ตอนที่ 45 ขุนนางที่ต้องการ (ฟรี)
เกาชุนรู้สึกเขิกอายเล็กน้อยและตอบกลับ"ฝ่าบาทหากพระองค์ต้องการถามเกี่ยวกับสงครามการเดินทัพข้าน้อยคงจะมีข้อแนะนำอยู่แต่ถ้าเป็นสองปัญหาแรกข้าน้อยเกรงว่าจะไม่สามารถออกความเห็นได้!"
"พูดมา!"
"ฝ่าบาท พระองค์บอกว่า ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ส่งนักฆ่ามาลอบสังหารพระองค์อย่างลับ ๆ ใช่หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่เขามีทหารชั้นยอดอยู่ในมือหลายล้านคนแต่ทำไมเขาถึงต้องเช่นนั้น เหตุผลอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ว่าเขากำลังทำการกบฏ"
"พูดต่อ"
"ข้าน้อยมีความเห็นว่าหากพระองค์ต้องการจะจัดการเขา พระองค์จะต้องเฝ้าพัฒนากองกำลังของตนเองอย่างเงียบ ๆ แม้จะมีจำนวนไม่ถึงล้านคน แต่เพื่อเอาชนะ กองทัพทั้งหมดของ ราชาเมกาทรอน ข้าน้อยต้องการกำลังคนประมาณ 500,000 นาย ด้วยเกียรติทั้งหมดของข้าน้อย ข้าน้อยมีวิธีที่จะทำให้ทหารนับล้านของราชาเมกาทรอนเคลื่อนที่ไม่ได้! เพียงแต่..."
เขามองไปที่ลู่เฟิงอย่างระวังและตอบกลับเบา ๆ "เพียแต่เพื่อที่จะทำแบบนั้นได้เกรงว่าจะต้องใช้เวลานานเกือบหนึ่งหนึ่ง..."
เขาอยากที่จะพูดต่อแต่เขาไม่กล้าพูดออกไป
เพราะสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้จะทำให้ลู่เฟิงต้องแบกรับภาระ
เจี๋ยสวี่ ได้จ้องมองไปที่ลู่เฟิงและตอบกลับ"ฝ่าบาท ข้าน้อยเองก็เห็นด้วย การจะต่อกรกับราชาเมกาทรอนลู่เว่ยยังไม่ถึงเวลาอันควรอย่างน้อยเราไม่ควรเคลื่อนไหวถ้าไม่แน่ใจว่าจะสามารถเขาได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็น!"
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและยิ้มอย่างขมขื่น"ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลและมองไม่เห็นข้อเท็จจริง เช่นนั้นเรามาพูดถึงสองปัญหาแรกกันก่อน!"
"ฝ่าบาท เรื่องนี้ข้าน้อยคิดว่าให้ปรมาจารย์เจี๋ยเป็นคนออกความเห็นดีกว่า"เกาชุน ได้ยิ้มตอบกลับ
"อืม"
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและมองไปที่ เจี๋ยสวี่"เหวินเหอ เจ้ามีความเห็นอย่างไรบ้าง?"
"ฝ่าบาท พระองค์ไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาประการที่สองเลย นับตั้งแต่ที่นิกายหยุนกงเสียอาวุโสเสาหลักทั้งสิบคนไปความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ลดลงไปถึงครึ่งนึง ในอาณาจักรหนานหยาน นอกจากนิกายหยุนกงที่เป็นนิกายใหญ่แห่งเดียวแล้ว ยังมีนิกายเล็ก ๆ อื่น ๆมากกว่าหนึ่งโหล"
"พวกเขามักจะถูกนิกายหยุนกงกดขี่เสมอมา ตอนนี้ นิกายหยุนกงได้สูญเสียความแข็งแกร่งไปมากพวกเขาจะต้องมองหาโอกาสในการจัดการนิกายหยุนกงเป็นแน่ ทางที่ดีพวกเราเพียงแค่เฝ้ารอดูสถานการณ์ไปก่อนจะดีกว่า!"
"เอาล่ะข้าจะเชื่อในคำพูดของเจ้า!"ลู่เฟิงได้ยิ้มและกล่าวถามอีกครั้ง"ตอนนี้เรามาพูดถึงปัญหาแรกกันเถอะ!"
เจี๋ยสวี่ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ"ฝ่าบาท อำนาจของข้าราชบริพาร หาใช่ความแข็งแกร่งแต่เป็นกลยุทธ์ ดังนั้นเรื่องนี้จำเป็นจะต้องใช้เวลาสักระยะหวังว่าฝ่าบาทจะไม่ถือโทษตำหนิข้าน้อยในความล่าช้า"
ลู่เฟิง รู้ว่า เจี๋ยสวี่ เป็นนักยุทธวิธีไม่ใช่นักกลยุทธ์ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เป็นอัครมหาเสนาบดีของรัฐเว่ย แต่ในความเป็นจริงตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายมาก แม้เเต่เขาก็ยังไม่กล้ารับปากลู่เฟิงโดยตรง
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้ เจี๋ยสวี่ จัดการไปก่อน
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเขามีคนที่สามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อยู่ภายใต้อาณัติของตนเอง...ทำไมเขาถึงไม่มีมันนะ
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดเล็กน้อย เขายังมีโอกาสในการอัญเชิญอีกสองครั้ง ก่อนหน้านี้เขากำลังคิดมองหาโอกาสในการเรียกอยู่ และ ตอนนี้มันใช่โอกาสที่เขากำลังมองหาหรือไม่?
คนที่มีความสามารถในการจัดการกิจการภายใน!
เขาต้องการบุคคลเช่นนี้จริง ๆ
ในเวลานี้ เจี๋ยสวี่ ได้กล่าวต่อ"ฝ่าบาท ข้าเสนอเเนะของข้าน้อยก็คือ ให้กองกำลังจินยี่เหว่ย มองหาบุคคลที่มีพรสวรรค์ซ่อนเร้นในหมู่ข้าราชบริพารจากนั้นก็ทดสอบพวกเขาและให้พวกเขาเข้ารับตำแหน่งที่ว่างอยู่ในราชสำนัก"
ข้อเสนอแนะของ เจี๋ยสวี่ ถือว่าดี มันสามารถมอบโอกาสที่ดีให้กับข้าราชบริพารชั้นล่างได้ ทั้งเขายังพบคนมีความสามารถในเวลาเดียวกัน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมองหาคนที่เก่งจากสถานที่อื่น ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ อย่างน้อยจะต้องใช้เวลาเกือบปีกว่าจะทำให้อำนาจในราชสำนักกลับมาคงที่เหมือนเดิม
ลู่เฟิงได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ"เอาเป็นว่าพวกเราลองดูการจัดการของ เหรินหยาน กันก่อน ถ้ามันไม่ได้ผลพวกเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที"
"ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!"เจี๋ยสวี่ ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะกลัวว่า ลู่เฟิง จะไม่พอใจกับคำแนะนำของเขา
แม้ว่า เขาจะไม่ได้ผลตอบรับที่ดีตามที่หวังเอาไว้ แต่แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
"เอาล่ะ พวกเจ้าไปพักผ่อนกันเถอะ เกาชุน ข้าจะมอบหมายหน้าที่ให้เจ้า ไปเกณฑ์ทหารจาก มลฑลหลินซาน,หยุนซาน และ ซานหลิง บอกพวกเขาว่าใครยินดีที่จะเข้าร่วมกับกองทัพครอบครัวของพวกเขาจะได้รับความดูแลจากทางอาณาจักร!"
"นี่..."
เกาชุนได้มองไปที่ลู่เฟิงและตอบกลับ"ฝ่าบาท นั่นคือผู้คนนับล้าน แม้ว่าเราจะจำกัดจำนวนไว้สัก 300,000 คน แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินทุนอย่างมากในการทำตามความประสงค์ของฝ่าบาท คลังหลวงของพวกเรามีเงินเหลือมากถึงขนาดนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
"ก่อนหน้านี้เงินหนึ่งพันล้านเหรียญได้ถูกเพิ่มเข้าไปในคลังหลวงแล้ว"ลู่เฟิงได้ยิ้มและตอบกลับ
เกาชุนได้ผงะไปชั่วขณะจากนั้นเขาก็เข้าใจถึงที่มาของเงินเขาได้หยุดคำถามเพิ่มตามจากนั้นก็ออกจากห้องศึกษาของจักรพรรดิ
เจี๋ยสวี่ ได้เตรียมจะจากไปแต่ลู่เฟิงก็ทักขึ้น"เหวินเหอ รอก่อน!"
เจี๋ยสวี่ ได้หยุดไปชั่วขณะและหันไปมองลู่เฟิงด้วยความเคารพ"ฝ่าบาทมีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้?"
"ข้าได้รับเงินหนึ่งพันล้านเหรียญมาจากการยึดทรัพย์สินข้าราชบริพารที่ตกตาย ข้าจะมอบเงินทุน หนึ่งร้อยล้านเหรียญให้กองทหารจินยี่เหว่ย ข้าต้องการให้เจ้าจัดตั้งองค์กรข่าวกรองขนาดใหญ่ ข้าต้องการรู้ข้อมูลทุกประเทศในหยูโจว หากเงินไม่พอให้บอกข้า ว่าแต่เจ้าทำได้หรือไม่?"ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม เจี๋ยสวี่
เจี๋ยสวี่ ได้ผงะไปชั่วครู่ เขาเข้าใจดีถึงความทะเยอทะยานของลู่เฟิง เป้าหมายแรกของเขาก็คือการยึดครองหยูโจว?
แผ่นดินใหญ่คิวชูแบ่งออกเป็น : จงโจว, โมโจว, เหยาโจว, หนานโจว, หยูโจว, หยุนโจว, ไห่โจว, เฉินโจวและฉินโจว
อาณาจักรหนานหยาน ถือเป็นประเทศเล็ก ๆ ใน หยูโจว!
ลู่เฟิง ต้องการเริ่มเป้าหมายก็คือการยึดครอง หยูโจว ในตอนนี้ นี่จะไม่ทำให้ เจี๋ยสวี่ แปลกใจได้อย่างไร?
เขาเคยได้ยิน ลู่เฟิง พูดถึง ความทะเยอทะยานของตนเองมากก่อน ไม่ต้องพูดถึงเพียงแค่ หยูโจว เพราะลู่เฟิงต้องการครอบครองโลกทั้งใบ
เขารู้สึกประหลาดใจและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเขารู้สึกโชคดีที่สุดที่ติดตามจักรพรรดิที่มีความทะเยอทะยานเช่นนี้
เขาได้ตอบกลับทันที"ฝ่าบาท โปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุหน้าที่นี้ให้เสร็จในเร็ววัน ข้าน้อยจะสร้างองค์กรข่าวกรองขนาดใหญ่ให้กับพระองค์ได้อย่างแน่นอน"
"ข้าเชื่อใจเจ้าเอาล่ะไปพักได้แล้ว!"
"เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวลา!"
หลังจาก เจี๋ยสวี่ ได้จากไป ลู่เฟิง ก็ปิดตาของเขาและกล่าวพูดกับระบบ"ระบบฉันต้องการเริ่มต้นอัญเชิญ!"
"ติ๊ง กำลังดำเนินการ!"
"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่อัญเชิญอัครมหาเสนาบดี ซุนฮก สำเร็จ!"
อะไรนะ ?
ซุนฮก?
ลู่เฟิง รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินชื่อนี้ เขารีบเปิดหน้าอัญเชิญของเขาและตามที่คาดไว้มันเป็น ซุนฮก จริง ๆ
"ฮ่าฮ่า,ฉันได้รับ ซุนฮก มันเป็น ซุนฮก จริง ๆ !"
ลู่เฟิง เกือบจะกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ซุนฮก คือใคร ?
นี่คือที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงให้กับขุนศึกอย่างโจโฉในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก
เขาช่วยโจโฉกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อยึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนและยังคงรักษาเมืองสำคัญทั้งสามเมืองเอาไว้ได้จนสร้างปัญหาให้กับ ลิโป้ เขามีบทบาทสำคัญอย่างมากและให้คำแนะนำแก่โจโฉอย่างมากมาย
กล่าวได้ว่าผลงานของ ซุนฮก ที่มีต่อโจโฉนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ในที่สุดเขาก็ต่อต้านโดยการอ้างสิทธิ์ของโจโฉต่อองค์จักรพรรดิ ทำให้ โจโฉถูกย้ายศูนย์กลางอำนาจไป และ ท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิตด้วยโรคร้ายเมื่ออายุห้าสิบปี
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นที่ปรึกษาที่สำคัญของโจโฉ ทั้งยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์
เขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไรในเมื่อเขาสามารถเรียกข้าราชบริพารระดับสูงและนักยุทธศาสตร์ออกมาได้เช่นนี้?
"ตอนนี้มาให้ฉันดูหน่อยว่านายมีความสามารถสูงมากแค่ไหน"
ดวงตาของลู่เฟิง ได้กระพริบด้วยความสนใจเขาได้คลิกไปที่ข้อมูลของ ซุนฮก