้องการของเขาออกมาอีกครั้ง ในตอนที่เขาพูดเสร็จด้วยมูเฉิงก็ได้เงยหน้าของเขาขึ้นมาก่อนที่จะเหลือมองไปทางลู่โจว
ลู่โจวในตอนนี้ได้ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวก่อนที่จะพูดขึ้นว่า "แค่ข้าถูกพวกยอดฝีมือกว่าสิบคนโจมตีเนี่ยนะ พวกเจ้าไม่คิดกันบ้างหรอทำไมผลการต่อสู้ถึงลงเอยด้วยการเสมอกันแบบนี้ พวกเจ้าคงไม่ได้คิดจริงๆ สินะว่ามีใครกำลังอยู่เบื้องหลังเรื่องในครั้งนี้อยู่?"
สีหน้าของด้วนมูเฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย "อาจารย์ครับ หรือว่าศิษย์พี่ใหญ่จะเป็นคนอยู่เบื้องหลังในครั้งนี้กัน?"
จีเทียนเด๋าเดิมทีเขาได้ใช้เวลาท่องไปโลกที่กว้างใหญ่มานานหลายปี ตัวเขานั้นไม่เคยต้องเจอกับอุบัติเหตุแบบนี้มาก่อน ถึงแม้ว่าตัวเขาที่อายุเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ฝีมือในการต่อสู้ลดน้อยลง แต่ก็คงจะไม่มีใครสามารถจัดการกับเขาได้อยู่ดี มีเพียงคนคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องทุกอย่างรวมไปถึงสามารถวางกับดักได้อย่างสมบูรณ์แบบได้
ศิษย์คนโตของเขาอย่างยู่เฉิงไห่เป็นผู้ที่รู้จักอาจารย์มากที่สุด และสีวู่ยาเองก็เป็นคนที่หัวดีเช่นกัน เขาทั้ง 2 คนนั้นตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปในที่สุด
ลูกศิษย์คนที่สี่อย่างหมิงซี่หยินได้พูดสาปแช่งออกมา "ไอ้พวกบ้าเนรคุณ! พวกมันไม่เพียงทรยศต่อหุบเขาทองของพวกเราเท่านั้น พวกมันยังกล้าปองร้ายท่านอาจารย์อีกด้วย!"
"ถ้าหากพวกนั้นไม่ได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้ ข้าพนันได้เลยว่าพวกมันไม่มีทางล้อมภูเขาทองของพวกเราได้แบบนี้แน่!"
"..."
"พอที!"
หลังจากสิ้นเสียงห้ามทุกคนก็ตกอยู่ในความสงบอีกครั้ง เสียงของลู่โจวฟังดูไม่พอใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่เท่าไหร่นัก "คิดว่าตัวข้าจะไม่รู้หรือไงว่าพวกเจ้ากำลังคิดอะไรกันอยู่? พวกเจ้าทุกคนอยากให้ข้าต้องตายกันสินะ?"
"หะ?"
ลูกศิษย์ทั้งสี่รีบก้มหัวคุกเข่าต่อหน้าผู้เป็นอาจารย์ในทันที พวกเขาทั้งหมดพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน "พวกเราศิษย์ทั้งสี่ไม่กล้า!"
ลู่โจวเหลือบมองลูกศิษย์ทั้งหมดก่อนที่จะตะคอกออกมา "พวกเจ้าทุกคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือของดินแดนศาลศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วพวกเจ้าก็คงจะออกไปตั้งสำนักของตัวเองเหมือนกับพี่ใหญ่และพี่รองของพวกเจ้า สุดท้ายแล้วพวกเจ้าก็จะทรยศผู้เป็นอาจารย์อย่างข้า ลำพังเพียงแค่ข้ายังจะไปควบคุมอะไรพวกเจ้าได้อีกอย่างงั้นหรอ?"
"อาจารย์ของพวกเรามีแค่ท่านคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ท่านเปรียบเสมือนเป็นพ่อผู้ให้ชีวิตแก่พวกเรา พวกเราไหนเลยจะกล้าทรยศท่านอาจารย์ได้!" ศิษย์ทั้งสี่ได้ก้มคำนับอย่างพร้อมเพรียง
ลู่โจวหายใจเข้าลึกๆ แม้ว่าสภาพจิตใจของเขาจะได้รับการเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อตัวเขาจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ลู่โจวเองก็อดที่จะประหม่าไม่ได้เช่นกัน
"พวกเจ้าทั้งหมดปล่อยให้ข้าจัดการเองซะ ข้าคิดแผนที่จะขับไล่พวกศัตรูทั้งหมดกลับไปได้แล้ว"
"พวกเราเข้าใจแล้วท่านอาจารย์" ศิษย์ทั้งสี่ตอบรับอาจารย์ก่อนที่จะถอยกลับไปอย่างเชื่อฟัง
"แผนกับผีล่ะสิ ฉันก็แค่อยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียวสักพัก" ลู่โจวรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น หลังจากศิษย์ทั้งสี่ของเขาได้ออกจากห้องไป หลังของลู่โจวนั้นก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ "ฉันต้องใจเย็นให้มากกว่านี้ แต่ฉันจะสงบสติอารมณ์ต่อหน้าศิษย์เนรคุณทั้ง 4 ได้ยังไงกัน? ตอนนี้จะมีใครคนไหนก็ได้ที่เข้ามาโจมตีฉันจากทุกที่และทุกเวลาได้ตลอด และตอนนี้ยังมียอดฝีมือจากพวกฝ่ายธรรมะที่มาที่นี่อีกด้วย?"
"จี๋เทียนเด๋า เจ้ามันไปทำบาปอะไรไว้แน่ถึงจะต้องมีคนตามล้างตามเช็ดอยู่ตลอดแบบนี้?"
