HPST ตอนที่ 55: ความจริง
HPST ตอนที่ 55: ความจริง
รอนเหมือนกับตุ๊กตาที่ถูกทิ้ง, หน้าของเขาซีดเหมือนกับหินอ่อน, เย็นและไร้สีสัน
“รอน!” แฮร์รี่พุ่งไปหาเขา คุกเข่าและเขย่าตัว “รอน อย่าตาย ได้โปรด อย่าตาย!”
“เขาไม่มีทางตื่น” มันกล่าวด้วยเสียงพูดเบาๆ
อีวานหันไปที่ทิศทางของเสียง เขาเห็นผู้ชายสูงโปร่งกำลังพิงกับเสาหินใกล้ๆ
“ทอม ริดเดิ้ล!” อีวานพูดเบาๆขณะที่เขาชี้ไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่ทอม
“เปล่าประโยชน์เลือดสีโคลน, ทุกอย่างมันจบแล้ว!, มีแค่พวกเราที่นี่,ไม่มีใครจะมาช่วยแกอีกแล้ว และมันก็ไม่มีไก่นั่นด้วย! ชัยชนะตกอยู่ในกำมือขอฉันแล้ว, ไม่นานแกก็จะเป็นเหมือนกับเจ้าหนูคนนี้และอยู่ที่แห่งนี้ตลอดกาล”
“แกทำอะไรกับรอน, ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้?” แฮร์รี่ตะโกนขณะที่เขาลุกขึ้น
“เป็นคำถามที่น่าสนใจ เป็นเรื่องที่ยาวเลยทีเดียว” ริดเดิ้ลกล่าวอย่างร่าเริง “แต่ฉันจะเล่าให้พวกแกฟังก่อนที่จะหลับไปชั่วนิรันดร์ เท่าที่ฉันรู้,เหตุผลที่จริงๆวีสลีย์เป็นแบบนี้เพราะว่าเขาเปิดหัวใจของเขากับคนแปลกหน้าโดยสมบูรณ์และบอกความลับทั้งหมดของเขาให้กับคนคนนั้น”
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร?” แฮร์รี่ถามอย่างประหลาดใจ
“ไดอารี่!” ริดเดิ้ลกล่าว “ตั้งแต่ที่คนรับใช้ของฉันมอบไดอารี่ให้กับรอน เขาได้เขียนความลับของเขาไว้มากมายเป็นเวลาหลายเดือน เขาบอกถึงปัยหาและความเศร้าโศกของเขา เขาเป็นคนที่ธรรมดาที่สุดในครอบครัวของเขา,เพื่อนๆของเขาต่างก็เก่งกว่าเขา, ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา, เขาเป็นแค่คนอ่อนแอและน่าสงสาร”
“อะไรนะ?” แฮร์รี่ค้าง
“แฮร์รี่ พอตเตอร์, นายเป็นผู้รอดชีวิตผู้โด่งดัง,นายไม่มีทางเข้าใจที่วีสลีย์กำลังอิจฉานาย, เขาริษยาในชื่อเสียงของนาย, เขาริษยาในพรสวรค์ของนาย!” ริดเดิ้ลกระพิบตา “เขาบอกกับฉันว่าเขายังแย่เสียกว่าเด็กปีหนึ่งถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนัก-เรียน-ปี-สอง”
ริดเดิ้ลเหลือบมองไปที่อีวานอย่างระมัดระวังและหันกลับมาหาแฮร์รี่ ดวงตาของเขาปกปิดการแสดงออกที่เกือบโล�
“มันแสนจะน่าเบื่อที่ต้องมาฟังเด็กสิบสองปีพูดเรื่องปัญหาในวัยเด็กของเขา”
ทอมพูดต่อ “แต่ฉันก็ฝืนทน, เขียนไม่กี่คำเพื่อตอบเขา, ฉันมันเป็นคนมีน้ำใจ ฉันค่อยๆได้รับความไว้วางใจจากเขา, เขาคิดว่าฉันคือเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา”
แฮร์รี่ดูซีดเหมือนผี, “ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น แต่พวกเราบอกได้เลยว่าเขาเป๋นเพื่อนของพวกเราตั้งแต่เราได้เจอกัน”
“แน่นอนล่ะว่านายไม่รู้!” ทอมหัวเราะอย่างเยือกเย็น “หลังจากหลายเดือนของการพูดคุย, รอนเปิดวิญญานของเขากับฉัน, มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องการอย่างแท้จริง”
“ฉันดูดกลืนความกลัวที่เป็นความลับที่สุดของเขา, ความลับที่เก็บงำไว้ลึกที่สุดของเขา, ความอิจาฉาริษยาที่รุนแรงที่สุดของเขา ฉันเติบโตแข็งแกร่งขึ้น, แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าวีสลีย์ตัวน้อย, แข็งแกร่งพอที่จะควบคุมเขา เพื่อทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันต้องการจะทำฐ แบะมันก็เป็น…..”
“หยุดอุบายของนายได้แล้วทอม! มันมีทางได้ผล, ตอนที่รอนตื่นขึ้นฉันจะเตะก้นของเขาจนกว่าเขาจะคิดได้ว่าพวกเราปฏิบัติกับเขาเหมือนเพื่อนรักของพวกเราอยู่ตลอด”
“ไอ่เลือดสีโคลนเวรตะไล! ฉันรูอยู่แล้วว่าแกมันตัวปัญหา, ฉันอยากจะฆ่าแกตั้งแต่ตอนที่แกเอาหนังสือพิมพ์เมื่อห้าสิบปีก่อนออกมาแล้ว” ทอมกล่าวขณะที่เขาหันศรีษะไปทางอีวานด้วยท่าทางรังเกียจ
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนายถึงโจมตีฉันด้วยคำสาปกัดกร่อนที่ชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว”
“ไม้กายสิทธิ์หักของรอนได้ลดทอนเวทมนตร์ของฉัน แต่มันก็เป็นความผิดผลาดของฉันเอง, แกมันเจ้าเล่ห์กว่าที่ฉันคิดไว้และฉันไม่ควรจะเปิดเผยตัวเร็วเกินไปนัก ถ้าดัมเบิลดอร์สังเกตว่ามันเป็นตัวฉันเองที่ทำให้รอนตกอยู่ในคาถาสะกดใจตามที่ฉันต้องการ”
“นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงทำให้เขาใช้คาถาพิฆาตกับฉัน?”
“ไม่เลย, พอไม่มีฉันควบคุม ร่างกายของเขาไม่สามารถจะร่ายมันออกมาได้ ดังนั้นมันจึงเป็นแค่ไฟเขียวธรรมดาๆเท่านั้น” ทอมพูดอย่างภูมิใจ “คาถาสะกดใจเป็นเพียงแค่การสลัดดัมเบิลดอร์ออกแต่เขาก็ยังคงสงสัย รอนไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยแม้แต่น้อย, เขาขี้ขลาดและปกปิดการมีอยู่ของไดอารี่จากทุกคน เขากลัวว่าคนอื่นจะคิดออกว่าเขาเป็นคนที่ช่วยในการโจมตีเหล่านั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของริดเดิ้ล อีวานจับไม้กายสิทธิ์ของเขาไว้กระชับ และแฮร์รี่ก็กำหมัดของเขาไว้แน่น
“แต่ตั้งแต่นั้นมา, รอนก็ไม่เชื่อใจฉันอีกต่อไป” ริดเดิ้ลกล่าว “ในที่สุดเขาก็สงสัยและพยายามที่จะทิ้งไดอารี่ แฮร์รี่ ฉันหวังว่าเธอจะเป็นคนหยิบมันขึ้นมาเหมือนอย่างที่ฉันบอกไป ฉันต้องการจะพบกับเธอมากๆ”
“ทำไมแกถึงอยากจะเจอฉัน?” แฮร์รี่ถามอย่างเกรี้ยวโกรธ
“โอ้ แฮร์รี่ รอนบอกกับฉันทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ” ริดเดิ้ลพูด “เธอนั้นทั้งน่าทึ่ง, อดีตอันมีเสน่ห์ของเธอ”
สายตาของเขาเปลี่ยนไปที่แผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผากของแฮร์รี่, ใบหน้าของเขากลายเป็นสัตว์ป่าที่หิวโหย
“ฉันต้องรู้เกี่ยวกับเธอให้มากยิ่งขึ้น, พูดคุยกับเธอ, และพบเธอตัวจริงถ้าเป็นไปได้” ริดเดิ้ลหันสายตาของเขากลับไปที่อีวานอีกครั้งและกล่าวอย่างรังเกียจ “แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเจ้าเลือดสีโคลนโสโครกที่มาหยิบไดอารี่ของฉัน ฉันพยายามจะควบคุมมันเหมือนที่กับควบคุมรอน, ฉันพยายามจะเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจ, ฉันอยากจะบอกกับมันเกี่ยวกับเรื่องห้องแห่งความลับที่ถูกเปิดเมื่อห้าสิบปีก่อนแต่…..”
“โชคร้ายหน่อยนะ, ที่ฉันเห็นนายทะลุปุโปร่ง” อีวานกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
“แกมันเป็นเลือดสีโคลนที่เหลี่ยมจัดน่ารำคาญเหมือนกับที่ฉันคิดไว้ตอนแรก”
น้ำเสียงของริดเดิ้ลกลับมาสงบอีกครั้ง “ฉันรู้สึกว่าแกพยายามต่อต้านฉัน, แต่แกก็มีความหลงใหลอย่างมากในความรู้เวทมนตร์ ดังนั้นฉันจึงเปลี่ยนแผน, ฉันตัดสินใจที่จะค่อยๆล่อแกด้วยสัญญาแห่งพลังอำนาจ”
“แต่แกก็ล้มเหลวอีกครั้ง ทอม!” อีวานพูดขณะเริ่มสะสมเวทมนตร์
“เห็นได้ชัดเลย แต่แกจะบอกกับฉันได้ไหมว่าทำไมกันล่ะ?” ริดเดิ้ลถามอย่างกระตือรือร้น
“มีผู้หญิงคนหนึ่งเคยบอกกับฉัน มีปัญญาที่เกินกว่าจะวัดได้ถือเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์” อีวานพูดขณะที่ภาพของลูน่าปรากฏขึ้นในความคิด “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเชื่อมั่นในมิตรภาพ, เชื่อมั่นในครอบครัว, เชื่อมั่นในความรัก, เชื่อมั่นในทุกสิ่งที่ดีงาม! ทอม, แกไม่มีวันทำได้, นอกจากความแข็งแกร่งของตัวแกเล้ว แกไม่เชื่อมั่นในอะไรทั้งนั้น ดังนั้นแกจะต้องเจอกับหายนะ”
“ความรัก?! มันน่าขำจริงๆที่แกคิดว่าของแบบนี้มันเชื่อถือกว่าพลัง,ความคิดทั่วๆไปของคนอ่อนแอ, เอาล่ะ กลับมาทำธุระดีกว่า ฉันมีคำถามมากมายที่จะถามเธอ แฮร์รี่ พอตเตอร์!”