บทที่ 238 ข้าจะ...เจ้า 3 (3)
บทที่ 238 ข้าจะ...เจ้า 3 (3)
พื้นใต้เท้าของเธอเริ่มสะเทือนแรงขึ้น
เสื้อคลุมของสมาชิกในกองกำลังนักเวทย์ก็สะบัดแรงขึ้นเรื่อยๆ นักเวทย์ทั้งหมดต่างยืนล้อมเป็นวงกลมรอบๆหินมนตราระดับสูงสุดพร้อมทั้งยื่นมือออกมาด้านหน้าแบบเดียวกับโรสลิน
พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์ที่ผันผวนอยู่ในอากาศ
โรสลินเตรียมร่ายคาถาเพื่อทำลายปีกของหมีทั้งหมดที่กำลังกรูข้ามฝั่งมา
‘ครึ่งหนึ่ง! ข้าจะฆ่าพวกมันให้ได้สักครึ่งหนึ่งก่อนที่พวกมันจะเหาะข้ามฝั่งมาได้’
“สอง!”
‘ข้าต้องร่ายคาถาเพื่อทำลายพวกมัน ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เผ่าเสือทั้งหมดปลอดภัย’
โรสลินหันไปสบตากับการ์ชาน
กา!กา!กา!กา!กา!กา!
อีการวมกลุ่มเพื่อสร้างเส้นทางขนาดย่อมๆ เส้นทางที่ดูเหมือนสะพานสีดำนี้จะทำให้เวทย์โจมตีเล็งเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น เส้นทาง 3 เส้นสำหรับกองกำลังนักเวทย์และเส้นทางที่ 4 สำหรับโรสลิน อีกากำลังสร้างเส้นทางทั้งหมดสี่เส้นทาง
พวกเขามองเห็นเผ่าหมีที่ทยอยเหาะข้ามฝั่งมา
‘เราต้องโจมตีเผ่าหมีที่เหาะข้ามฝั่งก่อน..จากนั้นค่อยทำลายหรือไม่ก็หยุดระเบิดพลังเวทย์ให้ได้’
แม้ว่ามันจะทำให้ร่างกายของโรสลินตึงเครียดแต่เธอก็วางแผนที่จะใช้เวทย์โจมตีที่มีพลังทำลายล้างสูงจำนวนหลายครั้งติดต่อกัน เพราะมีหินมนตราระดับสูงเป็นจำนวนมากเธอจึงคิดที่จะหยุดหรือไม่ก็ทำลายระเบิดพลังเวทย์พวกนั้นต่อให้เธอจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม
เธอต้องทำให้มันหยุดเคลื่อนไหวหรือไม่ก็ปล่อยให้มันระเบิดยังฝั่งของศัตรู
เธอเม้มปากแน่น
‘ด้วยขนาดและจำนวนของมัน ไม่แน่ว่าฝั่งของเราก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน’
ความแรงของระเบิดอาจสะเทือนมาถึงฝั่งของอาณาจักรเบร็คแต่มันก็ยังดีกว่าให้ระเบิดพวกนั้นข้ามฝั่งมาและระเบิดใส่อาณาจักรเบร็คได้ทั้งหมด
เธอเตรียมขานหมายเลขสุดท้าย
หนึ่ง
การโจมตีจะเริ่มขึ้นทันทีหากเธอพูดคำนี้ออกไป
“หนึ่---”
“ท่านโรสลิน”
เสียงของใครบางคนหยุดเธอไว้ก่อนจะได้พูดจบ เธอหันไปมองคาร์ลและคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง
พรึ่บ!!
ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเหาะขึ้นไปบนอากาศ ผมสีฟ้าราวกับสีของมหาสมุทรกำลังพัดกระพือไปกับสายลม แส้น้ำขนาดใหญ่ก็ตัดผ่านอากาศเช่นกัน
เพี๊ยะ!!
“เฮ้ย!?”
“หลบ! พวกมันคือเผ่าวาฬ!”
หมีที่กำลังเหาะข้ามฝั่งรีบหลบแส้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามแส้ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่หมีพวกนั้น แส้น้ำขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนสายฟ้านี้กำลังฟาดไปยังหน้าผาอีกฝั่งของหุบเขาแห่งความตาย
เปรี้ยง!
