HPST ตอนที่ 41: ข่าวลือ
HPST ตอนที่ 41: ข่าวลือ
หลังจากพวกศาสตราจารย์ออกไป, อีวาน เฮอร์ไมโอนี่ โคลินและจินนี่ รีบเข้าไปในวอร์ดผู้ป่วยเพื่อดูอาการรอน
รอนขอโทษอีวานและบอกว่าเขานั้นจำอะไรไม่ได้สักอย่าง
มาดามพอมฟรีย์ไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาอยู่นานนัก เนื่องจากเธอต้องการให้รอนพักผ่อน ผลกระทบจากคำสาปสะกดใจไม่ใช่จะฟื้นฟูได้ง่ายๆ รอนผู้น่าสงสารคงต้องใช้เวลาบนเตียงจนกว่าจะถึงวันคริสต์มาส
อีวานรู้สึกประหลาดใจ เขาคิดว่าพวกเขาจะหาข้อมูลได้มากกว่านี้
อีวานอยากจะบอกดัมเบิลดอร์เกี่ยวกับทอม ริดเดิ้ล และไดอารี่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้บอกออกไป เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าเขารู้เกี่ยวกับโวลเดอมอร์และฮอร์ครักซ์ยังไง ข้อมูลพวกนี้ถูกเก็บเป็นความลับ และยิ่งไปกว่านั้นดัมเบิลดอร์ยังแค่คาดเดาเฉยๆ
สถานการณ์ต้องนี้ยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นอีวานต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ไม่ใช่รอนที่เป็นคนเปิดห้องแห่งความลับ การพยายามควบคุมพ่อมดที่มีจิตใจอ่อนแอเป็นเรื่องที่ง่ายดาย และคนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทอมสามารถใช้คาถาสะกดใจกับรอน รอนติดต่อกับคนมากมาย อีวานไม่สามารถไปตรวจสอบพวกเขาทีละคนได้
ดังนั้นเขาจึงกลับไปเริ่มที่หนึ่งใหม่อีกครั้ง
รอนที่อยู่ภายใต้การคาถาสะกดใจใช้คำสาปกัดกร่อนและคาถาพิฆาต นั่นหมายความว่าทอมเริ่มที่จะสงสัยในตัวเขาและอยากจะกำลังเขาทิ้ง อีวานเปลี่ยนมาสงสัยทุกคนรอบๆตัวของเขา
แต่เกือบทุกคนนั่นน่าสงสัยทั้งหมด
ในอีกไม่กี่วันต่อมา ทางโรงเรียนได้เพิ่มความระมัดระวังขึ้น อาจารย์มักลาดตระเวนทางเดินและนำทางนักเรียน
ทายาทของสลิธิรีนก็แย่พอแล้ว แต่ตอนนี้ยังมีคำสาปสะกดใจ
พ่อมดแม่มดวัยรุ่นไม่รู้ถึงความจริง พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับหายตัวไปของรอน ผู้คนคอยแอบมองเข้าไปในวอร์ดห้องพยาบาล เพื่อดูว่าเขาถูกทำร้ายหรือไม่ มาดามพอมฟรีย์ถึงกับต้องติดม่านไว้รอบเตียง
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลประกาศว่าไม้กายสิทธิ์ของรอนนั้นทำให้เวทย์มนต์ย้อนกลับและถูกโจมตีโดยคำสาปที่ร้ายแรงมาก แต่ไม่มีใครสักคนที่เชื่อ
ผู้คนต่างเห็นพ้องกันว่ารอนถูกโจมตี ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทั้งโรงเรียน และพ่อมดรุ่นเยาว์ต่างก็คุยกันว่าใครคือทายาทของสลิธิรีน
ผู้คนมั่นใจว่าแฮรี่เป็นทายาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาเปิดเผยว่าเขาพูดภาษาพาร์เซลได้ที่ชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว มันทำให้แฮรี่รู้สึกแย่เป็นอย่างมาก เขาอยากจะพูดคุยกับจัสตินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เขาหลบหน้าแฮรี่
ในบ่ายวันศุกร์ อีวานและเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในห้องสมุดเพื่อเตรียมหนังสือพิมพ์ฮอกวอตส์ เมจิคฉบับต่อไปขณะที่เขาเห็นนักเรียนจากฮัฟเฟิลพัฟหลายคนกำลังแอบคุยอะไรอยู่
อีวานและเฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้ากันและกัน แล้วขยับเข้าไปใกล้
“ยังไงก็เถอะ ฉันบอกจัสตินให้หลบอยู่ในห้องของเขาและห้ามให้พอตเตอร์เจอเขาเด็ดขาด” เด็กชายรูปร่างกำยำกล่าว “ฉันหมายถึง ถ้าพอตเตอร์ตามล่าเขา เขาควรจะซ่อนตัวสักระยะหนึ่ง”
“แต่ทำไมล่ะ…...”
“เพราะจัสตินเผลอบอกแฮรี่ว่าเข้าเป็นมักเกิ้ล-บอร์น*,แฮรี่จะต้องกำลังตามล่าเขาแน่ๆ” เด็กผู้ชายพูด
“ช่าย!” นักเรียนจากฮัฟเฟิลพัฟหลายคนพูดพร้อมกับพยักหน้า “แต่ เออร์นี่ นายแน่ใจนะว่าเขาเป็นลูกหลานของสลิธิรีน?”
“นายยังไม่เข้าใจ เขาพูดภาษาพาร์เซลได้ และทุกคนก็รู้มันเป็๋นสัญลักษณ์ของพ่อมดศาสตร์มืด นายเคยได้ยินว่ามีพ่อมดดีๆเค้าพูดกับงูได้หรอ?”
“แต่เขาดูเป็นมิตรนะ ไม่เหมือนกับพ่อมดศาสตร์มืด” พูดโดยหญิงสาวผมสีทอง
“แฮนนาร์!” เออร์นี่กล่าวอย่างเคร่งเครียด “เขาสามารถพูดภาษางูได้ และทุกครั้งที่เกิดการโจมตีเขาจะเป็นคนแรกในที่เกิดเหตุตลอด”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็เริ่มจะกระซิบกัน
“พวกเธอยังจำคำพูดที่เขียนบนกำแพงได้ไหม?” เออร์นี่กล่าว “แมวนั้นไม่ยอมให้พอตเตอร์เข้าไปในห้องน้ำหญิงที่ชั้นสาม”
“และเพเนโลพีได้เจอกับพอตเตอร์ที่นอกห้องน้ำ และหลังจากนั้นเธอถูกทำให้กลายเป็นหินพร้อมกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ”
“แต่ทำไมพอตเตอร์ถึงเข้าห้องน้ำหญิง?”
“ใครจะรู้ บางทีเขากำลังฝึกเวทย์มนต์ชั่วร้ายในนั้น หรือทางเข้าของห้องแห่งความลับอยู่ข้างในนั้นก็ได้” เออร์นี่กล่าว
อีวานที่กำลังแอบฟังรู้สึกตกใจ ใครจะไปคิดว่าเรื่องไร้สาระของเออร์นี่นั้นมันถูกต้องจริงๆ
“ไม่เอาน่ะ เออร์นี่ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ” แฮนนาลังเล “นอกจากพอตเตอร์แล้ว เกรนเจอร์กับอีวานก็อยากจะเป็นไปได้เช่นกัน แต่พวกเขาเป็นทายาทของสลิธิรีนไม่ได้เพราะพ่อแม่ของพวกเขาเป็นมักเกิ้ล”
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของแฮนนาห์สาว ๆ หลายคนรีบพยักหน้า
“พวกเขาเป็นผู้ช่วยของพอตเตอร์!” เออร์นี่กล่าว “อีวานไม่ใช่นักเรียนปีหนึ่งธรรมดาๆ เขาถึงกับก่อตั้งหนังสือพิมพ์ได้ และคำสาปของเขา ,ฉันพูดได้เลยว่าไม่มีเด็กปีหนึ่งคนไหนต่อกรกับเขาได้”
“แต่ฉันคิดว่าเขาหล่อนะ…….”
“เธออย่าหลงไปกับรูปร่างหน้าตาของเขา แฮนนาห์!” เออร์นี่กล่าวขณะที่ลดเสียงของเขาลง ,นักเรียนบ้านฮัฟเฟิลพัฟขยับเข้ามาใกล้กัน “ดูรอนที่พึ่งถูกทำร้ายสิ เขาพยายามจะหยุดพวกเขามาก่อนแต่ก็ถูกทำร้าย”
“แต่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลบอกว่ามันเกิดจากไม้กายสิทธิ์ของเขา”
“ไม้กายสิทธิ์สะท้อนคาถากลับไม่ทำให้คนต้องไปนอนในเตียงได้หรอก และอีกอย่างนึง, คิดเกี่ยวกับที่แฮรี่ปราบคนที่ไม่ควรเอ่ยนามสิ”
เขากระซิบด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน
“ไม่มีใครรู้ว่าเขารอดมาได้ยังไงตอนที่เขาถูกโจมตี พวกนายก็เห็นบทความของอีวาน เขาควรจะตายไปแล้ว มีแค่พ่อมดศาสตร์มืดที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะหนีรอดจากคาถานั่น นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่ไม่ควรเอ่ยนามถึงพยายามจะฆ่าเขา”
“ตอนนี้เหลือแค่ฮัฟเฟิลพัฟ และฉันกล้าพูดได้เลยว่าการโจมตีครั้งแต่ไป…..”
เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอเดินออกจากด้านหลังของชั้นวางหนังสือและอีวานรีบตามออกไป ฉากที่เขาเห็นต่อไปนั้นช่างน่าขัน เขาเห็นว่านักเรียนฮัฟเฟิลพัฟแต่ละคนกลายเป็นหวาดกลัวและใบหน้าของเออร์นี่มืดคล้ำลง
“เธอ เธอได้ยินที่ฉันพูด” เออร์นี่กล่าวอย่างรีบร้อน “ฉันบอกได้เลยว่า พวกนายสามารถกลับไปดูว่าเก้าชั่วโคตรของฉันนั้นเป็นเลือดบริสุทธิ์เหมือนกับคนอื่น ดังนั้น……...”
“สารเลว!” เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะที่เธอหันไปดูถูกเหยียดหยาม
“ฉันไม่สนใจว่านายจะมีโคตรเหง้าแบบไหน!” อีวานพูดขณะที่เขาเอนกายลงและก้มมองที่เออร์นี่ “ฟังซะ ถ้านายยังปล่อยข่าวลืออีก ถึงฉันจะไม่ใช่ทายาทของสลิธิรีน แต่ฉันจะทำให้นายเป็นเหมือนแมวของฟิลช์”
หลังจากเออร์นี่ได้ยินคำเหล่านี้จากอีวาน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวโดยสมบูรณ์