บทที่ 78 เลือดใคร?
หยุนปิงเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว ในที่สุดเธอก็สามารถลากเย่โม่เข้ามาในห้องของเธอได้สำเร็จ โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลาประมาณตี 5…เป็นช่วงเวลาที่มืดที่สุดก่อนจะเข้าสู่ช่วงเช้า ยังไม่มีใครในเขตที่อยู่ของเธอตื่นเช้าขนาดนี้ จึงไม่มีใครพบเห็นเธอกับเย่โม่
ถึงแม้หยุนปิงจะไม่รู้ว่าเย่โม่ไปหาเรื่องใครไว้กันแน่ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นสงสัยเธอจึงขับเข้ามาในโรงจอดรถก่อน เธอปิดประตูโรงจอดรถอย่างระมัดระวังจากนั้นจึงช่วยพาเย่โม่ไปนอนบนเตียงของเธอ หยุนปิงยื่นมือไปอังตรงจมูกของเย่โม่ ยังมีลมหายใจอยู่ รู้อย่างนี้เธอถึงค่อยรู้สึกโล่งใจ...เขาคงแค่สลบไปชั่วคราวเท่านั้น
หยุนปิงอุ่นน้ำมาอ่างหนึ่ง เธอเตรียมจะช่วยเย่โม่เช็ดตัวสักรอบ ตอนนี้เธอถอดเสื้อตัวบนของเย่โม่เสร็จแล้ว พอมาถึงกางเกง...เธอกลับรู้สึกเขินอายขึ้นมา แม้แต่มองยังไม่กล้าจะมอง เธอเอาผ้าเช็ดตัวปิดตรงส่วนล่างของเย่โม่จึงค่อยกล้าเช็ดตัวเขา
แผลบนหลังของเย่โม่สาหัสมาก หยุนปิงไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าแผลนี้เกิดจากอะไรกันแน่ ถึงแผลจะลึกแต่กล้ามเนื้อของเย่โม่แข็งแรงเหนือคนทั่วไป หากหยุนปิงไม่ได้เห็นกับตาตัวเองล่ะก็...เธอคงไม่เชื่อแน่ว่าชายหนุ่มที่ภายนอกดูเงียบขรึมเก็บตัวอย่างเย่โม่จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสมส่วนสวยงามขนาดนี้
หยุนปิงรู้สึกร้อนตรงใบหน้าขึ้นมา มือที่ช่วยเช็ดตัวเย่โม่อยู่สั่นเล็กน้อย เธอไม่เคยเห็นผู้ชายเปลือยกับตาตัวเองมาก่อน แม้แต่ตอนที่เธอถูกข่มขืนตอนนั้นก็เป็นเพราะถูกวางยาทำให้สลบไป
ครอบครัวของเธอหวาดกลัวอิทธิพลของชายคนนั้น เขาพูดออกมาแค่คำเดียวครอบครัวของเธอก็ไม่กล้าให้เธอทำแท้ง หยุนปิงไม่ได้โทษครอบครัวของตัวเอง นั่นก็เพราะพวกเขาไม่อาจต้านทานอิทธิพลของชายคนนั้นได้ แม้แต่ตอนนี้แค่คิดตัวเธอยังสั่นเทาอยู่เลย เธอกลัวชายคนนั้นจริงๆ เพราะแบบนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอจึงหลบซ่อนตัวอยู่ในหนิงไห่ แม้แต่วันตรุษจีนเธอยังไม่อยากจะกลับไปปักกิ่งเลย
วินาทีที่ตัวเขาล้มลงเย่โม่ก็รู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว เขาใช้พลังใจอันเข้มแข็งปลุกสติตัวเองขึ้นมา ทว่าคนที่เขาลืมตาขึ้นมาเห็นกลับเป็นหยุนปิง ถึงแม้เขาจะไม่ชอบหยุนปิงนัก…แต่การอยู่กับเธอที่นี่ก็ยังดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของตระกูลซ่งมากมายหลายเท่านัก
เย่โม่ที่รู้สึกโล่งใจก็หลับตาสลบไปอีกครั้ง แต่ภายในร่างกายของเขาก็เริ่มเคลื่อนลมปราณอย่างช้าๆ ค่อยๆ ฟื้นฟูความเหนื่อยล้าและบาดแผลลึก
“นายฟื้นแล้ว?” หยุนปิงที่ถือผ้าเช็ดตัวอยู่ในมือเมื่อเห็นเย่โม่ลืมตาขึ้นก็ตกใจ เธอเรียกเย่โม่ด้วยความยินดีทันที แต่ก็ต้องพบว่าเย่โม่ได้สลบไปอีกครั้งเสียแล้ว หยุนปิงรีบเอาอ่างน้ำออกไปแล้วกลับเข้ามาในห้องเพื่อคลุมผ้าห่มให้เย่โม่ จากนั้นจึงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง...งั้นเขาคงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ ด้วยความที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ความเหนื่อยล้าอันยากจะต้านทานทำให้หยุนปิงล้มตัวลงนอนข้างๆ เตียงที่เย่โม่นอนอยู่
..........
