ตอนที่ 56 พบสหายที่เมืองหลวง
ตอนที่ 56 พบสหายที่เมืองหลวง
ตลอดค่ำคืนแห่งการลอบสังหาร ไม่มีใครกลับเข้าไปนอนต่อได้อีกเลยเหล่า NPC และผู้กล้าต่างนั่งกันอยู่ที่หน้ากองไฟด้วยสายตาที่เคร่งเครียด องค์หญิงซีซีเลียเองก็เช่นกันเธอนั่งอยู่นั่งอยู่บนข่อนไม้ขนาดใหญ่ใบหน้ามีความหมองคล้ำเล็กน้อย แม้องค์รักษ์และคนอื่นๆจะขอให้เธอกลับไปนอนต่อแต่เธอก็ปฏิเสธพวกเขาด้วยท่าทีอ่อนโยน
ส่วนนักฆ่าที่พวกองค์รักษ์จับได้ในตอนแรกนั่นได้ชิงฆ่าตัวตายโดยการกินยาพิษที่ซ่อนอยู่ในสร้อยคอที่เพียงก้มศีรษะลงเล็กน้อยก็สามารถที่จะกัดยาพิษที่อยู่ในสร้อยคอได้แล้วองค์รักษ์ลองตรวจเช็คสภาพศพที่สังหารไปก็พบว่านักฆ่าทุกคนมีสร้อยเส้นนี้เหมือนกันหมด
“ดูจากเสื้อผ้าที่พวกมันสวมใส่ล้วนมาจากเมืองทางตอนใต้ของอาณาจักร กระหม่อมคิดว่าน่าจะเป็นคนของเมืองแซนนิกซ์หรือไม่ก็เมืองสโตนวิลเลจส่งมาพะยะค่ะ”
องค์รักษ์ที่ตรวจเช็คสภาพศพเข้ามารายงานถึงลักษณะของนักฆ่า พร้อมกับได้เสนอความคิดเห็นของตนไป องค์หญิงซีซีเลียเองก็พอจะทราบถึงความขัดแย้งในเงามืดอยู่บาง
“เรื่องนี้ต้องสืบให้ละเอียดอย่างลับๆ หากโจ่งแจ้งจนเกินไป ศัตรูที่โผล่หางออกมาอาจจะกลับไปซ่อนตัวได้อีกครั้ง”
การลอบสังหารครั้งนี้ไม่สามารถตัดทุกเมืองที่อยู่ในอาณาจักรกรีนเวต้าไปได้เลยสักเมืองเดียว รวมถึงเมืองอัลคเดียเองก็เช่นกัน เพราะการเดินทางกลับในครั้งนี้มีเพียงเจ้าเมือง Fernando พียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่อง แต่จะมองว่าเจ้าเมือง Fernando ประจำเมืองอัลคาเดียเป็นผู้ร้ายก็ไม่ได้ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายเดือน องค์หญิงซีซีเลียก็ประทับใกล้อยู่กับเจ้าเมืองมาตลอด ได้รับการดูแลเสมือนลูกสาวของตนเอง
เจ้าเมือง Fernando ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าเมืองประจำเมืองอัลคาเดีย อดีตเคยเป็นองค์รักษ์ของกษัตริย์ Candor ท่านพ่อขององค์หญิงซีซีเลียมาก่อน โดยความที่เป็นคนมีไหวพริบ ฉลาดและจงรักภักดี ทำให้ถูกส่งมาเป็นเจ้าเมืองที่เมืองอัลคาเดียแห่งนี้ แม้วันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแต่ความจงรักภักดีที่เจ้าเมือง Fernado มีต่อกษัตริย์ Candor ก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย
“ข้าขอเสริมอะไรบางอย่างจะได้หรือไม่องค์หญิง”
เจสเปอร์ที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่จึงสอดการพูดเข้ามาขัดจังหวะการคุยสักเล็กน้อย องค์หญิงหันมามองด้วยความสงสัยก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาติ
“ข้าคิดว่าถ้าองค์หญิงใคร่ที่จะรู้ถึงตัวศัตรู ลองให้องค์รักษ์ที่มีฝีมือในระดับหนึ่งปลอมเป็นนักฆ่าพวกนี้ดู แล้วลองเดินกลับไปแถวเมืองอัลคาเดีย สังเกตดูว่าจะมีใครเข้ามาพูดคุยหรือทำการส่งสัญญาณลับอะไรบางอย่างให้กับคนเหล่านี้หรือไม่ พวกเราจะได้รู้ว่านักฆ่ากลุ่มนี้เป็นใคร และ ถูกจ้างมาจากใคร ดีหรือไม่”
ด้วยค่าความสนิทสนมที่ค่อนข้างสูงอยู่ในระดับเชื่อใจที่องค์หญิงซีซีเลียมีต่อเจสเปอร์นั้นช่วยให้ความคิดของเขาได้รับการพิจารณาอย่างลึกซึ้ง หากเป็นผู้เล่นคนอื่นคงไม่มีแม้แต่โอกาสได้ร่วมวงการสนทนาในครั้งนี้อย่างแน่นอน
องค์หญิงเมื่อได้รับฟังความคิดเห็นของเจสเปอร์จบ สีหน้าที่ครุ่นคิดก็ฉายออกมาในทันทีเธอใช้เวลาตัดสินใจอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะดำเนินแผนการนี้ทันที แม้ว่าแผนการนี้จะเป็นความคิดที่เสี่ยงอยู่มาก แต่องค์หญิงและองค์รักษ์ก็พร้อมที่จะลองเสี่ยงดู
เจสเปอร์เสนอชื่อองค์รักษ์ 2 คนที่เคยมาส่งข่าวถึงการเดินทางให้แกเขาเป็นเหยื่อล่อในครั้งนี้ด้วยตัวเอง เพราะด้วยความสามารถ ทักษะการพรางตัวและปลอมแปลงที่อยู่ในขั้นสูงของ องค์รักษ์ทั้งสองนั่น เจสเปอร์เชื่อว่าแผนการนี้จะลดความเสี่ยงไปได้มากและอาจทำให้แผนนี้ประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย
ทั้งหมดได้ปรึกษาหารือถึงแผนการพยายามปิดจุดบกพร่องที่อาจจะเกิดขึ้นจนเช้า
วันรุ่งขึ้นองค์รักษ์ทั้ง 2 ก็ได้แยกออกจากขบวนคาราวานนี้ไปอย่างเงียบๆ เจสเปอร์แบ่งปาร์ตี้ของตนเป็นสองกลุ่มเพื่อแยกกันพักผ่อนและคุ้มกันขบวน ตลอดการเดินทางไปเมืองอีรูไดซ์ไม่พบความผิดปกติใดๆอีก มีเพียงฝูงมอนสเตอร์เข้ามาขวางทางบางแต่ก็เป็นเพียงแค่มอนเสตอร์กลุ่มเล็กๆ
เมื่อใกล้ที่จะถึงเมืองอีรูไดซ์ ไอรีนได้ออนไลน์กลับมาเข้ามาอีกครั้งเพื่อสมทบกับทุกคนในปาร์ตี้ องค์หญิงทรงเปลี่ยนรถม้าเป็นอีกคันเพื่อให้เหมาะสมกับฐานะของพระองค์ คณะเดินทางเข้าสู่เมืองอยากยิ่งใหญ่ เจสเปอร์ไม่ต้องการที่จะเป็นที่โดดเด่นกับผู้เล่นที่อยู่ในเมืองนี้จึงให้ทุกคนอยู่กันแต่ภายในรถม้า
ผู้เล่นจำนวนมากเบียดเสียดกับเหล่า NPC ชาวบ้านที่อยู่ในเมืองเพื่อขอมีโอกาสได้เห็นองค์หญิงซีซีเลียกันเพียงสักครั้ง ผู้เล่นอีรูไดซ์ที่เคยได้ยินถึงความสวยงามขององค์หญิงต่างยื้อแย่งเพื่อออกมาอยู่แถวหน้าของถนน แต่ภายในรถม้าที่ปิดสนิทกลับมีสายตาหลายคู่จ้องมองออกไปบริเวณเมืองอย่างตื่นเต้น
“พี่สาวไอรีน พี่สาวซันนี่ พวกเราขอเจสเปอร์ออกไปเที่ยวกันดีไหม ตุกของที่นี้สวยงามมากๆเลย”
หิมะน้อยแม้จะเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ไม่กี่วันนี้แล้วแต่ก็ยังทิ้งความอยากรู้อยากเห็นอยู่และความซุกซนเหมือนเด็กๆไปไม่ได้ ความสวยงามของเมืองอีรูไดซ์ช่างแตกต่างจากเมืองอัลคาเดียอย่างสิ้นเชิง สถาปัตยกรรมของผังเมือง ดูมีเสน่ห์ในแบบของมัน
‘สมแล้วกับที่เป็นเมืองหลวง’
ลูอิสเปรยตามองถึงบ้านเมืองที่เคลื่อนผ่าน หากเป็นเมืองอัลคาเดียบ้านเรือนจะตกแต่งให้ดูเรียบง่าย มีต้นไม้ให้ความร่มเงาแกบ้านเมือง ทั้งสองให้อารมณ์ความเป็นอยู่คนละแบบแต่ถ้าให้ตนต้องเลือกก็ยังเป็นเมืองอัลคาเดียอยู่ดีที่เหมาะสมกับตัวตนของเขามากที่สุดและยิ่งมีเพื่อนๆปาร์ตี้ Rising Sun คอยอยู่เป็นกำลังให้กันและกัน ลูอิสคิดว่าเขาเจอที่ๆเหมาะสมแล้ว
“ไว้เดี๋ยวเสร็จพิธีพวกนี้แล้ว จะให้ทุกคนได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อยดีไหม”
เจสเปอร์เองก็อยากให้ทุกคนได้ผ่อนคลายความตึงเครียดบาง เพราะตั้งแต่ปาร์ตี้รวบรวมคนได้มากขึ้นเพื่อนๆแต่ละคนแทบจะไม่มีวันไหนเลยที่ได้พักผ่อนกันแบบจริงๆจังต้องอย่าลืมว่าที่นี้คือเกมออนไลน์ หากเราไม่สนุกไปกับมันไม่ผ่อนปรนตัวเองบาง ‘สายที่ถูกขึงให้ตึงอยู่ตลอดเวลาไม่นานสายก็จะขาดสะบันไป เขาอยากได้คนที่ร่วมผจญภัยไปด้วยกันอีกนานอยากได้คนที่อยู่เป็นกำลังใจให้ก้าวเดินต่อไปไปเรื่อย ไม่ใช่เพื่อนที่อยู่ประเดี๋ยวประด๋าวแล้วจากไป’
พิธีต้อนรับองค์หญิงซีซีเลียในที่สุดก็ผ่านพ้นไป รถม้าคันหรูหราได้เคลื่อนตัวเข้าสู่เขตราชวังอันใหญ่โต เมื่อรถม้าหยุดลง ขบวนทหารมากกว่า 100 คน ก็เตรียมรอต้อนรับองค์หญิงอยู่ก่อนแล้ว ทันทีองค์หญิงก้าวลงจากบันได ทหารจำนวนนับ 100 ต่างคุกเข่าลงกับพื้นอย่างพร้อมเพียง นับเป็นภาพที่ชวนตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะมันช่างเหมือนกับภาพยนต์เสียเหลือเกิน
มีชายคนหนึ่งคอยท่าการกลับมาขององค์หญิงด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ชุดเกราะสีทองสลักสัญลักษณ์อาณาจักรกรีนเวต้า กับผ้าคลุมสีแดงเพลิง ช่างขับความน่าเกรงขามให้กับชายคนนี้ได้เป็นอย่างดี องค์หญิงก้าวเท้าเข้าไปหาคนผู้นั่นอย่างช้าๆก่อนที่จะจุมพิตลงไปที่แก้มของชายคนนั้นเบาๆ
กษัตริย์ Candor ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่จะเข้าสวมกอดลูกสาวตัวน้อยของเขาด้วยความอบอุ่น
“ดูเหมือนน้องสาวของพวกเราจะโตขึ้นเป็นสาวแล้วสินะ” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังกษัตริย์ องค์ชายแห่งอาณาจักรกรีนเวต้า Aaron ผู้ปกครองเมืองชายแดนเมิร์กแฮมที่ห่างไกล
“เสด็จพี่ Aaron กลับมาถึงเมื่อไหร่เพค่ะ” องค์หญิงซีซีเลียผละจากอ้อมอกของผู้เป็นพ่อก่อนที่จะเข้าสวมกอดพี่ชายของเธออย่างอบอุ่นเช่นเดียวกัน
“น้องสาวออกไปเที่ยวเล่นต่างเมืองยาวนานแบบนี้มีหรือที่ข้าที่อยู่ห่างไกลจะอดเป็นห่วงไม่ได้”
องค์ชาย Aaron ผู้เป็นพี่ชายขององค์หญิงซีซีเลีย ณ ปัจจุบันปกครองเมืองเมิร์กแฮม เมืองชายแดนที่โดดเดียว เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอุตสหกรรม ทำเหมืองแร่และการประมงให้กับอาณาจักรได้อย่างเป็นอันดับหนึ่ง
ทั้ง 3 ผู้เป็นใหญ่ของราชวงศ์กรีนเวต้าต่างพูดคุยกันอยู่นาน จนที่สุดหางตาก็ได้เหลือบมองมายังกลุ่มผู้กล้าทั้ง 8 ที่ยืนอย่างงุนงง หน้าราชวังอันใหญ่โต การมีอยู่ของผู้กล้าช่างเล็กกระจ้อยร่อยเสียเหลือเกิน แม้ในเมืองอัลคาเดีย เจสเปอร์จะมีศักดิ์เป็นถึง บารอน แต่นอกเมืองเจสเปอร์ก็เป็นเพียงขุนนางตัวเล็กๆเท่านั้น ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นคือเพื่อนๆของเขาที่มีศักดิ์เป็นเพียงแค่ พลเมือง
ใยที่กษัตริย์และองค์ชายจะปลายตามองถึงการมีอยู่ของพวกเขาได้ละ องค์หญิงซีซีเลียที่ลืมพวกเขาไปเสียสนิทได้แนะนำตัวกลุ่มผู้กล้าเหล่านี้ให้ เชื้อพระวงศ์ได้รับฟังอย่างละเอียด ในเมื่อกลุ่มผู้กล้าเหล่านี้เป็นแขกคนสำคัญงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้จึงถูกจัดขึ้นไปโดยปริยาย
กำหนดการงานเลี้ยงอาหารค่ำเชิญพวกเขาทั้งหมดให้เข้าร่วมเป็นเสมือนเควสพิเศษที่เด้งขึ้นมาในหน้าจอ ทุกคนต่างกดยอมรับด้วยความยินดี จะมีโอกาสกันเพียงกี่ครั้งที่จะได้ร่วมรับประทานอาหารกับกษัตริย์ Candor ที่เป็นเหมือนตัวละครที่ยิ่งใหญ่ของเกม The Era Online
ในเมื่อพิธีการเสร็จสิ้นลง เจสเปอร์และคนอื่นๆก็เตรียมที่ออกไปเดินชมรอบเมืองอีรูไดซ์ด้วยความเบิกบาน แต่มีอีกเสียงหนึ่งรั้งตัวพวกเขาไว้ ที่เจสเปอร์หันกลับไปก็ต้องตกใจกับคนที่ได้พบเห็น
“เฮ้...พวกนายรอฉันด้วย” เป็นเสียงของชายคนหนึ่งที่อยู่ในขบวนรับเสด็จองค์หญิง แต่ที่ทำให้เจสเปอร์แปลกใจก็คือชายคนนี้เป็นผู้เล่น เหมือนกันกับเขานั้นเอง
ทหารชายเจ้าของเสียงรีบวิ่งตรงมา สายตาจ้องมองไปยังเจสเปอร์ราวกับรู้จักกันมาก่อน เขาหยุดและเอ่ยปากพูดคุยกับเขาทันที แต่ชายคนนี้เป็นใครกันล่ะ ? แล้วผู้เล่นธรรมดามาอยู่ที่พระราชวังได้ยังไง? นี้คือคำถามที่เจสเปอร์ไม่ได้ถามออกไป แต่คำถามที่เขาสงสัยก็ได้รับการตอบกลับมาทั้งหมดจากชายปริศนาคนนี้
“คุณคงเป็นเจสเปอร์ใช่ไหม”
ชายหนุ่มปริศนารูปร่างสูงใหญ่ที่มาในชุดเครื่องแบบของทหารประจำอาณาจักรได้กล่าวถามเจสเปอร์ทันทีที่มาหยุดอยู่ตรงหน้า
“ใช่ครับ ถ้าไม่เสียมารยาทผมขอถามได้ไหมว่าคุณเป็นใคร” เจสเปอร์ไม่คุ้นหน้าชายคนนี้เลยแม้แต่น้อยถ้าเป็นเพื่อนในเกม The Era Online ยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะเขาพึ่งจะเคยมาเมืองอีรูไดซ์เป็นครั้งแรกเอง
“คุณเจสเปอร์คงจำผมไม่ได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ ผมปรับเปลี่ยนหน้าตาตัวละครให้แตกต่างจากตัวจริงอยู่บางเพื่อไม่อยากให้ใครจำผมได้....ผมชื่อ ‘คลูเอล’ที่เป็นตำรวจประจำสถานี XX”
‘ตำรวจที่ชื่อ คลูเอล อยู่สถานีใกล้กับที่พักของเขา หรือว่าตำรวจหนุ่มคนนั้นที่เคยคุยกับเขาตอนมีเรื่องกับกลุ่มคนไร้บ้านในวันแรกที่ย้อนเวลากลับมา’
เจสเปอร์นึกออกในทันทีเมื่อชายปริศนารูปร่างสูงใหญ่แนะนำตัวเอง เจสเปอร์จะลืมเหตุการณ์ในวันแรกที่ย้อนเวลากลับมาได้ยังไงกันล่ะ วันนั้นทำให้เขาเกือบที่จะตายไปแล้วถ้าหากไม่มีตำรวจเข้ามาช่วยเหลือไว้
“เป็นคุณนั่นเอง ทำไมถึงไม่แอด Ucode ที่ผมให้ไว้มาล่ะครับแล้วอีกอย่างไปทำยังไงถึงได้มาเป็นทหารประจำเมืองนี้ได้ละครับ”
สิ่งที่เจสเปอร์อยากจะรู้จริงๆคือ คลูเอลไปได้เควสอะไรมาถึงสามารถทำให้ตัวเองได้กลายเป็นทหารของกษัตริย์ Candor ได้แบบนี้ เพราะในอดีตของเขาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรือถูกนำมาเผยแพร่เลยสักครั้งเดียว
คลูเอลลังเลสักครู่ก่อนที่จะตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อม แม้ว่าความลับที่ตนได้ครอบครองจะเป็นความลับที่มีมูลค่ามาก แต่คลูเอลก็สามารถเชื่อใจเจสเปอร์ได้ในระดับนึงเพราะคนที่สามารถเข้ามาเป็นแขกของราชวงศ์ได้ก็มีหนทางที่ลำบากมามากไม่น้อยไปกว่ากัน.
“ผมได้มีโอกาสมาเริ่มเล่นเกมนี้ช้ากว่าคนอื่นถึง 2 วันเนื่องจากติดปัญหาของกลุ่มคนไร้บ้านนั่นหละครับ แต่เห็นว่าคุณเจสเปอร์ได้บอกกับเจ้าหน้าที่อีกคนว่าไม่อยากรู้เรื่องของชายไร้บ้านพวกนั้นอีก ผมเลยไม่อยากรบกวนที่จะแจ้งผลกลับไป ส่วนเรื่องที่ผมมาเป็นทหารนี้คงต้องเล่ากันยาว เอาเป็นว่าผมขอเสนอตัวเป็นไกด์พาพวกคุณทั้งหมดเที่ยวรอบๆเมืองนี้ละกันนะครับ”
ไม่มีการปฏิเสธใดๆ มีเจ้าบ้านมาต้อนรับและอาสานำเที่ยวเช่นนี้นับว่าดีกว่าไปเที่ยวเอาเองเป็นไหน แม้ว่าเจสเปอร์จะรู้ทุกซอกทุกมุมของเมืองอีรูไดซ์จากความทรงจำในอดีตแต่เขาก็เลือกที่จะเปิดเผยพวกมันออกมาการนำเที่ยวในครั้งนี้ปาร์ตี้ Rising Sun ได้ผ่อนคลายตัวเองลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ หิมะน้อย ไอรีนและซันนี่ หญิงสาวที่เหน็ดเหนื่อยในการเพิ่มเลเวลและฝึกฝนวิธีการเล่นอย่างหนักมาตลอดหลายวัน
ไอรีนที่เคร่งเครียดจากอาชีพนักแสดงที่ต้องเจอกองทัพนักข่าวอยู่เป็นประจำ หิมะน้อยมาร์กี้ที่คร่ำเคร่งกับการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ซันนี่ผู้ที่ต้องเปลี่ยนงานกำลังเรียนรู้งานใหม่ที่เธอต้องทำจากเจ้านายเจสเปอร์หนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย รอยยิ้มของทั้งสามได้ทำให้ปาร์ตี้ Rising Sun ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง.
การเดินเที่ยวรอบๆเมืองให้ผลดีกว่าที่เจสเปอร์คิดไว้มาก การได้เจอคลูเอลในเมืองนี้ทำให้เขามีมิตรสหายจากต่างเมืองเพิ่มขึ้น ทุกๆคนในปาร์ตี้ต่างพอเดาใจเจสเปอร์ออกบางจึงแสดงความสนใจต่อการนำเที่ยงของคลูเอลเป็นอย่างดี การที่ผูกมิตรเอาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อธุรกิจในอนาคตและส่วนที่สำคัญที่สุดคือแผนการในอนาคตที่เจสเปอร์คิดไว้มันไม่หยุดแค่ที่เมืองอัลคาเดียทีเดียวอย่างแน่นอน...
...โปรดติดตามตอนต่อไป...