ตอนที่ 25 ร่างกายที่แข็งแกร่ง
ตอนที่ 25 ร่างกายที่แข็งแกร่ง
.
ตูมม! แคร๊กกก!
หมัดของโจรแตกหักทันทีเมือหมัดของทั้งคู่กระแทกเข้าหากัน
โจรกลิ้งกระเด็นลงไปที่ประตูในขณะที่หวังเสียนก็ใช้เท้าของเขาเหยียบลงบนหน้าอกของโจรคนนั้นไว้
" แก!..แก!... " ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเขาจ้องมองที่หวังเสียนโดยไม่อยากเชื่อ "แกเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ... "
"ห๊ะ?" หวังเสียนสับสนทันที 'ผู้ฝึกยุทธ์?'
"ครืดดด!
ทันใดนั้นประตูร้านถูกเปิดขึ้น
จากภายนอกทีมรักษาความปลอดภัยบุกเข้ามาพร้อมกับกระบองไฟฟ้า
"เกิดอะไรขึ้นกัน? เกิดอะไรขึ้นสัญญาณเตือนภัยดังแจ้งเตือนมา
มีปล้นงั้นเหรอ?"
ชายวัยกลางคนถามด้วยเสียงที่ดัง
" หัวหน้าลี่มีคนเข้ามาปล้นเครื่องประดับที่ร้านของเรา "
ผู้จัดการดำเนินการอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาวิ่งไปและชี้ไปที่โจรทั้งสามคน จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปหา หลาน ชิงเยว่และถาม "ผู้อำนวยการ หลาน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"ใช่ ฉันสบายดี."
หลาน ชิงเยว่ กำลังดูเหมือนงุนงงเล็กน้อย เธอดึงเสื้อผ้าของเธอที่ขาดเข้ามาคลุมไหล่ไว้ แล้วหันไปมองดูที่หวังเสียน
" ผมก็สบายดีเหมือนกัน "
หวังเสียนรู้สึกได้ถึงการจ้องมองมาของเธอ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าที่หลังของเขามีเลือดไหลออกมาและผิวหนังฉีกขาดจากแรงของกระสุนปืน แต่มันก็ไม่ร้ายแรงอะไรมากนัก เนื่องจากเขาอยู่ในระดับสองของร่างมังกรศักดิ์สิทธิ์และเขาสมควรจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ภายในหนึ่งถึงสองวัน
"ผู้อำนวยการ หลานคะ ใช้เสื้อแจ็คเก็ตฉันไปก่อนนะคะ"
ผู้จัดการถอดแจ็คเก็ตออกมาอย่างรวดเร็วแล้วคลุมวางลงบนไหล่ของ
หลาน ชิงเยว่ เมื่อเธอเห็นว่าเสื้อผ้าของหลาน ชิงเยว่ ถูกฉีกขาด
"ขอบคุณมาก" หลาน ชิงเยว่ ยิ้มและพยักหน้าให้กับผู้จัดการร้าน
เธอยืนขึ้นแล้วเดินไปที่หวังเสียน
"คุณไม่เป็นอะไรจริงเหรอ? ฉันเห็นพวกเขายิงปืนมาที่คุณ ขอให้ฉันดูหลังของคุณหน่อย"
"ผมไม่เป็นอะไรมากหรอก ปืนของพวกเขาอาจเป็นปืนประดิษฐ์เอง หวังเสียนยิ้มให้แล้วส่ายหัว
"ให้ฉันดูเถอะน่า!" หลาน ชิงเยว่กล่าวเสียงดังขึ้นเล็กน้อย แล้วตรวจดูหลังของเขาพบว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขามีรอยเลือดเปื้อนเต็มไปหมด
เธอปิดปากของเธอนัยน์ตามีสีแดงเล็กน้อย "มีเลือดไหลออกมาฉันจะโทรเรียกรถพยาบาลคุณต้องไปโรงพยาบาลในทันที"
“มันไม่เป็นไร” หวังเสียนส่ายหัวอีกครั้งและดึงเสื้อด้านหลังขึ้น
“ดูสิมันไม่เป็นอะไรมากจริงๆมีเพียงแค่บาดแผลที่ไม่ลึกมากและเลือดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“ใช่ เขาไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงบาดแผลที่ผิวหนังเปิดออกแต่ไม่ลึก”
กัปตันลี่สำรวจดูที่หลังของเขาและบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านข้าง
"โทรหาตำรวจทันทีแล้วจับพวกเขาส่งไปที่สถานีตำรวจด้วย
ผู้จัดการหวางตรวจสอบร้านของคุณด้วยว่ามีทรัพย์สินสูญหายหรือไม่"
……...
"ฉันดีใจที่คุณไม่เป็นอะไร"
ก่อนหน้านี้ หลาน ชิงเยว่ นั้นกลัวมากเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอเจอกับการปล้นแบบนี้
แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นร้อนวูบวาบและหัวใจของเธอเต้นโครมครามขึ้นมา เมื่อเธอมองดูแผ่นหลังที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา
เธอไม่สามารถหยุดคิดถึงตอนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาในขณะนั้นได้เลย
"ผมว่าเราควรจะไปธนาคารในวันพรุ่งนี้นะวันนี้คุณควรกลับไปพักผ่อนก่อน"
"ไม่ !... ไม่เป็นไรฉันเองก็สบายดีฉันคิดว่าจะพาคุณไปทำแผลที่โรงพยาบาลก่อนดีกว่าฉันกลัวว่าแผลของคุณจะติดเชื้อ" หลาน ชิงเยว่ ส่ายหัวปฏิเสธ
“อย่าห่วงเลยอาการบาดเจ็บเพียงแค่นี้ยังไม่ได้ถึงครึ่งตอนที่ผมเป็นเด็กและเล่นซนๆเลย”
หวังเสียนส่ายหัวของเขาแล้วชี้ไปที่เสื้อผ้าของเธอ "คุณควรกลับไปพักผ่อนและเสื้อผ้าของคุณก็ ... "
หลาน ชิงเยว่ ก้มมองดูเสื้อผ้าของเธอแล้วพูดอย่างอายๆ "งั้น..ฉันจะให้ทางบริษัทโอนเงินให้คุณวันนี้ละกัน"
"อืม..เอางั้นก็ได้" หวังเสียนไม่กลัวว่า หลาน ชิงเยว่ หรือบริษัทเครื่องประดับทะเลคราม จะโกงเงินเขา เขาช่วยเธอและบริษัทของเธอครั้งใหญ่ในวันนี้ เขาเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินค่าไข่มุกจำนวน 10 ล้านดอลลาร์ให้เขาอย่างแน่นอน
“ผมยังมีธุระบางอย่างต้องไปทำคุณก็ควรกลับไปพักผ่อนได้แล้ว”
หวังเสียน บอกลากับ หลาน ชิงเยว่ เขาโบกมือแล้วเดินออกไป
"ผู้อำนวยการ หลาน ฉันได้รายงานเรื่องนี้กับซีอีโอบริษัทแล้ว
พวกเขาจะมาถึงเร็ว ๆ นี้" ผู้จัดการหวางเดินไปและบอกกับ ชิงเยว่ "พวกเขาถามถึงคุณและเป็นห่วงคุณมาก"
"อืม.." หลาน ชิงเยว่ พยักหน้าตอบรับสั้นๆ ขณะที่เธอมองดู หวังเสียน เดินออกไป
ผู้จัดการ หวาง มองตามสายตาของเธอและถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเธอนึกถึงช่วงเวลาที่ชายหนุ่มได้กระทำไปในตอนนั้น
หากเป็นตัวเธอเองและอายุน้อยกว่านี้ เธอก็จะคงจะตกหลุมรักชายหนุ่มคนนี้อย่างแน่นอน
เขาได้ช่วยชีวิตเธอและปกป้องเธอจากกระสุนปืนอีกทั้งยังอ่อนโยน
ปี๊บบบ!ปี๊บบบ!
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของ หลาน ชิงเยว่
ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นเป็นแม่ของเธอโทรมาเธอรับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปทันที
……. …...
"เฮ้อออ..โชคร้ายอะไรอย่างนี้น้า..
เอาไข่มุกมาขายทั้งทียังจะมาเจอโจรปล้นร้านอีก"
หวังเสียนเดินออกจากร้านขายเครื่องประดับเขาส่ายหัวพลางบ่นพึมพำ
อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าร่างกายของเขาสามารถทนต่อกระสุนปืนพกได้นั้นทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
"ฮึฮึ..นั้นกระสุนปืนเลยนะกระสุนปืนเชียวนะนั้น ว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า !"
"ถ้าฉันสามารถบล็อกกระสุนปืนพกได้ตอนนี้ฉันอยู่ที่ระดับสองเท่านั้น
นั่นหมายความว่าร่างกายฉันสามารถป้องกันปืนไรเฟิลหรือลูกระเบิดมือได้เมื่อฉันอยู่ที่ระดับสามหรือระดับสี่
จากนั้นถ้าฉันอยู่ในระดับแปดหรือเก้า ฉันจะอยู่รอดได้แม้เจอระเบิดนิวเคลียร์เลยละมั้ง
ถึงเวลานั้นจะมีอะไรที่สามารถทำอันตรายฉันได้อีกกันล่ะ ว่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า"
หวังเสียนตื่นเต้นกับความคินี้ขึ้นมาทันที ความแข็งแกร่งของร่างกายมังกรศักดิ์สิทธิ์เกินความคาดหมายของเขามาก
"ฉันสงสัยว่าเจ้าโจรคนนั้นสามารถดึงพลังอันแข็งแกร่งของเขามาจากไหนกันและสิ่งที่เขาพูดหมายถึงอะไร?"
แล้วหวังเสียนก็นึกถึงสิ่งที่โจรคนนั้นเพิ่งพูดไปได้ "หรือว่าจะมีวิชายุทธ์ที่ใช้ฝึกศิลปะการต่อสู้ในโลกนี้อยู่จริงๆงั้นรึ?"
หวังเสียนขบคิดกับตัวเองอยู่ครู่นึง
เมื่อเขามองไปรอบๆแล้วเขาจึงเดินมาหยุดที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ห้างสรรพสินค้าซู่หนานเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และทำหน้าที่เป็นสถานที่สำคัญในใจกลางเมือง หวังเสียนเดินตรงเข้าไปในทันที
เขาไม่ได้มีเงินแค่ 1.7 ล้านหยวน แต่เขามี 11.7 ล้านหยวนในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้รับเงินอีก 10 ล้าน แต่นี่ก็ถือว่าข้อตกลงทางธุรกิจนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ฉันจะเปลี่ยนโทรศัพท์ของฉันให้เป็นรุ่นล่าสุดและซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดีๆไว้สักสามชุด"
หวังเสียนเดินเข้าไปในร้านที่มีชื่อเสียงและใช้เงินไปกว่า 50,000 สำหรับเสื้อผ้าสามชุดและโทรศัพท์
"เอาล่ะได้เวลากลับซะที"
หวังเสียนมองดูสิ่งของที่ซื้อด้วยความพึงพอใจ
เขาเดินออกไปและขี่มอเตอร์ไซค์ ฮาร์เล่ย์ของเขากลับไปมหาลัย
แม้ว่ามอเตอร์ไซค์ ฮาร์เล่ย์ จะดูเท่ห์ แต่ก็ไม่สะดวกเลย ฉันควรจะไปสอบใบขับขี่และซื้อรถยนต์ไหม?
หวังเสียนมองไปที่ถุงช้อปปิ้งที่แขวนอยู่บนรถ ฮาร์เล่ย์ และคิดกับตัวเอง
ไว้ก่อนล่ะกัน ฉันควรจะพัฒนาความแข็งแกร่งให้ดีขึ้นก่อนเป็นอันดับแรกสุด มันจะเป็นการเสียเวลาถ้ามัวแต่ไปเรียนขับรถ
หวังเสียนโยนเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่ของเขาลงบนเตียง
แล้วทิ้งเสื้อผ้าเก่าเกือบทั้งหมดของเขาออกไป
หลังจากที่เขากลับมาที่ห้องของเขา
ปี๊บบบ! ปี๊บบบ!
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
หวังเสียนเปิดข้อความที่ถูกส่งโดยน้องสาวของเขา
“ พี่ฉันเพิ่งจะเลิกงานฉันเบื่อมาก
เสี่ยวมี่ ก็หนีฉันไปเรียนขับรถและทิ้งฉันไว้คนเดียว”
"เรียนขับรถ?" หวังเสียนเห็นข้อความของน้องสาวและมีความคิด "สาวน้อยเธอก็ไปเรียนขับรถด้วยสิ พี่จะโอนเงินให้"
หลังจากนั้นเขาก็โอนเงิน 10,000 เหรียญให้เธอ
"พี่ชายทำไมโอนเงินให้ฉันมากขนาดนี้ล่ะ พี่ไปได้เงินมาจากไหน
ฉันไม่ได้อยากเรียนขับรถ!"
หวังเสี่ยวหยูเห็นเงิน 10,000 เหรียญที่
พี่ชายของเธอโอนมาให้ เธอก็ตกใจมาก
"เอาเถอะน่าพี่บอกแล้วว่าพี่รวยแล้ว
มีเงินเยอะ ที่นี้เธอก็ไปเรียนขับรถกับเสี่ยวมีได้แล้ว พี่จะรอให้เธอรถขับของพี่และคอยรับส่งพี่"
หวังเสียนไม่ได้บอกความจริงกับน้องสาวเขา เขาตั้งใจหลอกเธอเพื่อจะทำให้เธอเซอร์ไพรส์
เพราะเขาต้องการจะซื้อรถให้กับเธอเมื่อเธอมาเรียนที่นี่
"รถหรูราคาแพง"
………..
จบบท