บทที่ 28 วิชาปีศาจบังตา
บทที่ 28 วิชาปีศาจบังตา
กุนไท่ที่ไม่ทันได้ระวังนั้นตกใจ แต่เขาก็รีบตอบสนองอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบมีดที่แทงเข้ามา พร้อมกับไปปล่อยหมัดไปที่หัวของเด็กสาวปีศาจตัวนั้น
โผละ!
หัวของเด็กสาวปีศาจตนนั้นแตกกระจายออกมา ก่อนที่ร่างกายที่เหลือนั้นเกิดอาการกระตุก แววตาของกุนไท่เริ่มเปลี่ยนเป็นความโกรธ เขารู้โกรธเกลียดพวกที่ชอบเอาความรู้สึกของผู้อื่นมาล้อเล่น นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวของเขาเองรู้สึกโกรธ!
ปราณรอบตัวเกิดอาการสั่นไหวเล็กน้อย เนื่องจากรับรู้ได้จากอารมณ์ของชายหนุ่ม แต่มันก็เกิดเพียงแค่ชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
กุนไท่เดินตามทางขึ้นของภูเขา ข้างหน้ามีหมู่บ้านเล็กๆที่ดูสงบซึ่งแตกต่างจากบรรยากาศก่อนหน้านี้ที่น่ากลัวอย่างสิ้นเชิง แต่ลางสังหรณ์ของเขาบอกเขาว่า มีอันตรายซ่อนอยู่!
ชายหนุ่มปลดปล่อยพลังจิตออกไปเพื่อตรวจสอบ แล้วพบว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่ราวสิบห้าคน มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ปะปนกันไป แต่ที่น่าแปลกเลยคือที่แห่งนี้มีแต่บุรุษเพศเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้กุนไท่เริ่มระมัดระวังมากขึ้น แต่ภายนอกของเขายังดูปกติ และสงบเยือกเย็น
ทุกคนในหมู่บ้านมองกุนไท่เป็นตาเดียวกัน สายตาของพวกเขา ราวกับมองอาหารบนโต๊ะที่น่ารับประทาน
“หนุ่มน้อย! เจ้ามาจากที่ใด? แล้วมาที่หมู่บ้านนี้นั้นมีกิจอันใด!”
มีชายชราผู้หนึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความสูงวัย เขาเดินเข้ามาหากุนไท่พร้อมกับถามขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“ท่านผู้อาวุโส ข้าเดินทางมาพร้อมกับกลุ่มพ่อค้า บังเอิญพบปีศาจดักซุ่มโจมตีทุกคนตายกันหมด มีเพียงข้าที่หนีรอดมาได้! ข้าอยากหาที่พักสำหรับคืนนี้ไม่ทราบว่าท่านพอจะช่วยข้าได้หรือไม่?”
กุนไท่ตอบกลับไปด้วยความโศกเศร้าที่แต่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาฆ่าปีศาจแล้วมีเลือดติดมาด้วย ก่อนจะสร้างบาดแผลขึ้นมาเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด ว่านี่เป็นผลมาจากการถูกซุ่มโจมตีของปีศาจจริงๆ
“ไม่มีปัญหาหนุ่มน้อย! เจ้าไปจัดห้องพักให้คุณชายผู้นี้ด้วย”
ชายชราตอบตกลงก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆแล้วกล่าวขึ้น
“ตามข้ามา”
ชายหนุ่มผู้นั้นมองมาที่กุนไท่แล้วกล่าวขึ้นก่อนจะเดินนำทางไป กุนไท่ไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขาเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเงียบๆ เมื่อมาถึงที่ห้องพักนั้น ก็มีคนนำอาหารมาให้ กุนไท่ตรวจสอบแล้วพบว่ามันมียาพิษ! เขาจึงแอบออกจากห้องโดยที่ไม่ทำให้ใครรู้
กุนไท่ปล่อยจิตสัมผัสออกไปเพื่อตรวจสอบ แล้วพบว่าใต้ดินของหมู่บ้านนั้นมีห้องลับอยู่ เขาพยายามใช้จิตสัมผัสให้เป็นเหมือนกระบี่เพื่อทะลวงเข้าไปตรวจสอบข้างใน ภายใต้จิตสัมผัสนั้น เขาได้มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องลับนั้นแล้ว!
ข้างในมีปีศาจหลายสิบตัวกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแท่นบูชาขนาดใหญ่ ด้านข้างแท่นมีศพสตรีเพศมากมาย พวกมันกำลังใช้เลือดของหญิงสาวพวกนี้ในการเพิ่มพลังบ่มเพาะ!
กุนไท่รู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก และรู้สึกโกธรจนร่างกายสั่นสะท้าน แต่เขาก็คิดว่านี่เป็นการฝึกจิตใจเขาจะต้องสงบสติอารมณ์ กุนไท่หายใจเข้าออก เพื่อทำให้อารมณ์กลับมาสงบดั่งเดิม ก่อนจะเดินไปที่ห้องลับ และพังประตูเข้าไป
ปัง!
ประตูขนาดใหญ่พังออกทันทีพร้อมกับปีศาจหลายสิบตัววิ่งกรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง กุนไท่ระเบิดกลิ่นอายที่พิเศษออกมาทำให้ปีศาจอ่อนแอบางตัวสลบไป
วิชาระดับสามัญชนขั้นสูง ปีศาจบังตา!
กุนไท่ใช้วิชาต่อสู้ออกมา ปีศาจที่เหลืออยู่นั้น รู้สึกได้ว่าภาพตรงหน้ามืด ก่อนจะเห็นว่ารอบตัวของมันมีมนุษย์หลายคนกำลังต่อสู้อย่างชุลมุน มันรู้สึกแปลกใจ แต่ก็รีบเข้าร่วมการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
วิชานี้มีความสามารถสร้างภาพหลอน มันทำให้ผู้ที่โดนวิชานี้เกิดอาการหลอนประสาน ภาพตรงหน้าของกุนไท่นั้นคือปีศาจกำลังต่อสู้กันเองอย่างบ้าคลั่ง พวกมันเห็นพวกเดียวกันเป็นศัตรูไปแล้ว!
กุนไท่เดินมาที่ศพก่อนจะจุดไฟเผาร่างของพวกนางทั้งหมด และเริ่มฆ่าคนในหมู่บ้านไม่ให้เหลือแม้สักคน เพราะพวกมันเป็นปีศาจที่สิงในร่างมนุษย์!
แต่แล้วทันใดนั้น ภาพตรงหน้าของกุนไท่ก็กลับมาเป็นปกติ เขากลับมาที่ห้องลับในพื้นที่บรรพบุรุษของอีกครั้ง
“เยี่ยมมาก! เจ้าผ่านมาได้แล้ว ตอนนี้จิตใจของเจ้าได้พัฒนาไปมาก การควบคุมอารมณ์ดีขึ้นมาก นี่เป็นแค่การฝึกเล็กน้อยเท่านั้น”
กุนคุนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่กำลังเห็นหลานของตนเองประสบผลสำเร็จดั่งคาด กุนไท่พยักหน้าตอบก่อนจะเริ่มบ่มเพาะต่อ พลังบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าช้าลงหากเทียบกับเมื่อก่อน แต่สำหรับผู้อื่นก็ยังคงรวดเร็วอยู่ดี เพื่อที่จะต้องให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น มีแต่จะต้องทำเช่นนี้เท่านั้น
พลังปราณของเขาก้าวหน้ามากขึ้น เมื่อเทียบกับตอนที่จะเข้าไปในค่ายกลฝึกจิตนั้น แต่ก็ยังคงห่างกับขั้นวิญญาณอีกไกล
ปึก!
กุนไท่ยังคงฝึกฝนไม่หยุด เขาสู้กับหุ่นฝึกซ่อมสามตัวพร้อมกัน โดยที่ห้ามใช้พลังปราณใช้เพียงแค่ร่างกายอย่างเดียวเท่านั้น แม้ว่าประสบการณ์การต่อสู้ของเขาจะจัดว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก หากเทียบกับคนวัยเดียวกัน
แต่ประสบการณ์การต่อสู้ด้วยร่างกายนับว่าเป็นศูนย์ หากเจอเข้ากับผู้บ่มเพาะที่มีพรสวรรค์ด้านร่างกาย และมีจิตใจที่แข็งแกร่งจนสามารถทนต่อกลิ่นอาย และวิชามายาของเขาได้ละก็ เขาตกที่นั่งลำบากแน่
หลายวันผ่านพ้นไป กุนไท่ยังคงฝึกฝนไม่หยุดหย่อน จนตอนนี้ร่างกายของกุนไท่แข็งแกร่งกว่าระดับเดียวกันมากแล้ว แต่ยังห่างไกลกับร่างกายของผู้ที่อยู่ในขั้นวิญญาณ หากใช้พลังปราณเขาสามารถสู้ได้กับระดับหลอมรวมพลัง ขั้นรวบรวมพลังเลยทีเดียว!
ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ระดับบ่มเพาะก็ก้าวหน้าขึ้นด้วย กุนไท่ใช้พลังปราณขัดเกลาร่างกายของตนเองให้ดีขึ้น รวมถึงการใช้ปราณฝึกพลังจิต
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแล้วก็ใกล้มาถึงวันที่กุนไท่จะได้เข้านิกายฟ้าสวรรค์คำรามพิโรธแล้ว เหลือเวลาอีกเพียงแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น!
กุนจวินมาหากุนไท่ตามเวลาที่กำหนด เขาตกตะลึงกับกุนไท่อย่างมาก ไม่ใช่แค่พลังบ่มเพาะเท่านั้น แต่รวมถึงรูปร่างด้วย ร่างกายที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี และบ่งบอกถึงพลัง แม้จะเป็นกล้ามเนื้อเล็กๆแต่มันกลับอัดแน่นไปพลังมหาศาล ที่สามารถระเบิดตำหนักหลังหนึ่งได้อย่างง่ายดาย!
“คาราวะท่านพ่อ!”
กุนไท่เห็นบิดาของตนก็รีบกล่าวขึ้นทักทายทันที กุนจวินสงบใจอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถึงเวลาแล้ว เราต้องออกเดินทางตอนนี้เลย บอกลาท่านปู่ของเจ้าเสียก่อนเถิด”
กุนไท่พยักหน้าตอบก่อนจะบอกลากุนคุน การเดินทางในครั้งนี้ต้องใช้เวลาถึงยี่สิบวัน แม้ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรที่ลากรถนั้นมากกว่าระดับผู้เชียวชาญอย่างเทียบไม่ติด แต่ระยะทางไกลกันเป็นอย่างมาก
หนึ่งปีที่กุนไท่ได้ฝึกฝนนั้น เรื่องราวภายนอกได้เกิดเรื่องมากมาย สงครามได้เริ่มรุนแรงมากขึ้น คนที่ตายไปนั้นมากถึงหลายแสนคนเลยทีเดียว กุนไท่ที่ได้ฟังนั้นไม่ได้รู้สึกกังวลเลย เพราะเขารู้ว่าบิดาของเขานั้นไม่ใช่แค่มีร่างกายที่แข็งแกร่งเพียงเดียว แต่ยังมีปัญญาที่ล้ำเลิศอีกด้วย!