ตอนที่แล้วDH บทที่ 15 - เด็กหนุ่มปริศนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17 - ศัตรูแกร่งขึ้นเช่นไร ข้าก็แกร่งขึ้นเช่นนั้น

DH บทที่ 16 - หันคมดาบเข้าหาความอยุติธรรม


DH บทที่ 16 - หันคมดาบเข้าหาความอยุติธรรม

เนื่องด้วยเด็กผิวแทนคนนั้นมีดินเปื้อนทั่วตัวไปหมด ดังนั้นจึงทำให้ขณะเข้าไปที่บ่อน้ำก็พลันมีกลุ่มก้อนสีดำมืดปรากฏขึ้นและกระจายไปทั่วน้ำในบ่อด้วย

“พี่สาว พี่สาว ติงติงหิวน้ำ ขอกินน้ำด้วยสิ!”

เสียงเล็กที่นุ่มนวลของเด็กผู้หญิงดังขึ้นจากตะกร้า

เมื่อ “เด็กหนุ่ม” ได้ยินเสียงนั้น เขารีบปีนขึ้นจากน้ำ ตักน้ำใสสะอาดเต็มมือและเลิกผ้าที่ขาดรุ่งริ่งขึ้นจากตะกร้า

ในนั้นมีเด็กหญิงผิวสีซีดขาวราวกับหยก นางมีอายุเพียงสองถึงสามขวบเท่านั้น ผมของเด็กหญิงถูกรวบขึ้นคล้ายกับเขาแพะ ตาคู่โตนั้นเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและสุกใสราวกับไข่มุกสีดำ แก้มยุ้ยขาวซีดและท่าทางงุนงงทำให้นางดูน่ารักน่าชังทีเดียว

ติงโฮวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงติงเค่อเอ๋อ น้องสาวของตัวเอง เมื่อเขาได้เห็นเด็กที่น่ารักและฉลาดคนนี้

เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงดังอย่างมีความสุขแล้วก้มลงจิบน้ำ นางแลบลิ้นเล็กจิ๋วสีชมพูเพื่อเลียริมฝีปากและส่งเสียงครางอย่างสบายตัว

เด็กหญิงหันหลังกลับและสังเกตเห็นนักรบดุดันอยู่ข้าง ๆ กำลังส่งสายตาจึงส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ นางหดตัวกลับเข้าไปในตะกร้าอย่าหวาดกลัวราวกับว่าตะกร้าน่าเกลียดอันนั้นจะกำบังนางจากอันตรายใด ๆ บนโลกใบนี้ได้

ในตอนนี้เองที่ติงโฮวต้องประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่า “เด็กชาย” ตัวเปื้อนฝุ่นคนนั้นที่แท้เป็นเด็กผู้หญิง! น้ำจากบ่อได้ล้างเอาโคลนบนแขนขาของนางออก เผยให้เห็นผิวสีซีดที่งามหมดจด

“มิน่าล่ะ นางถึงมีดวงตาที่สวยขนาดนั้น” ติงโฮวถอนหายใจ “มองเพียงครั้งเดียวก็จำได้ขึ้นใจเลย แค่ดวงตาคู่นั้นก็สวยกว่าหญิงชุดขาวลี่ยี่โหรวคนนั้นเป็นไหน ๆ ...วันนี้มีคนแปลก ๆ มาที่นี่เยอะจริง ๆ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมสูงดังขึ้น

“อ้าว ทำไมอยู่ ๆ น้ำถึงสกปรกแบบนี้ล่ะ”

ลี่ยี่โหรวที่กำลังเล่นน้ำอยู่กับสาวใช้ตะโกนเสียงดังราวกับว่านางเจองู หญิงสาวกระโดดขึ้นจากบ่อน้ำด้วยสายตาที่ขยะแขยงและโกรธเคือง

ติงโฮวมองด้วยความประหลาดใจ เขาเห็นเจ้าหงส์น้อยแสนเย่อหยิ่งลี่ยี่โหรวมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

ลี่ยี่โหรวมองไปตามน้ำที่สกปรกและพบบางอย่างในนั้น นางชี้ไปยังเด็กหญิงตัวเปื้อนดินใกล้ ๆ นางทันทีแล้วตะโกนเสียงดัง “นังตัวดี ใครอนุญาตให้เจ้าล้างมือในนี้ไม่ทราบ กล้าดียังไงมาทำให้น้ำสกปรกแบบนี้ ไปลงนรกซะเถอะ ไม่เห็นหรือไงว่าข้ากำลังเล่นน้ำอยู่ตรงนี้ เจ้าตั้งใจใช่ไหม”

เด็กหญิงปริศนาหยุดชะงักแล้วก้มหน้าลงรู้สึกผิด

นางไม่ได้พยายามป้องกันตัวแม้แต่น้อย เด็กหญิงไม่ปริปากใด ๆ และเดินออกจากบ่อน้ำด้วยเท้าเปล่า

หลังจากน้ำในบ่อได้ชำระล้างดินที่เปื้อนตัวนางก็เผยให้เห็นผิวสะอาดนวลเนียนและรอยแผลจากกิ่งไม้กับก้อนหินจากการเดินทาง มีรอยเลือดสีแดงตัดกับผิวสีซีดที่มองแล้วเหมือนถูกสาปให้ตาลาย ใครเห็นก็เป็นต้องสงสารนาง

“ฮึ เจ้าจะเดินออกไปดื้อ ๆ อย่างนั้นเลยเรหอ ไม่รู้จักขอโทษหรือไงกัน หรือเจ้าเป็นใบ้ นี่นังโง่ เจ้านี่ไม่รู้จักขอบเขตบ้างเลยนะ ชิวชวง เฆี่ยนมันแรง ๆ ซักร้อยที สั่งสอนนั่งนี่สักหน่อย”

เมื่อลี่ยี่โหรวพบว่าผิวของเด็กหญิงปริศนานั้นนุ่มนวลและมีสีซีดเช่นเดียวกับนาง นางก็รู้สึกเคืองขึ้นมาซะอย่างนั้น ความริษยาพลุ่งพล่านและปะทุออกมาเป็นความโกรธ นางพูดด้วยความเกรี้ยวกราดและสั่งสาวใช้ชื่อ ชิวชวงให้นำแส้ของออกมาเฆี่ยนเด็กหญิง

เปรี๊๊ยะ!

สาวใช้ชิวชวงสวมเกราะนักรบและรู้ศิลปะการต่อสู้ นางเหวี่ยงมือทำให้เกิดเงาของแส้ม้าพาดลงแล้วฟาดอย่างแรงบนหลังของเด็กหญิง เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งปลิวขึ้น...เลือดสด ๆ ไหลออกมา

เด็กหญิงปริศนาคงไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้เลย นางไม่มีเวลาตอบโต้ด้วยซ้ำก่อนที่จะล้มลงบนพื้น

เพียะ! เพียะ!

สาวใช้ชิวชวงเหวี่ยงแส้ในมือ

นางอายุเพียง 16 หรือ 17 ปีเท่านั้น ยังอยู่ในช่วงชีวิตที่ควรจะไร้เดียงสาและสวยงาม ทว่าสีหน้าที่ย่ามใจนั้นไม่เหมาะกับอายุของนางเสียเลย ชิวชวงพลิกข้อมืออีกครั้งและแส้เส้นยาวนั้นฟาดลงอย่างไร้ความปรานี

ขณะที่เด็กหญิงปริศนาพยายามหนี แส้เส้นยาวก็ฟาดลงบนตัวนางอีกครั้งและทิ้งรอยเลือดที่น่ากลัวเอาไว้

แต่เด็กหญิงไม่ส่งเสียงใด ๆ เลยตลอดเวลาที่นางถูกเฆี่ยน ราวกับว่านางเป็นใบ้จริง ๆ ไม่มีแม้เสียงร้องเจ็บปวดด้วยซ้ำ

“ฮือ ๆ อย่าตีพี่หนูเลย อย่าตีเลยนะคะ ฮือ ๆ อย่าตีพี่หนู…” เด็กน้อยผู้ไม่รู้เรื่องที่มีผมรวบตึงเหมือนเขาแพะปีนออกมาจากตะกร้าอย่างกล้าหาญในที่สุด ถึงแม้นางจะกำลังร้องไห้เสียงดังด้วยความกลัวและน้ำตาอาบทั่วใบหน้า นางก็ยังปีนออกมาอย่างกล้าหาญและพยายามจะใช้ร่างเล็ก ๆ ของตัวเองป้องกันพี่สาวจากแส้เส้นนั้น

สาวใช้ชิวชวงมองด้วยสายตาที่น่ากลัวและชั่วร้าย นางไม่หยุดแม้แต่น้อยและฟาดแส้ใส่เด็กน้อยทันที

ถ้าหากแส้เส้นนั้นฟาดลงบนเด็กอายุสองหรือสามขวบแล้วละก็ มันจะเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอน

ติงโฮวส่ายหน้า เขาไม่สามารถทนมองเหตุการณ์นี้ได้อีกต่อไป

เขาเริ่มก้าวเท้าอย่างสง่างาม ร่างของเขาเปล่งประกายและเคลื่อนไปราวกับกลุ่มควัน เด็กชายหยุดลงที่ตรงหน้าเด็กหญิงตัวน้อยที่มีผมทรงเขาแพะ ก่อนที่ติงโฮวจะผายมือออกและเอื้อมไปในอากาศเพื่อรับแส้เส้นนั้นอย่างชำนาญ ติงโฮวสะบัดข้อมือ พลังสีดำหลั่งไหลออกมา ผลักให้สาวใช้ชิวชวงถอยหลังไปสามถึงสี่ก้าว

“เจ้าไม่ปล่อยแม้กระทั่งเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ด้วยซ้ำ นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!”

ติงโฮวพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง

เหตุการณ์นั้นเรียกความสนใจของหลาย ๆ คนทีเดียว

สาวใช้ชิวชวงตกใจและถอยหลังกลับไปตั้งหลัก นางรู้สึกทึ่งและมองติงโฮวตั้งแต่หัวจรดเท้าจนได้สังเกตเห็นว่าเขาสวมเสื้อคลุมที่ทำจากผ้าหยาบ ๆ จึงปรากฎสีหน้าเหยียดหยามขึ้นบนใบหน้าของนางแทน ชิวชวงหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้วพ่นคำถากถางออกมามา “เห้อ เจ้าเป็นใครกันพ่อหนุ่มเส็งเคร็ง กล้าดียังไงมาขัดขวางคำสั่งของนายท่านยี่โหรว ข้าควรสั่งสอนไอ้เวรนี่ซักหน่อยด้วยสินะ!”

พูดจบนางก็โยนแส้ม้าเส้นนั้นทิ้งไปแล้วหยบมีดสั้นที่เอวออกมาเสียงดังกราว ชิวชวงตรงเข้ามาหาติงโฮว

นางคงรู้ว่าแส้ไม่สามารถทำอะไรติงโฮวได้ จึงเลือกใช้ใบมีดในการโจมตีแทน

ใบมีดนั้นมีสีเงินและคมกริบ มันเย็นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย มีดนั่นพุ่งตรงเข้าหาติงโฮวไปยังหน้าอกของเขา นางตั้งใจจะฆ่าเขา

ติงโฮวรู้สึกโกรธและต้องการแสดงให้สาวใช้ชั่วร้ายได้เห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เขาคว้าเอาดาบเปื้อนสนิมมาจากด้านหลังแล้วโบกดาบเล็กน้อยทำให้เกิดแสงสีแดงกระจายไปทั่ว

“เคร้ง!”

เสียงกระทบดังขึ้นเมื่อใบมีดปะทะกันและทำให้เกิดประกายแสงปะทุออกมา

มีดที่โค้งงอของชิวชวงร่อนกลับเข้าสู่มือของนาง

ชิวชวงรู้สึกเสียบวาบในท้องราวกับวโดนเหวี่ยงขึ้นไปสูงกว่าสิบเมตร ลอยอยู่ท่ามกลางเมฆ แล้วหล่นลงมาบนพื้นอย่างแรง นางไม่สามารถลุกขึ้นได้เป็นเวลานานดูน่าสมเพชเหลือเกิน

ระหว่างนั้น ดาบเปื้อนสนิมของติงโฮวก็ได้กลับไปอยู่ที่เดิมบนหลังของเขาแล้ว

ติงโฮวใช้แรงกับนางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ใช้ปล่อยพลังทั้งหมดที่มีด้วยซ้ำ เขาเพียงใช้ด้านหลังของดาบฟาดไปที่ท้องของชิวชวงเท่านั้นและไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงกับนางแม้แต่น้อย

ไม่เช่นนั้น ด้วยพลังจากดาบของติงโฮวแล้ว เขาสามารถฆ่าสาวใช้ชั่วร้ายได้ในพริบตาเดียวเท่านั้น

เด็กหญิงปริศนากอดเด็กหญิงตัวเล็กไว้แน่นและมองไปที่ติงโฮว ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าดวงตาที่แสนสวยและดื้อรั้นคู่นั้นได้เริ่มแสดงความอ่อนโยนและมีประกายออกมาแล้ว

“ใช้ดาบเก่งนี่!” เซียวเฉิงซวนชายหนุ่มร่างกำยำเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อครู่นี้และส่งเสียงเชียร์

จริง ๆ แล้ว แค่เคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าคนคนนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง

ก่อนหน้านี้ไม่มีใครได้สังเกตติงโฮวมากนัก พวกเขาเพียงรู้สึกว่าชายหนุ่มรูปงามผู้นี้มีท่าทางต่างไปจากคนอื่นเล็กน้อย แต่เมื่อพวกเขาเห็นติงโฮวชักดาบเล่มนั้นออกมาใช้และเก็บกลับเขาไปด้วยการเคลื่อนไหวอันน้อยนิดซึ่งแม้ไม่ได้เร็วมาก แต่วิถีของดาบนั้นก็ยากที่จะเข้าใจ พวกเขาจึงรู้ในทันทีว่าได้คิดผิดเสียแล้ว ชายผู้นี้เป็นผู้ที่เข้าใจดาบอย่างแท้จริง