เสียงถล่มของหน้าผาดังก้องไปทั่วบริเวณ มันเป็นตำแหน่งเดียวกับที่แส้น้ำฟาดลงไป
เพียงครู่เดียวแส้น้ำนั้นก็หายไป ก่อนที่หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของแส้จะสะบัดแส้ไปเกี่ยวไว้ตรงจุดที่แข็งแรงและดึงร่างของตัวเองไปยังอีกฝั่งของหุบเขา
วิเทียร์เป็นคนแรกที่ข้ามไปยังฝั่งของศัตรู
เธอหยิบแส้น้ำกลับขึ้นมาและแยกมันออกจากกัน
ฟรึ่บ!
แส้ถูกวิเทียร์แบ่งออกเป็นสองส่วน มือแต่ละข้างของเธอก็เริ่มขยับให้ชินกับแส้น้ำทั้งสองเส้น
โรสลินเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะเริ่มพูดสิ่งที่ตัวเองค้างเอาไว้
หนึ่ง
เสียงของเผ่าหมีดังก้องไปทั่วบริเวณก่อนที่เธอจะทันได้ออกคำสั่งสุดท้าย
“บ้าเอ้ย! แบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไปจัดการเผ่าวาฬ ส่วนอีกครึ่งให้ทำตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ เร็วเข้า!”
หลังจากออกคำสั่งเสร็จ หัวหน้าหมีก็เร่งความเร็วเพื่อเหาะข้ามมายังฝั่งของอาณาจักรเบร็คทันที ภาพของหมีที่พุ่งตรงมาข้างหน้าราวกับลูกธนูนั้นชวนให้ขนหัวลุกอยู่ไม่น้อย
“ท่านโรสลิน”
แน่นอนว่าโรสลินไม่สามารถพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ เธอหันไปมองคาร์ลที่เอ่ยเรียกเธออีกครั้ง มันเป็นช่วงเวลาที่เผ่าหมีอยู่ห่างจากกองกำลังอาณาจักรเบร็คประมาณ 10 เมตร คนจากอาณาจักรเบร็คต่างสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่คนจากอาณาจักรโรมันต่างพุ่งสายไปที่คนๆเดียว
คาร์ลผู้ได้รับสายตาจากชาวอาณาจักรโรมันกำลังมีแสงสีเงินแผ่ออกจากมือของเขา ในเวลาเดียวกันก็เกิดเสียงดังกึกก้องทั้งสองฝั่งของหุบเขาแห่งความตาย
บู้มมมมมมมมม!!!!
โล่เงินปรากฏตัวขึ้นและกระแทกใส่ร่างของเผ่าหมีทันที
“อึ่ก..”
เลือดเริ่มไหลออกจากปากคาร์ล โรสลินไม่เข้าใจว่าทำไมคาร์ลถึงเลือกปกป้องเธอ
ปั้ง!!!!ปั้ง!!!!ปั้ง!!!!
ร่างของหมียังคงกระแทกกับโล่เงินอย่างต่อเนื่อง
โรสลินเริ่มพูด
“…นายน้อยคาร์ล ตอนนี้ท่านไม่มีราอน”
พลังที่คอยส่งเข้ามาช่วยเหลือโล่เงินของคาร์ลนั้น แน่นอนว่าโรสลินรู้ว่าคือฝีมือของราอน ดวงตาของโรสลินอดที่จะสั่นเทาไม่ได้เมื่อตระหนักได้ว่าคาร์ลใช้โล่เงินโดยที่ไม่ราอนคอยช่วยเหลือ เธอเอ่ยขึ้นด้วยความร้อนใจ
“ข้าแค่จะใช้เวทย์โจมตีเพื่อป้องกันไม่ให้หมีข้ามฝั่งมาและหาทางหยุดระเบิดพลังเวทย์นั่นให้ได้! เราน่าจะทำสำเร็จเพราะเรามีเผ่าวาฬและเผ่าเสือ!”
โรสลินมองเห็นรอยยิ้มของคาร์ลทันทีที่เธอพูดจบ แม้ว่าเขาจะยิ้มแต่แววตาของเขาดูเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง
“ท่านโรสลิน ข้าจะพูดให้สั้นที่สุด”
แค่ก!
เลือดสีดำไหลออกมาจากปากคาร์ลอีกครั้ง นั่นทำให้ใบหน้าของคาร์ลซีดเผือดขึ้น อย่างไรก็ตามไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งนี้เพราะความเหนื่อยล้าและความกังวลทำให้พวกเขาไม่มีเวลามาสนใจสีหน้าของผู้อื่น
“เผ่าวาฬจะไม่ขวางระเบิดพวกนั้น เผ่าเสือก็จะไม่ทำเช่นกัน”
“จะทำอย่างนั้น--”
‘ไม่ขวางมันไว้? พวกเขาจะไม่หยุดระเบิดพลังเวทย์งั้นรึ?’
“ท่านโรสลิน ข้าขอให้ท่านและกองกำลังนักเวทย์อีกครึ่งหนึ่งโจมตีรถปืนใหญ่ที่บรรทุกระเบิดพลังเวทย์นั่นซะ..ส่วนกองกำลังนักเวทย์อีกครึ่งหนึ่งให้สร้างโล่ป้องกันและเตรียมถอยไปตั้งหลักให้ไกลที่สุด”
“…เท่ากับว่าเรากำลังจะจุดชนวนระเบิดงั้นรึ? ระเบิดจำนวนหลายสิบลูกกำลังจะระเบิดขึ้น!”
ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน เผ่าหมีก็ยังคงกระแทกร่างใส่โล่เงินเป็นระยะๆ โรสลินยังคงพูดต่อเมื่อเห็นท่าทางใจเย็นและความมั่นใจในแววตาของคาร์ล
กองกำลังนักเวทย์กำลังรอคำสั่งจากเธออยู่
“ถ้าระเบิดถูกจุดชนวน การสร้างสะพานที่พวกมันหวังเอาไว้ก็จะสำเร็จอย่างแน่นอน! ทหารของศัตรูจะใช้เศษซากที่ถล่มลงเป็นสะพานข้ามฝั่งมาหาเรา! ฝั่งเราจะต้องมีคนตายเป็นจำนวนมากเพราะศัตรูมีจำนวนที่มากกว่าเรา!”
“ศัตรูจะไม่สามารถข้ามมาได้”
“อะไรนะ?”
คาร์ลหันไปตรวจดูให้แน่ใจว่าล็อกและราอนยังอยู่ข้างหลัง จากนั้นเขาก็กระอักเป็นเลือดอีกครั้ง เขารู้สึกดีขึ้นมากจากการกระอักเลือดออกมาแต่ละครั้ง เขากำลังแต้มรอยยิ้มให้เหมือนกับที่ราอนเคยทักว่า ‘มนุษย์..ทำไมเจ้าถึงยิ้มแบบนั้นล่ะ?’ เขาปัดความคิดที่ว่าราอนไม่ได้เอ่ยทักประโยคนี้เข้ามาในหัวออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาเริ่มเปิดปากพูด
เขารอจังหวะที่หุบเขากำลังสั่นสะเทือน
ศัตรูจะต้องพบกับความคลั่งของบางอย่าง
“มังกรคลั่งกำลังจะลุกโชนขึ้น”
“อ่า...”
โรสลินอ้าปากค้าง เธอแทบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาคาร์ลได้ให้เผ่าเสือติดตั้งพวกมันเอาไว้ทั่วหุบเขา
มันเป็นเสาเพลิงขนาดใหญ่ที่ลุกโชนจนแทบถึงแดนสวรรค์
มันเป็นเสาเพลิงที่สูงชันกว่าที่หอระฆังเล่นแร่แปรธาตุสร้างขึ้นมาหลายเท่า เสาเพลิงที่อูฮาเบ็นสร้างขึ้นกำลังหลับใหลอยู่ในหุบเขาแห่งความตาย
“เรามาหลอกล่อศัตรูกันเถอะ”
รอยยิ้มของคาร์ลฝังอยู่ในดวงตาของโรสลิน