ตอนที่แล้วบทที่ 77 หยุนปิงผู้ลังเล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 79 ใช่เย่โม่หรือเปล่า?

บทที่ 78 เลือดใคร?


หยุนปิงเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว  ในที่สุดเธอก็สามารถลากเย่โม่เข้ามาในห้องของเธอได้สำเร็จ  โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลาประมาณตี 5…เป็นช่วงเวลาที่มืดที่สุดก่อนจะเข้าสู่ช่วงเช้า  ยังไม่มีใครในเขตที่อยู่ของเธอตื่นเช้าขนาดนี้  จึงไม่มีใครพบเห็นเธอกับเย่โม่

ถึงแม้หยุนปิงจะไม่รู้ว่าเย่โม่ไปหาเรื่องใครไว้กันแน่  แต่เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นสงสัยเธอจึงขับเข้ามาในโรงจอดรถก่อน  เธอปิดประตูโรงจอดรถอย่างระมัดระวังจากนั้นจึงช่วยพาเย่โม่ไปนอนบนเตียงของเธอ  หยุนปิงยื่นมือไปอังตรงจมูกของเย่โม่  ยังมีลมหายใจอยู่  รู้อย่างนี้เธอถึงค่อยรู้สึกโล่งใจ...เขาคงแค่สลบไปชั่วคราวเท่านั้น

หยุนปิงอุ่นน้ำมาอ่างหนึ่ง  เธอเตรียมจะช่วยเย่โม่เช็ดตัวสักรอบ  ตอนนี้เธอถอดเสื้อตัวบนของเย่โม่เสร็จแล้ว  พอมาถึงกางเกง...เธอกลับรู้สึกเขินอายขึ้นมา  แม้แต่มองยังไม่กล้าจะมอง  เธอเอาผ้าเช็ดตัวปิดตรงส่วนล่างของเย่โม่จึงค่อยกล้าเช็ดตัวเขา

แผลบนหลังของเย่โม่สาหัสมาก  หยุนปิงไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าแผลนี้เกิดจากอะไรกันแน่  ถึงแผลจะลึกแต่กล้ามเนื้อของเย่โม่แข็งแรงเหนือคนทั่วไป  หากหยุนปิงไม่ได้เห็นกับตาตัวเองล่ะก็...เธอคงไม่เชื่อแน่ว่าชายหนุ่มที่ภายนอกดูเงียบขรึมเก็บตัวอย่างเย่โม่จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสมส่วนสวยงามขนาดนี้

หยุนปิงรู้สึกร้อนตรงใบหน้าขึ้นมา  มือที่ช่วยเช็ดตัวเย่โม่อยู่สั่นเล็กน้อย  เธอไม่เคยเห็นผู้ชายเปลือยกับตาตัวเองมาก่อน  แม้แต่ตอนที่เธอถูกข่มขืนตอนนั้นก็เป็นเพราะถูกวางยาทำให้สลบไป

ครอบครัวของเธอหวาดกลัวอิทธิพลของชายคนนั้น  เขาพูดออกมาแค่คำเดียวครอบครัวของเธอก็ไม่กล้าให้เธอทำแท้ง  หยุนปิงไม่ได้โทษครอบครัวของตัวเอง  นั่นก็เพราะพวกเขาไม่อาจต้านทานอิทธิพลของชายคนนั้นได้  แม้แต่ตอนนี้แค่คิดตัวเธอยังสั่นเทาอยู่เลย  เธอกลัวชายคนนั้นจริงๆ  เพราะแบบนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอจึงหลบซ่อนตัวอยู่ในหนิงไห่  แม้แต่วันตรุษจีนเธอยังไม่อยากจะกลับไปปักกิ่งเลย

วินาทีที่ตัวเขาล้มลงเย่โม่ก็รู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว  เขาใช้พลังใจอันเข้มแข็งปลุกสติตัวเองขึ้นมา  ทว่าคนที่เขาลืมตาขึ้นมาเห็นกลับเป็นหยุนปิง  ถึงแม้เขาจะไม่ชอบหยุนปิงนัก…แต่การอยู่กับเธอที่นี่ก็ยังดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลซ่งมากมายหลายเท่านัก

เย่โม่ที่รู้สึกโล่งใจก็หลับตาสลบไปอีกครั้ง  แต่ภายในร่างกายของเขาก็เริ่มเคลื่อนลมปราณอย่างช้าๆ   ค่อยๆ ฟื้นฟูความเหนื่อยล้าและบาดแผลลึก

“นายฟื้นแล้ว?”  หยุนปิงที่ถือผ้าเช็ดตัวอยู่ในมือเมื่อเห็นเย่โม่ลืมตาขึ้นก็ตกใจ  เธอเรียกเย่โม่ด้วยความยินดีทันที  แต่ก็ต้องพบว่าเย่โม่ได้สลบไปอีกครั้งเสียแล้ว  หยุนปิงรีบเอาอ่างน้ำออกไปแล้วกลับเข้ามาในห้องเพื่อคลุมผ้าห่มให้เย่โม่  จากนั้นจึงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก

ในเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง...งั้นเขาคงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ  ด้วยความที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน   ความเหนื่อยล้าอันยากจะต้านทานทำให้หยุนปิงล้มตัวลงนอนข้างๆ เตียงที่เย่โม่นอนอยู่

..........

ตอนที่หนิงชิงเชวี่ยลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้ฟ้าสว่างแล้ว  เธอนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน  ตอนนี้เธออยู่บนสวรรค์แล้วงั้นหรือ?  บนร่างกายของเธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น  ทั้งยังรู้สึกสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  หนิงชิงเชวี่ยถอนหายใจออกมา…ถือเสียว่าได้หลุดพ้นจากขุมนรกความทรมานอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นก็แล้วกัน  เพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เย่โม่จะสบายดีไหมก็เท่านั้น...

ทว่าไม่นานหนิงชิงเชวี่ยก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง  เธอพบว่าตัวเองยังนอนอยู่บนเตียงของเย่โม่อยู่เลย  ข้าวของภายในห้องก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?  หนิงชิงเชวี่ยกัดปลายลิ้นของตัวเอง  ความเจ็บแล่นเข้ามาทันที  หรือว่าเธอยังไม่ตาย?  หนิงชิงเชวี่ยที่ตอนนี้รู้สึกตื่นตระหนกรีบยันตัวขึ้นนั่งทันที  แล้วตอนนั้นเองที่เธอต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้งเมื่อพบว่าบาดแผลของเธอหายดีแล้ว  ไม่มีส่วนไหนในร่างกายที่บุบสลายแม้แต่น้อย  เธอรู้สึกกะปรี้กะเปร่าเสียด้วยซ้ำ

กระเป๋า!  หนิงชิงเชวี่ยคว้ากระเป๋าพยาบาลขึ้นมาทันที  ของข้างในยังอยู่ครบดี หืม...ไม่ถูกสิ  เธอจำได้ว่าเมื่อคืนภาพจำสุดท้ายของเธอก็คือตัวเองกำลังถือมีดเตรียมจะฆ่าตัวตาย  แล้วทำไมมีดเล่มนั้นถึงมาอยู่ในกระเป๋าใบนี้ได้?  หรือว่าความจำของเธอจะมีปัญหากัน?  เป็นไปไม่ได้!

หนิงชิงเชวี่ยตรวจสอบของข้างในกระเป๋าพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง  เธอจึงค่อยพบว่าเม็ดยาปกป้องหัวใจหายไป 2 เม็ด  หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที  ตัวเธอได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น...เธอหายดีภายในคืนเดียวได้อย่างไรกัน?  อีกอย่างเธอยังจำได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองหยิบมีดมาเตรียมจะฆ่าตัวตายแล้ว  ทั้งยังแทงเข้ามาแล้วด้วย...แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  ไม่มีแม้แต่แผลเดียวด้วยซ้ำ

แล้วตอนนี้เธอยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด...ไม่เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วด้วย?  เธอหันกลับมามองบนเตียงของเธอที่มีรอยเลือดอยู่ 2-3 หยด  แต่บนร่างกายของเธอก็ไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่ที่เดียว  แล้วรอยเลือดพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย?

“แม่คะ!”  หนิงชิงเชวี่ยเพิ่งจะร้องเรียกประตูก็ถูกเปิดออกทันที  แม่ของเธอหลานยู่รีบเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว

“ชิงเชวี่ย!  ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม!?”  ตัวหลานยู่ยังไม่ทันเข้าเสียงก็ลอยมาแล้ว  ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ถึงได้นอนหลับไปแบบนั้น  เธอหลับยาวจนถึง 7 โมงเช้าถึงค่อยตื่นขึ้นมา  เธอรู้สึกว่านั่นเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลย

“หืม...ชิงเชวี่ย  ลูกลุกขึ้นนั่งเองได้ยังไง!?  ลูก…ทำไมสีหน้าของลูกดูดีขึ้นมาแล้วล่ะ?  ลูกหายดีแล้วหรือ?  ชิงเชวี่ย!  ลูกหายดีแล้วจริงๆ...”  หลานยู่ได้ลืมคิดไปเสียแล้วว่าหนิงชิงเชวี่ยบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น...เพราะเหตุใดผ่านไปแค่คืนเดียวจึงหายดีแบบนี้  ในสายตาของเธอ...การที่ลูกสาวหายดีก็ถือว่าเป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว  ส่วนกระบวนการนั้น...เธอไม่สนใจเลยสักนิด

เมื่อหนิงชิงเชวี่ยเห็นแม่ของตัวเองเดินเข้ามา  เธอก็สรุปได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน  และเธอก็ยังไม่ตายด้วย  นี่ถือเป็นเรื่องดี…แต่สาเหตุของเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้เช่นกัน

หลานยู่พูดจบก็คว้ามือของหนิงชิงเชวี่ยไปจับทันที  เธอเริ่มคิดว่าเหตุใดลูกสาวของเธออยู่ๆ ถึงหายดีแบบนี้ได้?  แผลของชิงเชวี่ยตอนนั้นสาหัสเอามากๆ  เมื่อคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้หลานยู่จึงถามหนิงชิงเชวี่ยทันที  “

ชิงเชวี่ย...เกิดอะไรขึ้นกับลูกกันแน่?  ทำไมอยู่ๆ ถึงหายดีแบบนี้ได้ล่ะ?”

“แม่คะ...หนูอยากคิดเงียบๆ คนเดียวว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”  หนิงชิงเชวี่ยพูดขึ้นมาทันที

ตอนนี้ในใจของหลานยู่รู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมาก  ในความคิดของเธอถึงแม้การที่หนิงชิงเชวี่ยหายดีแบบนี้จะเป็นเรื่องแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติ  แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อว่าบรรพบุรุษคุ้มครองมากกว่าจะมามัวคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้  พอเห็นว่าลูกสาวของตัวเองพูดแบบนี้เธอก็ยังตรวจสอบแผ่นหลังของหนิงชิงเชวี่ยอย่างละเอียดอยู่ดี  เมื่อตรวจดูดีแล้วจึงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก  “แม่จะไปต้มโจ๊กให้นะ  ลูกก็พักผ่อนเสียหน่อย...อย่าเพิ่งขยับมาก”

รอจนแม่ของเธอเดินออกไป  หนิงชิงเชวี่ยจึงค่อยขมวดคิ้วแน่นพลางใช้ความคิดอย่างหนัก  เธอไม่ได้รู้สึกยินดีแบบแม่ของเธอ  อาการบาดเจ็บของเธอจะต้องมีคนมาช่วยรักษาแน่นอน  แต่ใครกันจะมีความสามารถขนาดนั้นได้?  ตอนที่เธอหลับก็ช่วยรักษาจนหายแล้ว  ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่โรงพยาบาลหงรุ่ยก็ยังไม่มีหนทางจะรักษาเธอเลย

อยู่ๆ หนิงชิงเชวี่ยก็ผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน  ถ้าหากเมื่อคืนมีคนเข้ามารักษาให้...แล้วคนๆ นั้นไม่ต้องถอดเสื้อผ้าของเธอออกหรือไง!?  หนิงชิงเชวี่ยรีบถอดเสื้อออกดูทันที  เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ...สีหน้าของหนิงชิงเชวี่ยซีดขาว  เสื้อตัวบนของเธอถูกถอดออก  แม้แต่ตะขอบราของเธอยังติดผิดเลย!

ในเมื่อคนๆ นั้นเห็นแผ่นหลังของเธอ…นั่นก็หมายความว่าหน้าอกของเธอคงถูกเห็นเข้าแล้ว  เป็นใครกัน!?  หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกว่าร่างกายสั่นเทาขึ้นมาทันที  เธอยอมตายเสียดีกว่าให้ใครหน้าไหนก็ไม่รู้ว่ามองร่างกายเธอแบบนี้!

หนิงชิงเชวี่ยใช้สายตามองไปยังรอยเลือดบนเตียง  นั่นไม่ใช่เลือดของเธอ...แล้วมันเป็นของใครกันแน่?  หรือว่าเป็นของคนที่มาช่วยรักษาเธอเมื่อคืน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด