ตอนที่แล้วบทที่ 82: ลอร์ดที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 84 : ค่าคุ้มครอง

บทที่ 83: กลอุบายภายใต้ความไม่มีพิษภัย


“ทูตคนใหม่จากอาณาจักรเหล็ก ออกัสติน มาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนท่านลอร์ดของเมืองแห่งรุ่งอรุณ!” คนพูดเป็นหนุ่มหล่อผู้มีผมยาวสีทอง เขาแต่งตัวในชุดยาวสีม่วงอ่อนที่ดูหรูหราอย่างมาก แต่มันก็ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ บนปลอกแขนและปกเสื้อ

เห็นได้ชัดว่าแม้ว่าเขาจะแต่งตัวเหมือนขุนนาง แต่เขาก็ไม่ได้มีสถานะเป็นขุนนาง

หลังจากออกัสตินคารวะ เขาก็ฉีกยิ้มทรงเสน่ห์ สำหรับใครหลายๆ คนแล้ว เขาดูไม่มีอันตราย

การกระทำของเขานั้นสุภาพและดูมีการอบรม  เขาดูเรียบร้อยและเป็นคนมีระเบียบมาก  และยังมีความองอาจที่ขุนนางไม่ค่อยมีและเปล่งประกายไปด้วยออร่าความสง่างาม

แต่วิลเลียมรู้ ออกัสตินผู้ไร้พิษภัยนั้นสร้างผลงานได้ดียิ่งกว่าโกธี นาซิสในเวอร์ชั่น1.0 เสียอีก

ไม่ใช่แค่เขามีสายเลือดรีเจนดารีเท่านั้น เขาทั้งแข็งแกร่งและเป็นกบฏคนหนึ่งอีกด้วย!

โกธี นาซิส บุตรนอกสมรสของอาณาจักรเหล็กผู้สร้างพันธมิตรอิสระ แต่เขาทำได้เพียงแค่อวดความเชื่อและอิทธิพลในชีวิตอันแสนสั้นของเขา

สามารถพูดได้เลยว่าโกธีนั้นก็เหมือนกับราชาธรรมดาทั่วไปที่ต่อสู้เพื่ออำนาจของตนเท่านั้น เขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับผลกระทบที่พันธมิตรอิสระของเขาจะมีต่อทวีปรีเจนดารี

ถ้าใครสักคนมองให้ลึกลงไปอีกสักหน่อย

ก็จะรู้ได้เลยว่าแผนการของโกธีนั้นเล็กเกินไป…

แต่ออกัสติน เขาไม่ใช่แค่ทายาทตัวจริงเท่านั้น แต่เขายังพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรอิสระต่อหลังจากอาณาจักรเหล็กพังพินาศ เขายังเปล่งประกายเจิดจ้าอยู่ในทวีปแห่งตำนานอีกด้วย

คนประเภทนี้น่ะ?

วิลเลียมจะไม่เห็นค่าของเขาได้ยังไง?

“เชิญนั่งเถิด” วิลเลียมผายมือ

“ขอบคุณ” ออกัสตินนั่งลงบนที่นั่งที่อยู่ทางด้านซ้ายของห้องประชุม เขาสังเกตภาพวาดและประติมากรรมในห้อง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม เขาฉีกนิ้ม แล้วพูด “ข้ามาเพื่อเยี่ยมเยียนท่านลอร์ดวิลเลียม การรู้จักคนผ่านชื่อเสียงของเขานั้นเทียบไม่ได้กับการพบเจอตรงหน้าเลยจริงๆ”

“ราชาของข้าให้ข้านำของหายากและของขวัญมากมายมามอบให้  ท่านต้องการให้ข้านำมันมาที่นี่ให้ท่านได้เชยชมหรือไม่?”

วิลเลียมส่ายหัว “ไม่จำเป็น แค่วางมันไว้ตรงนั้นก็พอแล้ว เราได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่และขุนนางส่วนใหญ่ในอาณาจักรเหล็กเป็นคนแก่จากกลุ่มอนุรักษ์นิยม แล้วอย่างเจ้าก็เป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยนี้ด้วยหรือไม่ล่ะ?”

