ตอนที่ 28 ชนวนเหตุเริ่มด้วยขนมปัง
ตอนที่ 28 ชนวนเหตุเริ่มด้วยขนมปัง
.
ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้าและแสงแดดสีแดงที่ส่องประกายระยิบระยับบนผิวน้ำทะเลทำให้เกิดภาพที่สวยงามวิจิตรตระการตา หวังเสียนผุดขึ้นมาจากในทะเลด้วยร่างเปลือยของเขา
ชื่อ: หวังเสียน
เผ่าพันธ์: มนุษย์ (สามารถแปลงเป็นมังกรได้)
ระดับ: ขั้น 2
พลังงานมังกร: 753/10,000
ความสามารถพิเศษ: -ปกครองสัตว์น้ำ (สัตว์น้ำทุกชนิดที่ต่ำกว่าระดับความสามารถของคุณ)
-กลืนกินสิ่งมีชีวิต (เพื่อสกัดเปลี่ยนเป็นพลังงานมังกร)
ระบบการฝึกฝน(บ่มเพาะ): ราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์
"หลังจากทำงานหนักในค่ำคืนแห่งการกลืนกินฉันได้พลังงานมังกรเพิ่มเพียงแค่ 700 คะแนนเท่านั้น"
หวังเสียนขมวดคิ้ว เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาไม่ได้โชคดีมากเพราะเขาไม่ได้เจอฝูงปลาเหมือนที่เจอฝูงของปลาดาบ ดังนั้นเขาจึงสามารถเพิ่มพลังงานมังกรได้เพียง 700 คะแนนในค่ำคืนนี้
แต่ถึงจะเป็นคะแนนเพียงแค่นั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นมากกว่าเดิม รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ฉันแข็งแกร่งขึ้นและฉันไม่รู้สึกง่วงเลย แต่ฉันก็ยังคงหิวอยู่เหมือนเดิม”
หวังเสียนยังไม่สามารถอยู่รอดได้ถ้าปราศจากอาหารในขณะนี้ เขาว่ายน้ำไปที่ชายฝั่งสวมเสื้อผ้าและกระโดดขึ้นไปบนถนนได้อย่างง่ายดาย
หากมีใครที่เห็นฉากนี้ปากของพวกเขาคงจะอ้าค้างอย่างแน่นอน นี่เป็นเพราะหวังเสียนกระโดดขึ้นไปถึงสี่หรือห้าเมตรด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว!
โชคดีที่มีคนไม่มากในตอนเช้า
"เท่าที่จำได้น่าจะมีร้านที่ขายอาหารเช้าอยู่ข้างหน้า"
หวังเสียนมองไปรอบ ๆ และคิดกับตัวเอง มีรีสอร์ทตากอากาศติดชายทะเลอยู่ข้างหน้า ในช่วงฤดูร้อนแบบนี้มันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีมากหากสามารถใช้วันหยุดผักผ่อนอยู่ที่นี่ที่ได้
รีสอร์ทแห่งนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียอาหารและที่พักในนั้นค่อนข้างมีระดับ
และโดยปกติค่าใช้จ่ายก็จะสูงมากตามไปด้วยเช่นกัน
หลังจากผ่านประตูทางเข้าของซัมเมอร์ซันรีสอร์ต หวังเสียนมองไปที่ด้านหน้าเขาและพบร้านค้าแผงลอยริมถนนสองสามแห่ง มีคนจำนวนมากที่ทานอาหารเช้าอยู่รอบ ๆ
หวังเสียนเดินเข้ามาและเห็นแผงขายแพนเค้กทอด เขาถามโดยตรงว่า "เฮีย เอาชุดแพนเค้กราคาห้าเหรียญและก็ซุปหนึ่งชามให้ผมด้วย"
“ขอโทษทีหนุ่มน้อยของหมดแล้ว” เถ้าแก่เจ้าของร้านยิ้มตอบเขาอย่างสุภาพ
"หมดเร็วจัง" หวังเสียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ตอนนี้มันเกือบจะเก้าโมงเช้าแล้วนอกจากนี้เมื่อเร็วๆนี้ที่นี่ยังมีคนเข้ามาทำงานที่ริมทะเลมากเรื่อยๆ” เถ้าแก่อธิบาย
หวังเสียนพยักหน้ารับและมุ่งหน้าตรงไปที่แผงลอยอีกร้านที่อยู่ข้างๆ
หลังจากถามแผงลอยหลายแห่งก็ให้คำตอบคล้ายๆกันเขารู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อเจอกับสถานการณ์อย่างนี้
"พี่ชายคุณยังมีขนมปังเหลืออยู่บ้างไหม?" หวังเสียนมาถึงแผงขายขนมปังก้อนสุดท้ายแล้วถามเจ้าของร้าน
"ใช่เรามีชุดสุดท้ายพอดีนายโชคดีจริงๆน้องชาย !" เจ้าของร้านยิ้มให้เขา
"นั่นเยี่ยมมากเลยผมขอชุดขนมปังและก็ซุปเพิ่มชามหนึ่ง" หวังเสียนตอบก่อนเดินเข้ามาและนั่งลง
"เอาล่ะโปรดรอซักครู่" เจ้าของร้านตอบ
"แจ้งเตือนเงินโอนเข้าบัญชีแล้วค่ะ" หวังเสียนหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติ ทันใดนั้นเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
"ฮึฮึ..ฮ่าฮ่าฮ่า สิบล้าน มันคือเงินสิบล้าน เงินที่ฉันขายไข่มุกไปเมื่อวานนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า!" ….(¬_¬)....
ขอบปากของเขาโค้งขึ้นสูง
"ลูกพี่คุณยังมีขนมปังเหลืออยู่บ้างไหม?" ในขณะนั้นชายวัยกลางคนสองคนเดินเข้ามา
ชายวัยกลางคนนั้นค่อนข้างอวบอ้วนถามเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านวัยกลางคนมองดูชายทั้งสองคนก่อนจะตอบว่า "ขอโทษทีนะคุณลูกค้า น้องชายคนนั้นได้สั่งซื้อขนมปังชุดสุดท้ายไปแล้ว"
"เอ้า!..?" ชายอวบอ้วนส่งเสียง
"ลูกพี่คุณขายขนมปังชุดนั้นให้เราเถอะเราจะเสนอราคาที่ดีกว่าปกติอย่างแน่นอน"
ในขณะนั้นชายวัยกลางคนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆชายวัยกลางคนที่อวบอ้วนถามเจ้าของร้าน
"นี่ ...เอ่อ.. " เจ้าของร้านรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับความคิดนี้ เขาส่ายหัวแล้วตอบว่า "ไม่ได้หรอกมันไม่ถูกต้องเขามาสั่งมันก่อน"
"ทำไมไม่มีขนมปังเหลืออีกแล้วงั้นเหรอ?" ชายวัยกลางคนที่อวบอ้วนบ่นอย่างไม่มีความสุข
"ผู้อำนวยการหลี่มันไม่เป็นไรปล่อยให้ผมจัดการเอง" ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะประจบเอาใจ ชายคนที่อวบอ้วน เขารีบหันมองไปทางหวังเสียนผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านใน
เขาเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะและหยิบเงิน 100 เหรียญจากกระเป๋าของเขา
"เฮ้เพื่อน ๆ " ชายวัยกลางคนเดินมาอยู่ที่ข้างๆเขา หวังเสียนเงยหน้าขึ้นมองและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
"มีอะไรงั้นเหรอ?"
"เฮ้เพื่อนฉันอยากซื้อขนมปังชุดสุดท้ายนั้นกับนายฉันให้ราคา 100 เหรียญ!" ชายวัยกลางคนกล่าวขณะที่วางธนบัตรสีแดงไว้บนโต๊ะตรงหน้าหวังเสียน
หวังเสียนตกใจเล็กน้อย เมื่อมองดูธนบัตร 100 เขายังคงเงียบและยิ้มออกมา
การซื้อขนมปังชุดนี้ เขาต้องจ่ายเงินเพียงแปดหยวนเท่านั้น ถ้ามันเป็นเมื่อก่อนเขาจะเห็นด้วยทันทีและจะดีใจซะด้วยซ้ำ
นี่เป็นเพราะเขาไม่มีเงินในอดีต
แต่สำหรับตอนนี้เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวโหยเพียงแค่เงิน 100 หยวน
หวังเสียนส่ายหัวแล้วตอบว่า
"ขอโทษทีผมไม่ขาย"
ชายวัยกลางคนรู้สึกประหลาดใจ เขาขมวดคิ้วและหยิบธนบัตร 100 เหรียญออกมาจากกระเป๋าของเขา "200!"
"ผมไม่ขาย" หวังเสียนส่ายหัว
"ฮะ?" ชายวัยกลางคนไม่พอใจอย่างชัดเจน ณ จุดนี้ เขาหยิบธนบัตรเพิ่มอีก 100 และพูดเสียงดัง " 300 ฉันจะไม่เสนอเพิ่มมากกว่านี้อีกแล้ว!"
หวังเสียนเงยหน้าขึ้นมองสร้อยคอทองคำรอบคอของชายวัยกลางคน "ผมไม่ขายไม่ว่าคุณจะให้เพิ่มเท่าไหร่ก็ตาม"
"ไอ้...เด็กเวรนี่...เดี๋ยวบั๊ด..ตบทิ่ม.. "
ชายวัยกลางคนแสดงออกอย่างน่ากลัวเมื่อเขาได้ยินคำตอบของหวังเสียน
"มิสเตอร์เหว่ยทำไมช้านัก?" ผู้กำกับลี่เดินเข้าไปที่โต๊ะและถามชายวัยกลางคนด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
"ไม่มีอะไรผู้อำนวยการลี่ผมเสนอเงินจำนวนมากให้เขา แต่เขาไม่ยอมขาย" วัยกลางคนหันหน้ามาอธิบาย
อย่างอายๆ
"พื้นที่นี้ดูแลโดย จาง เฉียนหยวน
ใช่ไหม" ผู้อำนวยการหลี่พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาขณะมองดูหวังเสียน เขาพบว่าหวังเสียนดูคุ้นหน้าเล็กน้อย
"ขอโทษที่ช้านะน้องชาย"
ขณะนั้นเจ้าของร้านถือถาดชุดขนมปังพร้อมซุปเข้ามาพอดี
เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินสิ่งที่ผู้อำนวยการหลี่พูดเขาก็เข้าใจความหมายทันที เขามองไปที่เจ้าของร้านและพูดอย่างเยือกเย็นว่า
"คุณเจ้าของร้านพื้นที่นี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของ จาง เฉียนหยวน ใช่ไหมคุณต้องการให้ฉันโทรหา จาง เฉียนหยวน หรือไม่"
เจ้าของร้านตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเขาได้ยินชื่อของ "จาง เฉียนหยวน" เขาถามอย่างประหม่าทันที "มีอะไรที่ผมสามารถช่วยพวกคุณได้ไหม"
“ผู้อำนวยการหลี่ของเรายังไม่ได้กินอาหารเช้า” ชายวัยกลางคนตอบก่อนที่จะมองผู้อำนวยการลี่ที่อยู่ข้างเขา "ผู้อำนวยการหลี่โปรดนั่งที่นี่ก่อน"
"อืม" ผู้อำนวยการหลี่พยักหน้าแล้วนั่งในที่นั่งทางด้านขวาของหวังเสียน
"นี่ ... " เจ้าของร้านทำอะไรไม่ถูก
จาง เฉียนหยวน เป็นผู้ดูแลถนนสายนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่นี้สิ่งต่างๆมักได้รับการแก้ไขโดยเขา ทุกคนที่ต้องการตั้งแผงขายของที่นี่ต้องส่งค่าคุ้มครองมาให้เขา แม้ว่าสถานที่นี้อาจจะไม่ใช่ย่านเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจที่นี่ก็ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานที่ที่ดีในการทำธุรกิจสำหรับเขาและทำให้เขาเลี้ยงดูครอบครัวทั้งหมดของเขาได้
ชายวัยกลางคนสองคนไม่ได้แต่งตัวเหมือนคนธรรมดาทั่วไปและเขามาด้วยรถยนต์หรูซึ่งจอดอยู่ด้านนอก
การที่พวกเขาสามารถเรียกชื่อของจาง เฉียนหยวน แบบปกติได้แสดงว่าพวกเขาควรมีความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี
"นี่ ... น้องชาย" เจ้าของร้านกลัวที่จะทำผิดกับอีกฝ่าย เขาหันไปหาหวังเสียนด้วยสีหน้ารู้สึกผิด "น้องชายนี่ ... ฉันขอโทษนะ..ขนมปังชุดนี้ให้กับ..เจ้านายคนนี้เถอะนะ..ฉันมีชุดข้าวเช้า..ฉันจะเลี้ยงข้าวเช้า..ให้คุณฟรีๆ..ฉันขอโทษทีนะ.."
หวังเซียนเห็นท่าทางของเจ้าของร้านเขามีท่าทีที่จนใจและสำนึกผิด เจ้าของร้านกลัวอิทธิพลของทั้งสองคนนี้ อย่างชัดเจนและเขาต้องการจะมอบขนมปังของหวังเสียนให้กับทั้งสองคนนั้น
เขาไม่ตำหนิเจ้าของร้าน แต่เขามองที่ชายวัยกลางคนและชายอีกคนที่ชื่อนายหลี่
เขารู้จักนายหลี่คนนี้ ซึ่งนายหลี่คนนี้นั้นเป็นเจ้าของร้านอาหารทะเล
ศาลาสวนอาหาร ยี่ปิง ที่กวนชูชิงเคยทำงาน และถูกไล่ออกเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของปลามังกร
สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับนายหลี่
หวังเสียนก็ไม่ได้มีความประทับใจในตัวเขาเลยหน่ำซ้ำยังค่อนข้างเกลียดขี้หน้าด้วยซะมากกว่า
และเขายังพยายามใช้อิทธิพลของเขาเพื่อกลั่นแกล้งคนอื่นเพียงเพื่อขนมปัง
“ไม่มีปัญหา พี่ชายเจ้าของร้านผมเข้าใจ และก็เอาข้าวมาให้ผมหนึ่งชุดคุณสามารถมอบขนมปังนี้ให้พวกเขาได้” หวังเสียนพูดกับเจ้าของร้านและไม่ได้ทำให้เขายุ่งยากลำบากใจ
“ขอบคุณมากน้องชาย ขอบคุณ” เจ้าของร้านพยักหน้าอย่างกตัญญูในขณะที่เขาขอบคุณหวังเสียน
"เหอะ ก่อนหน้านี้ฉันเสนอให้แก 300 หยวน และแกก็ยังไม่เต็มใจที่จะขายดูตอนนี้สิ ... ชิ..สะใจว่ะ!" ชายวัยกลางคนข้างๆเขาเยาะเย้ย
………….
จบบท