ตอนที่หนิงชิงเชวี่ยลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้ฟ้าสว่างแล้ว เธอนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ตอนนี้เธออยู่บนสวรรค์แล้วงั้นหรือ? บนร่างกายของเธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งยังรู้สึกสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หนิงชิงเชวี่ยถอนหายใจออกมา…ถือเสียว่าได้หลุดพ้นจากขุมนรกความทรมานอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นก็แล้วกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เย่โม่จะสบายดีไหมก็เท่านั้น...
ทว่าไม่นานหนิงชิงเชวี่ยก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพบว่าตัวเองยังนอนอยู่บนเตียงของเย่โม่อยู่เลย ข้าวของภายในห้องก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หนิงชิงเชวี่ยกัดปลายลิ้นของตัวเอง ความเจ็บแล่นเข้ามาทันที หรือว่าเธอยังไม่ตาย? หนิงชิงเชวี่ยที่ตอนนี้รู้สึกตื่นตระหนกรีบยันตัวขึ้นนั่งทันที แล้วตอนนั้นเองที่เธอต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้งเมื่อพบว่าบาดแผลของเธอหายดีแล้ว ไม่มีส่วนไหนในร่างกายที่บุบสลายแม้แต่น้อย เธอรู้สึกกะปรี้กะเปร่าเสียด้วยซ้ำ
กระเป๋า! หนิงชิงเชวี่ยคว้ากระเป๋าพยาบาลขึ้นมาทันที ของข้างในยังอยู่ครบดี หืม...ไม่ถูกสิ เธอจำได้ว่าเมื่อคืนภาพจำสุดท้ายของเธอก็คือตัวเองกำลังถือมีดเตรียมจะฆ่าตัวตาย แล้วทำไมมีดเล่มนั้นถึงมาอยู่ในกระเป๋าใบนี้ได้? หรือว่าความจำของเธอจะมีปัญหากัน? เป็นไปไม่ได้!
หนิงชิงเชวี่ยตรวจสอบของข้างในกระเป๋าพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง เธอจึงค่อยพบว่าเม็ดยาปกป้องหัวใจหายไป 2 เม็ด หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ตัวเธอได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น...เธอหายดีภายในคืนเดียวได้อย่างไรกัน? อีกอย่างเธอยังจำได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองหยิบมีดมาเตรียมจะฆ่าตัวตายแล้ว ทั้งยังแทงเข้ามาแล้วด้วย...แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่มีแม้แต่แผลเดียวด้วยซ้ำ
แล้วตอนนี้เธอยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด...ไม่เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วด้วย? เธอหันกลับมามองบนเตียงของเธอที่มีรอยเลือดอยู่ 2-3 หยด แต่บนร่างกายของเธอก็ไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่ที่เดียว แล้วรอยเลือดพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย?
“แม่คะ!” หนิงชิงเชวี่ยเพิ่งจะร้องเรียกประตูก็ถูกเปิดออกทันที แม่ของเธอหลานยู่รีบเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
“ชิงเชวี่ย! ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม!?” ตัวหลานยู่ยังไม่ทันเข้าเสียงก็ลอยมาแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ถึงได้นอนหลับไปแบบนั้น เธอหลับยาวจนถึง 7 โมงเช้าถึงค่อยตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกว่านั่นเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลย
“หืม...ชิงเชวี่ย ลูกลุกขึ้นนั่งเองได้ยังไง!? ลูก…ทำไมสีหน้าของลูกดูดีขึ้นมาแล้วล่ะ? ลูกหายดีแล้วหรือ? ชิงเชวี่ย! ลูกหายดีแล้วจริงๆ...” หลานยู่ได้ลืมคิดไปเสียแล้วว่าหนิงชิงเชวี่ยบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น...เพราะเหตุใดผ่านไปแค่คืนเดียวจึงหายดีแบบนี้ ในสายตาของเธอ...การที่ลูกสาวหายดีก็ถือว่าเป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว ส่วนกระบวนการนั้น...เธอไม่สนใจเลยสักนิด
เมื่อหนิงชิงเชวี่ยเห็นแม่ของตัวเองเดินเข้ามา เธอก็สรุปได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และเธอก็ยังไม่ตายด้วย นี่ถือเป็นเรื่องดี…แต่สาเหตุของเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้เช่นกัน
หลานยู่พูดจบก็คว้ามือของหนิงชิงเชวี่ยไปจับทันที เธอเริ่มคิดว่าเหตุใดลูกสาวของเธออยู่ๆ ถึงหายดีแบบนี้ได้? แผลของชิงเชวี่ยตอนนั้นสาหัสเอามากๆ เมื่อคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้หลานยู่จึงถามหนิงชิงเชวี่ยทันที “
ชิงเชวี่ย...เกิดอะไรขึ้นกับลูกกันแน่? ทำไมอยู่ๆ ถึงหายดีแบบนี้ได้ล่ะ?”
“แม่คะ...หนูอยากคิดเงียบๆ คนเดียวว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หนิงชิงเชวี่ยพูดขึ้นมาทันที
ตอนนี้ในใจของหลานยู่รู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมาก ในความคิดของเธอถึงแม้การที่หนิงชิงเชวี่ยหายดีแบบนี้จะเป็นเรื่องแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติ แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อว่าบรรพบุรุษคุ้มครองมากกว่าจะมามัวคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ พอเห็นว่าลูกสาวของตัวเองพูดแบบนี้เธอก็ยังตรวจสอบแผ่นหลังของหนิงชิงเชวี่ยอย่างละเอียดอยู่ดี เมื่อตรวจดูดีแล้วจึงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก “แม่จะไปต้มโจ๊กให้นะ ลูกก็พักผ่อนเสียหน่อย...อย่าเพิ่งขยับมาก”
รอจนแม่ของเธอเดินออกไป หนิงชิงเชวี่ยจึงค่อยขมวดคิ้วแน่นพลางใช้ความคิดอย่างหนัก เธอไม่ได้รู้สึกยินดีแบบแม่ของเธอ อาการบาดเจ็บของเธอจะต้องมีคนมาช่วยรักษาแน่นอน แต่ใครกันจะมีความสามารถขนาดนั้นได้? ตอนที่เธอหลับก็ช่วยรักษาจนหายแล้ว ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่โรงพยาบาลหงรุ่ยก็ยังไม่มีหนทางจะรักษาเธอเลย
อยู่ๆ หนิงชิงเชวี่ยก็ผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ถ้าหากเมื่อคืนมีคนเข้ามารักษาให้...แล้วคนๆ นั้นไม่ต้องถอดเสื้อผ้าของเธอออกหรือไง!? หนิงชิงเชวี่ยรีบถอดเสื้อออกดูทันที เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ...สีหน้าของหนิงชิงเชวี่ยซีดขาว เสื้อตัวบนของเธอถูกถอดออก แม้แต่ตะขอบราของเธอยังติดผิดเลย!
ในเมื่อคนๆ นั้นเห็นแผ่นหลังของเธอ…นั่นก็หมายความว่าหน้าอกของเธอคงถูกเห็นเข้าแล้ว เป็นใครกัน!? หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกว่าร่างกายสั่นเทาขึ้นมาทันที เธอยอมตายเสียดีกว่าให้ใครหน้าไหนก็ไม่รู้ว่ามองร่างกายเธอแบบนี้!
หนิงชิงเชวี่ยใช้สายตามองไปยังรอยเลือดบนเตียง นั่นไม่ใช่เลือดของเธอ...แล้วมันเป็นของใครกันแน่? หรือว่าเป็นของคนที่มาช่วยรักษาเธอเมื่อคืน?