“ท่านลอร์ดรู้เรื่องเกี่ยวอาณาจักรเหล็กดีไม่น้อยเลย ในอดีต แน่นอนว่ามันเป็นเช่นนั้น แต่ไม่นานมานี้ ราชาของเราได้มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการพัฒนา ขุนนางหัวโบราณจำนวนมาก คนที่รับสินบนและละเมิดกฎหมายตลอดจนผู้ที่กล้ายึดแร่ทรัพยากรของชาติได้ถูกปลดจากตำแหน่งไป”

“เจ้าหน้าที่หน้าใหม่อย่างเราที่เพิ่งเริ่มก้าวขึ้นมาไม่มียศเป็นชนชั้นสูงแต่อย่างใด ดูเหมือนว่าราชาของเราต้องการให้เกิดการปฏิวัติอย่างค่อยเป็นค่อยไปและนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบบขุนนาง”

“ตอนนี้ ราชาของเราต้องการสนับสนุนคนอย่างท่าน ท่านลอร์ด เขาบอกให้ข้าเรียนรู้จากท่านให้มากกว่านี้” หลังจากออกัสตินพูด เขาก็สังเกตวิลเลียมเพื่อดูว่าการแสดงออกช่วงหลังจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่”

เขายิ้มและพูดต่อ “ราชาของข้ายังบอกอีกว่า ในฐานะอาณาจักรแห่งหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายสู้อิสระภาพและความเท่าเทียม อาณาจักรเหล็กจึงควรมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเมืองแห่งรุ่งอรุณ ท่านมีความคิดเห็นอันใดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ ท่านลอร์ด?”

“สร้างความสัมพันธ์ทางการทูต?”  วิลเลียมหัวเราะ  เขาค่อยๆลุกขึ้นและเดินออกไปจากบัลลังก์ของเขา

“ทำไมท่านไม่พูดถึงเงื่อนไขในการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตก่อนล่ะ?”

ออกัสตินถอนหายใจเงียบๆ อย่างที่คาดไว้ ว่ามันจะไม่เป็นไปโดยง่าย นอกจากนี้เขายังเคยเห็นเอลฟ์จำนวนมากเคลื่อนไหวอยู่นอกเมือง  เขารู้ว่ากลยุทธ์ที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นการยั่วยุ

แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนแผนของเขาได้ เขาแค่ต้องพูดอย่างมีชั้นเชิงเท่านั้น “ความสัมพันธ์จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ทั้งสองฝ่ายโดยธรรมชาติอยู่แล้วครับ”

“ราชาของเราทราบว่าท่านยังขาดกำลังคนสำหรับการพัฒนา พวกเรายินดีที่จะยกทาส 30,000 คนให้ท่านฟรีๆ”

“พวกเราต้องการที่จะเปิดเส้นทางการค้าและลดภาษีนำเข้าลง 8%”

“พวกเราสามารถผลิตอาหารที่เพียงพอสำหรับให้พลเมืองจำนวน 30,000 คนของเมืองแห่งรุ่งอรุณได้ครึ่งปี”

“พูดต่อสิ อย่าพูดแต่ข้อดีและผลประโยชน์ บอกเรามาด้วยสิว่าคำขอของราชาคืออะไร” วิลเลียมยืนอยู่ที่ประตู มือสองข้างไพล่หลัง เขาพยักหน้าโดยไม่ได้หันหน้ากลับมา

“เพิ่มเติมจากนี้คือการที่อาณาจักรเหล็กกำลังวางแผนที่จะสร้างป้อมปราการทางทหารออกไปทางตะวันออก 30 กิโลเมตรจากเมืองแห่งรุ่งอรุณ ท่านอย่าเข้าใจผิดไป  เราต้องการเป็นพันธมิตร  เราไม่มีแผนต่อต้านเมืองแห่งรุ่งอรุณแต่อย่างใด”  ออกัสตินไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร แต่เขาสามารถหาทางพูดเรื่องนี้ออกไปได้

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้มาก ใครจะคิดได้ว่าเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงชายแดนจะกลายเป็นเมืองฝ่ายกลางที่ผู้คนไม่อาจเพิกเฉยได้?

