HPST ตอนที่ 48: การติดต่อครั้งที่สอง
HPST ตอนที่ 48: การติดต่อครั้งที่สอง
เวลาผ่านไป, เพียงพริบตาเดียวก็เป็นเดือนกุมภาพันธ์เสียแล้ว
หลังจากสนทนาสั้นๆกับทอม ริดเดิ้ลในวันคริสต์มาส เขาไม่ได้พยายามติดต่อกับทอมอีกเลย,อีวานคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องไม่สนใจเขาไประยะหนึ่ง
บรรยากาศในโรงเรียนยังคงตึงเครียดถึงแม้การโจมตีจะหยุดลงและต้นแมนเดรกซ์ก็พร้อมเก็บเกี่ยว แต่นักเรียนส่วนใหญ่ยังคงตื่นตระหนกอยู่
ล็อคฮาร์ตดูเหมือนจะคิดว่าเขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง
“พวกเธอไม่ต้องกังวล, ห้องแห่งความลับจะไม่มีวันเปิดขึ้นมาอีก” นั่นคือสิ่งที่ล็อคฮาร์ตพูดคุยครั้งหลังจบคาบเรียนการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด “พวกคนร้ายคงจะรู้ตัวว่าจะถูกฉันจับในไม่ช้าก็เร็วนี้ ดังนั้นพวกเขาฉลาดอย่างมากที่หยุดลงมือก่อนที่ฉันจะจับพวกเขาได้”
“สิ่งที่ฉันควรทำต้องนี้คือกำจัดความทรงจำแย่ๆ” ล็อคฮาร์ตกล่าว “ฉันไม่อยากจะพูดมากนัก แต่ฉันคิดว่าฉันมีคำตอบแล้ว”
เมื่อถึงเวลาอาหารเช้าในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทุกคนรู้ว่าล็อกฮาร์ตกำลังทำกำลังอะไรบางอย่างเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
เมื่ออีวานเข้าไปในห้องโถงใหญ่ตอนเช้าตรู่วันนั้น, เขาเห็นว่าผนังทั้งหมดทุกประดับประดาไปด้วยดอกไม้ช่อใหญ่สีชมพูสดใจ ที่แย่กว่านั้นมีกระดาษโปรยรูปทรงหัวใจที่ล่วงลงมาจากเพดานสีฟ้าไม่หยุด (T/N ถ้านึกกระดาษโปรยไม่ออก ก็ประมาณกระดาษสีทอง สีเงินที่ชอบเอามายิงในงานฉลองน่ะครับ แต่เป็นรูปหัวใจแทน)
ล็อคฮาร์ตนั่งอยู่ตรงที่โต๊ะของอาจารย์,สวมเสื้อคลุมสีชมพูที่เข้ากับการตกแต่ง, และพวกศาสตราจารย์ที่นั่งอยู่ข้างๆเขามีสีหน้าประหลาดๆ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลดูเขม่นเล็กน้อย และสเนปดูเหมือนกับเขากำลังจะอาเจียน
ต่อมา, ล็อคฮาร์ตประกาศว่าเขามีเซอร์ไพรซ์เล็กๆน้อยๆ
ในวินาทีค่อมา, คนแคระสิบสองคนเดินผ่านประตูเข้ามา, แตกต่างจากคนแคระทั่วไป, พวกเขาทั้งหมดมีปีกสีทองและพิณอยู่บนหลัง
ล็อคฮาร์ตเรียกพวกเขาว่าคิวปิดตัวน้อยที่เป็นมิตร
เขาบอกกับนักเรียนว่าพวกเขาสามารถใช้พวกเขาไปส่งจดหมายรักหรือขอคำแนะนำจากสเนปในการปรุงยาเสน่ห์ก็ได้
อีวานไม่รู้หรอกว่าใครจะไปกล้าถามสเนปเกี่ยวกับการปรุงยา แต่พวกคนแคระเอาแต่วิ่งวุ่นไปทั่วทั้งโรงเรียนเพื่อส่งจดหมายวันวาเลนไทน์
ในบรรดาอาจารย์,ล็อคฮาร์ตได้รับจดหมายมากที่สุด, เกือบ 200 ฉบับ
มันทำให้เขาได้รับความนิยมน้อยที่สุดจากบรรดาอาจารย์ และเมื่อคนแคระเข้ามาในห้องเรียนเป็นครั้งที่สิบสอง ศาสตราจารย์มักกอนนากัลไล่อีวานออกไปด้วยสายตารังเกียจ
ต่อมา,คนแคระบรรเลงเพลงให้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์แก่เขา
แต่อีวานนั้นเร็วกว่าคนแคระ และร่าย ‘ซิเลนซีโอ’
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนแคระตัวอื่นหาเขาเจอ, อีวานกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
อีวานตัดสินใจที่จะคุยกับทอม ริดเดิ้ลอีกครั้ง ,ดูเหมือนว่าหลังจากผ่านไปมากกว่าหนึ่งเดือนที่ถูกทอดทิ้งทำให้อีกฝั่งจะหมดความอดทนแล้ว
เมื่ออีวานเปิดไดอารี่ บทความที่ตอบคำถามเกี่ยวกับการปรุงยาที่เขาเคยถามเมื่อครั้งก่อนก็ปรากฏขึ้น
“ฉันทำการบ้านตัวตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ,ศาสตราจารย์สเนปให้เกรดฉันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ดังนั้นคำถามของฉันตอนนี้คือ…...” อีวานกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มบิดเบี้ยว เขาเขียนคำถามเกี่ยวกับการวิจัยเวทย์มนต์ล่าสุดของเขาลงไป
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาที มีคำตอบเขียนขึ้นบนกระดาษ
(T/N กูเกิ้ลโลกเวทย์มนต์)
ริดเดิ้ลให้คำตอบที่สมบูรณ์แบบแก่เขา ซึ่งทำให้เขามีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ดูเหมือนว่าความเข้าใจของริดเดิ้ลจะลึกซึ้งยิ่งกว่าพวกศาสตราจารย์เสียอีก
ด้วยการนี้ ,อีวานจึงเริ่มสื่อสารกับทอม ริดเดิ้ลเป็นครั้งที่สอง
ทุกคืน,หลังจากทุกคนหลับ, เขาหยิบไดอารี่ขึ้นมาเงียบๆ, เขาเขียนปัญหาในการค้นคว้าเวทย์มนต์, คำถามนั้นยากขึ้นเรื่อยๆและเรื่อยๆ ,มีคำถามหลายข้อที่ปกติพ่อมดวัยเยาว์จะไม่ถามกัน
แต่ริดเดิ้ลดูเหมือนจะไม่ทันสังเกต, ริดเดิ้ลต้องการที่จะคุยกับอีวานเรื่องห้องแห่งความลับและผู้ที่ได้เปิดมัน
แต่ทุกครั้งอีวานเปลี่ยนเรื่องคุย, ริดเดิ้ลปรับตัวเข้ากับวิธีการของอีวาน, ข้อตกลงอันแปลกประหลาดได้ถูกสร้างขึ้นโดยทั้งสองคน, เริ่มต้นด้วยริดเดิ้ลเล่าเรื่องห้องแห่งความลับ และหลังจากนั้นอีวานถามคำถามของเขา
สำหรับโวลเดอมอร์สมัยวัยรุ่น, ทอม ริดเดิ้ลมีความรู้ที่กว้างขวางและสามารถตอบคำถามได้เกือบทุกข้อที่อีวานยกขึ้นมาถ้าเขาต้องการ
จากการบ้านทั่วๆไปในห้องเรียน ไปจนถึงทฤษฏีเวทย์มนต์ที่ลึกลับที่สุด
ตัวอย่างเช่น, วิธีการบันทึกเสียงที่กวนใจอีวานมานาน ถูกช่วยเหลือโดยริดเดิ้ล ซึ่งมันสามารถบันทึกเสียงจากอะไรก็ได้
ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากริดเดิ้ล ส่วน ’การค้นคว้าทางการศึกษา’ ของฮอกวอตส์ เมจิคจึงป็นที่นิยม, ไม่มีบทความน่าเบื่อเหมือนบทความที่ลูน่าเขียนอีกต่อไป แต่เป็นบทความการค้นคว้าจริงๆ
หลังจากชั้นเรียนวิชาแปลงร่าง, ศาสตราจารย์มักกอนนากัลถึงกับบอกกับอีวานว่าเธอรู้สึกประหลาดใจกับความลึดของงานวิจัยแอนิเมจัส*ของเขา
(แอนิเมจัส(Amimagus) - การแปลงร่างเป็นสัตว์)
ยิ่งไปกว่านั้น, บก.ของเดรลี่ พรอเฟ็ตที่ได้ติดตามหนังสือพิมพ์ของเขา,ได้เสนอที่จะตีพิมพ์บทความวิจัยของเขาบางส่วน และอีวานยังได้รับต้นฉบับจากวารสารวิชาการมืออาชีพด้วยจำนวนหนึ่ง
