ตอนที่ 48 เล็งไปที่นิกายหยุนกง (ฟรี)
ซุนฮกได้ยิ้มและตอบกลับ"ฝ่าบาทบรรพบุรุษของเหวิ่นยื่อนั้นเคยเป็นข้าราชบริพารระดับสูงของราชสำนักแต่เส้นทางของตระกูลกลับล้าหลังผ่านมาหลายปีไม่มีใครได้รับโอกาสเข้าไปในราชสำนักอีกเลย นี่เป็นสิ่งที่ เหวินยื่อ รู้สึกกังวลมาตลอด ดังนั้นหากเพื่อฝ่าบาทแล้ว เหวิ่นยื่อ จะไม่ลังเลใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อรับใช้พระองค์!"
ลู่เฟิง ได้ยิ้มในใจที่เขาเป็นจักรพรรดิ!
แม้แต่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่าง ซุนฮก ก็ยังประจบประแจงเขา
คนที่เป็นจักรพรรดิมักจะได้รับคุณสมบัติในความภักดีและประจบสอพลอจากคนอื่น ๆ
ลู่เฟิง ในปัจจุบัน ก็ได้รับสิ่งนี้!
เขามองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ พูดขึ้น"เหวินเหอ เจ้าได้ยินสิ่งที่ เหวินยื่อ พูดหมดแล้วใช่หรือไม่ รีบไปเตรียมการตามคำแนะนำของเขาในทันที!"
"ขอรับฝ่าบาทแต่ว่า..."
ใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ นั้นปั้นยากอย่างมาก
เจี๋ยสวี่ ได้จ้องมองไปที่ ลู่เฟิง และ ตอบกลับ"ฝ่าบาท เหล่าข้าราชบริพารเหล่านั้นล้วนคุ้นเคยกับอำนาจของราชสำนักในตอนนี้หากพวกเราไปเปลี่ยนมันเกรงว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วย"
"ไม่สนว่าพวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เพราะนี่เป็นคำสั่ง ทั้งยังเป็นบททดสอบว่าเจ้าจะสามารถแก้ปัญหานี่ได้หรือไม่!"
ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ กล่าวตอบ"เจ้าเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายเพียงคนเดียวในราชสำนัก และมีตำแหน่งสูงกว่าขุนนางนับหมื่น เพียงแค่การต่อต้านของขุนนางอาวุโสไม่กี่คน เหวินเหอ อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่สามารถจัดการได้ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับเกมขุนนางอาวุโสเหล่านี้ แต่..."
ลู่เฟิง ได้ยื่นมืออกไปเคาะบนโต๊ะทำงานและพูดต่อ"อย่าลืมว่า เจ้าตอนนี้ เป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย เจ้าเปรียบเสมือนแขนขวาของข้าและเป็นรากฐานของอาณาจักรในอนาคต หากเจ้าคิดแต่จะปกป้องตัวเองแทนที่จะทำเพื่ออาณาจักรข้าคงต้อง..."
ลู่เฟิง ไม่ทันได้พูดจบ แต่ทุกคนกลับเข้าใจความหมายของเขา
เจี๋ยสวี่ มีชื่อเสียงสองสิ่งในประวัติศาสตร์
ประการแรกคือความคิดที่เป็นภัยต่อโลก!
ทุกความคิดของเขาสามารถเปลี่ยนแนวโน้มทั่วไปของโลกทั้งยังก่อให้เกิดการฆ่าฟันจำนวนมากขึ้นได้
ประการที่สองก็คือการปกป้องตัวเอง!
หากความคิดสิ่งใดที่มันสร้างความยุ่งยากและลำบากให้กับตัวเองเขาก็ไม่ลังเลที่จะปฏิเสธมันกระทั่งอาจจะสามารถทำร้ายคนสนิทเพื่อผลประโยชน์ที่ดีกว่าได้
หากไม่นับรวมข้อเสียเรื่องการปกป้องตัวเองที่มากเกินของ เจี๋ยสวี่ เขาจะนับเป็นบุคคลที่มีความน่ากลัวที่สุดในโลกก็ได้
ลู่เฟิง ได้กล่าว เตือน เจี๋ยสวี่ ว่าควรใส่ใจอะไรก่อน
ร่างกายของ เจี๋ยสวี่ ได้สั่นสะท้าน แม้ว่าลู่เฟิงจะไม่ได้พูดสองสามคำสุดท้ายแต่เขาก็เข้าใจได้ ถ้าเขาไม่เปลี่ยนเเปลงตัวเองจากไวน์ขาวที่มีพิษเป็นผ้าไหมขาวสะอาดแล้วล่ะก็
เขาไม่สงสัยเลยว่า ลู่เฟิง จะสั่งฆ่าตัวเอง เขารู้ดีว่าในสายตาของลู่เฟิงตอนนี้อาณาจักรสำคัญที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่เฟิง ยังกล่าวต่อเขาไว้ว่า ความปราถนาของเขาก็คือการปกครองโลก หากใครคิดจะขวางทางไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องเขาจะสังหารให้สิ้น
เมื่อนึกได้ถึงสิ่งนี้ทำให้ เจี๋ยสวี่ ยิ้มอย่างขมขื่น ถึงเขาจะแสดงความภักดีออกมาแต่เขาก็ยังคงปกป้องตัวเองอย่างลึก ๆ ในใจ มิฉะนั้นตอนที่เขาเห็นเหล่าขุนนางอาวุโสพยายามต่อต้านเกาชุน เขาจะต้องลุกขึ้นมาจัดการแล้ว
ด้วยความสามารถของเขามีหรือที่จะจัดการขุนนางอาวุโสเหล่านี้ไม่ได้
เขารู้สึกผิดพลาดกับสิ่งที่ตนเองเคยลั่นวาจาออกไป
เห็นได้ชัดว่าลู่เฟิงตระหนักได้ถึงความผิดพลาดนี้และกำลังเตือนเขาอย่างลับ ๆ
ด้วยความลังเลเล็กน้อย เจี๋ยสวี่ ได้คุกเข่าลงด้วยความเคารพ"ข้าน้อยทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและตอบกลับ"เหวินเหอ ข้าจะมอบรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เจ้า เจ้าสามารถสั่งย้ายคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ยกเว้นเหล่า ราชเลขาเดิมที่ติดตามข้ามาก่อน"
เมื่อ เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ได้ยินดังนั้น ร่างกายของพวกเขาก็สั่นสะท้าน กล่าวอีกนัยนึงก็คือ ตราบใดที่ไม่รวมเหล่า ราชเลขา เพียงไม่กี่คน เจี๋ยสวี่ มีสิทธิ์ย้ายคนออกหรือเลือกคนเข้ามาทำงานในราชสำนักได้ทั้งหมด
สิ่งนี้ทำให้ ซุนฮก รู้สึกตกใจมากกว่า การที่ จักรพรรดิลู่เฟิง หาญกล้ามอบอำนาจในการตัดสินใจให้กับ เจี๋ยสวี่ ข้าราชบริพารที่ขึ้นชื่อด้านการปกป้องตัวเองเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างเด็ดขาดอย่างแท้จริงความกล้าหาญเช่นนี้แม้แต่จักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรหนานหยานก็ยังไม่สามารถทำได้!
เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกชื่นชมลู่เฟิงเพิ่มมากขึ้น จักรพรรดิที่มีความกล้าหาญเช่นนี้คือบุคคลที่ควรค่าแก่การรับใช้ติดตาม โดยเฉพาะ คน ๆ นี้ จะสามารถทำให้พรสวรรค์ของเขาถูกดึงออกมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"ติ๊ง ความภักดีของ ซุนฮก ที่มีต่อโฮสต์เพิ่มขึ้น 20 แต้ม ตอนนี้ค่าความภักดีเป็น 100 แต้ม ถึงขีดจำกัด!"
"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีต่อโฮสต์ที่ได้รับข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์อีกครั้ง"
ลู่เฟิง ผงะเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าพฤติกรรมของเขาจะทำให้ ซุนฮก มอบความภักดีให้เขาเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า ซุนฮก ข้าราชบริพารที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์กำลังจะกลายเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเขา นี่ทำให้เขาประทับใจอย่างมาก
นอกเหนือจาก เกาชุนแล้ว ตอนนี้ เขามี ข้าราชบริพารที่พักดีเพิ่มขึ้นมาอีกคน นี่ทำให้ลู่เฟิง รู้สึกเหมือนว่าตนเองเป็นเจ้าผู้ปกครองโลกเพิ่มมากไปยิ่งขึ้น
โลกในใจของเขาก็คือแผ่นดินใหญ่คิวชูทั้งหมด!
เจี๋ยสวี่ รู้สึกตื้นตันอยู่ในใจ
ลู่เฟิง หรือ ฝ่าบาท ได้มอบความไว้วางใจให้กับเขา
เขารู้สึกขอบคุณฝ่าบาทจากใจจริง
"ข้าน้อย เจี๋ยสวี่ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ไว้วางใจ ข้าน้อยสัญญาว่าจะใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อพัฒนาอาณาจักรหนานหยานให้เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร"
เจี๋ยสวี่ ได้โขกศีรษะลงกับพื้นเสียงของเขาสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น
เป็นที่แน่นอนว่าเขาจะไม่ทรยศความเชื่อมั่นที่องค์จักรพรรดิมอบให้
"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีต่อโฮสต์ ค่าความภักดีของ เจี๋ยสวี่ ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 100 เขาได้กลายเป็นข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์ของโฮสต์!"
"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีต่อโฮสต์ที่ประสบความสำเร็จได้รับข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์ทั้งสามคน ได้รับสิทธิ์ในการอัญเชิญกลุ่มกองทัพ!"
ลู่เฟิง ได้ยินเสียงเตือนในระบบพร้อมกันสองครั้ง
ตอนนี้เขาทำให้ เจี๋ยสวี่ กลายเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ได้อีกคน
เขาสามารถทำให้ข้าราชบริพารที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ด้านการปกป้องตัวเองกลายเป็นค่ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ได้?
ลู่เฟิงไม่อยากจะเชื่อเลย
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีเขาทำให้ข้าราชบริพารที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์สองคนมอบความภักดีขั้นสูงสุดให้กับตัวเอง ด้วยความสามารถแบบนี้ใครจะทำแบบเขาได้อีก
แม้จะเป็น โจโฉ เจ้านายของพวกเขาในอดีต จะมีคุณสมบัติเช่นนี้หรือไม่?
ไม่!
มีเพียงลู่เฟิง เท่านั้น ที่แสดงความกล้าหาญออกมาจนพวกเขาให้การยอมรับ
แต่สิ่งที่คาใจลู่เฟิงตอนนี้ก็คือโอกาสอัญเชิญกลุ่มกองทัพ?
เขาต้องการถามระบบแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา
เขามองไปที่ เจี๋ยสวี่ ที่กำลังคุกเข่า และกล่าวพูดขึ้น"เหวินเหอ ลุกขึ้นเถิด เกี่ยวกับคำพูดก่อนหน้านี้ของข้าดูเหมือนว่าข้าจะพูดแรงไปหน่อย!"
เมื่อได้รับความภักดีขั้นสูงสุดจาก เจี๋ยสวี่ แล้ว ลู่เฟิง ก็ต้องปฏิบัติต่ออีกฝ่ายให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดความขุ่นเคืองใจต่อกัน
เจี๋ยสวี่ รู้สึกละอายใจเขาได้ตอบกลับ"ไม่เลยฝ่าบาทท่านตรัสได้ถูกแล้ว ข้าน้อยปกป้องตัวเองมากเกินไป ในอนาคต ข้าน้อยสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น!"
"ฮ่าฮ่า,เหวินเหอ ข้าเชื่อใจเจ้า!"
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ลู่เฟิง ก็มองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ด้วยรอยยิ้ม"วันนี้เป็นวันดีสำหรับข้าและอาณาจักรหนานหยาน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองข้าคิดว่าพวกเราควรหาทางทำอะไรสักอย่างกับนิกายหยุนกง"
"นิกายหยุนกง?"
เจี๋ยสวี่ ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวถาม"ฝ่าบาทพวกเราจะทำอะไรกับนิกายหยุนกงงั้นหรือ?"
"แน่นอนว่าข้าจะ..."
"รายงาน..."
ลู่เฟิงยังไม่ทันได้พูดเสียงของทหารนายสิบได้ดังมาจากทางด้านนอก"ฝ่าบาท แม่ทัพใหญ่ซ้งหยูตี้ แห่งราชอาณาจักรซีหยาง พร้อมกับกองทัพหนึ่งล้านคนได้ประชิดชายเเดนของมลฑลจงซาน ของอาณาจักรหนานหยาน พวกเขากำลังบุกโจมตีอาณาจักรหนานหยาน!"
"อะไรนะ?"