ตอนที่ 18 เรียกฉันว่าท่านปู่
ตอนที่ 18 เรียกฉันว่าท่านปู่
บรืนน! บรืนน!
เด็กสาวเร่งรถสปอร์ตของเธอและทำการดึงเบรกมือพร้อมกับหักเลี้ยวอย่างแรง
(ติง..ติ้ง..ติง..ติ่ง..ดิป ดิป..) (≧∇≦)
(*ผมนี่ลุก..เปิดเพลงเต้นเลยเชียววว*)
การเคลื่อนไหวแบบนี้เป็นการดริฟท์ที่มีทักษะแบบมืออาชีพ และมาหยุดรถไว้ข้างๆมอเตอร์ไซค์ Harley ของหวังเสียน เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างยียวนและมองไปที่มอเตอร์ไซค์ Harley ขึ้นๆลงๆพร้อมเบะปากพูด
"มีคนบอกว่าคนที่ขี่ ฮาร์เล่ย์ นั้นห้าวหาญเปรียบดั่งอัศวิน มาเถอะคุณลุงอัศวิน!"
ขณะที่เด็กสาวพูดเธอก็เหยียบคันเร่งและเร่งเครื่องยนต์
หวังเสียนมองเด็กสาวแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาบิดคันเร่งเครื่องยนต์ของเขาด้วยเช่นกัน
"อ่า..ฮ้า..มาเลยถ้าคุณแพ้คุณจะต้องเรียกฉันว่าท่านย่านะ"
เด็กสาวหัวเราะ คิกคัก และพูดด้วยเสียงที่ดังก่อนที่ขับรถไปจอดข้างๆรถสปอร์ตอีกสองคันเรียงตัวอย่างสวยงาม
ริมฝีปากของหวังเสียนโค้งขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขาขี่มอเตอร์ไซค์ของเขาไปด้านข้างรถทั้งสามคันและเรียงกันเป็นแถว
บรืนนน..!บรืนนน..บรืนนน!
รถสปอร์ตทั้งสามคันเร่งเครื่องยนต์
"สาม...สอง...หนึ่ง...ไป.."
เด็กสาวตะโกนเสียงดัง รถสปอร์ตสามคันพุ่งออกไปเป็นเส้นตรง
หวังเสียนยิ้มเล็กน้อย ประสิทธิภาพของรถจักรยานยนต์ ฮาร์เล่ย์ ของเขานั้นดีกว่ารถสปอร์ต
เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นข้อได้เปรียบของมอเตอร์ไซค์ ก็แสดงออกมาทันที
ทำให้เขานำรถสปอร์ตทั้งสามคันไปค่อนข้างไกล หวังเสียนเพิ่มความเร็วรถของเขาขึ้นเป็น 180 กม. / ชม.
บรืนน, บรืนน, บรืนน!
อย่างไรก็ตามรถสปอร์ตทั้งสามคันนั้นมีราคาไม่ต่ำกว่าสามล้านดอลลาร์
และความสามารถก็ยังคงโดดเด่นมาก
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสามคันยังเพิ่มความเร็วขึ้นไปจนถึง 230 กม. / ชม. หรือสูงกว่า
หวังเสียนขมวดคิ้ว เขาชำเลืองมองมาเซราติข้างเขาและเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังยกหัวนิ้วมือแล้วคว่ำลงให้เขา
"ถ้าคุณต้องการเล่นฉันก็จะเล่น"
หวังเสียนลดร่างหมอบลงเล็กน้อย เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์นักขี่โดยทั่วไปมักจะลดร่างกายของเขาลงและหมอบตัวให้ต่ำลงบนรถจักรยานยนต์เมื่อกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เพื่อลดแรงต้านของอากาศและจะได้ควบคุมได้ดียิ่งขึ้น
"เมื่อพี่หมอบก็ดั่งพยัคฆ์ร้าย รอตะครุบเหยื่อพวกน้องๆก็จะต้องแพ้ ฮุฮุฮุ.." -_-||
หวังเสียนยิ้มภายใต้หมวกกันน็อคของเขา ขณะที่เขาบิดคันเร่งถึงจุดสูงสุด เข็มของมาตรวัดความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
200, 210, 220
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงสิบวินาทีเขาได้เพิ่มความเร็วเป็น 280 กิโลเมตร / ชั่วโมง
บรูมม! บรูมม!
เสียงเครื่องยนต์คำรามสนั่นดังขึ้นจากรถจักรยานยนต์ Harley หวังเสียนลดศีรษะของเขาและแซงรถสปอร์ตทั้งสามคันอย่างรวดเร็วและยังคงเร่งความเร็วด้วยความเร็วที่สูงขึ้น
“โอ้วว!..เจ้าบ้านี่..เดี๋ยวแม่จะแซงคืนให้ดู”
ภายในมาเซราติเด็กสาวเหยียบคันเร่งด้วยความโกรธอย่างเต็มที่ขณะที่เธอเห็นร่างของหวังเสียนหายไปอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยววาน!...เด็กเหลือขอ เธอบ้าไปแล้วเหรอ ลดความเร็วลงเดี๋ยวนี้..” หญิงสาวสวยที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับพูดพร้อมกับหน้าซีด
"พี่สาวหลิงหลิงอย่ากลัวไปเลยน่า
มาดูกันว่าฉันจะแซงเขาไม่เห็นฝุ่นเลยล่ะ" เด็กสาวไม่สนใจเธอขณะที่จ้องมองมอเตอร์ไซค์คันที่นำหน้าเธออยู่
"พยายามที่จะแซงฉันงั้นเหรอแม่หนูน้อย!" เมื่อเห็นว่าเขาเกือบจะถึงหัวถนนที่เป็นจุดเส้นชัยที่กำหนดกันไว้แล้ว
รอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
"หืมม...นี่แย่แล้ว!"
ในขณะนั้นหวังเสียนเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่เลี้ยวเข้ามาจากหัวถนนเพื่อกลับรถ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาเบรกรถทันทีขณะที่สายตาเขาจดจ้องอยู่กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ในขณะที่เขาพร้อมจะกระโดดลงจากรถได้ตลอดเวลา
"เชี่ยย..เวรเอ้ยยย..! "
จักรยานยนต์ยังไม่สามารถหยุดได้!"
หวังเสียนกลั้นลมหายใจสั้นๆ
สายตาของเขาไวมากและประมวล
ผลอย่างอย่างรวดเร็ว เขาเห็นช่องว่างสองเมตรทางซ้ายมือ
ฟุ้บบ..ฟ้าวววว!
หวังเสียน ได้ผ่านช่องว่างแคบๆและหลีกเลี่ยงได้อย่างทันการ
"เอี๊ยดดด!"
โครมมม!+2
ขณะที่เขากำลังถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาก็ได้ยินเสียงชนซ้อนกันสามครั้ง
การแสดงออกของหวังเสียนเปลี่ยนไปทันที เขาหยุดมอเตอร์ไซค์ของเขาและมองไปด้านหลังทันที
รถสปอร์ตสามคันชนกับรถบรรทุกขนาดใหญ่
"โอ้วว..เวรกรรม! ขออย่าให้มีใครตายเลย"
หวังเสียนขมวดคิ้วและวิ่งไปที่รถสปอร์ตสามคันทันที
มีทั้งคนทั้งหมดหกคนนั่งอยู่ในรถสปอร์ตสามคัน ในหมู่พวกเขามาเซราติซึ่งอยู่แถวหน้ามีการชนที่เลวร้ายที่สุด ในทางกลับกันการชนกันของ Lamborghini และ Ferrari นั้นไม่ร้ายแรง
อย่างไรก็ตามผลกระทบจากอุบัติเหตุทำให้ทุกคนในรถทั้งสามคันหมดสติ
หวังเสียนวิ่งไปที่มาเซราตีทันที
ที่ตำแหน่งทางด้านหน้ารถ
ด้านหน้าของมาเซราติกลายเป็นเศษเหล็กทั้งหมดแล้ว ถุงลมนิรภัยของรถเปิดออก แต่เด็กสาวทั้งสองคนในรถสลบอยู่และไม่มีการเคลื่อนไหวเลย
Maserati ขับเร็วที่สุด รถบรรทุกคันใหญ่กลับรถกะทันหันและทำให้หยุดรถไม่ทัน
เมื่อเห็นว่าประตูรถได้รับความเสียหายจากการชนเขาเอื้อมมือออกไปและออกแรงดึงประตูให้เปิดออก
ครืดด..พลั๊วะ!
กำลังแขนของหวังเสียนดึงประตูรถง้างออกและประตูรถกระเด็นออกจากตัวรถทันที เขาเห็นหญิงสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างคนขับและอุ้มพาเธอออกไปก่อนด้วยความระมัดระวัง
อ่ะ..? ขาของเด็กผู้หญิงบิดงอผิดรูป
หวังเสียนมองเด็กสาวในที่นั่งคนขับ ขาของเธอถูกอัดกระแทกโดยแผ่นโลหะที่ด้านหน้าที่นั่งของรถเธอและทำให้ขาของเธออาจมีรอยร้าวหรือหัก
เขาอุ้มเธอออกจากรถอย่างระมัดระวัง
"นี่..ฉันจะโทรหาตำรวจก่อนนะ"
หลังจากวางเด็กหญิงสองคนลงบนพื้นหวังเสียนก็เรียกตำรวจและรถพยาบาลทันที
หลังจากนั้นเขาวิ่งไปที่รถสปอร์ตอีกสองคัน คนในรถสปอร์ตอีกสองคันนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พยายามที่จะย้ายพวกเขาออกมา
"โอ้ยย..ฮือๆๆ.เจ็บจัง..ปวดด้วย..แงๆ"
ในขณะนั้นหวังเสียนได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ เขาเดินไปทันทีและเห็นหญิงสาวร้องไห้น้ำตาคลอ
หวังเสียนขมวดคิ้วเมื่อเห็นขาที่ผิดรูปของเด็กผู้หญิง
"ช่วยฉันด้วยฉันไม่อยากตาย แงๆ" เด็กสาวมองหวังเสียนอย่างน่าสงสาร เธอไม่เหมือนเด็กสาวซนๆเมื่อก่อนหน้าอีกต่อไป
หวังเสียนขมวดคิ้วพลางคิด "มาดูกันว่าพลังงานมังกรสามารถนำมาใช้รักษาพวกเธอได้หรือไม่"
ด้วยความคิดเขา เขาวางมือบนขาของหญิงสาวควบคุมพลังงานมังกรของเขาในขาของหญิงสาวและรักษาอาการบาดเจ็บของเธอ
เมื่อพลังงานมังกรเข้าไปเขาก็รู้สึกถึงสภาพการณ์ภายในของขาของหญิงสาว
"กระดูกแตกร้าว!"
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจับขาขวาของเด็กสาวไว้
เด็กเหลือขอคนนี้มีรูปร่างค่อนข้างดี หวังเสียนคิดอย่างช่วยไม่ได้ และแอบชื่นชมในใจหลังจากที่เขาดูขาที่ยาวขาวเนียนของหญิงสาวและหน้าอกที่ใหญ่กำลังดีเธอใส่เสื้อรัดรูปทำให้เห็นเด่นชัด เขาคิดไปเรื่อยเปื่อยในขณะที่ปรับกระดูกขาของเธอให้เข้าที่เล็กน้อย
"อืม..มันมีประสิทธิภาพจริงๆ ภายใต้การรักษาของพลังงานมังกรอาการบาดเจ็บที่ขาของเธอน่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามฉันเพิ่งก้าวไปสู่ระดับสองและไม่มีพลังงานมังกรเหลืออยู่ในร่างกายของฉัน ดังนั้นฉันสามารถใช้วิธีนี้ในการรักษาเท่านั้น"
หวังเสียนคิดกับตัวเอง
"มันเจ็บ..มันเจ็บอ่ะ..แงๆๆ" เด็กสาวร้องไห้คร่ำครวญเบา ๆ ขณะที่น้ำตาไหลรินอย่างต่อเนื่อง
“ เฮ้เด็กเหลือขอตัวเล็ก ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ขาของเธอจะต้องพิการแน่ๆเธอกล้าบอกให้ฉันเรียกเธอว่า
'ท่านย่า' เลยงั้นเหรอ?
หวังเสียนมองเด็กสาวแล้วยกคิ้วขึ้น เขายิ้มอย่างเจ้าเลห์ และพูดต่อว่า "การบาดเจ็บของเธอรุนแรงมากและฉันสามารถช่วยเธอได้ตอนนี้"
"ช่วยฉันด้วยนะคะ..ได้โปรดช่วยฉันด้วย" เด็กสาวตะโกนพร่ำเพ้อด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่มีสติ
"ฉันสามารถช่วยเธอได้ แต่เธอต้องเรียกฉันว่าท่านปู่ก่อน
ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่ช่วยเธอ" หวังเสียน
พูดกับเด็กสาวขณะจ้องมองหน้าเธออย่างล้อเล่น
"ช่วยฉันด้วยเถอะนะ แงๆๆ!" เมื่อหญิงสาวได้ยินคำพูดของเขาเธอก็ร้องไห้ออกมาทันทีและร้องเสียงดัง
"เรียกฉันว่าท่านปู่!!" หวังเสียนชี้ไปที่ขาของเธอเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าเธออาจต้องพิการถ้าเขาไม่ช่วยและเด็กผู้หญิงก็ตัวสั่น
"ท่านบรรพบุรุษค่ะ แงๆ แงๆ ท่านบรรพบุรุษช่วยฉันด้วยนะคะ แงๆๆ ~"
" เฮ่.. !
……...
EndNote: บรรพบุรุษคือต้นตระกูลที่ตายไปแล้ว เป็นคำประชด
จบบท