แต่แน่นอนล่ะ, บทความส่วนใหญ่เป็นฝีมือของทอม
ในเวลาแค่หนึ่งเดือน, ความก้าวหน้าของอีวานก็เพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดใหม่
เขาเรียนรู้หลายอย่างจากริดเดิ้ล ,อย่างเช่นทฤษฏีความรู้ที่ไม่มีสอนในชั้นเรียน, รวมไปถึงศาสตร์มืด ในความเป็นจริง,อีกฝั่งเหมือนจะตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจสอนศาสตร์มืดกับอีวาน และคอยยุให้เขาใช้คาถาพวกนี้
ตอนแรก อีวานไม่ได้รู้สึกอะไรที่ผิดปกติ
หลังจากปรึกษากับศาสตราจารย์ฟลิตวิกแล้ว เขาก็รู้ว่าที่ทอมสอนเขานั้นเป็นศาสตร์มืด
จนกระทั่งถึงตอนนั้น อีวานก็ไม่รู้ว่าปัญหานั้นร้ายแรงขนาดไหน, เขาคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์หากเข้ารู้มากขึ้นเกี่ยวกับศาสตร์มืด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติ, และศาสตร์มืดดูเหมือนจะมีผลกับการคิดของเขา เขาเริ่มหงุดหงิดแล้วอ่อนไหวมากขึ้น, ทุกครั้งที่เขาฝึกศาสตร์มืดก็จะมีความคิดที่โหดร้ายปรากฏอยู่ในหัวของเขา
โดยเฉพาะเมื่อเร็วๆนี้ เขาปะทะกับมัลฟอย, อีวานถูกยั่วยุให้ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาและใช้คาถาใหม่ที่เขาพึ่งจะเรียนรู้
มันคล้ายกับคาถาของสเนป คาถา ‘เซ็กตรัมเซ็มปร้า’ แต่รุนแรงยิ่งกว่า และถ้ามัลฟอยถูกโจมตีเข้า มัลฟอยอาจจะตายได้
เพราะว่าเขาห้ามตัวเองในวินาทีสุดท้าย มันจึงไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจแก้ไขได้
มันทำให้อีวานหวาดกลัว ,นี่เป็นสัญญาณอันตราย
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมริดเดิ้ลจึงสอนความรู้เวทย์มนตร์ให้เขาอย่างไม่เคยทำมาก่อน
ริดเดิ้ลกำลังมองหาวิธีการทำให้เจตจำนงของอีวานอ่อนแอลง เพราะอีวานระวังตัวเขาอยู่เสมอและไม่สนใจห้องแห่งความลับ ดังนั้นเขาจึงล่อลวงอีวานด้วยความรู้ทางเวทย์มนต์และเมื่ออีวานลุ่มหลงอยู่ในอำนาจแล้ว นั้นจะทำให้เขามีโอกาสเข้าควบคุมอีวาน
ถึงแม้ริดเดิ้ลจะไม่สามารถควบคุมอีวานได้, แต่ผลลัพธ์สุดท้ายของอีวานก็น่าจะคล้ายกับโวลเดอมอร์ ซึ่งก็คือเป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่แสนชั่วร้าย
หลังจากนั้น อีวานไม่กล้าที่จะแตะต้องไดอารี่อีกเลย, ทอม ริดเดิ้ลเป็นปีศาจอย่างแท้จริงที่เขาสามารถควบคุมจิตใจของใครคนหนึ่งได้
กระทั่งคนอย่างอีวานที่ระวังตัวอย่างดีตั้งแต่แรกก็สามารถตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเขาได้
คาถาเพิ่มเติม
Silencio (ซิเลนซีโอ)
ผลของเวทมนตร์: ทำให้บางสิ่งเงียบเสียงลงทันที
Sectumsempra (เซ็กตัมเซ็มปร้า)
ผลของเวทมนตร์: ทำให้ผู้ต้องคำสาปได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง อธิบายว่าเหมือนกับคนนั้น "ถูกฟันด้วยดาบ" ประดิษฐ์ขึ้นโดยเซเวอร์รัส สเนป