"เหมือนกับว่าแกยังไม่สามารถชดใช้บาปของตัวเองทั้งหมดได้ และเพราะอะไรกันถึงยอมฝึกฝนลูกศิษย์มหาวายร้ายพวกนี้ขึ้นมาด้วย?"
"แกมันบ้าไปแล้ว! แกมันสมควรตาย!"
"แล้วตอนนี้ฉันจะรับมือกับปัญหาทั้งหมดด้วยร่างกายที่แก่จนเกือบที่จะขยับต่อไปไม่ได้ยังไงดีล่ะ?"
"มีใครข้ามไปต่างโลกแล้วจะโชคร้ายกว่าฉันคนนี้ไหม?"
"ติ้งต่อง ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ ระยะเวลาที่ใช้ทั้งหมด: 1000 ปี สามารถฝึกสอนให้ลูกศิษย์ได้ 9/9 คน"
"ระบบคุณงามความดีได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว"
"เอ๊ะ?" หัวใจของลู่โจวสั่นไปทั้งดวง "นี่มันการโกง!"
ทันใดนั้นเองลู่โจวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจีเทียนเด๋าถึงจะต้องฝึกฝนลูกศิษย์มหาวายร้ายทั้ง 9 คนแบบนี้
โชคไม่ดีสำหรับเขาที่จะต้องใช้เวลายาวนานกว่า 1000 ปีในการปูทางให้คนอื่นเพียงเท่านั้น
ระบบคุณงามความดีได้แสดงเมนูขึ้นมา ในดวงตาของลู่โจวตอนนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรสีฟ้าที่มาจากหน้าเมนู
ชื่อ: จีเทียนเด๋า
เผ่า: มนุษย์
วรยุทธ์: การใช้ร่างกายในการผ่อนคลายขั้นที่ 9
แต้มบุญ: -100,000 (สามารถใช้แต้มบุญแลกพลังชีวิตรวมไปถึงการจับฉลากและอื่นๆ ได้)
ชีวิตที่เหลืออยู่: 3 วัน
ของที่มี: ไม่พบ
เคล็ดวิชา: ไม่มี
ตัวเลือกอื่นๆ : จับฉลาก, แลกรางวัล
…
"-100,000 เอาจริงดิ?" ลู่โจวเบิกตากว้างเมื่อเห็นแต้มบุญที่เหลืออยู่ ติดลบหนึ่งแสนเนี่ยนะ เดิมทีตัวฉันอาจจะทนกับความเฮงซวยที่จะต้องติดอยู่ในร่างกายของชายชราแบบนี้ แต่นี่มัน? ชีวิตที่เหลืออยู่ 3 วัน?
"ประเมินข้อมูลอีกครั้ง..."
"แก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาด จีเทียนเด๋าตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นลู่โจวเรียบร้อย"
"ติ้ง! ภารกิจแรกของคุณ: ขับไล่ศัตรูทั้งหมดให้กลับไป"
"ถ้าหากทำภารกิจสำเร็จอย่างถูกต้องแต้มบุญของคุณก็จะถูกเปลี่ยนจนกลับมาเป็นศูนย์อีกครั้ง"
"ตรวจพบร่างกายของคุณกำลังอ่อนแอ ของขวัญสำหรับมือใหม่ถูกส่งมอบเรียบร้อย คุณจะต้องการเปิดใช้เลยไหม?"
การแจ้งเตือนทั้งหมดทำให้ลู่โจวสามารถพยักหน้าออกมาอย่างพึงพอใจได้
นอกจากของที่เขาจะได้รับแล้วตอนนี้ตัวเขายังเข้าใจสถานการณ์รวมไปถึงภารกิจต่างๆ ที่ถูกกำหนดให้ และเพราะแบบนี้เองสินะจีเทียนเด๋าจึงสามารถสร้างวีรกรรมอันฉาวโฉ่ได้
แต่ดูเหมือนว่าระบบนี่เองยังพอจะมีความสมเหตุสมผลอยู่บ้าง ร่างกายที่แก่ชราและอ่อนแอเกินไปร่างนี้ไม่อาจที่จะทำภารกิจให้ลุล่วงได้ ดังนั้นจึงต้องใช้ของขวัญสำหรับมือใหม่อย่างงั้นสินะ
"เปิดซะ"
"ติ้ง! คุณได้รับการ์ดแห่งชีวิต x1 สิ่งนี้สามารถใช้เพิ่มพลังชีวิตของผู้ใช้ได้"
"คุณได้รับการ์ดระเบิดจุดสุดยอด x3 สิ่งนี้จะสามารถทำให้คุณใช้พลังของจีเทียนเด๋าได้อย่างเต็มที่ 30 นาที"
"คุณได้รับการ์ดประกันชีวิต x5 บัตรที่จะสามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงถึงตายสำหรับเจ้าของร่างได้ 5 ครั้ง"
"นี่ก็ไม่แย่ไปซะทีเดียวนะ" ลู่โจวได้จ้องมองไปที่เมนูของตัวเองอีกครั้ง
ชื่อ: ลู่โจว
เผ่า: มนุษย์
วรยุทธ์: การผ่อนคลายร่างกายขั้นที่ 9
แต้มบุญ: -100,000 (ค่าแต้มบุญจะถูกรีกลับมาเป็น 0 ใหม่อีกครั้งเมื่อทำภารกิจแรกเสร็จสิ้น)
เวลาชีวิตที่เหลือ: 2วัน 23ชั่วโมง...
ของ: การ์ดระเบิดจุดสุดยอด x3, การ์ดประกันชีวิต x5 (ติดตัว), การ์ดแห่งชีวิต x1
เคล็ดวิชา: ไม่มี
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย