เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 916 ปรมาจารญ์บนเส้นทางสองสาย (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 916 ปรมาจารญ์บนเส้นทางสองสาย (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
แสงสีเลือดส่องประกายขึ้นในถ้ำใต้พิภพ
มันเป็นแสงที่เกิดจากเห็ดหลินจือโลหิตที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูได้รับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือดจากภัยพิบัติครั้งล่าสุด
ฟางหยวนนั่งอยู่บนเห็ดหลินจือโลหิตยักษ์
เขาค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นและผ่อนลมหายใจ
ก่อนหน้านี้เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองให้กลายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาวซิงเซียงซื่อ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้ร่างผีดิบอมตะ
ตอนนี้ดวงตาของผีดิบอมตะกำลังเปล่งประกายด้วยความฉลาดเฉลียวไม่ต่างจากแสงแห่งปัญญา
ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “ครั้งนี้ข้าได้รับกำไรมหาศาลอย่างแท้จริง”
เขาต้องยอมรับจุดนี้
เพราะการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาวทำให้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวของเขาบรรลุระดับปรมาจารย์เรียบร้อยแล้ว
แรกเริ่มฟางหยวนตกใจมาก
เขาบรรลุระดับปรมาจารย์!
นี่หมายความว่าอย่างไร?
หลังจากใช้เวลาสะสมรากฐานมาถึงสองชีวิต ฟางหยวนกลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดและความแข็งแกร่ง
เขาสามารถเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดเพราะการฝึกฝนในชีวิตก่อนหน้า
สำหรับปรมาจารย์บนเส้นทางความแข็งแกร่ง เขาได้รับความสำเร็จนี้มาความพยายามในชีวิตนี้รวมถึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งระหว่างการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของไห่ลั่วหลัน
หลังจากทุ่มเทความพยายามอย่างหนักในทั้งสองชีวิต เขาใช้เวลามากกว่าห้าร้อยปีในการบรรลุระดับปรมาจารย์บนเส้นทางสองสาย แต่ตอนนี้เพียงการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาวภายในเวลาไม่กี่วัน เขากลับกลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและกระทั่งเส้นทางแห่งดวงดาว!
มันเป็นไปไม่ได้ที่ฟางหยวนจะได้รับความสำเร็จระดับนี้มาด้วยความพยายามของตนเอง ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่าเขาได้รับกำไรมหาศาล
‘สิ่งที่ข้าได้รับในครั้งนี้ทำให้ข้าเติบโตขึ้นอย่างมาก มันเป็นตัวช่วยชั้นยอดสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันของข้า!’
โดยทั่วไปแล้วความสำเร็จจะเกิดขึ้นหลังจากสะสมประสบการณ์อย่างช้าๆ และต่อเนื่อง
แต่การได้รับโชคลาภโดยบังเอิญจะทำให้คนผู้หนึ่งเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดและสามารถพลิกสถานการณ์ในชีวิตของตนเอง
ตั้งแต่เกิดใหม่ ฟางหยวนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายอย่างห้าวหาญและได้รับผลประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นวิญญาณสุรา วิญญาณกาลเวลา วิญญาณกะโหลกเลือด วิญญาณหลอมรวมเลือดเนื้อ วิญญาณระเบิดพลัง ไปจนถึงแดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์ แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู ทะเลวิญญาณที่สอง กลายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง และได้รับวิญญาณสติปัญญา
เขาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่มันยังไม่สามารถพลิกชีวิตของเขา
อย่างไรก็ตามหลังจากสำรวจถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวในครั้งนี้ ผลประโยชน์ที่เขาได้รับสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
แม้วิญญาณสติปัญญาระดับเก้าจะมีข้อตกลงกับฟางหยวน แต่เขายังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่
ตรงข้ามกับรากฐานความสำเร็จ มันเป็นสิ่งที่ผู้อมตะทุกคนต้องการ ในความเห็นของฟางหยวน ความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวมีค่ามากกว่าวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า
‘นับตั้งแต่เกิดใหม่ นี่ถือเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตของข้าไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นมันยังได้มาอย่างง่ายดายเกินกว่าที่คาดคิด’
ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ถึงความลึกลับของโชคชะตาและชีวิตที่พลิกผันจากเหตุการณ์นี้
เขาคาดเดาได้โดยธรรมชาติว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงโชค
กล่าวไปแล้วตั้งแต่ฟางหยวนเชื่อมโยงโชคกับคนอื่นๆ การเดินทางของเขาราบรื่นขึ้นอย่างมาก
การเพิ่มขึ้นของระดับความสำเร็จในครั้งนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบาย
ราวกับหินขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้ากลายเป็นหินรองเท้าและทำให้เขามองเห็นทิวทัศน์ที่กว้างไกลและเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น
ระดับความสำเร็จคือสิ่งใด?
แม้โลกของการบ่มเพาะจะเจริญก้าวหน้าไปมากแต่ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณของฟางหยวนมาจากโลกอีกใบ
นี่ทำให้มุมมองของเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ
‘การบ่มเพาะเหมือนปัญหาทางคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ต้องพึ่งพาความรู้และประสบการณ์เพื่อให้ได้รับคำตอบที่ถูกต้อง ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง พวกเขาจะสามารถแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างง่ายดายและเป็นคำตอบที่ถูกต้อง แม้พวกเขาจะพบคำถามที่ไม่คุ้นเคย พวกเขายังสามารถใช้ความรู้ที่มีอยู่แก้ปัญหาได้บางส่วน’
ด้วยระดับความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น ฟางหยยวนจะสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการบ่มเพาะได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างเช่นการใช้วิญญาณสติปัญญา ก่อนหน้านี้เขาใช้ประโยชน์จากมันได้เพียงผิวเผิน แต่เมื่อความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาเพิ่มสูงขึ้น เขาจึงได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆ และมีแนวคิดนอกกรอบมากมาย เขายังสามารถใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อสนับสนุนให้เขาได้รับประโยชน์จากแสงแห่งปัญญามากขึ้นอีกด้วย
อีกตัวอย่างหนึ่งคือการพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวม
ก่อนหน้าเขาพยายามพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณความทรงจำ วิญญาณความคิดดารา และวิญญาณความคิดชั่ว แต่เพราะระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขายังต่ำเกินไป เขาจึงพบอุปสรรคมากมายและไม่มีความก้าวหน้า
แต่ตอนนี้เขาประสบความสำเร็จในการพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณความคิดดาราและรู้สึกว่าเขายังสามารถพัฒนามันได้ดีกว่านี้
นอกเหนือจากนั้นฟางหยวนยังมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างมรดกที่ไม่สมบูรณ์ของตนเองเช่นมรดกบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่สมบูรณ์ที่ประกอบด้วยวิญญาณความทรงจำ วิญญาณอมตะรำลึกอดีต และท่าไม้ตายอีกหลายท่า
ไม่เพียงเคล็ดลับการหลอมรวม เขายังสามารถพัฒนาท่าไม้ตายไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายหมื่นตัวตนหรือท่าไม้ตายใบหน้าที่คลุมเครือ ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจใหม่ๆ
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือท่าไม้ตายเขตแดน! ฟางหยวนไม่เคยครอบครองท่าไม้ตายเขตแดนมาก่อน แต่ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง เขาจะสามารถสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง
สำหรับการพัฒนาแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ตามแผนการเดิม เขาต้องลงทุนด้วยเงินก้อนโต แต่ตอนนี้เขาสามารถปรับเปลี่ยนแผนการและลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก แผนใหม่ของเขายังเหมาะสมและมีประโยชน์กว่าแผนเดิมอย่างมาก
เมื่อระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาเพิ่มขึ้น เขาต้องปรับแผนการมากมายและมีหลายสิ่งที่เขาต้องทำ
โดยสรุปแล้วความสำเร็จที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้คนผู้หนึ่งเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆด้าน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ครึ่งเดือนผ่านไปตามเวลาของโลกภายนอก
สองเจตจำนงกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เจตจำนงของฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ เขาสามารถกำหราบเจตจำนงของโม่เหยาได้อย่างง่ายดาย
“เป็นไปได้อย่างไร? ความสามารถของเจ้าเพิ่มขึ้นถึงระดับนี้ได้อย่างไร?” โม่เหยากรีดร้องด้วยความโกรธและตกใจ
ในการต่อสู้ระหว่างเจตจำนงก่อนหน้านี้ ฟางหยวนยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ตอนนี้ด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่เพิ่มสูงขึ้น เขาสามารถใช้เพียงหนึ่งในสามของเจตจำนงในการเอาชนะโม่เหยาและทำให้นางกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบขณะที่โม่เหยาทำได้เพียงป้องกันตัว
‘ก่อนหน้านี้ข้าใช้เจตจำนงของโม่เหยาเป็นคู่ฝึกซ้อมและได้เรียนรู้ทักษะมากมายจากนาง แต่ตอนนี้ข้าเหนือกว่าโม่เหยาไปไกลแล้ว ข้าสามารถใช้ทักษะต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและราบรื่น ถึงเวลานี้โม่เหยาสูญเสียคุณค่าของการเป็นคู่ฝึกซ้อมของข้าไปแล้ว’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางหยวนจึงดึงเจตจำนงของตนกลับมา
เขาหันไปให้ความสนใจกับท่าไม้ตายเขตแดนเขาวงกตแปดประตูที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อสิบวันก่อนฟางหยวนเดินทางออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและมารวมกลุ่มกับฉลามปีศาจเพื่อบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่อีกครั้ง
อุปสรรคที่ยากลำบากในครั้งก่อนคือเขตแดนเขาวงกตแปดประตู ย้อนกลับไปฟางหยวนคิดว่าเขาต้องใช้วิญญาณอมตะความคิดดาราเพื่อรื้อถอนประตูทั้งแปด
แต่ตอนนี้เขากลับสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เขาอนุมานวิธีรื้อถอนเขตแดนเขาวงกตแปดประตูขณะเดียวกันก็ส่งเจตจำนงเข้าไปฝึกซ้อมกับโม่เหยาอย่างลับๆ
หลังจากผ่านไปไม่กี่วันภายใต้การนำทางของฟางหยวน กลุ่มของฉลามปีศาจก็ใกล้จะประสบความสำเร็จในการคลี่คลายเขตแดนแห่งนี้
‘เรากำลังจะผ่านเขาวงกตแปดประตู! ผู้ใดจะคิดว่าความสามารถของซิงเซียงซื่อจะเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน!’
‘เขาวงกตแปดประตูเป็นเขตแดนสุดท้ายของแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่หรือไม่?’
กลุ่มผู้อมตะรู้สึกตื่นเต้น
“บึม!”
ด้วยเสียงระเบิด เขาวงกตแปดประตูถูกทำลายลงโดยฟางหยวน
รูปลักษณ์ที่แท้จริงของแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของทุกคนในที่สุด