ตอนที่ 49 กองทัพบุก! (ฟรี)
"อะไรนะ?"
ลู่เฟิง,เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ที่อยู่ในห้องศึกษาของจักรพรรดิต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของนายกองสิบที่อยู่ด้านนอกห้อง
อาณาจักรซีหยาง เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรหนานหยานเสมอมา ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ จักรพรรดิแห่งอาณาจักรซีหยางกระทั่งต้องการจัดงานแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างบุตรสาวของเขากับลู่เฟิง แต่เพราะ โฒ่เต๋า และ ราชาเมกาทรอน ไม่ได้ตอบรับ
แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองประเทศก็ยังคงเป็นมิตรที่ดีต่อกัน มาตอนนี้ อาณาจักรซีหยางกลับยกกองทัพกว่าหนึ่งล้านคนบุกโจมตีอาณาจักรหนานหยาน นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
"ปล่อยเขาเข้ามา!"ลู่เฟิงได้ตะโกนออกไปนอกห้องศึกษาของจักรพรรดิ
เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ตอนนี้อำนาจของราชสำนักยังไม่มีความเสถียร แต่เขากลับต้องมารับศึกใหญ่ที่กำลังเข้ามาประชั้นชิดขนาดนี้
เขารู้สึกกระวนกระวายใจจริง ๆ
"ฝ่าบาท!"เมื่อเห็น ลู่เฟิง ลุกลี้ลุกลน เจี๋ยสวี่ ได้ร้องเตือนเขา
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก และ พยายามกดหัวใจที่ตื่นเต้นเหล่านั้นลง
ฉันเป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยาน ถ้าฉันตื่นตระหนกแล้วคนข้างล่างล่ะ ? ผู้คนหลายร้อยล้านในอาณาจักรหนานล่ะ ?
ฟู่วว
ลู่เฟิง ได้จ้องมองไปที่ เจี๋ยสวี่ และตอบกลับ"เหวินเหอ ข้าไม่เป็นไร!"
เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ได้ลอบพยักหน้าในใจ การที่ฝ่าบาทสามารถปรับอารมณ์ให้คงที่ได้รวดเร็วเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี
ไม่นานนายกองสิบที่อยู่นอกห้องศึกษาของจักรพรรดิก็เดินเข้ามาพร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้น
"บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นกับมณฑลจงซาน?"ลู่เฟิง กล่าวถามด้วยเสียงทุ้ม
"ฝ่าบาทเมื่อสามวันก่อน ท่านอ๋องแห่งมณฑลจงซาน ได้ออกไปลาดตระเวณที่ชายแดนและบังเอิญไปพบกับการเคลื่อนไหวของกองทัพอาณาจักรซีหยาง มีจำนวนทัพมากกว่าหนึ่งล้านคน แต่ทว่าทัพหน้าของพวกเขาจำนวนกว่า 300,000 นาย ได้มาถึงเมืองว่านเหอในมณฑลจงซาน ท่านอ๋องได้เกณฑ์ผู้พิทักษ์เมืองไปหนึ่งแสนคนและสู้โดยไม่ถอยตอนนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80,000 คน ส่วน ท่านอ๋องเขา..."
นายกองสิบได้ร้องห่มร้องไห้ออกมาอย่างรุนแรง
สีหน้าของลู่เฟิงกลายเป็นน่าเกลีดเขาได้กล่าวพูดอย่างเคร่งขรึม"เจ้าจะร้องไห้ทำไม มณฑลจงซาน ของอาณาจักรหนานหยาน ยังไม่ถูกทำลาย กองทัพของศัตรูยังไม่ได้บุกเข้าไปในมณฑลจงซานแล้วเจ้าจะร้องไห้ทำไม?"
"ฝ่าบาท มีลูกศรร้อยสามสิบดอกปักอยู่บนตัวของท่านอ๋องเขา...เขา...อึก..."
นายกองสิบคนนี้ได้ร้องไห้อีกครั้ง
อ๋องแห่งมณฑลจงซานได้ตายแล้ว!
ลู่เฟิงได้สูดลมหายใจเข้าลึกและกำหมัดแน่น
เขามีความประทับใจในตัวของอ๋องแห่งมณฑลจงซาน เขาเป็นเพียงคนเดียวในบรรดาอ๋องทั้งหมดที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์และจักรพรรดิไม่ว่า โม่เต๋า จะเสนอ ผลประโยชน์ให้มากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยหวั่นไหว
แต่ตอนนี้เขาตายแล้ว!
"ฝ่าบาทได้โปรดส่งกองกำลังไปช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในมณฑลจงซานด้วยเถิด!"นายกองสิบได้คุกเข่าลงบนพื้นและกล่าวพูดด้วยท่าทีเจ็บปวด
"ข้าเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้วตอนนี้เจ้าออกไปได้"
"ขอรับ"
หลังจากที่ลู่เฟิงให้คนมาพาตัวนายกองสิบคนนี้ออกไปเขาก็จ้องมองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ด้วยเสียงที่นุ่มลึก"พวกเจ้ามีข้อคิดเห็นอย่างไร ตอนนี้ อาณาจักรซีหยาง กำลังประกาศสงครามกับอาณาจักรหนานหยานของเราไม่ผิดแน่!"
ลู่เฟิง รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก สำหรับเขา อาณาเขตเป็นมากกว่าทุกสิ่ง!
นอกจากนี้ยังมีผู้คน!
ดินแดนอาจจะสูญเสียได้!
แต่ผู้คนล่ะ!
เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ได้มองหน้ากัน พวกเขาต่างก็เห็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวของกันและกัน
พวกเขาทั้งสองคิดจะให้ ลู่เฟิง ยอมถอยเป็นการชั่วคราว และปล่อยมณฑลจงซานไป เพื่อรอพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างลับ ๆ จากนั้นค่อยตอบโต้ อาณาจักรซีหยาง
แต่ดูเหมือนตอนนี้ ลู่เฟิง จะไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น
ด้วยความลังเลใจ เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ"ฝ่าบาท ด้วยจำนวนทหารที่เรามีทั้งหมดตอนนี้มีน้อยกว่า 300,000 นาย และสามารถสั่งการรบได้เพียง 200,000 นายเท่านั้น เราจะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ!"
"อย่างช้าที่สุดวันพรุ่งนี้ทหารจะต้องถูกส่งออกไป!"ลู่เฟิง ได้กล่าวพูดออกมา
เขารู้ว่าเขาร้อนรนใจ แต่มณฑลจงซานไม่สามารถรอได้ ในสามวันมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80,000 คน เหลือเพียง 20,000 คน พวกเขาจะสามารถต้านได้นานแค่ไหน ? ดังนั้นกองทหารจะต้องถูกส่งออกไปโดยเร็วที่สุด
"นี่..."
การส่งทหารออกไปไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ลู่เฟิง ได้ตัดสินใจไปแล้วพวกเขาจะพูดอะไรได้อีก
"ฝ่าบาทถ้าเป็นอย่างนี้พวกเราต้องวางแผนการรบให้ดีไม่อย่างนั้นด้วยจำนวนของพวกเราคงไม่มีทางชนะศึกได้แน่"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
"เจ้ามีแผนหรือไม่?"
"ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเราจะต้องทราบจำนวนทหารที่อาณาจักรซีหยางส่งออกมาไม่ว่าจะหนึ่งล้านหรือมากกว่านั้นเรื่องนี้สำคัญมาก!"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
"ข้าให้เวลาเจ้าสามวันในการตรวจสอบ!"ลู่เฟิงได้กล่าวสั่งการ
"ขอรับ ข้าน้อยจะตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน!"แม้ว่าเวลาจะกระชั้นชิด แต่ เจี๋ยสวี่ ก็รู้ว่า มณฑลจงซาน เหลือ เวลา น้อยกว่ามาก
"นอกจากนี้ อาณาจักรหนานหยานของเรา ไม่มีทหารม้า พวกเรามีม้าที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ปัญหาก็คือการขาดแคลนเสบียงและหญ้าแห้งสำหรับเดินทัพ!"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดสักพักจากนั้นก็มองไปที่ซุนฮก"ข้าจะให้อำนาจสั่งการแก่เจ้า รวมทั้งองค์รักษ์อาณาจักร 30,000 นาย และ ทหารองค์รักษ์อีก 5,000 นาย ข้าจะต้องมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแขลนเสบียงและหญ้าแห้งในการเดินทัพ"
ซุนฮกได้ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะตอบกลับ"เหวินยื่อ ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"
"ดีมาก!"
ลู่เฟิง ได้จ้องมองไปที่ เจี๋ยสวี่ อีกครั้ง"เรื่องเสบียงและหญ้าแห้งได้รับการแก้ไขแล้วปัญหาต่อไปคืออะไร?"
แม้ว่า เจี๋ยสวี่ จะสงสัยว่าทำไม ฝ่าบาท ถึงได้เชื่อใจเด็กหนุ่ม ซุนฮก ที่เพิ่งเข้ามาว่าจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องเสบียงได้ เขาก็ไม่ได้ถามต่อแต่ตอบกลับ"ที่เหลือก็คือแผนการรบแต่เรื่องนี้จำเป็นจะต้องมีแม่ทัพเกาเข้าร่วมด้วย"
"ตามเกาชุนมาพบข้า!"
"ท่านแม่ทัพเกาได้ออกเดินทางในวันนี้ไปเพื่อรับสมัครทหารใหม่ในมณฑลหลินซาน!"องค์รักษ์คนนึงได้กล่าวรายงานข้าง ๆ เขา
"งั้นให้กองทหารจินยี่เหว่ยแจ้งว่าเขาจะต้องกลับมาหาข้าภายในสามชั่วโมง!"
"ขอรับ!"
"นอกเหนือจากแผนการรบแล้วยังมีสิ่งใดอีกหรือไม่?"
"ฝ่าบาทสิ่งที่เหลือก็คือความเห็นของข้าราชบริพาร!"
เจี๋ยสวี่ ได้ยิ้มอย่างขมขื่นและจ้องมองไปที่ลู่เฟิง"ฝ่าบาท ถ้าให้ข้าเดา เหล่าข้าราชบริพารระดับสูงที่จะตกลงพร้อมสู้นั้นย่อมมีไม่เกินสิบคนนั่นคือส่วนที่รวมข้าน้อยและท่านเสนาบดีซุนแล้ว"
ลู่เฟิง ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย"แจ้งข้าราชบริพารระดับสูงทุกคน ภายในครึ่งชั่วโมงให้ไปรวมตัวกันที่ห้องโถงเจิ้งหลง!"
"ขอรับ!"
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ภายในห้องโถงเจิ้งหลง เหล่าข้าราชบริพารระดับสูงก็เดินทางมาถึง
พวกเขามองไปที่ ลู่เฟิง ซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรด้วยสีหน้าที่เเปลกประหลาด พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ฝ่าบาทถึงเรียกประชุมด่วนเร็วขนาดนี้
ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ ข้าราชบริพารด้านล่างและกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ข้าได้รับรายงานว่ามีกองทัพหนึ่งล้านคนของอาณาจักรซีหยางบุกโจมตีอยู่ที่ชายแดนมลฑลจงซานพวกเจ้า..."
"อะไรนะ กองทัพนับล้านของอาณาจักรซีหยางบุกมาถึงชายแดนแล้วข้าจะทำยังไงดี?"
"มันจบแล้ว กองทัพของอาณาจักรซีหยาง นั้นมีประสิทธิภาพในการรบที่ไม่ธรรมดาพวกเราจะเป็นคู่ต่อสู้ได้ยังไง!"
"ฝ่าบาท พวกเราควรยอมแพ้ต่อมณฑลจงซาน และ ส่งมอบของขวัญเล็กน้อยให้กับอาณาจักรซีหยางเพื่อให้พวกเขาหยุดอยู่แค่นนั้น!"
ลู่เฟิงไม่ทันได้พูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงข้าราชบริพารจำนวนมากต่างถกเถียงกันทำให้ใบหน้าของเขาเริ่มน่าเกลียดมากกว่าเดิม คนเหล่านี้ ต้องการให้เขายอมแพ้ต่อมณฑลจงซาน ทั้งยังมอบของขวัญให้กับศัตรูอีก นี่คือสิ่งที่ข้าราชบริพารของอาณาจักรควรจะพูดหรือไม่?
"ตูม!"
ลู่เฟิงได้ตบลงบนบัลลังก์มังกรและจ้องมองไปที่ข้าราชบริพารเหล่านี้"กองทัพหนึ่งล้านของอาณาจักรซีหยางอยู่ที่ชายแดนของมณฑลจงซาน ในฐานะข้าราชบริพารของอาณาจักรเหตุใดพวกเจ้าถึงได้ตื่นตระหนกกันแบบนี้?"
เมื่อเห็นโทสะของลู่เฟิงบรรดาข้าราชบริพารต่างก็ตัวสั่นกันทั้งหมด
สูดด!
ลู่เฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึกและจ้องมองไปที่ข้าราชบริพารเหล่านี้"ข้าต้องการถามความเห็นของพวกเจ้าถึงวิธีการแก้ปัญหา!"