“นอกจากนี้ ด้วยการย้ายเข้ามาของเอลฟ์นับพัน เมืองนี้จะกลายเป็นเมืองที่ง่ายต่อการคุ้มกัน แต่ยากที่จะโจมตี…”

“โอ้? เมื่อเจ้าไม่ได้มีเป้าหมายเป็นเมืองแห่งรุ่งอรุณ เจ้าจึงวางแผนที่จะยึดครองอาณาจักรลาวาดำแบบที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัวและโจมตีพวกเขาเมื่อสงครามเริ่มขึ้นงั้นหรือ?”  วิลเลียมพูดออกไปแบบนั้น แต่ในหัวใจของเขานั้นเข้าใจทะลุปรุโปร่งราวกับมองผ่านกระจกใส  พันธมิตรอิสระกำลังทิ้งเส้นทางหลบหนีของพวกเขา

แน่นอนอยู่แล้ว พวกเขาได้วางแผนที่จะดูดกลืนเมืองแห่งรุ่งอรุณ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อาณาจักรเหล็กกำลังเตรียมการสำหรับสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนเร็วๆ นี้

มันแทบจะพูดได้ว่าถ้าพวกเขาให้อาณาจักรเหล็กสร้างป้อมปราการทางทหารที่แข็งแกร่งขึ้นที่นี่ โอกาสที่จะเกิดสงครามก็จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้มันยังเป็นการง่ายต่อการที่จะแทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรลาวาดำ นอกจากนี้พวกเขายังสามารถกำจัดเมืองแห่งรุ่งอรุณได้อย่างง่ายดายเมื่อพวกเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเมืองนี้ต่อเพราะเมืองก็จะสูญเสียปราการตามธรรมชาติไปแล้ว

แต่แผนการฆ่านกสามตัวด้วยหินลูกเดียวนี้ขึ้นอยู่กับว่าวิลเลียมจะให้โอกาสในการสร้างป้อมปราการทางการทหารหรือไม่

เมื่อออกัสตินได้ยินสิ่งที่วิลเลียมพูด เขาก็รู้ว่าความน่าจะเป็นในการเกิดสงครามระหว่างทั้งสองอาณาจักรเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้เกือบหมด  เขาจึงหยิบหัวข้อนี้ขึ้นมาและพูดต่อ “เรากำลังวางแผนที่จะทำเช่นนั้น แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามขึ้นนั้นไม่สูงนัก ที่สุดแล้วเป้าหมายของอาณาจักรเหล็กก็คือความสงบสุขและเสรีภาพ”

“ถ้าเกิดเรื่องเกินเลยขึ้นกับอาณาจักรลาวาดำ เมื่อจบสงคราม อาณาจักรเหล็กก็ยินดีที่จะมอบสมบัติที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับดินแดนที่เราได้รับให้กับท่าน”

“ที่สุดแล้ว เราก็มองเห็นว่าท่านไม่ได้วางแผนที่จะโจมตีอาณาจักรมนุษย์”

ออกัสตินพูดได้ดี แต่เขาไม่ได้รักษาความคาดหวังใดๆ  ลอร์ดวิลเลียมกำลังพัฒนาและขยายเมืองแห่งรุ่งอรุณอย่างต่อเนื่อง  เขาจะไม่เชื่อการใส่ร้ายนี้ตราบเท่าที่เขาไม่ได้โง่  ถ้าเขาอนุญาตให้พวกเขาสร้างป้อมปราการทางทหาร มันก็เหมือนกับคนเลี้ยงแกะที่ปล่อยแกะของเขาไว้ข้างถ้ำหมาป่า

พันธมิตรอิสระยังแข็งแกร่งไม่พอ  พวกเขาเพิ่งได้ควบคุมอาณาจักรเมื่อหนึ่งเดือนก่อน  เท่านั้น สถานการณ์ปัจจุบันภายในอาณาจักรซับซ้อนมาก  ขุนนางบางคนไม่ต้องการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเพื่อ "กษัตริย์" ของพวกเขา  สถานการณ์นี้ไม่ใช่อะไรที่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย

ถ้าพวกเขาไม่ระวัง พวกเขาจะต้องประสบกับความตกต่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องผลักดันแผนการนี้สำหรับเส้นทางหลบหนี

แต่ด้วยอำนาจของเมืองแห่งรุ่งอรุณในปัจจุบัน มันเป็นหลักฐานว่าพวกเขาได้ปฏิเสธเส้นทางหลบหนีของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดคิดว่าประโยคถัดไปของวิลเลียมจะเติมเต็มความหวังอันไร้สิ้นสุดของเขา!

“เจ้าสามารถสร้างป้อมปราการทางการทหารได้!”

ในตอนนี้

วิลเลียมหันหลังกลับมา ดวงตาของเขาฉายแววความโลภ แม้จะมีความขัดแย้งอยู่บนสีหน้าของเขา แต่ก็มีความแน่วแน่ที่มาจากการตัดสินใจนี้อยู่ เขาพูดด้วยเสียงที่แหบพร่า “แต่เราต้องการทาส 50,000 คน เราไม่ต้องการคนแก่ นำทาสมาให้เราเท่าๆ กันทั้งสองเพศ มันจะดีมากถ้าพวกเขาเป็นมืออาชีพที่เคยก่ออาชญากรรม  เจ้าสามารถนำคนเหล่านั้นมาให้เรา”

“เรายังต้องการเหรียญทอง 100,000 เหรียญ, ธัญพืช 1.2 ล้านกิโลกรัม, วัว 1,000 ตัว, แกะ 3,000 ตัว, เช่นเดียวกับไก่ 10,000 ตัว, เป็ด, และห่านตามลำดับ ถ้าเจ้าทำตามทั้งหมดนี้ไม่ได้ก็ลืมมันไปซะ!”

ออกัสตินแทบไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

เขาได้รับอำนาจบางส่วนมา แม้ว่าคำขอของวิลเลียมจะมากเกิน เขาก็เชื่อว่าเมืองแห่งรุ่งอรุณในตอนนี้ยังไม่กล้าพอที่จะตลบหลังอาณาจักรเหล็ก ความแตกต่างในเรื่องพลังการต่อสู้ของพวกเขามีมากเกินไป  นอกจากนี้... นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากอีกด้วย!

เขายืนขึ้นและตอบทันที “ข้าให้สัญญาทั้งหมดนั่นกับท่านได้ ท่านลอร์ด แต่ข้าหวังว่าท่านจะไม่กลับคำพูดของท่าน!”

“เจ้าตกลง?” วิลเลียมดูช็อค เขาดูเหมือนกับว่าเขาฟังผิดไป แต่ก็ดูโล่งใจเช่นกัน แม้จะมีความเสียดายเจืออยู่บนใบหน้าของเขาราวกับว่าเขาขอน้อยเกินไปเสียหน่อย

แต่เมื่อออกัสตินเห็น เขาก็ยิ้มออกมา ท่านลอร์ดเป็นคนโลภสินะ…

ดังนั้นมันจึงง่ายต่อการที่จะสนทนากับเขา

เขาไม่กลัวว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่ง

เขากลัวแค่ว่าศัตรูของเขานั้นไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ให้

“หึๆ เขาต้องการทาสจำนวนมากโขเลย กล้ามากจริงๆ” ออกัสตินหัวเราะอย่างมีความสุข

“หึๆ ถ้าเจ้าไม่ได้สวมชุดเกราะใดๆอยู่และไม่ให้ความร่วมมือ เราคงจะคิดสังหารเจ้า” วิลเลียมเองก็หัวเราะกลับอย่างมีความสุข

จนถึงตอนนี้

เมืองแห่งรุ่งอรุณเจอสายลับไปแค่คนเดียวเท่านั้น

นั่นคือสายลับที่วิลเลียมทรมานไป

ทุกๆ คนรู้สึกว่าพวกเขานั้นซ่อนตัวอย่างดีอยู่

แต่พวกเขาไม่รู้

เพียงแค่การมองโดยใช้หน้าต่างสถานะ พวกเขาก็จะถูกเปิดเผยทันที  สีเหลืองหรือสีแดงก็ตาม ตราบใดที่ค่าสถานะไม่เป็นสีเขียว ทุกคนจะถูกมองว่าเป็นสายลับ!

เป็นเพราะทักษะที่แม่นยำนี้ เขาจึงไม่กลัวสายลับ  แม้ว่าทหารจำนวนมากจะปกปิดตัวเองท่ามกลางทาส 50,000 คนและกำลังรอโอกาสที่จะร่วมมือกัน สิ่งที่เขาต้องทำก็คือใช้คนในของเขา

และพวกที่ไม่ภักดีกับเขาทั้งหมดก็จะต้องถูกฆ่า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด