Ep.111 - แม่แมลงที่น่าหวาดกลัว
1/4
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.111 - แม่แมลงที่น่าหวาดกลัว
ระหว่างฉินเฟิงกำลังต่อสู้อยู่ชั้นล่าง วังเฉินได้นำสิ่งกีดขวางมาวางทิ้งไว้ตามทางเดิน เพราะหวาดเกรงว่าตนจะถูกไล่ตามมาทัน และสังหารตกตาย แต่ในตอนนั้นเอง เขากลับพบว่าพวกแมลงได้ล่าถอยลงจากชั้นสองอย่างกระทันหัน ระเบียงทางเดินจึงกลับมาสงบสุขอีกครั้ง เขาเลยตัดสินใจลองกลับลงไป และเจอกับฉินเฟิงในที่สุด
แล้วเบื้องหน้าเขา ก็ปรากฏฉากที่น่ากลัวสุดแสน น่าผวายิ่งกว่าการหนีตายเอาชีวิตรอดจากพวกแมลงเมื่อครู่ซะอีก เขาจึงยอมกัดฟัน ตัดสินใจก้าวออกไปสนทนา หว่านล้อมฉินเฟิง
----
วังเฉินนำฉินเฟิงไปที่หน้าต่าง ที่นั่นมีปืนไรเฟิลถูกตั้งเอาไว้
“มิสเตอร์ฉิน ทางนั้น!” เขาส่งสัญญาณให้ลองก้มลงมองผ่านสโคปปืน ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
ฉินเฟิงโน้มตัว แนบสายตายลง มองออกไปภายนอก
ขณะนี้ ใจกลางเมืองหานยังคงปราฏรอยแยกสีดำขนาดใหญ่ พวกแมลงสัตว์ร้ายยังคงมีคืบคลานออกมาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มหาศาลเหมือนกับช่วงแรก
ในท้องถนนเต็มไปด้วยกองทัพแมลง พาหนะถูกจอดทิ้งเอาไว้ ตามผนังของตึกรามสาดกระเซ็น เปื้อนไปด้วยเลือด
แม้จุดที่ฉินเฟิงอยู่จะเป็นชั้นสอง แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งและสถานะของหลิวซู ทำเลของโรงแรมแห่งนี้จึงถูกตั้งอยู่บนย่านที่คึกคักที่สุด มันติดถนน เพียงมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็สามารถพบเจอกับถนนที่แต่เดิมเคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คน และสามารถมองเห็นอาคารย่านการค้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้โดยไม่มีตึกใดมาขวางกั้น
ทว่าเวลานี้ ณ กึ่งกลางของสองอาคารฝั่งตรงข้าม กลับมีเส้นใยขนาดใหญ่ ถักทอเป็นรังแมงมุมปรากฏขึ้น
เหนือขึ้นไปบนรัง ปรากฏแมงมุมขนาดใหญ่ ที่เพียงมองก็ทำให้สันหลังของผู้คนเย็นวาบ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของฉินเฟิงก็กลายเป็นร้ายแรง
“นั่นมันราชันย์สัตว์ร้าย!”
ต้องทราบนะว่าระยะห่างระหว่างอาคารทั้งสอง อย่างน้อยก็กว้างกว่า 70 - 80 เมตร
แต่แมงมุมกลับสามารถสร้างรังไว้คั่นกลางได้
มันมีขนาดตัวใหญ่แค่ไหนกัน?
หากสังเกตดีๆ จะพบว่าใยแมงมุมที่ใช้ถักทอในการทำรัง มันมีความหนาราวกับเชือกป่าน ฉะนั้นแมงมุมบนรัง เพียงเฉพาะร่างกายของมัน อาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 3 - 4 เมตร! หากบวกกับขาทั้งแปดที่โค้งมนของมันไปด้วย ก็น่าจะเกือบๆ 10 เมตร!
สัตว์ร้ายยักษ์ตนนี้ คือตัวที่ใหญ่ที่สุดเลย ที่ฉินเฟิงเคยเห็น นับตั้งแต่ที่เขาได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
ขนาดตัว 10 เมตรเท่ากับเท่าไหร่น่ะหรือ? หากคำนวณโดยเทียบกับตึกอาคาร หนึ่งชั้นจะมีความสูงประมาณ 3 เมตร นั่นเท่ากับว่าแมงมุมยักษ์ตัวนี้มีความสูงเทียบเท่ากับตึกสามชั้น!
ฉะนั้น การที่แมงมุมสามารถสร้างรังใจกลางอาคารทั้งสองได้ ทุกท่านคงสามารถจินตนาการได้ใช่หรือไม่ ถึงความรู้สึกตื่นตกใจของผู้ที่ได้พบเห็นมันกับตา
ไม่เพียงแค่นั้น บนรังแมงมุม ยังมีบางสิ่งคล้ายๆรังไหมแขวนอยู่นับหลายสิบ เมื่อเทียบกับขนาดของแมงมุมแล้ว มันมีขนาดเพียง 1/ 10 เท่านั้น
แต่ฉินเฟิงทราบดี เพราะดูจากขนาดของรังไหมแล้ว ที่อยู่ภายในนั้นคงจะเป็นมนุษย์ที่โดนจับมาโดยราชันย์สัตว์ร้าย
“มันคือแม่พันธ์แมงมุมเลือดขาเหล็ก!” เหอหลิงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นไหว
“แต่ตอนนี้มันหาอาหารได้มากพอแล้ว แม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็ก เมื่อจับอาหารได้เพียงพอ มันก็จะเริ่มผสมพันธุ์ โดยการวางไข่บนร่างกายมนุษย์ ซึ่งคนนึงจะสามารถฟักไข่ลูกแมงมุมขาเหล็กได้ราวๆ 300 ตัว”
“ลูกแมงมุมแรกเกิด จะใช้เวลาสามวันในการฟักไข่ เมื่อถึงเวลานั้น น่ากลัวว่า สถานที่แห่งนั้น ลากยาวจนมาถึงตำแหน่งที่พวกเราหลบภัยอยู่ จะกลายเป็นทะเลแมงมุม!”
คิ้วของฉินเฟิงขมวดมุ่นอย่างรุนแรง
ที่เหอหลิงกล่าว ใช่ว่าจะไม่ถูกต้อง
อันที่จริง ช่วงที่เขาต่อสู้ในชั้นแรกเมื่อครู่นี้ มันก็มีแมงมุมขาเหล็กรวมอยู่ด้วยเช่นกัน และพวกมันล้วนเป็นแมงมุมตัวผู้ แม้จะแกร่งไม่เบา แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นตึงมือสำหรับฉินเฟิง ทว่าหากพวกมันมาที่นี่ เกรงว่าในตำแหน่งอื่นรอบรัศมีของรังแมงมุมที่มีมนุษย์หลบอยู่มันก็ต้องไปเหมือนกัน และหากพวกเขาถูกจับตัวไปเป็นที่ฟักไข่ แบบนั้นคงลำบากไม่น้อย
เมื่อลูกหลานระลอกใหม่เกิดมา แมงมุมตัวผู้ก็จะยิ่งออกล่าหาอาหารมากขึ้น
“เราไม่สามารถปล่อยให้มันแพร่พันธุ์ได้!”
ฉินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“พวกเราเองก็รู้ดีถึงข้อนั้น แต่ตอนนี้ไม่มีทางทำอะไรได้เลย เพราะมันคือราชันย์สัตว์ร้าย!”
วังเฉินกัดริมฝีปาก จนรับรู้ได้ถึงความฝาดขมของเลือดที่หลั่งออกมา
ฉินเฟิงพยักหน้า เขาพอจะเข้าใจได้ถึงความรู้สึกไร้กำลังของคนเหล่านี้
“งั้นรอให้ถึงคืนนี้ก่อน ฉันจะเป็นคนลงมือจัดการมันเอง!”
ปัจจุบันมีดกษัตริย์ครามยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นฉินเฟิงไม่อาจดำเนินการอย่างผลีผลามได้
เพราะแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กระดับราชันย์ ไม่ใช่การดำรงอยู่ที่สามารถหักหาญด้วยมือเปล่าได้
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของฉินเฟิง ทำให้ทั้งสามคนต้องเบิกตาค้าง ยากที่จะทำใจเชื่อ
“มิสเตอร์ฉิน … คุณกำลังจะบอกว่า ตัวเองสามารถสังหารราชันย์สัตว์ร้ายได้อย่างงั้นหรอ?” เหอหลิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามต่อว่า “มิสเตอร์ฉิน ตอนนี้คุณมีระดับความแข็งแกร่งเท่าไหร่กันแน่?”
เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะอยู่ในเลเวล E !
แต่ดูจากใบหน้าของฉินเฟิง เหมือนจะเป็นแค่รุ่นเยาว์อายุ17 - 18 ปีเท่านั้นเอง หากไปถึงเลเวล E แล้ว เทียบกับหลิวซูที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ไม่เท่ากับว่าเขาเหยียบย่ำเธอจนจมดินเลยหรือ?
ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจางๆ
“พวกนายอย่าถามเลย เพราะถ้าฉันบอกไปก็คงจะไม่เชื่อกันอยู่ดี”
ฉินเฟิงแน่นอนย่อมไม่อาจเอ่ยออกไปว่าเขาคือผู้ใช้พลังในเลเวล F4 ทว่าหากนับเพียงความสามารถ มันห่างไกลเกินกว่าที่คนเหล่านี้จะสามารถจินตนาการได้
ยังไงก็ตาม ต่อให้โม้เรื่องความแข็งแกร่งที่ว่านั่น คนเหล่านี้ก็คงไม่อาจทำใจเชื่อว่าเขาสามารถสังหารแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็กได้อยู่ดีมิใช่หรือ?
ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นเขาไม่พูดออกไปเลยจะดีกว่า
ทันทีที่ฉินเฟิงเอ่ยในเชิงกำกวม ผู้คนก็บังเกิดความรู้สึกว่า ฉินเฟิงนี่ช่างเป็นคนที่ลึกล้ำ มิอาจหยั่งรู้ได้จริงๆ บางทีคนตรงหน้าอาจจะแกร่งยิ่งกว่าที่พวกเขาคิดก็ได้
ช่วงเวลานั้นเอง ทั้งหมดก็หวั่นเกรงในตัวฉินเฟิงยิ่งกว่าเดิม
“ตามฉันมา อาคารติดถนนแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะใช้ป้องกัน”
“รับทราบ!” อันที่จริงพวกเขาก็ตระหนักดีว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับใช้ป้องกัน แต่เหตุผลหลักที่ตัดสินใจมาที่นี่ในก่อนหน้านี้ ก็เพราะที่นี่มีอาหาร!
แต่ปัจจุบัน หลังจากที่ถูกบุกจนเกือบตายแล้ว มันคงจะดีกว่าหากจากไป
นับว่าพลาดจริงๆ ก่อนหน้านี้พวกเขาประเมินพวกแมลงสัตว์ร้ายต่ำเกินไป!
“อันดับแรก ไปเติมเสบียงสำหรับต่อสู้ที่ร้านขายอุปกรณ์กันก่อน อย่างเช่นปืนพลังงานของนาย!” ฉินเฟิงกล่าว
“รับทราบ!” เป็นธรรมดาที่วังเฉินคือคนแรกที่ตอบรับเห็นด้วย เพราะเสบียงที่ใช้การต่อสู้ สารห้ามเลือด หรือบางสิ่งที่คล้ายๆกัน ทั้งหมดล้วนสามารถหาได้จากร้านอุปกรณ์ของหลิวเซินซาน
ฉินเฟิงนำหน้า
วังเฉินและสหายทั้งสองเดินตามหลัง ลงไปยังชั้นหนึ่ง มุ่งหน้าสู่ทางเดินไปยังร้านอุปกรณ์อีกครั้ง
แม้ก่อนหน้านี้ ช่วงที่ฉินเฟิงเดินผ่าน เขาจะเก็บกวาดพวกแมลงจนสิ้นแล้ว แต่การต่อสู้ที่ว่า มันก็ผ่านไประยะหนึ่ง ดังนั้นปัจจุบันจึงมีแมลงอีกจำนวนหนึ่งบุกเข้ามา
และคุณคงสามารถจินตนาการได้ ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังจะพบเจอจากนี้ ---น่าหวาดกลัวเพียงใดสำหรับพวกแมลง!!
“เพลิงโลกันต์!”
ฉินเฟิงวาดมือออกไป ปรากฏบอลไฟกว่าห้าลูกลุกพรึบขึ้นบนฝ่ามือของเขา
และยิงออกไปตามทิศทางต่างๆ
ตูม ตูม ตูมมมม!
ลูกไฟระเบิดเข้าใส่พวกแมลง จากนั้นเปลวไฟก็ลุกลามไปตามร่างพวกมันราวกับหนอนไชกระดูก กลืนกินเหล่าแมลง พวกมันพยายามดิ้นรน กรีดร้องลั่นจนสิ้นใจ
“รีบเดินกันเร็ว เพราะถ้าฉันสามารถกำจัดพวกมันได้ ใครบางคนก็น่าจะสามารถจัดการพวกมันได้เหมือนกัน ระหว่างเกิดเรื่อง อาจมีใครบางคนมาขโมยของจากร้านอุปกรณ์ไปแล้วก็ได้” ฉินเฟิงกล่าว
สำหรับร้านอุปกรณ์ ในช่วงเวลาที่เมืองล่มสลาย มันไร้ซึ่งคนคอยเฝ้า นั่นหมายความว่าทุกอุปกรณ์ไม่มีเจ้าของ ผู้ใดก็สามารถฉกชิงไปได้
“เข้าใจแล้ว!”
ที่จริงแล้ว แม้ในหน้าร้านอุปกรณ์ ถึงทั้งหมดจะดูเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้มากอะไร ชุดรบต่างๆที่จัดแสดงเอาไว้ แต่ละราคาล้วนมีเพียงตัวเดียว ที่เหลือส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในโกดังหลังร้าน และมีเพียงหลิวเซินซานเท่านั้นที่สามารถเข้าไปเอามันได้
อย่างไรก็ตาม หน้าร้านยังคงมีเสบียงที่จำเป็นในการต่อสู้อยู่ วางขายไว้อีกหลายอย่าง เช่นบิสกิตอัดแท่ง สต็อกยา ฯลฯ
ไม่นานนัก วังเฉินก็ค้นพบสเปรย์ห้ามเลือด เขาฉีกทึ้งเสื้อของตัวเอง แล้วฉีดมันเข้าใส่บริเวณท้องทันที --ก่อนหน้านี้เขาถูกตั๊กแตนใบมีดฟันเอา เกือบตกตายภายใต้เคียวของมันไป
จากนั้นก็เอาที่ปิดแผล มาปิดทับลงไป เริ่มพันมันอีกครั้ง แล้วก็รู้สึกคลายใจลงในที่สุด
ทั้งสี่คนดำเนินการอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งที่สามารถใช้งานได้ถูกรูดทรัพย์ไปหมดสิ้น จนเต็มกระเป๋าสะพายต่อสู้กว่า 8 ใบ
จากนั้น ทั้งสี่ก็ถอนตัว มุ่งหน้าสู่สวนหลังบ้าน
“เสี่ยวไป๋ เปิดประตูให้ฉันที”
ฉินเฟิงแจ้งไป๋หลีผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
ประตูเหล็กถูกเปิดออก ภายในห้อง หลิวเซินซานยังคงวุ่นอยู่ข้างๆเตาหลอม
เป็นเวลากว่า 40 นาทีที่ฉินเฟิงจากไป ตอนนี้ หัวหอกจึงได้ถูกถอดออกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันมันกำลังถูกละลาย และหลอมรวมเข้ากับมีดกษัตริย์คราม
ฉินเฟิงเข้ามาที่นี่พร้อมกับอีกสามคน ปิดประตูอีกครั้ง หลิวเซินซานพอเห็นฉินเฟิงกลับมาเขาก็ถอนหายใจโล่งอก
“ด้านนอกเป็นยังไงบ้าง?”
“ยังถือว่าดีครับ”
สำหรับเรื่องเกี่ยวกับแม่พันธุ์แมงมุมเลือดขาเหล็ก มันไม่จำเป็นต้องบอกแก่หลิวเซินซาน
“อย่างงั้นหรอ จริงสิฉินเฟิง รบกวนไปหาหลิวซูที่ชั้นใต้ดินทีได้ไหม บอกพวกเธอว่าด้านนอกปลอดภัยดี ให้ออกมาพักที่นี่ชั่วคราว ไปพักในโกดังอีกสองห้องที่อยู่ใกล้ๆกับห้องหลอมก็ได้ ระบบป้องกันที่นั่นแข็งแกรงทนทานไม่แพ้ที่นี่เหมือนกัน!”
ฉินเฟิงก็คิดถึงเรื่องนั้นไว้ก่อนแล้วเช่นกัน ว่าสภาพแวดล้อมในชั้นใต้ดินคงแย่เกินไป แม้ด้านนอกจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่หากมีฉินเฟิงอยู่ที่นี่ ก็ยังสามารถหักลบ กลบความเสี่ยงที่ว่านั่นได้