เรื่องสยองที่ 4 : ร่างกายที่เป็นของคนอื่น
ร่างของผมถูกย้ายเข้าไปอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลหลังจากอาการคงตัวดีแล้ว พ่อกับแม่ผมติดต่อไอ้คีย์มาอีกครั้ง เห็นว่าเคลียร์งานและได้ตั๋วเครื่องบินกลับไทยเรียบร้อย เย็น ๆ จะบินกลับมา คาดว่าจะมาถึงพรุ่งนี้เช้า ผมเองก็อยากเจอพ่อกับแม่ตัวเป็น ๆ เหมือนกัน คิดถึงจะตายแล้ว ถึงแม้ว่าปกติจะคุยกันในสไกป์เห็นหน้ากันบ่อย ๆ ก็เถอะ แต่มันก็ไม่เหมือนเจอตัวจริงนี่นา
ผมได้แวะเข้าไปดูอาการพี่น้ำที่ห้องของเขาด้วยเหมือนกัน ผมเห็นคุณพ่อพี่น้ำนอนอยู่ที่เตียงเฝ้าคนไข้อยู่คนเดียว สงสัยคุณแม่และน้องสาวพี่น้ำคงกลับออกไปแล้ว ผมเดินเข้าไปใกล้ร่างของพี่น้ำ คนตรงหน้ายังคงหลับตาพริ้มเหมือนเจ้าหญิงนิทราในหนังสือการ์ตูน มันทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร ขออย่าให้เป็นแบบนี้อีกนานเลย
ผมจ้องใบหน้าพี่เขาสักพัก เมื่อมองใกล้ ๆ ก็พบว่าพี่น้ำเป็นคนสวย สวยในแบบที่ไม่ได้ถึงขั้นโดดเด่นเป็นพิเศษเหมือนใยไหม หรือน่ารักโคตร ๆ แบบพี่ฟอง ทุกอย่างกำลังพอดีจนทำให้คนที่มองไม่อยากถอนสายตาไปไหน ยิ่งมองยิ่งดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด น่าค้นหา เส้นผมที่ปิดลงมาที่หน้าผากของพี่น้ำทำให้ผมอยากเอามือไปปัดออกให้ แต่ก็รู้ว่ามันทำไม่ได้ มือที่กำลังจะเอื้อมไปจับจึงไปไม่ถึง
โชคดีที่ไม่มีรอยแผลอะไรบนใบหน้าของพี่น้ำ ไม่งั้นเจ้าของใบหน้าสวย ๆ แบบนี้ตื่นมาคงต้องตกใจเอาแน่ ๆ ผมไม่รู้ว่าตำรวจจะตามจับรถคันนั้นได้หรือเปล่า เพราะตั้งแต่หลุดออกมาจากร่าง ทุกคนต่างโฟกัสมาแต่ที่อาการของผมกับพี่น้ำไม่ได้ไปสนใจหรือตามเรื่องคนที่มันสร้างเรื่องขึ้นมาเลย รวมถึงไอ้บ้าคนนั้นที่มันนอกใจพี่น้ำจนพี่น้ำต้องเมาเสียใจหนักขนาดนี้ด้วย คิดแล้วก็ตกใจในความคิดตัวเองเหมือนกัน ทำไมผมดูพาลได้ขนาดนี้ โยงเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปทั่ว ทั้ง ๆ ที่อุบัติเหตุมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่พี่น้ำจับได้ว่าแฟนนอกใจเลย
นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย ... เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวาน ทำไมผมถึงห่วงเขาขนาดนี้ เป็นแค่ทวดรหัสแท้ ๆ
ผมสะบัดหัวตัวเองแรง ๆ ก่อนเดินออกจากห้องพี่น้ำไปเพื่อกลับห้องของตัว ... พี่ต้องรีบฟื้นขึ้นมานะครับ
เมื่อคืนทั้งไอ้คีย์และไอ้ชา รวมถึงไอ้ปูนนอนเฝ้าผมทั้งคืนเลย เช้านี้พวกมันเลยผลัดกันกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด ตอนนี้เลยมีไอ้คีย์คนเดียวที่นั่งอยู่ในห้องพักคนไข้กับผม
“ทำไมมันถึงไม่ได้ผลวะ” ไอ้คีย์พูดออกมาเบา ๆ กับตัวเองเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่
ตัวมันเดินไปเดินมาแถวร่างผมที่กำลังนอนหลับตาแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ผมเองก็ยืนมองมันเดินไปเดินมาอยู่แบบนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเข้าร่างตัวเองไม่ได้
“เฮ้ย ! มึงขยับว่ะไอ้อิฐ เหมือนจะรู้สึกตัว กูไปตามหมอก่อนนะ” ไอ้คีย์ร้องขึ้นมาอย่างดีใจหันมาบอกผมเมื่อมันสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปเรียกพยาบาล มันคงลืมไปว่าเรากดเรียกในห้องก็ได้
ผมเองก็ดีใจไม่น้อยไปกว่ามัน รีบเข้าไปดูร่างตัวเองที่มีการตอบสนองกับสิ่งต่าง ๆ การขยับตัวนั่นหมายความร่างกายผมน่าจะมีอาการดีขึ้นมากแล้ว ไม่นานผมน่าจะฟื้น บางทีผมอาจจะถูกดูดเข้าไปอยู่ในร่างตัวเองก็ได้ใครจะรู้ ผมขยับตัวเข้าไปมองหน้าตัวเองใกล้ ๆ รู้สึกแปลก ๆ แฮะ เหมือนส่องกระจกแล้วเห็นตัวเองหลับอยู่ สักพักผมก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่มันเพิ่มเข้ามา
ใบหน้าของผมขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังฝันร้ายอยู่ ดวงตาภายใต้เปลือกตาคู่นั้นกรอกเล็กน้อยมีหยดน้ำไหลออกมา ริมฝีปากพึมพำอะไรบางอย่างเหมือนกำลังด่าใครสักคนว่าเลว นอกใจฉันทำไม ก่อนร่างของผมจะสะดุ้งและเปลือกตาคู่นั้นค่อย ๆ ลืมตาออกมาพร้อมกับกระพริบตาถี่ ๆ ให้เข้ากับแสงสว่างรอบตัว
ผมตกใจแทบช็อก สะดุ้งตัวถอยห่างจากร่างของตัวเอง
เฮ้ย ! บ้า ! บ้าไปแล้ว ! ผมอยู่นี่ แล้วที่ลืมตาขึ้นมานั่นใคร ! วิญญาณผมยังอยู่นี่ !
พล็อตนิยายหรือหนังไทยที่พบเห็นประจำลอยขึ้นมาในหัวทันที ไม่นะ มันไม่เป็นแบบที่ผมคิดใช่ไหม !
“อิฐ อิฐหรอ โอ๊ย ปวดหัวจัง เจ็บแขนด้วย ทำไมตัวอิฐโปร่งแสงแบบนั้น นี่พี่ฝันอยู่หรอ” เสียงของผมพูดขึ้นมาเบา ๆงัวเงีย ๆ มึน ๆ เหมือนคนกำลังแฮ้งค์เหล้า มองไปรอบ ๆ เหมือนเจ้าตัวกำลังประมวลผลว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
“นะ ... นี่อยากบอกนะว่าพี่น้ำ พี่น้ำอยู่ในร่างผม” ผมร้องออกไป
ที่ผมเข้าร่างตัวเองไม่ได้เป็นเพราะพี่น้ำอยู่ในร่างผมงั้นหรอ !
“พูดเรื่องอะไรอะ พี่ไม่เข้าใจ โอ๊ย ! ทำไมมันเจ็บระบมทั้งตัวแบบนี้ พี่หิวน้ำ ขอพี่กินน้ำหน่อย นี่เราพาพี่มาโรงพยาบาลหรอ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนพี่จำได้ว่า ...” พี่น้ำยังคงพูดต่อไปเรื่อยไม่หยุด ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของน้ำเสียงและร่างกายของตัวเองเลยสักนิด
“คุณหมอเพื่อนผมรู้สึกตัวแล้วครับ คุณหมอชะ...”
เสียงไอ้คีย์ดังเข้ามาพร้อมกับคุณหมอและพยาบาล ปากที่จะพูดประโยคต่อจนจบชะงักทันทีเมื่อพบว่าผมยังยืนเป็นวิญญาณอยู่ตรงนี้ และร่างของผมตอนนี้ได้ลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปทางมันและคุณหมอ
“เอ่อ ...” ไอ้คีย์ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ” คุณหมอเดินเข้าไปถามพี่น้ำในร่างผมพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
ถ้าถามผมว่ารู้สึกยังไงหรอ ...
ผมจะตอบว่า บ้าไปแล้วโว้ย !
“ฉันรู้สึกปกติดีค่ะ ขอน้ำให้ฉันกินหน่อยค่ะ ฉันรู้สึกคอแห้ง เสียงแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ แล้วอิฐหายไปไหนแล้ว เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย” พี่น้ำที่อยู่ในร่างผมพูด
ผมขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ผมก็ยังยืนอยู่ห่างจากร่างตัวเองไม่เท่าไร ตอนแรกยังมองเห็นผมอยู่เลย ตอนนี้มองไม่เห็นแล้วงั้นหรอ
“คนไข้ใจเย็น ๆ นะครับ เดี๋ยวหมอให้พยาบาลปรับเตียงให้แล้วทานน้ำนะครับ” คุณหมอพูด
ไอ้คีย์เหลือบตามามองผม มันไม่ได้พูดอะไรสักคำเพราะตอนนี้ทั้งหมอและพยาบาลอยู่หลายคน มันคงตลกถ้าอยู่ ๆ ไอ้คีย์หันมาพูดกับอากาศ หลังจากพี่น้ำได้กินน้ำตามที่ตัวเองต้องการคุณหมอก็เข้าไปตรวจร่างกายเอาไฟฉายส่องตาอีกนิดหน่อย ก่อนหันกลับไปคุยกับไอ้คีย์ว่าร่างกายของผมเป็นปกติดี อยู่พักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวันน่าจะกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
หลังจากคุณหมอเดินออกจากห้องไปกับพยาบาล ตอนนี้ทั้งห้องเลยเหลือแค่คนสองคนกับวิญญาณหนึ่งดวง พี่น้ำตั้งคำถามทันทีเมื่อพบว่าไอ้คีย์เดินไปนั่งที่โซฟาแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“คุณเป็นใครคะ ? แล้วพ่อฉันอยู่ไหน คุณมาอยู่ที่นี่ทำไม เอ๊ะ เสียงฉัน เสียงฉันทำไมมันแปลก ๆ เหมือนเสียงผู้ชาย” พี่น้ำดูเหมือนจะมีสติมากขึ้นกว่าเก่า เริ่มสังเกตตัวเอง ดูท่าทางสมองจะตื่นตัวเต็มที่แล้ว
“ไอ้อิฐ นี่วิญญาณรุ่นพี่มึงหรอที่อยู่ในร่าง” ไอ้คีย์หันมาถามผม ทำหน้าระอาประมาณว่างานเข้าอีกแล้วหรอ
“เออดิวะ” ผมบอกมันไปพร้อมกับอยากจะกลั้นใจตายให้ได้ซะตรงนั้น
“นี่คุณคุยกับใครอะ” พี่น้ำพูด
ตอนนี้สายตาของตัวเธอเริ่มกวาดมองทั่วร่างกายของตัวเอง ... ซึ่งมันก็คือร่างกายของผมนั่นแหละ เพราะผมคิดว่าตอนนี้เธอคงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่ามันมีอะไรบางอย่างที่มันหายไปและอะไรบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมา มือขวาที่ไม่ได้เข้าเฝือกเริ่มลูบคลำไปที่หน้าอก ใบหน้าของร่างผมเริ่มแดง ๆ พิกล เหมือนความอยากรู้อยากเห็นนั่นยังไม่จบ คล้ายกับไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า ผมมองเห็นร่างตัวเองหลับตาปี๋เมื่อมือข้างนั้นคลำต่ำลงไปเรื่อย ๆ แถวกางเกงใต้ผ้าห่ม ก่อนจะลืมตาขึ้นก้มลงมามองอีกครั้งว่าใช่แน่หรือเปล่า
โอ้ ไม่นะ ...
“อย่า ! พี่น้ำ ไอ้คีย์รีบห้าม !” ผมร้องบอกไอ้คีย์ รู้ดีว่าพี่น้ำกำลังจะทำเพื่อพิสูจน์อะไร
อย่า !
อย่านะพี่น้ำ !
แล้วไอ้คีย์ก็ลุกขึ้นจากโซฟาไปหาพี่น้ำไม่ทัน ก่อนจะเกิดเสียงกรีดร้องทุ้มห้าวดังลั่นห้องพักผู้ป่วย ...
พี่น้ำตกใจช็อกจนสลบไปแล้ว ...
สักพักก็มีพยาบาลวิ่งเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเสียงของพี่น้ำกรีดร้องดังโวยวายออกไปถึงข้างนอก ไอ้คีย์แถพยาบาลบอกไปว่าคนไข้ตกใจนิดหน่อยที่เห็นแมลงสาบ แต่มันจับโยนทิ้งออกหน้าต่างไปเรียบร้อยแล้ว ถึงอย่างนั้นก็เล่นเอาที่ห้องพักผู้ป่วยวุ่นวายด้วยพนักงานทำความสะอาดไปอีกยกใหญ่ แล้วคราวนี้จะเอาไงกันดี ผมไปเข้าร่างพี่น้ำ ตื่นมาไปวิ่งให้รถชนกันอีกรอบให้ร่างสลับกันเหมือนในละครดีไหม
โอ๊ย ! ผมอยากจะบ้าตาย ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป พี่น้ำคงต้องเห็นแมลงสาบทุกวันแล้วกรีดแน่ ทั้งตอนเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ และทำธุระส่วนตัวอื่น ๆ แล้วไอ้คีย์จะไปแถกับพยาบาลต่อยังไง
แมลงสาบที่พี่เขาเห็นมันตัวใหญ่กว่าปกติ แบบนี้หรอ ...
เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป พี่น้ำรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง สายตาของเธอกวาดไปรอบห้องก่อนมาหยุดอยู่ที่ไอ้คีย์แล้วทำหน้าหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“นะ นาย ... นี่ฉันไม่ได้ฝันไปหนิ” พี่น้ำที่อยู่ในร่างผมพูด
“พี่น้ำ พี่น้ำต้องตั้งสติก่อนนะครับ ผมเป็นเพื่อนของอิฐ ชื่อคีย์” ไอ้คีย์รีบพูดกลัวพี่น้ำจะสติแตกไปมากกว่านี้
“แล้วอิฐ อิฐอยู่ไหนอะ พวกนายทำบ้าอะไรกับฉัน ทำไมฉันถึงกลายเป็นแบบนี้”
“พี่น้ำหลับตานะครับ” ไอ้คีย์พูด
ระหว่างที่พี่น้ำสลบไปผมกับไอ้คีย์ตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็ต้องให้พี่น้ำเห็นวิญญาณของผม เวลาทำอะไรจะได้สะดวกสบายขึ้น เรื่องแบบนี้ไม่ได้เข้าใจกันง่าย ๆ ต้องทำให้เห็นด้วยตาว่าเรื่องราวเหนือธรรมชาติแบบนี้มันมีอยู่จริง ๆ ในชีวิตมนุษย์ของพวกเรา
“นายจะทำอะไรฉัน” พี่น้ำพูดขยับตัวถอยห่างจากไอ้คีย์เหมือนไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร
“ไว้ใจผมเถอะครับ ผมไม่ทำร้ายพี่ หลับตานะครับ” ไอ้คีย์พูดช้า ๆ ก่อนเอานิ้วมือไปป้ายเปลือกตาของพี่น้ำหลังจากพี่น้ำหลับตาลงไป พอลืมตาอีกครั้งพี่น้ำก็หันมาทางผมก่อนอ้าปากค้าง ผมคิดว่าเธอคงเห็นผมแล้วล่ะ
“พะ พวกนายเป็นพวกเล่นของหรอ อะ ออกไปเลยนะ อย่ามายุ่งกับฉัน” พี่น้ำเริ่มโวยวาย
“พี่น้ำ ฟังผมก่อน” ผมพูด ใช้สองมือโปร่งแสงจับที่มือของเขาด้วยความจริงใจถึงแม้มันจะสัมผัสไม่โดนก็เถอะ
“อะ ... อิฐ”
พอพี่น้ำเริ่มสงบลง ผมก็เล่าเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นให้ฟัง ตั้งแต่ตอนที่พี่น้ำจับได้ว่าแฟนตัวเอกนอกใจไปมีคนอื่นแล้วดื่มเหล้าจนเมา จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากจะเล่าตอกย้ำพี่เขาหรอก แต่ผมคิดว่าพี่เขาเริ่มสติหลุดตั้งแต่ตอนนั้น ตามมาด้วยพี่โจให้ผมไปส่งพี่น้ำกลับคอนโดเพราะไปทางเดียวกัน ส่วนพี่โจต้องไปส่งพี่แม็กกับพี่ไทที่เมาไม่รู้เรื่อง มันเลยทำให้พวกเราเจออุบัติเหตุรถกระบะวิ่งไล่ชน จนวิญญาณพี่น้ำเข้าไปอยู่ในร่างผม แต่วิญญาณผมกลับกลายมาเป็นวิญญาณเรร่อนแบบนี้
“ทำไมอะ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฮึก ฮื่อ”
พอเล่าจบผมก็เห็นร่างตัวเองเริ่มร้องไห้ โอ้โห เป็นภาพที่ไม่ชินเอาเสียเลย ผู้ชายตัวโต ๆ ร้องไห้ผิดหวัง เสียใจหนักขนาดนี้
“พี่น้ำใจเย็น ๆ นะเชื่อผม เดี๋ยวทุกอย่างก็กลับไปเป็นปกติ”
“จริงหรอ นายไม่หลอกฉันนะ ฉันจะได้กลับร่างตัวเองใช่ไหม”
“จริงครับ เพื่อนผมมันเป็นถึงยม ...” เกือบยั้งไว้ไม่ทันแน่ะ
“เอ่อ เป็นพวกมีความรู้เรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้น่ะครับ พวกเราต้องมีทางกลับคืนร่างแน่ ๆ”
“ครับพี่น้ำ ผมจะทำให้ไอ้อิฐกับพี่น้ำกลับไปเป็นเหมือนเดิมให้ได้” ไอ้คีย์พูดต่อ
เกือบเที่ยงของวัน ไอ้ชากับไอ้ปูน รวมถึงใยไหมที่เพิ่งได้ข่าวก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับข้าวกล่องอีกสามสี่กล่องและถุงขนมอีกมากมาย
“กูซื้อกระเพราทะเลกับคิตแคตของโปรดมึงมาฝากด้วยไอ้อิฐ” เสียงไอ้ชาดังมาก่อนตัว ก่อนจะตามมาด้วยร่างของมันที่เดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับใยไหมและปูน แต่สายตามันเหลือบมาเห็นร่างวิญญาณผมที่นั่งอยู่ที่โซฟากับไอ้คีย์ก่อนมันเลยร้องขึ้นมาอย่างงง ๆ
“อ้าว ! ไหนไอ้คีย์โทรไปบอกว่ามึงฟื้นแล้วไง”
สงสัยไอ้คีย์คงยังบอกไม่หมด ... ไอ้ปูนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวหนักกว่าก็งง ๆ แต่ไม่สนใจเดินเข้าไปหาร่างผมที่กำลังนอนอยู่ที่เตียงพ่นภาษาเหนือใส่รัว ๆ
“กูว่าบอกเรื่องนี้ให้ไอ้ปูนรู้เถอะ มันต้องสงสัยแน่ ๆ กูขี้เกียจแต่งเรื่องโกหกละ” ไอ้คีย์พูด
ว่าแล้วไอ้ปูนก็ถูกเรียกตัวกลับมานั่ง ตามมาด้วยไอ้คีย์ที่เอานิ้วป้ายเปลือกตาของมันกับใยไหม พอมันลืมตาขึ้นมาเห็นผมก็ถึงกับตกใจร้องลั่น ใยไหมไม่เท่าไรเพราะดูคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ดี พอมันเริ่มสงบลงผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มันฟัง เรื่องวุ่นวายแบบนี้คงต้องอยู่ไปอีกสักระยะให้ร่างกายของทั้งผมและพี่น้ำได้ฟื้นตัวดีก่อน เพราะเมื่อกี้ผมลองแอบไปโดดเข้าใส่ร่างพี่น้ำมันก็ไม่ได้ผล
สงสัยร่างกายพี่น้ำยังไม่ฟื้นตัว ...