HPST ตอนที่ 39: แตกหัก
HPST ตอนที่ 39: แตกหัก
ไม่มีใครสนใจเกี่ยวกับชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัวอีกต่อไป อีวาน,รอน, และเฮอร์ไมโอนี่รีบพาแฮรี่ออกไปจากโถงใหญ่ พวกเขาถูกตามมาด้วยโคลินและจินนี่
ผู้คนต่างหลบทางอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าพวกเขากลัวว่าแฮรี่จะเข้ามาเล่นงานพวกเขา
แฮรี่ดูงุนงงเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ใครอธิบายเขาสักนิดขณะที่พาเขาไปยังห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์ที่ว่างเปล่า
หลังจากนั้นรอนผลักแฮรี่ลงไปบนเก้าอี้และพูด “นายพูดภาษาพาร์เซลเป็น ทำไมนายถึงไม่บอกพวกเรา?”
“ฉันอะไรนะ?” แฮรี่ถาม
“ภาษาพาร์เซล! ,มันหมายความว่านายสามารถคุยกับพวกงูได้”
“ฉันรู้ว่าฉันทำได้ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันทำมัน” แฮรี่กล่าว “ฉันเคยพูดครั้งหนึ่งตอนไปที่สวนสัตว์ตอนนั้นฉันปล่อยให้งูออกมาแล้วลูกพี่ลูกน้องของฉันดัดลีย์…….เรื่องมันยาวน่ะ แต่ฉันพนันได้เลยว่าใครๆก็ทำแบบนี้ได้”
“พวกเขาทำไม่ได้” รอนพูดและขมวดคิ้ว “มันไม่ปกติ แฮรี่”
“ใช่ นั่นมันแย่!” พูดโดยจินนี่ที่นั่งอยู่ข้างๆรอน
“มันจะแย่ตรงไหน?” แฮรี่ถาม “เกิดอะไรขึ้นกับทุกคน ดูสิถ้าฉันไม่ได้บอกงูไม่ให้โจมตีจัสติน ไม่งั้นหลังจากนี้……”
“นั้นคือสิ่งที่นายพูดกับเขา”
“รอน นายหมายความว่าอะไร นายก็อยู่ตรงที่นั่น นาย,อีวาน,เฮอร์ไมโอนี่,โคลิน และจินนี่ พวกนายก็อยู่ตรงนั้นกัน นายต้องได้ยินฉันสิ”
“ฉันได้ยินแค่เสียงฟ่อเหมือนงู” โคลินพูดตะกุกตะกัก “ฉันไม่รู้เลยว่านายพูดอะไร”
“มันคือภาษาพาร์เซล โคลิน! ,มันเป็นภาษาของงู” รอนอธิบาย
“ใช่ พวกเราไม่มีใครเลยที่เข้าใจนาย นายต้องเผลอไปพูดอะไรบางอย่าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจัสตินถึงกลัว ฟังที่นายพูดมันดูเหมือนว่าจะเป็นนายที่ไปกระตุ้นงูนั้น”
“ใช่!!” โคลินกับจินนี่พยักหน้า
แฮร์รี่จ้องที่พวกเขาและพูดว่า“แต่ฉันไม่รู้นี่ว่าฉันสามารถพูดภาษาอื่นได้”
รอนส่ายศีรษะของเขา
หน้าของโคลินและจินนี่ปรากฏความหวาดกลัว และเฮอร์ไมโอนี่นั่งลงข้างๆและเอาหนังสือออกมาจากกอง แล้วอ่านมันอย่างรวดเร็วขณะที่อีวานจมอยู่กับความคิด แฮรี่สงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ บรรยากาศดูกดดันขึ้นเรื่อยๆ
“พวกนายบอกฉันทีได้ไหมว่ามันผิดตรงไหนที่หยุดงูไม่ให้ฆ่าจัสติน” แฮรี่ตะโกนขึ้นทันที “จัสตินไม่ได้เป็นผี แล้วมันจะสำคัญตรงไหนกับที่ฉันเป็นคนทำ”
“เยี่ยมสุดๆ!” ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็พูดขึ้น เธอเปิดหนังสือไปที่หน้าหนึ่งและโชว์ให้แฮรี่ดู “ดูตรงนี้สิ มันบอกว่าสลิธิรีนสามารถพูดคุยกับงูได้เหมือนกัน เขาเป็นคนแรกที่พิสูจน์การมีอยู่ของภาษาพาร์เซล ดังนั้นสัญลักษณ์ของบ้านสลิธิรีนจึงเป็นงู”
แฮรี่เปิดปากกว่างด้วยความประหลาดใจ ขณะที่กำลังมองหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเขา
“อันที่จริงนะแฮรี่ ตอนนี้ทั้งโรงเรียนคิดว่านายเป็นทายาทของสลิธิรีนไปแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ห้องแห่งความลับมันถูกเปิดด้วย”
“แต่ฉันไม่ใช่ทายาท ฉันไม่ได้เป็นคนเปิดห้องแห่งความลับ” แฮรี่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“แฮรี่! ฉันเชื่อเธอ” จินนี่กล่าว
“พวกเราเชื่อในตัวนาย แต่มันยากที่จะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็น” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างใจเย็น “สลิธิรีนก็มีชีวิตกว่าเมื่อพันปีที่แล้ว ที่เรารู้ทั้งหมด นายอาจจะเป็นทายาทของเขาก็ได้”
“นี่มันไร้สาระ นั้นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมคนอื่นๆถึงพยายามหลบฉัน” แฮรี่กล่าว
แฮรี่ยืนขึ้นและมองไปที่อีวานที่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย และพูด “อีวาน นายไม่คิดว่าฉันเป็นทายาทของสลิธิรีนหรือคนที่เปิดห้องแห่งความลับใช่ไหม?”
“แน่นอนว่าไม่ ฉันไม่เห็นจะแปลกใจอะไรเลยที่นายพูดภาษาพาร์เซลได้”
“ใจเย็นๆไว้แฮรี่!” อีวานกล่าว “ถึงแม้คนที่พูดภาษาพาร์เซลได้จะหายากมาก แต่มันก็ไม่ได้แปลกตรงไหน มีพ่อมดตั้งหลายคนที่ทำได้นอกจากทายาทของสลิธิรีน ฉันสามารถบอกชื่อสักคนสอคนก็ได้ ถ้านายต้องการ”
คำพูดของอีวานทำให้แฮรี่สบายใจขึ้น แต่เขาไม่ได้พูดว่าพ่อมดที่พูดภาษาพาร์เซลได้ทั้งหมดเป็นพวกชั่วร้ายทั้งหมดโดยไม่ข้อยกเว้น
“เรื่องนี้มันไม่สำคัญหรอก แต่ที่ฉันอยากจะรู้คือคาถาอะไรที่รอนใช้กันแน่” อีวานพูดขึ้นขณะที่สายตาของเขาจ้องไปที่รอนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“อะไร อะไร!”
ใบหน้าของรอนเปลี่ยนเป็นสีแดง “มันก็แค่คาถาปลดอาวุธ บางทีไม้กายสิทธิ์ของฉันทำให้มันเปลี่ยนไป”
“ไม่เอาน่ะรอน!” อีวานกล่าวขึ้นอย่างหงุดหงิด “ฉันแค่พูดเพื่อไม่ให้สเนปถามนายมากไปกว่านี้ ถ้าไม้กายสิทธิ์พังๆสามารถทำให้คาถาปลดอาวุษกลายพันธุ์เป็นมนต์ดำได้ ป่านนี้พ่อมดศาสตร์มืดคงได้เดินไปมาพร้อมกับไม้กายสิทธิ์พังๆแล้ว”
“นายพูดอะไรว่านะ?” เฮอร์ไมโอนี่อุทาน “มนต์ดำ?”
“ใช่ คาถานั่นเป็นมนต์ดำแน่ๆ นั้นเป็นเหตุผลให้สเนปถามรอนว่าเขาเคยเข้าไปส่วนหนังสือต้องห้ามไหม”
“แต่ฉันไม่เคย….” รอนพูดอย่างตื่นตระหนก
“ใครจะรู้!” อีวานพูดขณะที่เขาจ้องไปที่รอน “บางที มันจะไม่ใช่นาย”
“ฉันไม่เคย” รอนกล่าวย้ำ หลังจากนั้นรอนกระโดดขึ้นอย่างเกรี้ยวโกรธและสับสน
“อีวาน นายหมายความว่ายังไง? นายคิดว่าฉันเป็นคนอื่นแล้วใช้น้ำยาสรรพรสเพื่อจะมาเป็นรอน?”
รอนหัวเราะอย่างหนัก โคลินและจินนี่ตกใจเล็กน้อยและแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ดูสับสนพวกเขาไม่แน่ใจว่าอีวานหมายถึงอะไรจริงๆ
“ฉันเชื่อว่าเขาคือรอนตัวจริง” เฮอร์ไมโอนี่ลังเล “อีวาน นายน่าจะรู้สึกกดดันมาเกินไปจากสถานการณ์ตอนนี้”
“ใช่ มุกตลกนี่ไม่ขำนะ” แฮรี่พูดพร้อมกับส่ายหน้า “วันนี้ต้องเป็นเอพริลฟลู เพราะว่าฉันช่วยชีวิตจัสตินและตอนนี้ฉันก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นทายาทของสลิธิรีน และตอนนี้รอนก็เป็นพ่อมดศาสตร์มืด”
“อย่างไรก็ตาม มันเป็นงานง่ายสำหรับพ่อมดศาสตร์มืดที่จะควบคุมจิตใจของคนอื่น”
“นี่นายหมายความว่าไงวะ?!” รอนอุทานเสียงดัง
“นายไปอยู่ที่ไหนตอนการโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้น” อีวานถามอย่างเย็นชา
“ฉันไปขอโทษยัยเมอร์เทิลขี้แงในห้องน้ำบ้านั่น!”
“นั่นคือครั้งแรก!” อีวานกล่าว “นายอยู่ที่ไหนตอนที่เกิดการโจมตีครั้งที่สอง?”
“ในวอร์ดห้องพยาบาลกับเพอร์ซี่ เพราะว่าคาถาของนายทำกระดูกแขนพี่ชายฉันหายไป”
“ไม่ใช่ นายไม่ได้อยู่ที่นั่น!”
อีวานส่ายหัวของเขาและกล่าว “ทันทีหลังจากที่พวกเราออกจากวอร์ดห้องพยาบาล นายก็ออกไปและก็ไม่มีคนอื่นรู้ว่านายไปที่ไหน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรล่ะถ้าฉันจะหายไปไหน!” รอนพูดขณะที่เขาดูจะคลั่งเล็กน้อย “ถ้านักเรียนถูกโจมตี แล้วถ้าไม่มีใครอยู่กับนายตอนที่มันเกิดเรื่อง ถ้างั้นนักเรียนทุกคนคงได้เป็นผู้ต้องสงสัยกันทั้งหมด เพราะพวกเขาอาจจะเป็นทายาทของสลิธิรีนก็ได้”
“มีแค่นายเท่านั้นที่สามารถ ใช้ไม้กายสิทธิ์ที่พังแล้วฆ่าคนได้”อีวานพูดขณะหรี่ตาของเขาลง “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกหรอ?