ตอนที่ 47 จะคู่ควรกับตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายซ้ายหรือไม่? (ฟรี)
"ฝ่าบาท ท่านอัครมหาเสนาบดีเจี๋ย ต้องการเข้าเฝ้า!"ด้านนอกห้องศึกษาของจักรพรรดิทหารองค์รักษ์ได้เดินเข้ามากล่าวรายงาน
"เจี๋ยสวี่?"
ลู่เฟิงได้วางหนังสือลงและพูดขึ้น"ปล่อยเขาเข้ามา!"
"ขอรับ!"
องค์รักษ์ได้ก้าวถอยหลังและไปแจ้งต่อ เจี๋ยสวี่
ไม่นาน เจี๋ยสวี่ ก็เดินเข้ามาพร้อมกับคุกเข่าคำนับลู่เฟิง
"เหวินเหอ ไม่จำเป็นต้องสุภาพ!"
ลู่เฟิง ได้เดินไปจับมือของ เจี๋ยสวี่ และตอบกลับด้วยรอยยิ้ม"เจ้ามีเรื่องน่ายินดีอะไรใช่หรือไม่ถึงรีบมาพบข้าเร็วขนาดนี้?"
"ฝ่าบาทพระองค์ทรงพระปรีชายิ่งนักที่สามารถคาดเดาความคิดของข้าน้อยได้ในทันที"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
"เอาล่ะ เหวินเหอ มีอะไรก็พูดมาไม่จำเป็นจะต้องอ้อมค้อม"
"ข้าพบบุคคลที่มีความสามารถด้านกิจการภายในสำหรับฝ่าบาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับอย่างตื่นเต้น
ในระหว่างการเดินทาง เจี๋ยสวี่ ได้พูดคุยกับ ซุนฮก และ เขาก็ได้รู้ว่า ซุนฮก เป็นคนที่มีความสามารถโดยอย่างยิ่งในการติดต่อกับราชสำนักและกิจการภายใน ความรู้ของอีกฝ่ายดีกว่าเขามาก
สิ่งนี้จะไม่ทำให้เขามีความสุขได้อย่างไร เดิมเขารู้สึกกังวลว่าจะจัดการกับตำแหน่งทางการที่ว่างอย่างไรดี
แต่ตอนนี้เขาได้ค้นพบคนที่มีความสามารถจะจัดการเเล้วทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก
หัวใจของลู่เฟิงได้ขยับเล็กน้อยหรือว่ามันจะเป็น ซุนฮก?
เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ ตามปกติแล้ว แม้ว่าระบบบอกว่าขุนพลที่อัญเชิญมาจะมาหาในเวลาที่เหมาะสม โดยรวมแล้ว ตัวตนเหล่านี้มักจะมาในช่วงเวลาที่เขาต้องการมากที่สุดจริง ๆ
ดังนั้นนี่จึงเป็นไปได้มากที่สุด
ลู่เฟิง ได้ถอนหายใจเบา ๆ เขาไม่ได้เปลี่ยนเเปลงการแสดงออกแตะกลับมองไปที่เจี๋ยสวี่ และกล่าวพูดขึ้น"เอาล่ะ พาเขามาพบข้า"
"ขอรับ!"
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับพร้อมกับเดินออกจากห้องศึกษาของจักรพรรดิ จากนั้นก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มในชุดคลุมยาวที่เรียบง่าย
ชายหนุ่มคนนี้มีใบหน้าที่ดีและหล่อเหลาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดที่ดูน่าเคารพและไว้ใจ
เมื่อเห็นดวงตาของชายคนนี้ดวงตาของลู่เฟิงได้สว่างวาบขึ้นทันที
"ถวายบังคมฝ่าบาท ข้าน้อยมีนามว่า ซุนฮก รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน"
ซุนฮก ได้คุกเข่าลงบนพื้น
มันเป็น ซุนฮก จริง ๆ
ลู่เฟิง รู้สึกมีความุสขมาก เขาไม่คิดเลยว่า ซุนฮก จะมาหาเขาเร็วแบบนี้
เขารู้สึกขอบคุณระบบอย่างแท้จริง
เขาได้ระงับความตื่นเต้นในใจและจ้องมองไปที่ ซุนฮุกและกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม"ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าจาก เหวินเหอแล้ว เหวินเหอบอกว่าเจ้าเป็นคนที่มีความสามารถด้านกิจการภายในเป็นอย่างดี เช่นนั้นข้าจะลองทดสอบเจ้า"
"ฝ่าบาทโปรดตั้งคำถาม!"ซุนฮก รู้สึกมั่นใจ
"อืม"
ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะและกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม"เจ้าน่าจะได้ยินเรื่องข่าวลือที่เมื่อวานนี้ข้าได้สังหารข้าราชบริพารไปมากกว่า 700 คน ตอนนี้มีตำแหน่ง ข้าราชบริพารที่สำคัญว่างอยู่ในราชสำนักจำนวนมาก เจ้าสามารถให้คำแนะนำกับข้าได้หรือไม่?"
เจี๋ยสวี่ ได้ถอนหายใจออกมา จู่ ๆ ฝ่าบาทของเขาก็ยิงคำถามที่ยากออกมา ถ้าซุนฮก ไม่สามารถตอบได้ เช่นนั้นเขาจะได้รับโอกาสงั้นหรือ
เขาได้จ้องมองไปที่ ซุนฮก และ หวังว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ออกมาเพื่อที่เขาจะได้รับความดีความชอบที่สามารถพาบุคคลที่มีความสามารถเข้ามาในราชสำนักได้
ซุนฮก ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ"ฝ่าบาท หาก ซุนฮก มีวิธี ฝ่าบาท จะให้ ข้าน้อย เข้าไปในราชสำนักอย่างเป็นทางการใช่หรือไม่?"
"เจ้าตัวหนาซุนฮกเจ้าจะมากเกินไปแล้วรีบขอโทษฝ่าบาทเร็ว!"เจี๋ยสวี่ ที่ได้ยินดังนั้นการแสดงออกของเขาได้เปลี่ยนไปและเขารีบพูดขึ้น
เดิมเขาคิดว่า ซุนฮก จะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ แต่ตอนนี้ ซุนฮก กล้าที่จะขอตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เขาจะไม่รู้สึกแย่ต่อหน้าฝ่าบาทหรืออย่างไร?
"ไม่ต้อง!"
ลู่เฟิง ได้ยกมือขึ้นและจ้องมองไปที่ ซุนฮก "ถ้าเจ้าสามารถมอบคำตอบที่ข้าพึงพอใจได้ ข้ารับรองว่าตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายซ้าย จะเป็นของเจ้า แต่ถ้าเจ้าตอบคำถามไม่ได้ข้าไม่รับรองว่าศีรษะของเจ้าจะคงอยู่บนบ่านั่น!"
เจี๋ยสวี่ ได้มองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขากำลังมอบโอกาสและบทลงโทษในเวลาเดียวกัน
ตำแหน่ง เสนาบดี นั้นมีอยู่สองฝั่งก็คือ ซ้ายและขวา ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความขัดแย้งกันมันถือเป็นการรักษาสมดุลของราชสำนัก
ลู่เฟิง มีแผนการเป็นของตัวเองในใจ ด้วยพรสวรรค์ของ ซุนฮก เขาไม่เพียงแต่จะกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาหลักของเขา ถ้าตำแหน่งที่เขามอบให้อีกฝ่ายน้อยเกินไป มันอาจจะเกิดความไม่พอใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
และถ้าให้มากเกินไป บรรดาขุนนางอาวุโสเหล่านั้นจะต้องคัดค้านอย่างแน่นอน
แม้ว่าเขาจะไม่สนใจ แต่เหล่าขุนนางอาวุโสเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นวีรบุรุษของอาณาจักรหนานหยาน ความคิดเห็นของพวกเขาก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเพิกเฉยได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดเขาจะต้องทำให้ตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายซ้ายและขวาถูกเติมเต็มเสียก่อน
แม้ว่าเหล่าขุนนางอาวุโสเหล่านี้จะไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นและความตายพวกเขาจะกล้าโต้แย้งอะไรต่อลู่เฟิง
นี่คืออำนาจที่เด็ดขาดของจักรพรรดิ!
เขาจะให้ ซุนฮก แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา จนคนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะโต้แย้งอะไร
ซุนฮก ได้ยิ้มและตอบกลับ"ฝ่าบาท เช่นนั้นซุนฮก ขออนุญาติคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจ"
"พูดมาได้เลย!"
ซุนฮกได้หยุดคิดเล็กน้อยและตอบกลับ"ฝ่าบาทอันที่จริงนี่ไม่ใช่งานยากอะไรเลยตำแหน่งที่ว่างอยู่นั้น ถ้าท่านมอบอำนาจที่เหลืออยู่ให้กับคนสนิทไม่กี่คน นี่ไม่เพียงแต่จะเพิ่มอำนาจบารมีของฝ่าบาทในการควบคุม ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของอาณาจักรได้เป็นจำนวนมาก และ ยังลดเจ้าหน้าที่ทุจริตออกไปได้อีกด้วย ประชาชนของอาณาจักรก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น!"
ลู่เฟิง ได้ผงะ เขาไม่คิดเลยว่า ซุนฮก จะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้
เจี๋ยสวี่ เองก็ขมวดคิ้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ซุนฮก ถึงกล้าพูดแบบนี้ออกไป
ลู่เฟิง ได้จ้องมองไปที่ ซุนฮก และกล่าวถาม"เหวินยื่อ บอกข้ามาทำไมเจ้าถึงคิดว่าวิธีนี้เหมาะสมที่สุด?"
เมื่อได้ยิน ลู่เฟิง พูดชื่อรองของตนเอง ซุนฮก ถึงกับผงะ ฝ่าบาทเพิ่งจะรู้จักเขาเมื่อครู่นี้ ? เขารู้ได้ยังไงว่าเขามีชื่อรองว่า เหวินยื่อ ?
เจี๋ยสวี่ เองก็ผงะเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเพิ่งจะแนะนำ ซุนฮก ให้กับฝ่าบาท มันไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ที่ฝ่าบาทจะรู้ชื่อรองของ ซุนฮก หรือว่า ฝ่าบาทมีความลับอะไรปิดบังกันแน่?
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าถามสิ่งเหล่านี้ออกไป
ในฐานะข้าราชสำนักเขารู้ว่าอะไรควรถามอะไรไม่ควรถาม
ซุนฮก ได้พยายามทำใจให้นิ่งสงบและตอบกลับ"ฝ่าบาท ท่านอาจจะไม่รู้ ก่อนที่ โม่เต๋า จะขึ้นเป็นเสนาบดี ในตอนนั้นอาณาจักรมีข้าราชบริพารประมาณ 400 กว่าคนเท่านั้น เขารู้ดีว่าไม่มีทางควบคุมเหล่าข้าราชบริพารจำนวนมากได้เขาจึงจัดตำแหน่งที่ไม่จำเป็นออกไปและแบ่งอำนาจของราชสำนักให้กับคนสนิทของตนเองหลังจากนั้นผ่านไปหลายสิบปีมีข้าราชบริพารจำนวนมากเติบโตขึ้นถึงพันคนนี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !"
"แต่ในจำนวนข้าราชบริพารกว่าหนึ่งพันคนนั้นคนที่ตัดสินใจและมอบความภักดีให้กับราชวงศ์กลับมีเพียงแค่หยิบมือ!"
ลู่เฟิง ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ เขามาที่อาณาจักรหนานหยานได้เพียงแค่เดือนกว่า ๆ และ เขาจะต้องเอาชีวิตรอดด้วยการพัฒนาความแข็งแกร่ง เพราะปัญหาที่เจ้าของร่างคนเก่าทิ้งเอาไว้ ทำให้เขาไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้เลย
เขาได้หันหน้าไปมอง เจี๋ยสวี่ และกล่าวถามเป็นนัย ๆ ว่าใช่อย่างที่พูดมาหรือไม่
เจี๋ยสวี่ ได้พยักหน้า
หลังจากนั้นลู่เฟิงก็จ้องมองไปที่ ซุนฮก ด้วยรอยยิ้ม"เหวินยื่อ ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความรู้ความเข้าใจในราชสำนักของอาณาจักรหนานหยานเป็นอย่างดี!"